เราลองมาดูเรื่องพื้นฐานทางด้านจิตใจกัน
ตัวอย่าง
เราเคยขี่จักรยานแข่งย้อนศร และขี่ขึ้นทางเท้าในนครลอนดอน ปรากฎว่า
"เราโดนคนอังกฤษช่วยกันรุมไล่เพราะว่า เราละเมิดสิทธิของพวกเขา"
พวกคนไทยขึ้นรถ bus คนเต็มแล้ว (จำกัดให้ยืนได้แค่ไม่กี่คน เลยนั้นขึ้นไม่ได้)
ยังดันทุรังขึ้นต่อกระเป่ารถมาไล่ ก็ยังไม่เชื่อ จะขึ้นให้ได้ กระเป๋ารถ bus เลยหยุดรถแล้วจะไปตามตำรวจ ปรากฎว่าผู้โดยสารฝรั่งไม่พอใจจะรุมประชาฑันณ์คนไทย คนไทยเลยต้องวิ่งหนีลงมา
คนไทยไปแซงคิวเวลาจะซื้อของที่นั่นก็โดนฝรั่งช่วยกันรุมไล่
เราก็เลยจำสิ่งดีๆมา กลับมาจะมาใช้ในเมืองไทย แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ?
เรายืนบนทางเท้าในเมืองไทย ยืนๆรอรถไปนะ เจอมอเตอร์ไซค์มันขี่ขึ้นมาบนทางเท้า มันบีบแตรไล่เราด้วยนะ เราต่อว่ามันเพราะหลงคิดว่า คนไทยที่ยืนข้างๆจะช่วยๆกันไล่มันเหมือนๆคนอังกฤษไล่เราตอนเราขี่จักรยานขึ้นทางเท้า
แต่คนไทยรอบๆตัวเรา มองเราด้วยความสมเพช คิดในใจว่่า
"ไอ้บ้า ไม่กล้ัวมันลงมาเสียบเอาหรือไงฟะ?"
พอเราขยับจะเรียกแท็กซี่ โผล่ออกไปเกือบโดน มอเตอร์ไซค์ย้อนศรชนเอา...โหมันพุ่งมาแรง ไอ้เรามัวแต่ดูทางขวา พอเราต่อว่ามัน แล้วเหลียวดูคนไทยรอบๆ คิดว่าจะมีคนช่วยเรา แต่
ทุกคนก็มองเราด้วยความขำ (มีคนหัวเราะออกมาดังๆด้วยนะ) แล้วคิดในใจว่า
"ไอ้โง่ ไม่กล้ัวมันลงมายิงเอาหรือไงฟะ?"
อีกเหตุการณ์หนึ่งนะ ตลกสิ้นดี เรานั่งรถเมล์ในเมืองไทย คนขับมันคงเมายา ขับรถแกว่งไปแกว่งมา จะคว่ำหลายครั้ง ลูกเล็กเด็กแดงร้องกันกระจองอแงด้วยความหวาดกลัว พอรถจอดป้ายเราหันรีหันขวางกะจะหาแนวร่วม ชวนกันอุ้มคนขับลงจากรถแล้วไปเรียกตำรวจมาจับมัน แต่คนในรถที่มีเกิน 20 คน ต่างก็หวาดกลัวคนขับกับกระเป๋ารถเมล์เพียงแค่ 2 คน กลัวมันจะเอาไม้หรือกระบอกตั๋วตีหัวเอา มันไม่เหมือนคนอังกฤษทั้งคันรถที่ระดมพลกันขับไล่คนไทยที่ดันทุรังขึ้นรถ bus ที่คนเต็มแล้วในนครลอนดอน
ส่วนเรื่องการแซงคิวนั้น เรากลับมาเมืองไทยเมื่อ 25 ปี ที่แล้ว คนไทยยังแซงคิวกัน เพิ่งมาปรับปรุงเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง แค่ในธนาคารกับในห้างสรรพสินค้า แต่ซื้อของร้านของชำ คนไทยก็ยังแซงคิวกันอยู่ คนไทยหลายๆคนยังไม่ีมีอารยธรรมพื้นฐานทางด้านจิตใจในสังคม แล้วจะไปพัฒนาจิตสำนึำกทางด้านการเมืองและประชาธิปไตยได้ยังไงกัน?
กว่าคนไทยจะแสดงออกเพื่อป้องกันการโดนละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เช่นพร้อมใจกันไล่มอเตอร์ไซค์ย้อนศร ไล่มอเตอร์ไซค์ขี่ขึ้นทางเท้า กว่าคนขายของชำจะไล่คนแซงคิว โดยการพูดเหมือนๆคนขายของชำในอังกฤษที่พูดกับคนแซงคิวว่า "I've only got a pair of hands. Wait in the queue or I won't serve you." มันคงอีกหลายปี
นั่นก็หมายความว่า ขนาดไล่มอเตอร์ไซค์ขี่ผิดกฎจราจรยังไม่กล้าไล่ แล้วใครจะกล้าเอามือชี้หน้าว่า ใครประมูลงานโกง จัดซื้อจัดจ้างโกง corruption ในเมืองไทยมันจึงมีต่อไปเรื่อยๆ
ประชาธิปไตยไทยน่ะหรือ? ยังไร้วัฒนธรรมทางการเมืองอยู่ มันยังตัดสินกันด้วยอาวุธอยู่
"ทุกวันนี้พรรคการเมืองไหนจะปกครองประเทศไทย ทหารต้องหนุนพรรคการเมืองนั้น ม่ายงั้นปกครองไปก็โดนรัฐประหาร จริงหรือไม่ล่ะ?"
ตกลงเรื่องเสื้อแดงประท้วงรัฐบาลนี้ อย่ามาอ้างว่าประชาชนไทยมีหรือไม่มีความรู้หรือใครหลอกใช้ใครเลย การตัดสินเด็ดขาด ตัดสินที่กำลังอาวุธ...ทหารเข้าข้างฝ่ายไหน ฝ่ายนั้นก็ชนะ
สรุปแล้วประเทศไทยมันก็ปกครองโดยระบอบเผด็จการที่เสแสร้งเล่นปาหี่ฉาบหน้าเป็นประชาธิปไตยไปวันๆหนึ่งนั่นแหละ
เนื่องจากพื้นฐานจิตใจของคนไทย ยังไม่กล้าเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพ เพราะจริงๆแล้วถึงมีความรู้ก็เรียกร้องไปไม่ได้ เนื่องจาก
"รัฐธรรมนูญไทยมีบทบัญญัติที่ตีความได้กว้างมากๆ ทำให้มีกฎหมายลูก เอื้ออำนวยให้ฝ่ายปกครอง สามารถยัดความผิดข้อหาต่างๆให้กับพลเมืองที่ต้องการเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพได้ในทุกเรื่อง"
จริงๆแล้วเราเขียนเรื่องนี้่ละเอียดกว่านี้ได้ออกมาเป็นหลายๆร้อยหน้า เพราะเราเพิ่งรับจ้างแปลวิทยานิพนธ์แนวนี้ จากไทยเป็นอังกฤษ ไปเป็นร้อยๆหน้า ให้นักศึกษาไทยที่เรียนอยู่ต่างประเทศ แล้วตอนแปลเราต้องค้นข้อมูล แล้วก็เจอเรื่องอะไรดีๆ หลายๆอย่าง จนรู้ซื้งเลยว่า แนวคิดของคน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวคิดของศาลเวลาพิพากษาคดี) ในประเทศที่ประชาธิปไตยเต็มใบนั้น พวกเขาคิดอย่างไรกัน และมันแตกต่างกับของไทยไปกันคนละโลกเลยหละ...!!!....แต่เขียนๆไปเผลอๆตัวเราเองจะโดนยัดข้อหา
ก็เลยเขียนแค่นี้ เพื่ออธิบายให้ทราบว่า
ประชาธิปไตยไทย จะพัฒนาได้ แค่คนไทยมีการศึกษาสูงขึ้น มันพัฒนาไม่ได้หรอกหากแต่ว่า พื้นฐานทางด้านจิตใจคนไทยต้องเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านี้ และยังต้องใช้เวลาอีกหลายสิบปี...อาจเป็นร้อยปีก็ได้ ใครจะไปรู้
แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 14:21:17
แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 14:27:33
แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 14:32:46
แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 14:33:32
แก้ไขเมื่อ 19 เม.ย. 53 14:48:16