Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สิ้นเสี้ยนหนามแผ่นดิน (คนดีแผ่นดินซ้อง ๒๑)  

คนดีแผ่นดินซ้อง

ตอนที่ ๒๑ สิ้นเสี้ยนหนามแผ่นดิน “

เล่าเซี่ยงชุน “

เมื่อ เปาบุ้นจิ้น ได้ตัวจำเลยมาครบถ้วนแล้ว ก็ซักถาม เฮงเจีย ได้ความว่า พังหอง ได้มีหนังสือแจ้งให้หาทางฆ่า เพงไซอ๋อง ระหว่างที่อยู่ตำบลอิวเลงเอีย ถึง สิบสามฉบับ เปาบุ้นจิ้นก็ซัก ชิงชิว ว่าตัวท่านนี้คบคิดกับพังหองจะทำร้ายเพงไซอ๋องจริงหรือไม่ ชิงชิวไม่รับ เปาบุ้นจิ้นก็ให้ผูกเฆี่ยนจนต้องรับเป็นสัตย์ ว่าคบคิดกันจริง เปาบุ้นจิ้นก็ถามต่อไปว่า ตัวมีความพยาบาทมาดหมายจะกำจัดเพงไซอ๋องนั้น ด้วยข้อขัดเคืองสิ่งใดกัน จึงได้โกรธแค้นนัก

ชิงชิว ก็ให้การว่า มีความพยาบาทมาตั้งแต่รุ่นบิดา คือ เต็กก๊วง ผู้บิดาเพงไซอ๋อง เป็นนายทหารเอกอยู่เมืองซัวไซ บิดาของชิงชิวเป็นนายทหารรองอยู่ในบังคับบัญชา บิดาชิงชิวมีความผิดเต็กก๊วงฆ่าเสีย จึงมีความพยาบาทเมื่อคิดทำร้ายเต๊กก๊วงไม่ได้ ก็คิดทำร้ายเพงไซอ๋องผู้บุตร เพื่อแก้แค้นแทนบิดา

เปาบุ้นจิ้นจึงถามพังหองว่า มีความโกรธแค้นกับเพงไซอ๋องลึกซึ้งมากมายด้วยเหตุใด พังหองก็ให้การว่า ตนเจ็บใจตั้งแต่เมื่อครั้งเพงไซอ๋องลองฝีมือกับ เฮงเทียนฮวย ซึ่งเป็นคนของตน ถวายหน้าที่นั่ง แล้วฆ่าเฮงเทียนฮวยตาย และเพงไซอ๋องมีสาเหตุกับชิงชิวซึ่งเป็นบุตรเขย จึงได้พลอยเจ็บแค้นด้วย

เปาบุ้นจิ้นก็ถาม เฮงหยิน ขันทีว่าไปที่บ้านพังหองด้วยธุระอะไร เฮงหยินก็ยืนยันว่า นางพังกุยฮุย ใช้ให้ไปเยี่ยมมารดา เปาบุ้นจิ้นถามอีกหลายครั้งก็ไม่รับ จึงให้ผูกเฆี่ยนจนเจ็บปวด จึงรับว่าถูกใช้ให้ไปบอกมารดานางพังกุยฮุย ให้ยักย้ายสิ่งของที่ได้รับจากเมืองไซหยง ออกไปจากบ้านเสีย

เปาบุ้นจิ้นก็ให้เสมียนจดหมายคำให้การไว้ แล้วทำหนังสือปรับโทษจำเลยทั้งหมด เอาไปถวายพระเจ้าซ้องยินจงฮ่องเต้ ในขณะที่ออกว่าราชการมีขุนนางใหญ่น้อยเฝ้าตามตำแหน่ง

ในหนังสือนั้นมีคำตัดสินโทษ ตามลำดับว่า

พังหองคบคนต่างเมืองซึ่งเป็นศัตรูแผ่นดิน คิดทำร้ายเพงไซอ๋อง โทษถึงประหารชีวิต

ชิงชิวเป็นผู้รักษาด่านซำก๋วน ปล่อยให้เทกลังเหงียเข้ามาได้ ในเมืองเปียนเหลียงแล้วคิดฆ่าเพงไซอ๋อง โทษถึงตาย

นางพังกุยฮุยคบคิดกับพังหอง ใช้อุบายเรื่องธงปลอม จะกำจัดเพงไซอ๋อง โทษถึงประหารชีวิต

เฮงหยินขันทีนั้นเป็นแต่คนใช้ นางพังกุยฮุยให้ไปบอกยักย้ายของ โทษก็ตายเหมือนกัน แต่จะต้องให้ตายด้วยแพรรัดคอ

เทกลังเหงียนั้นก็มีโทษ แต่เป็นคนใช้อยู่ในบังคับเจ้าเมืองไซหยง มีความชอบด้วยพวกคนร้ายเหล่านี้ ซึ่งจะได้ตัวก็เพราะเทกลังเหงียเป็นโจทก์ ต้องให้รางวัลบ้างเล็กน้อย ปล่อยตัวกลับไปบ้านเดิม

เฮงเจียนั้นเป็นคนเห็นกับผู้ซึ่งมีคุณต่อแผ่นดิน ไม่เข้าด้วยผู้ผิด ต้องชุบเลี้ยงตั้งแต่งให้มียศศักดิ์

ฮ่องเต้ทอดพระเนตรแล้วจึงตรัสว่า

“……..ท่านปรับโทษชิงชิวกับเฮงหยิน และยกความชอบของเฮงเจีย เทกลังเหงียนั้นก็ควรอยู่ แต่ปรับโทษพังหองกับนางพังกุยฮุยเหลือเกินนัก ต้องลดหย่อนผ่อนลงเสียบ้าง…..”

เปาบุ้นจิ้นก็กราบทูลว่า

“……ข้าพเจ้าปรับโทษทั้งนี้ ตามพระราชกำหนดกฎหมาย จะได้เห็นแก่หน้าบุคคลผู้ใดหามิได้………”

ฮ่องเต้ก็ตรัสว่า

“…….นางพังกุยฮุยนั้นเราได้อาศัยใช้สอยมาก็มาก ท่านเห็นแก่เราบ้างอย่าให้หนักนัก……..”

เปาบุ้นจิ้นจึงกราบทูลว่า

“……ซึ่งพระองค์ตรัสนั้นก็ควรแล้ว แต่ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นเสี้ยนหนามแผ่นดิน ถ้าพระองค์เห็นแก่เสี้ยนหนามแผ่นดิน จะเลี้ยงเอาไว้แล้ว ข้าพเจ้าก็จะถวายบังคมลาออกจากราชการเสีย……”

ฮ่องเต้ก็ตรัสว่า

“……..ท่านก็เป็นผู้ใหญ่เหตุใดจึงพูดดังนี้ ถ้อยความนั้นมิใช่ว่าจะไม่ให้ชำระเมื่อไร ก็ตามใจทุกอย่าง เราขอแต่พังหองกับนางพังกุยฮุยสองคนเท่านี้ จะไม่ได้เจียวหรือ……”

เปาบุ้นจิ้นก็กราบทูลว่า

“…….ถ้าพระองค์จะให้ยกนางพังกุยฮุยกับพังหองเสียแล้ว กฎหมายซึ่งตั้งไว้สำหรับแผ่นดิน ก็ต้องลบล้างเลิกเสียใช้ไม่ได้……..”

ขุนนางทั้งปวงที่เฝ้าอยู่ก็พากันกราบทูลว่า เปาบุ้นจิ้นกับพังหอง ก็ไม่มีข้อขัดเคืองสิ่งใดกัน ซึ่งตัดสินทั้งนี้ตามพระราชกำหนดกฎหมาย ขอพระองค์จงเอาตามเปาบุ้นจิ้นตัดสินเถิด

พระเจ้าซ้องยินจงได้ทรงฟังขุนนางทั้งหลายพร้อมกันว่าดังนั้น ก็ทรงพระดำริว่าการอันนี้ขุนนางก็เห็นด้วยกับเปาบุ้นจิ้นทั้งสิ้น ไม่มีใครเห็นมาข้างพระองค์สักคน ครั้นจะยอมตามคำเปาบุ้นจิ้น นาง พังกุยฮุยก็จะต้องตายเสียดายนัก ครั้นจะขัดขวางไว้ก็ไม่มีขุนนางผู้ใดเขาเห็นด้วย เป็นอันจนใจไม่รู้ว่าจะคิดบ่ายเบี่ยงแก้ไขอย่างไรได้ จึงรับสั่งว่าความเรื่องนี้เราขอตรึกตรองดูสักสามวันก่อน ตรัสแล้วก็เสด็จเข้าข้างใน

เปาบุ้นจิ้นจึงพูดกับขุนนางทั้งปวงว่า

“……ความเรื่องนี้ข้าพเจ้าเห็นท่วงทีพระกระแส จะหาอุบายให้พังหอง กับนางพังกุยฮุยพ้นโทษเป็นแท้ ความเรื่องนี้เป็นการแผ่นดินสำคัญอยู่ ข้าพเจ้าเห็นว่าเราพากันไปหานางเต็กไทเฮาจึงจะได้……..”

ขุนนางทั้งปวงก็เห็นชอบพร้อมกัน จึงพากันไปหา นางเต็กไทเฮา พระราชมารดาเลี้ยงของฮ่องเต้ เปาบุ้นจิ้นก็เล่าความซึ่งรับสั่งชำระพังหอง ให้นางเต็กไทเฮาฟังทุกประการ นางเต็กไทเฮาแจ้งเรื่องราวแล้ว ก็ออกจากวังนำเชงเก๋งเข้าไปในพระราชวังข้างใน เมื่อทราบว่าฮ่องเต้เสด็จอยู่ที่เก๋งนางพังกุยฮุย ก็ตรงไปที่นั่น ฮ่องเต้ทอดพระเนตรเห็นก็ตกใจ จึงถามว่ามารดามามีธุระสิ่งไรหรือ นางเต็กไทเฮาทูลว่าข้าพเจ้าไม่ได้มาเฝ้านานแล้ว คิดถึงพระองค์ก็มาเยี่ยม

ฮ่องเต้ก็เชิญไปที่ตำหนักของหลีไทเฮา พระราชมารดาประสูติ มีนางพังกุยฮุยและพวกขันทีสาวใช้ตามเสด็จไปด้วย

เมื่อถึงตำหนักของ นางหลีไทเฮา ก็พบ นางเชาฮองเฮา มเหสีอยู่ด้วย ก็พูดจา ปราศรัยกันตามธรรมเนียม นางเต็กไทเฮาจึงกราบทูลว่า นางคนนี้ที่ตามเสด็จมานั้นชื่อไร ฮ่องเต้บอกว่าชื่อนางพังกุยฮุย บุตรของพังหอง

นางเต็กไทเฮาจึงว่านางพังกุยฮุยบุตรพังหอง ที่เป็นขบถคบคิดกับเจ้าเมืองไซหยงหรือ พระองค์รับสั่งให้เปาบุ้นจิ้นชำระรับเป็นสัตย์ทุกข้อแล้ว ปรับโทษกันอย่างไรบ้าง ฮ่องเต้ก็ว่าโทษทัณฑ์นั้นยังไม่ได้ปรับ

นางเต็กไทเฮาก็ว่า โลฮวยอ๋อง ไปดูเปาบุ้นจิ้นชำระความ และเฝ้าอยู่ในเวลาที่ เปาบุ้นจิ้นกราบทูลชำระโทษ รู้ความและมาเล่าให้ข้าพเจ้าฟังถี่ถ้วนแล้ว ฮ่องเต้จึงตรัสว่าเปาบุ้นจิ้นเขาปรับโทษมาแล้ว แต่ลืมไป

นางเต็กไทเฮาจึงถามต่อไปว่า แล้วพังหองปรับโทษอย่างไร มีโทษเพียงไหน ฮ่องเต้ก็นิ่งอยู่มิได้ตอบประการใด

นางเต็กไทเฮาก็ผินหน้าไปพูดกับนางหลีไทเฮาว่า

“…….การเป็นทั้งนี้ก็เพราะด้วยรักนางพังกุยฮุย บุตรพังหอง เมื่อรักบุตรแล้วก็ตลอดไปถึงบิดาด้วย เพงไซอ๋องนั้นทำสิ่งไรให้กับพังหอง จึงโกรธแค้นพยาบาทมาดหมาย คิดทำร้ายไม่วายเลย พังหองก็เป็นผู้ใหญ่สารพัดจะรู้การผิด และรอบคอบทุกสิ่ง ไม่ควรจะคบค้ากับพวกเมืองไซหยง ซึ่งเป็นศัตรูกับเมืองเปียนเหลียง……..”

และนางก็ท้าวความว่า

“……….อันแผ่นดินเปียนเหลียงนี้ พระเจ้าซ้องไทโจ๊ฮ่องเต้มีพระราชอุตส่าห์ทรมานพระองค์ ไม่เสียดายกับชีวิตคิดตั้งขึ้นได้ สืบพระราชวงศานุวงศ์ต่อ ๆ มาหาอันตรายไม่ ครั้งนี้เมืองเปียนเหลียงจวนจะเสียกับเมืองไซหยง ก็เพราะพังหองกับพังกุยฮุย ซึ่งข้าพเจ้าร้อนใจได้มาว่าดังนี้ มิใช่จะเกี่ยวข้องสิ่งใดในตัวข้าพเจ้าหามิได้ เพราะเห็นว่าข้าพเจ้าถึงไม่ได้เป็นพระราชมารดาประสูติ ของพระเจ้าซ้องยินจงฮ่องเต้ก็จริง แต่ได้เลี้ยงมาตั้งแต่ยังเป็นทารก ก็มีความรักใคร่มากเหมือนกับบุตรในอุทร ถ้าเหตุใดเป็นข้อใหญ่เกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องเจ็บร้อนเป็นธุระด้วย ซึ่งข้าพเจ้าพูดทั้งนี้ จะผิดชอบประการใด ขอท่านตรึกตรองดูเถิด………”

นางหลีไทเฮาจึงว่า

“…….ท่านพูดนี้จริงทุกอย่าง เปาบุ้นจิ้นนั้นเป็นคนตรงจะตัดสินถ้อยความสิ่งไร ก็ว่าตามกฎหมาย จะได้เห็นแก่หน้าผู้ใดว่าเป็นพวกพ้อง หรือว่าเป็นคนโปรดปราน และเป็นคนไม่ชอบกันนั้นหามิได้ ความเรื่องพังหอง เปาบุ้นจิ้นก็ชำระตามกฎหมาย พังหองคบคิดกับเจ้าเมือง ไซหยง จะทำลายล้างเพงไซอ๋อง หมายว่าเพงไซอ๋องสิ้นแล้วเมืองเปียนเหลียงก็คงอยู่ในเงื้อมมือ ซึ่งจะรักนางพังกุยฮุยยิ่งกว่าแผ่นดินนั้นไม่ได้ ถ้าจะขืนเลี้ยงพังหองกับนางพังกุยฮุยไว้แล้ว ไปวันหน้าก็ยังไม่ทราบว่าจะมีเหตุประการขึ้น ขุนนางข้าราชการและหัวเมืองน้อยใหญ่ก็จะติเตียนนินทา พากันเอาใจออกห่างจากแผ่นดิน ครั้นการเป็นขึ้นดังนี้แล้ว บ้านเมืองก็จะเกิดการจลาจลขึ้นต่าง ๆ ขอจงเห็นแก่แผ่นดินซึ่งเป็นของพระเจ้าซ้องไทโจ๊เถิด อย่าให้เป็นอันตรายเสียเลย…….”

นางพังกุยฮุยก็คุกเข่าลง คำนับนางเต็กไทเฮาและนางหลีไทเฮา วิงวอนขอโทษ นางเชาฮองเฮาเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นว่า ขอยกโทษไว้สักครั้งหนึ่งเถิด อย่าให้ตายเสียเลย นางเต็กไทเฮากับนางหลีไทเฮาก็ตวาดเอาแล้วว่า

“…….เจ้าเป็นพวกเมืองไซหยงหรือ จึงมาขอโทษนางพังกุยฮุย อยากจะให้เมืองเปียนเหลียงเป็นอันตรายเสียกับข้าศึกหรือ……..”

ฮ่องเต้เห็นนางพังกุยฮุยร้องไห้ก็มีพระทัยสงสาร จึงอ้อนวอนว่า

“…….ขอพระราชมารดาทั้งสองจงได้เมตตากับข้าพเจ้า อย่าให้นางพังกุยฮุยตายเสียเลย ด้วยนางพังกุยฮุยยังเป็นเด็กเล็กไม่รู้จักผิดและชอบ เมื่อมีความผิดแล้วจะเนรเทศให้ไปอยู่เสียนอกพระราชวัง หรือจะเอาไปขังตึกมืดไว้ก็ตาม ขอแต่ชีวิตไว้เถิด……..”

นางเต็กไทเฮาว่าไม่ได้ผิดธรรมเนียมไป ว่าแล้วก็สั่งให้ขันทีเอาตัวนางพังกุยฮุยไปประหารชีวิตเสีย นางพังกุยฮุยก็คุกเข่าลงคำนับวิงวอนขอโทษอีก นางหลีไทเฮาจึงว่าถ้ากระนั้นก็อย่าให้ตายด้วยคมอาวุธเลย ให้ตายด้วยแพรรัดคอเถิด พูดแล้วก็ให้ขันทีจับตัวนางพังกุยฮุย เอาแพรรัดคอตายต่อหน้าที่นั่งนั้นเอง

พระเจ้าซ้องยินจงฮ่องเต้ ก็มีความเสียใจและเสียดายอาลัยเป็นยิ่งนัก แต่จนใจมิรู้จะแก้ไขประการใด จึงเสด็จออกจากตำหนักพระราชมารดา กลับมาที่เก๋งนางพังกุยฮุย และเสด็จเข้าไปซ่อนองค์ทรงพระกันแสงเป็นอันมาก แล้วคิดฉุนโกรธ เปาบุ้นจิ้น ว่าเป็นตัวการที่ทำให้นาง พังกุยฮุยต้องตาย แต่ก็จนใจด้วยมีคุณแก่แผ่นดิน ที่ได้คิดอ่านชำระความออกมาได้เป็นข้อใหญ่หนักหนา ถ้าไม่ใช่เปาบุ้นจิ้นผู้มีความยุติธรรม เป็นผู้ชำระความดังนี้แล้วคงได้วิวาทกันเป็นแน่

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 53 05:42:23




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com