ความคิดเห็นที่ 1 |
|
เรื่องนี้เป็นหนึ่งใน play ที่เราชอบ ครั้งแรกที่อ่านออกจะน่าเบื่อ แต่พอเข้าใจแล้วก็รู้สึกว่าลึกซึ้งทีเดียว :)
อันที่จริงการตีความหมายมันก็แล้วแต่คนนะคะ ไม่มีอะไรเป็นคำตอบตายตัว ถ้าในความคิดเราเรื่องนี้จะเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความหมายของการใช้ชีวิต การมีชีวิตอยู่ของมนุษย์ว่าต้องการอะไร การตั้งชื่อเรื่องว่า Waiting for Godot คล้ายๆว่าน่าจะเป็นการเทียบเคียงไปถึง God(ot) และในขณะที่มนุษย์ตั้งตารออะไรบางอย่าง (God?) ที่ตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วคืออะไร/ใครกันแน่ เวลา ก็ได้เดินผ่านไปเรื่อย บ้างก็ทำการฆ่าเวลาให้เลยผ่านไปวันๆ โดยไม่รู้จุดจบ ผ่านวงจรชีวิตซ้ำซาก เป็น repetitiveness of life (สังเกตได้จากบทสนทนาที่ซ้ำไปซ้ำมา คำถามเดิม คำตอบเดิม สถานที่เดิม ไร้การเปลี่ยนแปลง)
จริงๆ มี theme ย่อยที่ play พยายามนำเสนอหลายอย่าง แต่ประเด็นที่เราคิดว่าน่าสนใจคงเป็นเรื่องที่ว่า เวลาตัวละครตัดสินใจจะทำอะไร และพูดออกมาว่าจะทำ แต่สุดท้ายก็มักไม่ได้ทำ เพราะมัวแต่รออะไรบางอย่าง เหมือนต้องการสื่อว่ามนุษย์บางคนไม่สามารถกำหนดชะตาชีวิตของตนด้วยการกระทำของตัวเองได้ หวังพึ่งคนอื่นหรือสิ่งอื่นอยู่เสมอ เป็นการต่อสู้ระหว่าง action และ inaction
ส่วนคำถามที่ว่าทำไมคำพูดของตัวละครหลักบางครั้งจึงไม่ได้เกี่ยวกันเลย คุยกันคนละเรื่อง ตรงนี้เราคิดว่าเป็นสไตล์ของ theatre of absurd ค่ะ คือจะค่อนข้างไร้โครงสร้าง ไม่มีระเบียบ สื่อถึงความไร้สาระ และความไม่แน่นอนของชีวิต เป็นลักษณะของการตอบโต้ทางบทละครหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ปล. ตัวละครหลักทั้งสองก็เป็นคนนี่ล่ะค่ะ คงเปรียบได้กับตัวแทนของมวลมนุษย์ทั้งหมด
จากคุณ |
:
~nocturne b flat minor~
|
เขียนเมื่อ |
:
10 มี.ค. 53 22:41:57
|
|
|
|