ความคิดเห็นที่ 1 มันน่าจะอยู่ที่สัญญานะคะ   ว่ามีรายละเอียดเกี่ยวกับลิขสิทธิ์กี่ปี อย่างเช่น   คนเขียน  กับ สำนักพิมพ์ ที่ 1     2-3 ปี แรก  สำนักพิมพ์  ถือลิขสิทธิ    มีอำนาจในการจัดพิมพ์จำหน่าย  แม้ว่า   นักเขียนจะไปเขียนอยู่ สำนักพิมพ์อื่นไปแล้วก็ตาม คือ  ทุกอย่างอยู่ในรายละเอียดของสัญญาน่ะค่ะ และ ถ้าเป็นนักเขียนประจำ  ไม่มีในสัญญาการเขียนเป็นชิ้นงาน   ก็ ต้องย้อนไปดูสัญญาในการรับสมัครงาน  ว่าผลงานเขียนของนักเขียนประจำนี่ ถือว่า  สนพ.เป้นเจ้าของลิขสิทธิ์  หรือไม่ ( ปกติเป็น) อกอย่าง  ผลงานบางชิ้น   ในสัญยา  จะระบุ กับนักเขียนไว้เลยว่า จะขายลิขสิทธิ์ขาด  หรือ  ช่วงเวลากี่ปี สรุป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสัญญาในการทำงานค่ะ จากคุณ : กระจ้อน เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 01:12:38

ความคิดเห็นที่ 2 ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนนะครับ ว่าผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายลิขสิทธิ์ แต่ขอใช้ความรู้ที่ได้ร่ำเรียนด้านกฎหมายลิขสิทธิ์มา ช่วยแนะนำเป็นข้อมูลให้กับเจ้าของกระทู้นะครับ ประเด็นที่จะต้องพิจารณาประการแรกก็คือ ระหว่าง สำนักพิมพ์กับคุณ นั้นได้ทำสัญญากันในฐานะใด "ลูกจ้าง กับ นายจ้าง" หรือ "ผู้รับจ้าง กับ ผู้ว่าจ้าง" ความหมายของกลุ่มคำดังกล่าวอาจจะใกล้เคียงกันมากในสายตาของบุคคลทั่วไป แต่ในทางกฎหมายแล้วนั้น เป็นความหมายเฉพาะของตัวมันเอง ตามคำจำกัดความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ต่อไปจะเรียกย่อว่า ป.พ.พ.) โดย ป.พ.พ. ได้ให้คำจำกัดความ ความสัมพันธ์ระหว่าง "นายจ้าง กับ ลูกจ้าง" ไว้ใน ป.พ.พ.มาตรา ๕๗๕ ก (ต่อไปจะเรียกว่า "จ้างแรงงาน") ส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง "ผู้รับจ้าง กับ ผู้ว่าจ้าง" จำกัดความไว้ใน ป.พ.พ. มาตรา ๕๘๗ ข (ต่อไปจะเรียกว่า "จ้างทำของ") ตอนนี้มาพิจารณาว่า การเป็นนักเขียนประจำของคุณนั้น เป็นการเขียนในฐานะ "ลูกจ้าง" ที่ทำงานแบบ เช้าไป-เย็นกลับ หรือ ในฐานะ "ผู้รับจ้าง" ซึ่งผู้ว่าจ้างจะจ่ายสินจ้างให้เมื่อทำงานนั้นทำสำเร็จ  ซึ่งผมพิจารณาดูแล้วเห็นว่า งานที่คุณเขียนนั้น น่าจะเป็นการ "จ้างทำของ" เสียมากกว่า เพราะผู้ว่าจ้าง จะจ่ายสินจ้างให้ เมื่อคุณเขียนหนังสือเล่มนั้นเสร็จแล้ว โดยอ่านจากกระทู้แล้ว ก็พบว่า สนพ.ก็ระบุชัดเจนว่า ลิขสิทธิ์ในงานเขียนชิ้นนี้ เป็นของ สนพ. ซึ่งเมื่อพูด "ความจริง" มันก็อาจทำให้เราเจ็บใจ พูดตรงๆก็คือว่า ในเมื่อสัญญาระหว่างคุณกับ สนพ. เป็นสัญญา "จ้างทำของ" ดังนั้น ลิขสิทธ์จึงตกเป็นของผู้ว่าจ้าง ตามความใน พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๑๐ค เว้นแต่ คุณ กับ สนพ.จะตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น (ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธ์ฯ มาตรา ๑๐ ตอนท้าย) ซึ่งหากเรื่องราวทั้งหมด เป็นดังผมคาดการณ์ ลิขสิทธ์ในหนังสือเล่มนั้น ก็เป็นของสำนักพิมพ์ครับ การที่มีชื่อคุณอยู่บนปก แสดงให้เห็นว่า คุณเป็นคนเขียนเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เสมอไป แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าลิขลิทธิ์จะเป็นของ สนพ.แล้ว แต่หนังสือที่คุณเขียนก็มีชื่อของคุณปรากฎอยู่ ชื่อที่ปรากฎนั้นบ่งบอกว่าคุณคือผู้สร้างสรรค์นั่นเอง แม้ว่า สนพ.จะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ซึ่งเขาอ้างตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฯ มาตรา ๑๐ ก็ตาม แต่การที่หนังสือปรากฎชื่อของคุณเป็นผู้สร้างสรรค์  คุณก็จะมีสิทธิ์อีกอย่างหนึ่ง คือ "สิทธิ์ของผู้ส้างสรรค์"(Exclusive Right) ซึ่งมีสิทธิ์ที่จะห้ามมิให้ผู้รับโอนสิทธิ์หรือบุคคลอื่นใด บิดเบือน ตัดทอน ดัดแปลงหรือทำโดยประการอื่นใดแก่งานของคุณ จนเกิดความเสียหายแก่คุณ ตามความใน พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฯ มาตรา ๑๘ง หวังว่าความเห็นของผมจะเป็นประโยชน์แก่คุณไม่มากก็น้อย ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ กป.พ.พ. มาตรา ๕๗๕  อันว่าจ้างแรงงานนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าลูกจ้างตกลงจะทำงานให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่านายจ้าง และนายจ้างตกลงจะให้สินจ้างตลอดเวลาที่ทำงานให้ ขป.พ.พ. มาตรา ๕๘๗  อันว่าจ้างทำของนั้น คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่าผู้รับจ้าง ตกลงจะทำการงานสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนสำเร็จให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่าผู้ว่าจ้าง และผู้ว่าจ้างตกลงจะให้สินจ้างเพื่อผลสำเร็จแห่งการที่ทำนั้น คพ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๑๐ งาน ที่ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ขึ้นโดยการรับจ้างบุคคลอื่น ให้ผู้ว่าจ้างเป็นผู้มีลิขสิทธิ์ในงานนั้น เว้นแต่ผู้สร้างสรรค์และผู้ว่าจ้างจะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น งพ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๑๘  ผู้สร้างสรรค์งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้มีสิทธิที่จะแสดง ว่าตนเป็นผู้สร้างสรรค์งานดังกล่าว และมีสิทธิที่จะห้ามมิให้ผู้รับโอนลิขสิทธิ์หรือบุคคลอื่นใดบิดเบือน ตัดทอน ดัดแปลงหรือทำโดยประการอื่นใดแก่งานนั้นจนเกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง หรือเกียรติคุณของผู้สร้างสรรค์ และเมื่อผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตายทายาทของผู้สร้างสรรค์มีสิทธิที่จะฟ้อง ร้องบังคับตามสิทธิดังกล่าวได้ตลอดอายุแห่งการคุ้มครองลิขสิทธิ์ ทั้งนี้ เว้นแต่จะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่นเป็นลายลักษณ์อักษร แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 02:19:22 จากคุณ : Jade Dew เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 02:10:02

ความคิดเห็นที่ 3 (เพิ่มเติม) คิดง่ายๆ ครับ -ลิขสิทธิ์ น่าจะเป็นของสำนักพิมพ์เก่าที่คุณเขียนให้ ดังนั้นเมื่อมีผู้ใดละเมิด ผู้นั้นก็จะละเมิดลิขสิทธิ์ของสำนักพิมพ์เก่าของคุณ ไม่ใช่ละเมิดลิขสิทธิ์ของคุณ เพราะสิทธิ์ดังกล่าวได้โอนไปยังสำนักพิมพ์เก่าของคุณแล้วครับ -สิทธิ์ของผู้สร้างสรรค์ (Exclusive Right) ยังเป็นของคุณเสมอตลอดอายุลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ดังนั้นเมื่อมีผู้ละเมิด แล้วทำให้งาน(เดิม) ของคุณ หรือตัวคุณเสียหาย คุณก็สามารถฟ้องร้องผู้ละเมิด(ในบริบทที่ว่า "ทำให้งานคุณเสียหาย หรือตัวคุณเสียหาย" มิใช่ฟ้องในฐานะละเมิดฯนะครับ เพราะถ้าฟ้องในฐานะละเมิดฯ สนพ.เดิมของคุณจะต้องเป็นผู้ฟ้อง เพราะลิขสิทธิ์เป็นของสำนักพิมพ์) แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 02:41:17 จากคุณ : น้ำค้างหยกเก้าบุปผา (Jade Dew) เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 02:35:50

ความคิดเห็นที่ 4 ขึ้นอยู่กับว่า ตอนคุณเซ็นสัญญา คุณให้สนพ. "เช่า" ลิขสิทธิ์หรือว่า "ขายขาด" ค่ะ ถ้าให้เช่า มันก็มีกำหนดระยะเวลา 3 ปี 5 ปี อะไรก็ว่าไป ในระยะเวลานั้น สนพ.มีสิทธิ์ที่จะพิมพ์ซ้ำได้ พอหมดสัญญา ลิขสิทธิ์ก็กลับมาเป็นของคุณเต็มที่ แต่...ถ้าคุณขายขาด แปลว่าคุณมอบลิขสิทธิ์นั้นในสนพ.ไปแล้ว สนพ.จะเอาไปทำอะไรก็ได้อะค่ะ ... สารภาพว่าอ่านที่คุณเขียนแล้วงงนิดหน่อย งานชิ้นนี้คุณเคยพิมพ์กับสนพ. ก. ตอนนี้คุณไม่ได้เขียนงานให้สนพ. ก. แล้ว สนพ. ก. เอางานเก่าของคุณไปปรับปรุงและตีพิมพ์ใหม่? ถ้ากรณีนี้ก็ย้อนกลับไปอ่านข้างบน แต่ถ้า สนพ. ค. เอางานที่คุณตีพิมพ์กับสนพ. ก. ไปตีพิมพ์ อันนี้ผิดเต็มๆ ค่ะ จากคุณ : Clear Ice เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 11:11:36