Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ชนะศึกภายนอก (คนดีแผ่นดินซ้อง ๒๐)  

คนดีแผ่นดินซ้อง

ตอนที่ ๒๐ ชนะศึกภายนอก “

เล่าเซี่ยงชุน “

เพงไซอ๋อง นำกองทัพเดินทางจากเมืองซินโลก๊กได้ประมาณเดือนหนึ่ง ก็มาถึงด่านชิดแชก๊วนหน้าเมืองไซหยง จึงให้ตั้งค่ายไว้ห่างประมาณสามสิบลี้ พอรบกันครั้งแรก เตียตง ทหารเอกก็ตีด่านแตก นายด่านหนีไปที่ด่านโออาก๊วน เพงไซอ๋องก็ยกพลตามไปล้อมด่านไว้สามด้าน นายด่านก็ขอร้องว่าอย่าเพิ่งเข้าตี ได้แจ้งไปทางเมืองไซหยงแล้ว ถ้ายอมเป็นเมืองขึ้นตามเดิมแล้ว ก็จะได้ไม่ต้องรบกันให้เปลืองไพร่พล หลีหงี ทหารเอกก็ตอบไปว่าเจ้าเมืองไซหยงเป็นคนโกงวาจากับน้ำใจไม่เหมือนกัน ยอมสวามิภักดิ์มาหลายครั้งแล้วเชื่อฟังไม่ได้ นายด่านก็อ้อนวอนให้รออีกครั้ง เพงไซอ๋องจึงให้พักรบรออยู่ประมาณครึ่งเดือน

คราวนี้เจ้าเมืองไซหยงไปเชิญ หลวงจีนฮวนฮวยซัว จากเขาฮวยซัวมาช่วยรบ และทำให้เพงไซอ๋องกับนายทหารเอกทั้งห้าคนบาดเจ็บสาหัส จน เฮงเซียนเล่าโจ๊ว อาจารย์ของเพงไซอ๋องต้องมาช่วยอีกครั้ง จึงรอดพ้นความตายไปได้ แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะหลวงจีน ฮวนฮวยซัวได้ ต้องไปขอร้อง โล๊วซันเซียบ๊อ อาจารย์ของ นางโปยโปกงจู๊ ภรรยาของเพงไซอ๋อง ให้มาช่วยแก้ไข

อาจารย์ก็เอาของวิเศษให้นางโปยโปกงจู๊ ซึ่งอยู่ที่เมืองเซียนเชียนก๊ก มาช่วยสามีรบกับข้าศึก จึงสามารถเอาชนะเมืองไซหยงได้

เจ้าเมืองไซหยงก็ยอมอ่อนน้อมเป็นเมืองขึ้น ขอส่งเครื่องบรรณาการตามเดิม และมอบธงประจำเมืองของจริงให้แก่เพงไซอ๋องด้วย เวลาเดียวกัน เทกลังเหงีย ขุนนางเมืองไซหยง ที่ถูกถอดลงเป็นไพร่เลี้ยงวัวและม้า ก็เข้ามาหาเพงไซอ๋องขอติดตามไปเมืองเปียนเหลียง เพื่อกล่าวโทษ พังหอง ด้วย

และเล่าความที่พังหองใช้อุบายให้ พระเจ้าซ้องยินจงฮ่องเต้ ทรงทราบว่าธงของเมืองไซหยงอันก่อนเป็นธงปลอม จนเพงไซอ๋องต้องเนรเทศไปอยู่ที่ตำบลอิวเลงเอีย แล้วพังหองมีหนังสือให้ เฮงเจีย คิดอุบายฆ่าเพงไซอ๋องแต่ไม่สำเร็จ แล้วพังหองก็ให้ตนมาแจ้งแก่เจ้าเมือง ไซหยงว่า เพงไซอ๋องตายแล้ว เจ้าเมืองไซหยงจึงคบคิดกับเจ้าเมืองซินโลก๊ก ยกกองทัพมาตีเมืองซำก๋วน ให้ฟังทุกประการ

เพงไซอ๋องจึงให้ เจียวเทงกุ้ย ทหารเอกนำหนังสือกราบทูลเรื่องการศึกที่มีชัยชนะ ไปให้ เปาบุ้นจิ้น กราบบังคมทูลถวายฮ่องเต้ที่เมืองเปียนเหลียงก่อน แล้วก็ยกกองทัพเดินทางตามมาภายหลัง เมื่อถึงเมืองหลวงแล้วก็ไปหา นางเต็กไทเฮา ผู้เป็นอากับ นางเม่งสี มารดาให้ทราบความตั้งแต่ต้นจนปลายแล้ว จึงไปหาเปาบุ้นจิ้น บอกความซึ่งเทกลังเหงียตามเข้ามาฟ้องกล่าวโทษพังหองให้ทราบ

เปาบุ้นจิ้นก็เข้าไปในพระราชวังที่ว่าราชการ นำเพงไซอ๋องเข้าเฝ้าฮ่องเต้ และถวายเครื่องบรรณาการกับธงประจำเมืองไซหยง พระเจ้าซ้องยินจงได้ทอดพระเนตรแล้วก็มีพระทัยยินดี ยิ่งนัก แล้วเพงไซอ๋องก็นำหนังสือเรื่องราวกล่าวโทษพังหอง ถวายต่อพระหัตถ์

ฮ่องเต้ทอดพระเนตรแล้ว จึงตรัสถามพังหองว่า เป็นขุนนางทำราชการมากี่ปี พังหองกราบทูลว่ารับราชการสนองพระเดชพระคุณมาประมาณสามสิบปีแล้ว ฮ่องเต้ก็ตรัสถาม ต่อไปว่า พระเจ้าแผ่นดินองค์ก่อน ๆ กับพระองค์ที่ได้ชุบเลี้ยงมา เป็นกระไรกัน

พังหองก็กราบทูลว่าพระเจ้าแผ่นดินแต่ก่อนนั้น ชุบเลี้ยงให้มียศศักดิ์ เปรียบดังมหาสมุทร ซึ่งพระองค์ชุบเลี้ยงทุกวันนี้ เปรียบดังฟ้าแลดิน ฮ่องเต้ก็ตรัสต่อไปว่าก็ชุบเลี้ยงถึงเพียงนี้แล้ว เหตุใดจึงไม่มีความกตัญญูต่อแผ่นดิน พังหองก็กราบทูลว่าทุกวันนี้ก็ตั้งใจทำราชการสนองพระเดชพระคุณโดยสุจริต มิได้คิดชั่วแต่สิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย

ฮ่องเต้จึงตรัสว่าถ้าเช่นนั้นทำไมจึงคบค้ากับชาวเมืองไซหยง ซึ่งเป็นข้าศึกกับเมืองเปียนเหลียง

พังหองก็ตกใจแต่แก้ตัวว่าเพงไซอ๋องกล่าวโทษไม่จริง เพงไซอ๋องจึงนำเอาตัว เทกลังเหงียเข้ามาเป็นพยาน เทกลังเหงียก็กราบทูลเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนปลายให้ทรงทราบ พังหองก็แก้ว่าเทกลังเหงียรับสินบนจากเพงไซอ๋อง แกล้งเอาความมิจริงมาใส่โทษตน แล้วหันไปถาม เทกลังเหงียว่า เหตุใดจึงมาแกล้งใส่ความกัน ตัวเจ้ากับเราก็ยังไม่รู้จักกัน เทกลังเหงียก็ว่าตนเองมีโทษถึงตาย แต่ขุนนางขอไว้จึงต้องถอดลงเป็นไพร่ ได้ความลำบากทั้งนี้ก็เพราะพังหอง

เปาบุ้นจิ้นจึงกราบทูลว่า

“………ซึ่งเพงไซอ๋องกล่าวโทษพังหองนั้น จะเชื่อฟังเอาเป็นจริงก็ยังไม่ได้ เทกลังเหงียมาว่าก็เชื่อไม่ได้ ถ้าแม้นพังหองทำการจริงเหมือนว่า ก็มีความผิดเป็นข้อใหญ่ จะต้องเอาตัวเพงไซอ๋อง พังหอง เทกลังเหงียไว้อย่าให้ไปบ้าน ให้คนไปค้นดูที่บ้านพังหอง ถ้าพบสิ่งของในเรือนพังหอง เหมือนคำเทกลังเหงียให้การว่า เจ้าเมืองไซหยงให้มาเป็นของคำนับ ก็ควรจะเชื่อฟังเอาคำเทกลังเหงียเป็นจริงได้ ถ้าไม่พบของเช่นคำให้การ เพงไซอ๋อง เทกลังเหงียก็ผิด…….”

ฮ่องเต้ก็ทรงเห็นชอบด้วย จึงมีรับสั่งให้เปาบุ้นจิ้นเอาทหารไปค้นบ้านพังหอง เปาบุ้นจิ้นก็ขอขุนนางผู้ใหญ่สี่คนไปเป็นพยานด้วย

ฝ่าย นางพังกุยฮุย บุตรสาวพังหองผู้เป็นสนมเอก แจ้งความว่าฮ่องเต้ให้เปาบุ้นจิ้นนำขุนนางและทหารไปค้นบ้านบิดา ก็ตกใจรีบให้ เฮงหยิน ขันทีไปบอกมารดาให้ยักย้ายของที่บิดาได้รับมาจากเมืองไซหยงออกไปเสีย แต่ไม่ทันการ เปาบุ้นจิ้นไปถึงบ้านแล้วให้ทหารที่พาไปพันหนึ่ง ล้อมบ้านพังหองไว้ และพาขุนนางทั้งสี่กับทหารร้อยหนึ่ง เข้าไปค้นภายในบ้าน ก็พบ เฮงหยิน จึงให้ทหารจับตัวไว้

เพราะเป็นขันทีรับราชการอยู่ในวัง ออกมาข้างนอกผิดประหลาดอยู่ต้องเอาตัวไว้ก่อน แล้วก็ค้นพบหนังสือถึง เฮงเจีย ผู้รักษาตำบลอิวเลงเอีย กับถึง ชิงชิวเจ้าเมืองซำก๋วน ให้คิดฆ่าเพงไซอ๋อง กับพบหีบใส่ของกำนันจากเจ้าเมืองไซหยง เป็นทองคำสิบลิ่มหนัก พันตำลึง และสิ่งของต่าง ๆ มีหนังสือของเจ้าเมืองไซหยงกำกับอยู่อีกสองฉบับ

เปาบุ้นจิ้นก็นำสิ่งของทั้งหมด หนังสือสี่ฉบับ และตัวเฮงหยินขันที มากราบทูลให้ฮ่องเต้ทรงทราบความโดยละเอียด ฮ่องเต้ทอดพระเนตรสิ่งของและหนังสือแล้ว ก็ทรงขัดเคืองเป็นอันมาก จึงตวาดพังหองว่าท่านจะว่าอย่างไร พังหองก็ตกใจตัวสั่นหน้าซีดไม่อาจทูลตอบได้ ฮ่องเต้จึงตรัสต่อไปว่า

“……..เห็นท่านเป็นผู้ใหญ่ ชุบเลี้ยงให้มียศศักดิ์ คนทั้งปวงก็ยำเกรงนับถือทั้งแผ่นดิน ไม่ควรจะเป็นเช่นนี้เลย ท่านไม่รู้หรือว่าเพงไซอ๋องเป็นเชื้อวงศ์ของเรา ท่านคิดล้างผลาญ เพงไซอ๋องหลายครั้งแล้ว แผ่นดินเปียนเหลียงซึ่งตั้งอยู่ได้ก็เพราะเพงไซอ๋อง ถ้าไม่ได้เพงไซอ๋อง ป่านนี้ก็เป็นของข้าศึกเสียแล้ว ท่านคิดกำจัดเพงไซอ๋องนั้น ปรารถนาจะให้เมืองเปียนเหลียงเป็นของข้าศึกหรือ………..”

พังหองได้ฟังรับสั่งก็กราบทูลว่า การครั้งนี้ได้ผิดแล้ว ขอพระองค์จงทรงพระกรุณาโปรด รับพระราชทานชีวิตไว้สักครั้งหนึ่งเถิด พระเจ้าซ้องยินจงฮ่องเต้ก็มีพระทัยสงสาร ความขัดเคืองนั้นค่อยเสื่อมคลายลง

ขุนนางทั้งปวงเห็นกิริยาฮ่องเต้ดังนั้น จึงกราบทูลว่าซึ่งโทษพังหองนั้นขอพระองค์จงโปรดให้เปาบุ้นจิ้นชำระเถิด ฮ่องเต้จึงรับสั่งให้เปาบุ้นจิ้นชำระความตามที่ขุนนางได้กราบทูล เปาบุ้นจิ้นจึงกราบทูลว่า

“……ถ้าพระองค์โปรดให้ข้าพเจ้าชำระแล้ว ต้องรับพระราชทานเอาตัวชิงชิว ผู้รักษาเมืองซำก๋วน กับเฮงเจียตำบลอิวเลงเอียมาชำระ ถามข้อความในหนังสือที่ค้นได้ในบ้าน พังหอง แล้วต้องเอาตัวเฮงหยินขันทีมาไล่เลียงดูว่า ไปที่บ้านพังหองด้วยธุระอะไร ต้องเอาตัวนางพังกุยฮุยมาชำระด้วย ว่าใช้ให้เฮงหยินขันทีไปที่บ้านพังหองด้วยเหตุใด……..”

พระเจ้าซ้องยินจงฮ่องเต้จึงตรัสว่า

“……ซึ่งท่านจะเอาตัวคนเหล่านั้นมาชำระก็ควร แต่ซึ่งจะเอาตัวนางพังกุยหุยมาชำระนั้นไม่ชอบ ด้วยนางพังกุยฮุยเป็นผู้หญิงอยู่ถึงในวังจะรู้อะไรกับเขา เห็นไม่เกี่ยวข้องดอก….”

เปาบุ้นจิ้นจึงกราบทูลว่า

“…….อันพังหองทำการดังนี้ ถ้าจะว่าตามพระราชกำหนดกฎหมายแล้ว โทษถึงขบถ ข้าพเจ้าจะต้องรับพระราชทานเอาตัวนางพังกุยฮุยยมาชำระ ด้วยใช้ให้เฮงหยินขันทีไปที่บ้านพังหอง พบเมื่อเวลาจะไปค้นของ ครั้นถามบอกว่านางพังกุยฮุยใช้ให้มาเยี่ยมมารดา ข้าพเจ้าสงสัยอยู่ จะต้องเอานางพังกุยฮุยมาสอบถาม……..”

ฮ่องเต้ได้ทรงฟังเปาบุ้นจิ้นกราบทูลว่า จะเอาตัวนางพังกุยฮุยมาชำระให้ได้ ก็ทรงขัดเคือง จึงรับสั่งว่า ถ้าเปาบุ้นจิ้นจะขืนเอาตัวนางพังกุยฮุยมาไต่ถามให้ได้แล้ว ความเรื่องนี้ก็ต้องเลิกกันไม่ให้ชำระต่อไป เปาบุ้นจิ้นก็กราบทูลว่าถ้าไม่ให้ชำระความเรื่องนี้แล้ว ขุนนางทั้งปวงก็จะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

ฮ่องเต้จึงมีรับสั่งให้ไปเอาตัวชิงชิวกับเฮงเจียมา และมอบตัวเทกลังเหงียให้ เปาล่งถูดูแล แล้วก็เสด็จเข้าข้างใน

พระเจ้าซ้องยินจงฮ่องเต้ก็เสด็จไปที่เก๋งนางพังกุยฮุย นางก็ออกมารับเสด็จและพาเข้าไปข้างใน แล้วจึงกราบทูลว่า

“……..เดิมพระองค์ทรงพระกรุณาโปรดให้อภัยบิดาข้าพเจ้า ด้วยทรงเห็นว่าเป็นคนชรา ถ้าผิดพลั้งเล็กน้อยก็ไม่เอาโทษ การครั้งนี้บิดาข้าพเจ้ามีความผิด ขอพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดด้วย……..”

ฮ่องเต้จึงตรัสว่าบิดาเจ้าไม่ดีไปคบค้ากับชาวเมืองไซหยง คิดทำร้ายเพงไซอ๋องนั้น มีความผิดเป็นข้อใหญ่ นางพังกุยฮุยได้ฟังรับสั่งก็ร้องไห้ร่ำไร กราบทูลวิงวอนขอโทษบิดาไปต่าง ๆ ฮ่องเต้ก็มีพระทัยสงสารเสียไม่ได้ด้วยความเมตตา จึงตรัสว่าเจ้าอย่าทุกข์ร้อน ร้องไห้เศร้าโศกไปเลย บิดาของเจ้ามีความผิดนั้น เราจะคิดอ่านปลดเปลื้องให้ไม่เป็นไรดอก

##########

นิตยสารโล่เงิน
กันยายน ๒๕๔๗

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 53 09:37:31




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com