Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บำเหน็จของนักรบ (ทหารเสือแผ่นดินถัง ๑๓) vote  

ทหารเสือแผ่นดินถัง

ตอนที่ ๑๓ บำเหน็จของนักรบ

“ เล่าเซี่ยงชุน “

เมื่อ จูอุน เตรียมการพร้อมแล้ว ก็ยกกองทัพไปบรรจบกับกองทัพของห้าหัวเมืองที่นัดกันไว้ แล้วเดินทัพไปจนถึงเมืองเปงจิว ม้าใช้ชาวด่านก็รีบเอาข่าวไปแจ้งแก่หลีจีนอ๋องว่า จูอุน เจ้าเมืองเปียนเหลียงกับเจ้าเมืองฮัวตง เมืองฮัวจิว เมืองเช่าจิว เมืองเอี้ยนจิว และเมืองฮุนจิว ก็ยกมาสมทบด้วย หลีจีนอ๋องได้แจ้งแล้วก็ปรึกษากับขุนนางนายทหาร ว่าเจ้าเมืองทั้งห้าเมืองนั้น ก็ไม่มีความขัดเคืองสิ่งใดกัน เหตุใดจึงพลอยยกกองทัพมากับจูอุน ชะรอยจูอุนจะแต่งกลอุบายเกลี้ยกล่อมให้มา การครั้งนี้เห็นว่าทหารสมทบกันหลายหมู่เหล่า ถึงมากก็เหมือนน้อย ถ้ารบติดพันกันเข้าก็คงจะเกิดการแก่งแย่งกัน

จิวเต๊กอุย จึงว่าจูอุนยกกองทัพเดินทางมา ทแกล้วทหารยังอิดโรยเหน็ดเหนื่อย ขอให้จัดกองทัพออกไปรบหักหาญเอาอย่าให้ตั้งตัวได้ หลีจีนอ๋องก็เห็นด้วย จึงสั่งให้ หลีซือหงวน คุมทหารห้าหมื่นยกออกไปตีทัพจูอุน ฝ่ายจูอุนก็ให้แม่ทัพหน้านำทหารออกจากค่ายมาสู้รบกับ หลีซือหงวน แต่รบกันอยู่ห้าสิบเพลงหาได้แพ้ชนะกันไม่ หลีจีนอ๋องอยู่บนหอรบกลัวหลีซือหงวนจะเสียทีจึงให้ตีม้าล่อเป็นสัญญาณขึ้น หลีซือหงวนก็ถอยทัพกลับเข้าเมือง

หลีซุนเฮ้าจึงว่า

“……..เวลาค่ำวันนี้ข้าพเจ้าจะอาสาออกไปปล้นค่ายข้าศึก จะขอเลือกเอาทหารขี่ม้าที่ฝีมือดีเข้มแข็งสักยี่สิบคนออกไปด้วย……….”

หลีจีนอ๋องท้วงว่า

“…….กองทัพจูอุนยกมาครั้งนี้ทแกล้วทหารมากนัก ซึ่งจะออกไปแต่ยี่สิบคนนั้น จะเหลือกำลังนักดอกกระมัง…………”

หลีซุนเฮ้าก็ว่า

“………ตัวข้าพเจ้าก็นับว่าเป็นทหารมีฝีมือ คงจะป้องกันอันตราย ช่วยทำการให้สำเร็จ ท่านอย่าวิตกว่าไปน้อยไปมากเลย………..”

หลีจีนอ๋องได้ฟังดังนั้นก็ว่า

”………สุดแต่ปัญญาของเจ้าเถิด เราก็เคยได้เห็นฝีมือและปัญญาของเจ้าปรากฎ มาหลายครั้งแล้ว…………”

หลีซุนเฮ้าได้รับอนุญาตแล้ว ก็ออกมาเลือกทหารชักชวนกันได้ครบยี่สิบคน แล้วให้ตั้งโต๊ะเลี้ยงกันเป็นที่รื่นเริงสบาย พอถึงเวลาค่ำประมาณสองยาม ทั้งหมดก็ใส่เสื้อเกราะถืออาวุธขึ้นม้าตรงไปยังค่ายของเมืองฮัวตง ก็พากันเข้าฟันประตูค่ายหักเข้าไปได้ ไล่ฆ่าฟันทหารเป็นอลหม่าน เฮงตองหยอง เจ้าเมืองฮัวตงนอนหลับอยู่ เมื่อตกใจตื่นขึ้นไม่ทันใส่เสื้อเกราะ ก็ขึ้นม้าถืออาวุธจะเข้าสู้รบกับข้าศึก แต่ทหารของตนต่างแตกหนีไปสิ้นแล้ว เหลือแต่ตัวคนเดียวไม่มีผู้ใดติดตามมา ก็ตกใจรีบขับม้าหนีออกไปทางหลังค่าย หลีซุนเฮ้ากับทหารยี่สิบคนก้ไล่ฆ่าฟันทหารเมืองฮัวตงล้มตายลงเป็นอันมาก ทหารที่แตกหนีก็ไปถึงค่ายจูอุน ทหารที่รักษาค่ายไม่รู้ว่าข้าศึกมามากน้อยเพียงใด ก็ตกใจพากันแตกตื่นทิ้งค่ายเสียแล้วหนีกระจายไป หลีซุนเฮ้าได้ชัยชนะแล้ว ก็พาทหารทั้งยี่สิบคนกลับเข้าเมืองเมื่อเวลาจวนจะรุ่งสว่าง แจ้งความที่ได้สู้รบปล้นค่ายข้าศึก ให้หลีจีนอ๋องได้ฟังทุกประการ หลีจีนอ๋องก็มีความยินดี จึงจัดของอย่างที่ดีมีราคากับเงินทอง ให้เป็นของรางวัลแก่หลีซุนเฮ้ากับทหารทั้งยี่สิบคน

ฝ่ายทหารในกองทัพของจูอุน ตั้งแต่เสียทีแก่หลีซุนเฮ้าแล้ว ก็มีความครั่นคร้ามเป็นอันมาก ผู้ใดออกชื่อหลีซุนเฮ้าขึ้นแล้วก็เป็นที่สดุ้งตกใจ เวลากลางคืนก็หวาดหวั่นนอนหลับหาเป็นปกติไม่ นายทหารหัวเมืองทั้งห้าก็ปรึกษากับทหารเลวทั้งปวงว่า นายเรายกกองมากับจูอุนครั้งนี้เห็นหาประโยชน์ไม่ มาพลอยล้มตายเสียเป็นอันมาก จะกินนอนก็ไม่ปกติ เราจะชวนกันกลับไปบ้านเมือง หาความสบายเสียดีกว่าอยู่พลอยตายกับเขา คิดพร้อมใจกันดังนั้นแล้วก็พากันกลับไปหมดทุกเมือง เจ้าเมืองทั้งห้าเห็นทหารหนีไปเสียดังนั้น ครั้นจะติดตามไปห้ามปรามไว้ ก็กลัวจะเกิดรบพุ่งฆ่าฟันกันเอง จึงชวนกันเข้าไปหาจูอุนแล้วว่า

“……ทหารข้าพเจ้าทั้งห้านั้น พากันหนีไปเสียเป็นอันมาก ยังติดตัวข้าพเจ้าอยู่ก็แต่คนสนิทเคยใช้สอย ตัวข้าพเจ้าทั้งห้าคนนี้ จะอยู่ช่วยราชการท่านไปจนสำเร็จ……”

จูอุนก็ว่า

“………เป็นธรรมดาอยู่แล้ว การศึกสงครามขอแรงกันมาช่วยดังนี้ ถ้าได้ทีก็พร้อมมูลกันอยู่ ถ้าเสียทีก็เป็นแต่อย่างนี้หาไว้ใจได้ไม่ ครั้งนี้เราก็ยกมาตั้งประชิดเมืองเปงจิวอยู่แล้ว ท่านทั้งปวงจะคิดเห็นอุบายประการใดบ้าง จึงจะได้ชัยชนะแก่ข้าศึก……..”

เตียะไช จึงว่าตนเป็นแม่ทัพหน้า จะขอยกไปเข้าสู้รบกับข้าศึกให้เต็มฝีมือ ขอให้จัดกองทัพหนุนให้แข็งแรงเถิด จูอุนก็สั่งให้ เซียะเลงตัด กับ เจียะเหมา นายทหารเอกอีกสองคนคุมทหารคนละกองออกไปกับแม่ทัพหน้า ทั้งสามคนก็แต่งตัวขึ้นม้าถืออาวุธ นำทหารไปท้าทายหลีซุนเฮ้าอยู่หน้าเมืองเปงจิว หลีจีนอ๋องจึงให้หลีซุนเฮ้ากับ สิออถัน และ อันฮิวฮิว ทหารเอกคู่ใจออกสู้รบไปตามคำท้า อันฮิวฮิวเข้ารบกับเซียะเลงตัดได้ประมาณแปดสิบเพลงยังหาเพลียงพล้ำกันไม่ เจียะเหมาจึงเอาเกาทัณฑ์ยิงไปถูกม้าของอันฮิวฮิวโผนไป อันฮิวฮิวก็พลัดตกจากหลังม้า เตียะไซเห็นได้ทีก็ขับม้าเงื้ออาวุธเข้าไปจะฟันซ้ำ สิออถันจึงยิงเกาทัณฑ์กัดไปถูกศรีษะเตียะไซ ตกม้าลง ทหารทั้งสองฝ่ายก็ช่วยกันเข้าแก้เอานายกลับไปได้ทั้งสองข้าง แต่เตียะไซพอกลับไปถึงค่ายก็ขาดใจตาย

จูอุนเห็นดังนั้นก็จัดทหารให้ทหารเอกอีกห้าคน เป็นกองหนุนเข้ารบกับหลีซุนเฮ้าอีก หลีซุนเฮ้ากับทหารเอกทั้งสองก็ดาหน้าเข้ารบกับทหารของจูอุนเป็นสามารถ หลีซุนเฮ้าขับม้าไปด้านใดทหารข้าศึกก็หลบหลีกหาอาจเข้ามาต่อต้านไม่ ทหารข้าศึกก็ล้มตายลงเป็นอันมาก จูอุนเห็นทหารรวนเรล้มตายเจ็บป่วยเบาบางลงจวนจะเสียที ก็สั่งให้ตีม้าล่อส่งสัญญาณถอยทัพกลับเข้าค่าย หลีซุนเฮ้าก็นำทหารไล่รุกติดตามไปจนถึงเย็นจวนค่ำ จึงเลิกทัพกลับเข้าเมือง

จูอุนก็มีความวิตกด้วยยกออกรบกับหลีซุนเฮ้าครั้งใด ก็เสียกำลังพลเป็นอันมากทุกครั้ง ถ้าจะตั้งค่ายประชิดเมืองอยู่อย่างนี้ หลีซุนเฮ้าก็คงจะออกมาปล้นค่ายอีก คิดแล้วก็สั่งให้ถอยกองทัพออกไปตั้งค่ายห่างเมืองเปงจิวสี่สิบลี้ และตรึกตรองหาอุบายที่จะเอาชัยชนะหลีจีนอ๋องให้จงได้

พอดี เต้งเทียนอ๋อง ซึ่งจูอุนให้เป็นกองลำเลียงคุมเสบียงอาหารมาถึง ก็เข้าไปคำนับจูอุน ถามว่าได้สู้รบกับข้าศึกเป็นประการใดบ้าง จูอุนก็ทอดใจใหญ่สั่นศรีษะว่าทหารในกองทัพของเรามากก็จริง แต่ฝีมือรบสู้อ่อนกว่าทหารหลีจีนอ๋อง ยังหาได้ชัยชนะไม่ เต้งเทียนอ๋องก็ขออาสาคุมทหารออกไปรบกับหลีซุนเฮ้าสักครั้งหนึ่ง จูอุนก็มีความยินดีจัดทหารห้าหมื่นให้เต้งเทียนอ๋อง ยกออกไปถึงหน้าเมืองเปงจิว แล้วบอกทหารหลีจีนอ๋องว่าจะมารบกับหลีซุนเฮ้าให้ถึงแพ้ชนะ

หลีจีนอ๋องจึงพูดกับหลีซุนเฮ้าว่า

“……..เต้งเทียนอ๋องคนนี้เป็นคนมีความคิดเจ้าอุบายมาก เมื่อครั้งก่อนก็แต่งกลล่อลวงเราที่แม่น้ำอึงหอครั้งหนึ่ง แล้วก็หนีสูญตัวหายไป ครั้งนี้เจ้าจะออกไปรบกับเต้งเทียนอ๋อง อย่าได้ประมาท จงคิดระวังกลอุบายให้จงมาก……….”

หลีซุนเฮ้าจึงว่า

“……..ข้าพเจ้าทำศึกสงครามที่ใหญ่หลวงมาหลายครั้งแล้ว แต่อย่างเช่นความคิดฝีมือเต้งเทียนอ๋องนี้ หาควรที่บิดาจะวิตกไม่……..”

แล้วหลีซุนเฮ้าก็คุมทหารยกออกจากประตูเมือง ไปถึงหน้าทัพเต้งเทียนอ๋อง และร้องถามไปว่า

“……..ท่านนี้หรือชื่อเต้งเทียนอ๋อง เจ้าความคิดกลอุบายดี ครั้งก่อนเราเที่ยวตาม หานักหนาก็ไม่พบปะ หนีไปซ่อนเร้นอยู่ที่ไหน ครั้งนี้ท่านจะเอาศรีษะมาให้เราหรือ……..”

เต้งเทียนอ๋องก็ว่า

“……..ครั้งก่อนเราเป็นห่วงอยู่ด้วยมารดาเราแก่ชรา กลัวว่ารบชนะท่านแล้วราชการติดพันไป จะได้ปฏิบัติรักษามารดาไม่ บัดนี้มารดาเราดับสูญสิ้นธุระแล้ว เราจึงจะมารบขอศรีษะท่านไปเป็นบำเหน็จความชอบ……….”

หลีซุนเฮ้าก็ขับม้ารำทวนเข้ารบกับเต้งเทียนอ๋องได้สี่เพลง เต้งเทียนอ๋องทานกำลังหลีซุนเฮ้าไม่ได้ เสียทีถูกจับตัวได้ให้ทหารมัดพาเข้าไปในเมือง แล้วหลีซุนเฮ้าก็ขับทหารให้เข้าไล่ฆ่าฟันทหารเต้งเทียนอ๋องล้มตายลงเป็นอันมาก ที่เหลือตายก็หนีไปสิ้น หลีซุนเฮ้าก็เลิกทัพกลับเข้าเมืองเปงจิว

หลีจีนอ๋องเห็นหลีซุนเฮ้าจับเต้งเทียนอ๋องมาได้ก็ดีใจ สั่งให้ทหารเอาตัวเต้งเทียนอ๋องไปประหารเสีย แล้วจึงหยิบเอาป้านสุรามารินใส่ถ้วยใหญ่ ส่งให้หลีซุนเฮ้ากิน เวลานั้นหลีซุนเฮ้ากำลังเหนื่อย รับเอาสุรากินเข้าไปจนสิ้นถ้วยแล้ว พูดอยู่กับหลีจีนอ๋องประมาณครู่หนึ่งก็ไม่สบาย ให้คลื่นใส้อาเจียนออกมา แล้วล้มลงสิ้นสติไม่เป็นสมประดี หลีจีนอ๋องก็ตกใจเข้าประคองหลีซุนเฮ้าไว้ และให้หาหมอมาประกอบยาให้กิน อาการค่อยคลายได้สติขึ้น หมอจึงบอกกับหลีจีนอ่องว่าซึ่งหลีซุนเฮ้าป่วยครั้งนี้ เพราะกำลังเหนื่อยมากินสุราเข้าไปมาก จึงได้เกิดลมร้ายขึ้นในทรวงอก เห็นอาการว่าจะป่วยยืดยาวอยู่ หลีจีนอ๋องก็เสียใจบ่นว่า

“……..เราผิดเองหลีซุนเฮ้าจึงได้ป่วยอาการมากถึงเพียงนี้ ครั้งนี้การศึกสงครามก็ยังติดพันอยู่ จะได้ผู้ใดออกไปสู้รบกับข้าศึกแทนหลีซุนเฮ้าเล่า……..”

แล้วหลีจีนอ๋องก็สั่งให้นายทหารไปปิดประตูเมืองรักษาประจำหน้าที่ไว้ให้มั่นคง จนกว่าหลีซุนเฮ้าจะหายป่วย จึงจะให้ยกออกไปสู้รบกับข้าศึกอีก

ทาง ด้านจูอุนนั้น เมื่อ กอซือกี่ แม่กองลำเลียงอีกคนหนึ่ง คุมเสบียงมาถึงและทราบว่า เต้งเทียนอ๋องออกไปรบกับหลีซุนเฮ้า แล้วถูกจับตัวไปฆ่าเสีย ก็มีใจโกรธแค้นยิ่งนัก จึงขออาสาออกไปรบกับหลีซุนเฮ้า แม้จูอุนจะไม่เชื่อว่าจะเอาชัยชนะแก่หลีซุนเฮ้าได้ แต่ก็ไม่มีนายทหารเอกอีกแล้ว จึงจัดทหารให้กอซือกี่สามหมื่นยกออกไปร้องท้าทายหลีซุนเฮ้าที่หน้าเมือง แต่ก็หามีผู้ใดพูดจาโต้ตอบแต่ประการใดไม่ กอซือกี่ก็ออกมาท้าทายอยู่ถึงสามวัน

หลีจีนอ๋องแจ้งว่าจูอุนให้ทหารมาร้องท้าทายอยู่ทุกวัน ก็สั่งกำชับมิให้ผู้ใดเอาความไปบอกกับหลีซุนเฮ้า ซึ่งกำลังป่วยอยู่ กอซือกี่เห็นทางในเมืองเงียบสงบ ก็ให้ทหารตีกลองและม้าล่อโห่ร้องเยาะเย้ยเสียงอื้ออึง จนหลีซุนเฮ้าได้ยินจึงถามคนสนิทว่าได้ยินเสียงอื้ออึงหนักหนาด้วยเหตุอันใด นายทหารคนสนิททั้งสองก็พูดบ่ายเบี่ยงบิดพริ้ว หลีซุนเฮ้าก็ว่าเรารู้แล้วว่า จูอุนให้ทหารยกมาเยาะเย้ยเรา ท่านทั้งสองก็เป็นผู้มีฝีมือ เหตุไฉนจึงพากันนิ่งเฉย ให้ข้าศึกมาประมาทล้อเล่นเช่นนี้ควรแล้วหรือ ทั้งสองก็ว่าหลีจีนอ๋องสั่งมิให้ผู้ใดออกรบ จนกว่าท่านจะคลายหายป่วย หลีซุนเฮ้าก็โกรธนักจึงว่า

“…….ธรรมดาเกิดมาเป็นชายชาติทหารแล้ว ซึ่งจะนิ่งให้ข้าศึกหมิ่นประมาทเช่นนี้หาควรไม่ ตัวเราถึงเจ็บป่วยอยู่เล็กน้อยก็ตามทีเถิด จะยกออกไปปราบข้าศึกเสียให้จงได้…….”

หลีจีนอ๋องรู้ความก็รีบมาห้ามปราม และหลีซือหงวนผู้พี่ก็ขออาสาออกไปรบแทนเอง หลีจีนอ๋องจึงจัดทหารขี่ม้าพันหนึ่งทหารเดินเท้าห้าพัน ให้หลีซือหงวนออกไปรบแทนหลีซุนเฮ้าแต่หลีซือหงวนก็เสียทีแก่กอซือกี่ถูกล้อมไว้ หลีจีนอ๋องดูอยู่บนเชิงเทินก็ให้ทหารเอกของหลีซุนเฮ้ายกพลออกไปช่วยแก้ไขเอาหลีซือหงวนกลับมาได้ แล้วก็ไม่ให้ผู้ใดออกรบอีกเลย กอซือกี่ก็มีใจกำเริบ คุมทหารออกมาร้องท้าทายชวนรบอยู่ทุกวัน

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 05:29:40




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com