|
ความคิดเห็นที่ 2 |
วัตถุประสงค์ของการเรียนก็คือการเปลี่ยนแปลงของผู้เรียน เมื่อสอนเสร็จแล้วผู้เรียนต้องเปลี่ยน ถ้าสอนแล้วไม่เปลี่ยนถือว่าเป็นความล้มเหลวของการศึกษา การเปลี่ยนนี้มีสามอย่าง เปลี่ยนจากไม่รู้เป็นรู้ เปลี่ยนจากทำไม่เป็นมาทำเป็น และทำให้เราคิดเป็นจากที่เมื่อก่อนคิกขุอาโนเนะ ถ้าหากเรียนเสร็จแล้วก็ยังโง่หรือดักดานอยู่อย่างเดิม ท่านว่าครูสอนไม่เป็น
อย่างไรก็ตาม ลูกศิษย์ก็ต้องช่วยครูด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้ครูสอนได้สอนไป เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ได้ลูกศิษย์อย่างนี้ใครเป็นครูก็ถือเป็นกรรมเหมือนกัน มันต้องพบกันครึ่งทาง ครูก็ตั้งใจสอน ลูกศิษย์ก็ตั้งใจเรียน
หนูถามวิธีเรียน นอกจากการบอกให้ขยันเรียน ตั้งใจฟัง ทำการบ้านให้ครบ ผมว่ามันอยู่ที่การปรับมุมมองด้วย ผมว่ามุมมองที่สำคัญที่สุดคือ ให้การเรียนเหมือนการเล่น นั่นคือ เรียนด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิน
ใครจะบ้าฝืนใจทำอะไรที่มันไม่สนุก ตะบี้ตะบันอยู่เป็นปีๆ ผมคนหนี่งละที่ไม่ทำถ้าให้เลือกได้นะ การที่จะเรียนให้สนุกนั้นก็คงต้องขึ้นกับวิชาที่เรียน
เรียนภาษา ให้เรียนโดยถือว่าภาษาเป็นคนใช้ มันมีหน้าที่พาเราไปเที่ยวที่ต่างๆที่เราไม่เคยไป ทำให้เรารู้เรื่องที่เราไม่เคยรู้ วิธีการคือเอาหนังสือภาษานั้นๆมาอ่านในเรื่องที่เราสนใจและสนุก ทำอย่างนี้เวลามันผ่านไปเร็วเหมือนติดปีก สนุกด้วย รู้ตัวอีกทีเก่งซะแล้ว
เรียนวิทยาศาสตร์ ให้เรียนแบบเด็กเจ้าปัญหา อย่าเพิ่งเชื่อไอ้ทฤษฎีหรือหลักการต่างๆที่ครูสอนแล้วก็เลยหลับหูหลับตาท่องจำ ให้สงสัยไว้่ก่อนว่าที่เขาสรุปมานั้นมันนั่งเทียนสรุปมา ให้พยายามมองหาจุดอ่อนช่องว่างในการใช้เหตุผลและการคิดของเขา วิทยาศาสตร์มันเจริญได้เพราะอย่างนี้ เพราะไอ้พวกเด็กขี้สงสัยนี่แหละ ถ้าไม่มีใครสงสัยเลย ป่านนี้ก็ยังคงสอนกันอยู่ว่าโลกแบนและแผ่นดินไหวเพราะปลาอานนท์ดิ้น
เรียนคณิตศาสตร์ ก็ให้เรียนแบบเดียวกัน คือคิดหาคำตอบในปัญหาที่มีคนเฉลยไว้แล้ว เขาเฉลยถูกหรือยัง ถ้ายังไม่ถูก เขาผิดตรงไหน
เรียนสังคมศึกษา เรียนประวัติศาสตร์ ให้เรียนแบบไทยมุง เขามุงดูอะไรกันหว่า? อ้อ แดงเดินขบวนน่ะเอง แล้วอยู่ดีๆไหงเดินขบวนล่ะ? แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ 14 ตุลา หรือเปล่า? แล้วเขาว่าเมื่อก่อนคนไทยอยู่แถบภูเขาอัลไตแล้วค่อยๆอพยพลงมาเพราะถูกลูกหลานเจ็งกิสข่านเบียดเบียน เขาเอาหลักฐานมาจากไหน? แล้วมันเป็นอย่างอื่นได้ป่ะ?
พูดง่ายๆ เป็นเด็กเจ้าปัญหาเรื่องพรรณอย่างนี้เป็นของดี อยากให้มีเด็กเจ้าปัญหาอย่างนี้เยอะๆ
รู้ตัวว่าเรียนตกลง ก็ไปสำรวจดุสิว่าทำไมมันเรียนตกลง เราเรียนวิชาใหม่ไม่รู้เรื่องหรือเปล่า เราให้เวลากับการเรียนน้อยลงไหม หรือว่ามัวแต่ไป Hi5, MSN อยู่ แบ่งเวลาให้เป็น กำหนดความเร่งด่วนของงานที่จะต้องทำ ช่วยงานบ้านช่วยพ่อช่วยแม่แค่ไหน? เวลาเล่นแค่ไหน? เวลาทบทวนทำการบ้านดูหนังสือแค่ไหน?
จากคุณ |
:
แอ๊ด ปากเกร็ด
|
เขียนเมื่อ |
:
29 มี.ค. 53 13:45:47
|
|
|
|
|