ความคิดเห็นที่ 1 จะว่าไม่ใช่ก็ได้จะว่าใช่ก็ได้ครับผม เมืองอุตรดิตถ์เดิมทีไม่มีครับ เพราะเป็นเมืองที่เกิดขึ้นมาใหม่สมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากการขยายตัวของเส้นทางการค้าริมแม่น้ำน่าน ทำให้บริเวณบ้านท่าอิฐและบ้านท่าเสา ที่เป็นชุมชนเล็กๆขยายตัวขึ้นจนกลายเป็นเมืองและมีผู้คนยมาอยู่อาศัยมากมาย ตอนหลังพอมีการจัดตั้งเขตปกครองเขาก็เลยยกบ้านท่าอิฐขึ้นเป็นเมืองอุตรดิตถ์แทน และลดเอาเมืองรอบๆที่มีความเก่าแก่กว่าอย่าง พิชัย ทุ่งยั้ง ลับแล ลงเป็นเมืองบริวารไปแทนครับ ่เมืองพิชัยนั้นเป็นหัวเมืองทางฝ่ายเหนือของอยุธยาครับ ส่วนทุ่งยั้งบางยุคก็ขึ้นกับล้านนา แต่ส่วนใหญ่เพราะเป็นเมืองขนาดเล็กๆเลยขึ้นกับทางอยุธยามากกว่า เขตที่เป็นดินแดนของเมืองน่านมาแต่เดิมน่าจะเป็นแถวๆ อ.น้ำปาด, อ.ท่าปลา และ อ.ฟากท่า ครับ สมัยก่อนแถวนี้เป็นดินแดนของเจ้าผู้ครองนครน่าน แต่ตอนหลังๆทางรัฐบาลไทยเห็นว่า อำเภอเหล่านี้อยู่ห่างไกลจาก อ.เมือง น่านมากเกินไป ติดต่อราชการกับตัวอำเภอเมืองลำบาก เขาเลยยกอำเภอเหล่านี้ไปรวมกับอุตรดิตถ์แทนครับ กล่าวโดยง่ายก็คือ พื้นที่ทางทิศตะวันออกของอุตรดิตถ์เป็นเขตเมืองน่านเดิมครับ ส่วนเขตแดนทางใต้อย่างพิชัย ท่าสัก ตรอน เป็นดินแดนของอยุธยา ส่วนขึ้นไปทางทุ่งยั้งและลับแล ก็เป็นเขตแบ่งแดนระหว่างอยุธยากับทางล้านนาครับ ทว่าบางยุคอำนาจของเมืองทางใต้อย่างอยุธยาและสุโขทัยก็แผ่ขยายขึ้นไปถึงเมืองแพร่ก็เคยมีบ่อยๆ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 53 11:31:23 จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 11:26:58

ความคิดเห็นที่ 2 บางอำเภออย่างลับแล ท่าปลา อยู่ในเขตวัฒนธัมม์ล้านนาดั้งเดิม บางอำเภออย่างพิชัย ตรอน อยู่ในเขตวัฒนธัมม์สยาม บางอำเภออย่างบ้านโคก ฟากท่า มีชาวล้านช้างถูกกวาดต้อนมาอยู่ตั้งแต่สมัยอาณานิคม จากคุณ : นู๋เองง่ะ เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 11:34:34

ความคิดเห็นที่ 3 คนลับแลเป็นคนยวน หรือว่าพวน http://www.lannaworld.com/cgi/lannab...ic.php?id=3617 ผมเป๋นคนเมียงลับแลง ในคำคึดผม ผมว่าเชื้อชาติผมเปนคนยวน บ่แม่นคนลาว แต่นักวิชาการมักบอกว่า ชาวลับแลงเป็นคนลาว ทั้งทั้งที่ชาวลับแลงยังมีซอ คร่าว และวัฒนธรรมของทางเหนืออยู่ ก็เป็นที่น่าเสียดายที่นักวิชาการท้องถิ่นยังบ่ค่อยหื้อความสำคัญในเรื่อง นี้ และทางส่วนทางราชการก็จะเป็นคนใต้เหียนัก บาวครั้งงานประเพณีต่าง ต่าง ก็จะผสมหรือว่ากลายไปเป็นทางใต้เหียหมด มันบ่เหมือนทางเชียงใหม่ หรือล้านนาตอนเหนือที่ประเพณีต่างต่างยังมีคนที่รู้แท้คอยช่วยส่งเสริมและ อนุรักษ์ การฟ้อนแบบเก่าก็หายไป มีแต่เซิ้งแต่รำของชาวใต้มาแทน อาจจะเป็นไปได้ที่การศึกษาวัฒนธรรมของลับแลงมันยาก เพราะเป็นเขตต่อของหลายวัฒนธรรม ไธย ลาวและยวน แต่ตอนนี้ก็ได้มีกลุ่มสืบสานประเพณีเมืองลับแลได้จัดตั้งกลุ่มช่างซอเมือง ลับแลขึ้น แต่ก็เป็นซอเมืองแพร่เมืองน่าน มันก็บ่ใช่ซอเข้าปี่เมืองลับแล เพราะแต่ก่อนเมืองลับแลเวลาซอจะซอเข้าปี่ชุม บ่ใช่ซอเข้าซึง และมะล้อ ( สะล้อ ) แล้วช่างซอแบบใหม่นี้ เวลาฟ้อนก็จะฟ้อนในแบบซอน่าน คือเป็นแบบฟ้อนแง้น แต่ลับแลแท้ แท้ จะบ่ใช่ฟ้อนแง้นแบบ แพร่ แบบน่าน จะเป็นการนั่งฟ้อนมือกำดอกไม้แล้วถอดแถด ฟ้อนเป็นวงแวดผามซอจะบ่มีการเทียวฟ้อนเด็ดขาด ทำนองซอก็จะมีเอกลีกษ์เฉพาะ ต่างจากซอลับแลงจากเมืองน่านเล็กน้อย ขอจ่มสู่กันฟังเท่านี้ก่อนแล..... ตั้งกระทู้โดย : กาวิไชย noihkd2hotmail.com , 2547-02-26 / 02:28:30 _________________________________________________ คนเมียง หรือ คนยวน ชาว เชียงแสนที่ถูกเทครัวในสมัยรัชกาลที่ 1 โดยการนำของกองทัพสยาม พร้อมด้วยกองทัพเมืองเชียงใหม่ ลำปาง น่าน และเวียงจันทร์ ได้แบ่งชาวเชียงแสนที่เป็นหนุ่มสาวออกเป็น 5 ส่วน (คนเฒ่าเปิ้นลากลงน้ำ และละอ่อนน้อยใส่หมองครกตำข้าว เพื่อไม่ให้เป็นภาระในการเดินทาง) ส่วนที่ 1 ถูกกวาดต้อนไปเมืองเชียงใหม่ ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณประตูท่าแพ และสนามม้า ส่วนที่ 2 ถูกกวาดต้อนไปเมืองน่าน ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณอำเภอเวียงสา ส่วนที่ 3 ถูกกวาดต้อนไปเมืองลำปาง ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณบ้านปงสนุก ฝั่งตรงข้ามตัวเมือง ส่วนที่ 4 ถูกกวาดต้อนไปเมืองเวียงจันทร์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 ถูกกวาดต้อนอีกรอบมาตั้งบ้านเรือนที่อำเภอสีคิ้ว ส่วน ที่ 5 ถูกกวาดต้อนมาสยาม และระหว่างทางได้มีบางส่วนขอตั้งบ้านเรือนที่อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่เหลือก็เลยมาตั้งบ้านเรือนแถวสระบุรี และราชบุรี เพราะบริเวณนั้นเป็นที่ว่างเปล่า http://www.lannaworld.com/cgi/lannab...c.php?id=35635 ส่วนการเรียกตัวเองว่า คนยวน จะมีเฉพาะคนที่มากับกองทัพสยามและเวียงจันทร์ ส่วนคนที่อยู่ที่เชียงใหม่ ลำปาง และน่าน ซึ่งได้ไปอาศัยร่วมกับชาว ลื้อ เขิน ยอง เงี้ยว และลาว ก็เลยเรียกกันรวมๆ ว่า คนเมือง เพื่อแยกตัวเองกับชาวสยาม และพม่า _______________________________________________________________ เมืองลับแลถือเป็นล้านนาหรือไม่ http://www.lannaworld.com/cgi/lannab...ic.php?id=6128 เมืองลับแลสมัยโบราณจนถึงปัจจุบันถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของล้านนาหรือไม่ครับ หรือว่าจะขึ้นกับสยาม หรือเมืองพิชัย คนลับแลส่วนใหญ่ก็ไม่เข้าใจส่วนนี้ แล้วทำไมนักวิชาการมักที่จะบอกว่าลับแลเป็นลาวพรวน แต่ผมคิว่าคนลับแลอาจจะได้รับวัฒนธรรมลาวมาบ้าง เพราะอยู่ในเขตของวัฒนธรรมหลายอย่างมาชนกัน ผู้รู้ว่าอย่างไรบ้างครับ ตั้งกระทู้โดย : สะหลีน้ำย้อย , 2547-07-16 / 01:30:20 ___________________________________________________ ไทยน้อยอพยพ ไทยน้อยอพยพมาจากดินแดนใด http://www.lannaworld.com/cgi/lannab...c.php?id=47566 ตั้งกระทู้โดย : nes knes555@hotmail.com , 2550-06-02 / 05:05:42 __________________________________________________ คนเชียงแสน ถูกกวาดต้อนไปจากเชียงแสน ปัจจุบันตั้งหมู่บ้านแถวไหนครับ http://www.lannaworld.com/cgi/lannab...c.php?id=27953 จากการตีเมืองเชียงแสน สมัยรัชกาลที่ 1 ชาวเชียงแสนถูกกวาดต้อนไปที่ต่างๆ ของประเทศไทย เช่น อุตรดิตถ์ (ลับแล) เชียงใหม่ ลำปาง น่าน (เวียงสา) แพร่ สระบุรี (เสาไห้) ราชบุรี (เมือง) และเวียงจันทร์ ครับ ไม่ทราบว่าปัจจุบันตั้งถิ่นฐานอยู่แถวไหนบ้าง และขนบธรรมเนียมเปลี่ยนไปไหมครับ เพราะช่วงนี้ใกล้ถึงประเพณีไหว้สาเจ้านายเมืองเชียงแสนแล้ว ช่วยตอบกระทู้ด้วยครับ เท่าที่ทราบปัจจุบันที่ชัดเจน คือ อ.เส้าไห้ และอ.เมือง ของจ.สระบุรี, อ.เมือง ของจ.ราชบุรี, อ.เวียงสา ของจ.น่าน, บริเวณบ้านปงสนุก อ.เมือง จ.ลำปาง ส่วนจังหวัดเชียงใหม่ แพร่ และเวียงจันทร์ ยังไม่ทราบที่ตั้งถิ่นฐานชัดเจนครับ ใครรู้ หรือผู้รู้ ช่วยเพิ่มเติมประวัติศาตร์ด้วยครับ ตั้งกระทู้โดย : เชียงแสน , 2549-04-27 / 10:50:50 _______________________________________________________ ทำไม ชาวอำเภอลับแลอู้เมืองได้ http://www.lannaworld.com/cgi/lannab...c.php?id=60710 ผมเป็นคนลับแลครับ แต่อู้กำเมืองไม่ได้ แต่ก็มีข้อสงสัยว่าทำไมคนลับแลถึงพูดภาษาเหนือ แทนที่จะพูดภาษากลาง แ ล้วคนลับแลจริงๆ แล้วมีเชื้อสายมาจากเมืองไหนของภาคเหนือ ตั้งกระทู้โดย : คนลับแล 12345 , 2551-09-09 / 08:45:56 __________________ จากคุณ : Nitty.M เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 12:09:28

ความคิดเห็นที่ 4 All are found from the website... _________________________________________________ อยากทราบว่าในอณาจักรล้านนามีจังหวัดอะไรบ้าง http://www.lannaworld.com/cgi/lannab...ic.php?id=9681 อยากทราบว่าในอณาจักรล้านนามีจังหวัดอะไรบ้าง ใครทราบช่วยตอบด่วนนะคะ ขอบคุณค่ะ http://www.lannaworld.com/cgi/lannab...c.php?id=64458 จากคุณ : Nitty.M เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 12:10:38

ความคิดเห็นที่ 5 แล้วพวกพระฝางล่ะคะ เป็นพวกไหนคะ พระฝางอยู่อำเภอเมืองค่ะ ห่างจากลับแล ท่าปลา พิชัย ตรอน อีกทั้งห่างบ้านโคกและฟากท่าด้วย จากคุณ : iamalone เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 12:13:17

ความคิดเห็นที่ 6 อุตรดิตถ์ เป็นเมืองที่เกิดขึ้นใหม่ มีอายุเพียง ๑๐๐ ปี เท่านั้น แต่ถ้าเป็นพิชัย ทุ่งยั้ง ศรีพนมมาศ ลับแล สว่างคบุรี ท่าปลา ล้วนมีอายุมากกว่านั้นทั้งสิ้น โดยแต่ละเมืองก็จะมีวัฒนธรรม และภาษาพูด ที่แตกต่างกัน คนในอำเภอเมือง จะพูดภาษาไทยกลาง สำเนียกรุงเทพ คนในอำเภอลับแล เฉพาะตำบลทุ่งยั้ง อำเภอพิชัย และอำเภอตรอน จะพูดภาษาไทยกลาง สำเนียงสุโขทัย คนในอำเภอลับแล (ยกเว้นตำบลทุ่งยั้ง) อำเภอท่าปลา จะพูดภาษาไทยเหนือ คนในอำเภอบ้านโคก อำเภอน้ำปาด หรือบางส่วนในอำเภอทองแสนขัน ก็พูดภาษาไทยอีสาน หรือลาว ผมเป็นคนอุตรดิตถ์เอง ยังไม่แน่ใจเลยว่า จังหวัดนี้ในเขตอารยธรรม หรือวัฒนธรรมไหนที่เด่นชัดกันแน่ จากคุณ : พระนายไวย เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 12:18:39

ความคิดเห็นที่ 7 ผมเป็นคนเมืองน่านครับ และในฐานะที่เป็นคนเหนือ ที่เรียกตัว เองว่า "คนเมือง" นั้น จะเรียกผู้คนที่นอกเหนือจาก 8 จังหวัด ภาคเหนืิอตอนบน(แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) ลงมาว่า "คนใต้"(หรือคนทางใต้) และถ้าหากพ่ออุ๊ยแม่อุ๊ย เขาคุยกัน ว่าลูกหลานบ้านนี้ไปแต่ง งานกับ คนอุตรดิตถ์ เขาก็จะบอกว่า "แต่งกับคนทางใต้" ซึ่งก็ จะหมายถึงว่าไม่ได้แต่งกับ "คนเมือง" ( 8 จังหวัด) ด้วยกัน เอง รัฐล้านนาเอง ก็มิได้มีความเป็นปึกแผ่นที่ชัดแจนแบบรัฐ อยุธยา เพราะล้านนาโบราณก็มีรูปแบบการปกครองแบบ นครรัฐครับ แต่ละเมืองก็ปกครองกันเอง เพียงแต่รวมตัวกัน อย่างหลวมๆ ในระบบเครือญาติของเจ้าผู้ปกครอง หากฟังจากสำเนียงการพูดแล้ว จะสังเกตุว่า ล้านนาเองก็แบ่ง เป็นสองฟากครับ คือ ฟากตะวันตก พูดสำเนียงหริภุญไชย (สำเนียงเชียงใหม่ที่เราคุ้นหู) สืบมาจากอาณาจักรหริภุญไชย โบราญ สำเนียงนี้เราจะได้ยินกันมากใน ลำพูน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย(พื้นที่ที่ติดกับเชียงใหม่) ลำปาง(พื้นที่ที่ ติดกับลำพูน) อีกสำเนียง คือ สำเนียงโยนก จะได้ยินมากในเขตล้านนาตะวัน ออก (ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ) สำเนียงนี้สืบมา จาก อาณาจักรโยนก (ไทยโยนก หรือ ไทยยวน) ซึ่งส่วนใหญ่ คนจะไม่ค่อยคุ้นกับสำเนียงโยนก จะคุ้นกับสำเนียงหริภุญไชย จากเชียงใหม่มากกว่า สำเนียงโยนกจะมีเสียงที่ห้วนกว่าสำ เนียงหริภุญไชย จากคุณ : น้ำค้างหยกเก้าบุปผา (Jade Dew) เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 12:21:31

ความคิดเห็นที่ 8 - ความคิดผม อต ยังไงก้ไม่ใช่จังหวัดในล้านนา แน่ๆ เพราะ วัฒธรรม ภาษา หน้าตา มันไม่ใช่เลย คน น่าน แพร่ ชม ชร พะเยา สามารถ อู้เมืองใส่กันได้ แม้สำเนียงต่างกัน - แต่ คน อต ที่พูดท้องถิ่นได้ เช่นบ้านผม ก็มีภาษาถิ่น แต่ไม่สามารถ พูดเมืองใส่กับคนเหนือไม่ได้ (อยากพูดได้มากๆ) พูดกับอีสานก็ไม่ได้ กับลาวก็ไม่ตรง หรือ ทางสุโขทัย แบบเหน่อๆ ก็ไม่ใช่ อาจจะงง คือมันเหมือนว่า ตรง อต มันเป็นตรงกลางร่วมกัน ของสามวัฒธรรม คือ ล้านนา ลาว และ ไทยกลาง แต่ไม่ใช่สักอย่าง - จากประวัตศาตร์ ศุนย์กลางของ อต คือ พิชัยและ ท่าอิฐ ไม่เคยขึ้นตรงกับ เชียงใหม่ หรือ เมืองแพร่เลย ขึ้นตรงกับ พล ไม่ก็ ทางเมืองหลวงเลย บ้านเรา ไม่เคยมีเจ้านคร มีแต่เจ้าเมืองที่ตำแหน่งคล้ายกับ ผู้ว่า นั่นเอง - ตอนเรียงท้องถิ่นของเรา สมัยเด็ก ๆ ผมก็ๆม่เคยเรียนถึง ประวัตศาตร์ ของ อต และล้านนา เลยนะ คือมันจำในตลอดเลยว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของสยามมาตลอด - เขตตัวเมือง อต ไม่มีอะไรที่บ่งบอกถึงศิลปะล้านนา เลย วัฒนธรรม ดูง่ายๆ เลย งานศพ งานบวช งานแต่ง ไปทางภาคกลางแทบทั้งสิ้น (ผมเคยอยู่ทั้ง อต และ เชียงใหม่ เห็นความแตกต่างมาก) ***แต่ อำเภอหนึ่ง ที่อูเมืองได้คือ ลับแล เพราะว่า บรรพบุรุษ เค้ามาจากเหนือนี่นา แต่ถามว่า ลับแล เคยเป็นเมือง ของล้านนามั้ย ก็ไม่ใช่ เหมือนกับ เราบอกว่า ทางงสังขละ กาญบุรี มีคนมอญมาก วัดก็เป็นแบบมอญ แต่เราเคยนับว่า สังขละเป็นส่วนหนึ่ง ของ มอญหรือไม่ แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 53 12:35:04 จากคุณ : Nitty.M เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 12:32:49

ความคิดเห็นที่ 9 สวางคบุรีหรือตำบลพระฝางน่าจะเป็นเมืองน้อยในสังกัดของเมืองพิชัยครับ เป็นหัวเมืองเหนือที่ขึ้นกับพิษณุโลกครับผม จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 14:17:39

ความคิดเห็นที่ 10 อย่างเมืองลับแลนี่ปรากฎขึ้นเป็นนครชัดแจ้งก็ในยุคที่เจ้าฟ้าฮ่ามกุมารที่เป็นวงศ์กษัตริย์โยนกได้ลงมาปกครองดินแดนนี้ครับ โดยได้รบราต่อสู้กับพวกกรอมจากทางใต้ไม่ให้รุกรานขึ้นเหนือไปได้ ดังนั้นหากยึดถือตำนานนี้ เมืองลับแลก็น่าจะเป็นนครรัฐที่มีผู้ปกครองเป็นวงศ์กษัตริย์จากฟากโยนก ส่วนเมืองพิชัยนั้นตามตำนาน พระสุจกุมารผู้ตั้งเมืองพิชัยเป็นวงศ์กษัตริย์จากศรีสัชนาลัยครับ ดังนั้นพิชัยก็คงจะเป็นเมืองในกลุ่มนครรัฐทางใต้อย่างสุโขทัยมากกว่า เมืองสวางคบุรีนั้นผมไม่ทราบว่ากษัตริย์วงศ์ใดเป็นผู้ตั้งเมือง แต่ตกถึงยุคหลังสวางคบุรีก็กลายเป็นเมืองน้อยที่ขึ้นกับเมืองพิชัยหน่ะครับ เมืองทุ่งยั้งนี้กษัตริย์จากสวรรคโลก ซึ่งน่าจะเป็นวงศ์วานจากนครรัฐในเครือสุโขทัยเป็นผู้ตั้งเมืองขึ้น ชาวบ้านในยุคแรกๆอาจจะเป็นพวกปะปนระหว่างชาวไท ละว้า ฯลฯ บางยุคเมืองนี้ก็ขึ้นกับอยุธยา บางยุคก็ไปขึ้นกับล้านนา (แต่ช่วงปลายสมัยอยุธยาอำนาจของพม่าในล้านนาเสื่อมลงมาก ดินแดนที่อยู่ในอำนาจของพม่าคงจะลงมาถึงแค่เมืองแพร่ครับ ทุ่งยั้งน่าจะเป็นเมืองน้อยขึ้นกับพิชัย) เมืองท่าปลา ตรงนี้เป็นเขตอำนาจของเจ้านครน่านมาแต่เดิมครับ บางยุคที่เจ้านครน่านถูกทัพพม่าตีแตกพ่ายมา ก็หลบมาลี้ภัยที่ท่าปลาสม่ำเสมอ เพราะเป็นเขตแดนที่อยู่ลึกเข้าไปในป่าและภูเขา ข้าศึกรุกมาตีลำบาก เมืองน้ำปาดและฟากท่า เดิมทีเป็นเมืองพี่น้องกันครับ เป็นเขตอิทธิพลของพระเจ้าน่าน ชาวบ้านจะอพยพมาจากฟากลาวกันเยอะ นับถือพญาปาดว่าเป็นพญาผู้ยิ่งใหญ่ที่นำพาพวกเขาอพยพมาตรงนี้ ตอนหลังน้ำปาดกับฟากท่าก็โดนรวมไปขึ้นกับอุตรดิตถ์แทน คนจากฟากท่าก็อพยพไปจากน้ำปาดเสียมากครับ ส่วนชาวไทยวนจากเชียงแสนนั้น ถูกกวาดต้อนลงมาทีหลัง เหมือนชาวบ้านในแถบคลองตัน หัวหมาก มีนบุรี หนองจอกนี้แล มิใช่ชาวท้องถิ่นเดิม จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 14:36:38

ความคิดเห็นที่ 11 นอกเรื่อง บ้านผู้น้อยอยู่แถบติดกับลำพูนขอรับ (ลำปางอ่ะ อิอิ) เลยมีโอกาสฟังสำเนียงจากทั้งสองฟาก คือ ทั้งของหริภุญไชย กับ ของโยนก แถวที่บ้าน เขาจะเรียก "สำเนียงเจียงใหม่" กับ "สำเนียงยวน" จะไม่เรียก "สำเนียงหริภุญไชย" หรือ "สำเนียงโยนก" หรอกขอรับ (เรียกยาก) สังเกต ความแตกต่างได้ง่ายๆ เลย คือ คำว่า "น้ำ" ถ้าเป็นสำเนียงหริภุญชัย จะออกว่า "น้ำ" (ถ้าแถบเชียงใหม่จะพูดช้า แถบลำปางพูดเร็ว ผมก็เป็นคนพูดเร็วเหมือนกัน อิอิ) ถ้าเป็นสำเนียงโยนก จะออกว่า "น๊ำ" เสียงจะค่อนข้างขึ้นไปอีกหน่อย ส่วนใหญ่สำเนียงนี้จะค่อนข้างพูดช้าเกือบทั้งหมด (ยกเว้นแพร่) ก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกันขอรับ ว่า ทำไมทั้งสำเนียงนี้ ถึงได้มาพูดเร็วกันที่ ลำปาง กับ แพร่ ... หรือ เ้พราะมันร้อนมั้ง อิอิ สำเนียงอื่นๆ ของภาคเหนือเท่าที่เคยได้ยิน ก็มี ยอง กับ ลื้อ สำเนียงยองนี่ จะช้าหน่อย ส่วนสำเนียงลื้อ จะเร็วมาก ฟังแทบไม่ทัน เผอิญฝ่ายพ่อเป็นคนยอง แล้วก็เคยมีแฟนเป็นคนลื้อน่ะขอรับ เลยมีโอกาสได้ยินได้ฟังสี่สำเนียงนี้ แต่ตอนนี้ ก็คงจับคำพูดไม่ได้แล้วมั้ง อิอิ จากคุณ : กระบี่เก้าเดียวดาย เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 53 03:50:19

ความคิดเห็นที่ 12 ผมคนลำปางพูดสำเนียงยวน (โยนก) แต่มาอยู่เชียงใหม่นาน เลยติดสำเนียงเชียงใหม่ (หริภุญไชย) แต่ถ้ากลับบ้านแล้วเผลอพูดสำเนียงเชียงใหม่เมื่อไหร่ โดนแม่ด่าทุกที 55555 จากคุณ : BCT เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 53 06:30:39

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นคนพิชัยครับ พูดไทยกลางสำเนียง อืม... น่าจะเป็นแบบ คห 6 อะครับ จากคุณ : ศุกร์เล็งลัคนา เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 53 10:40:53

ความคิดเห็นที่ 1 ผมคนยวน จากสระบุรี  พูดสำเนียงยวนคับ จากคุณ : เชค (คุ้มหลวง) เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 11:09:41

ความคิดเห็นที่ 2 ใช้ชื่อสำเนียงเปน สำเนียงหริภุญไชย สำเนียงโยนก ไม่ค่อยจะตรงนักนา ใช้สำเนียงตะวันออก ตะวันตก ก็ดีอยู่แล้ว ปกติ ยวน/โยน จะหมายถึงชาวไทยวนล้านนาทังหมด รวมถึงที่เชียงใหม่ลำพูนด้วย แต่ทางเชียงใหม่ มักจะเรียกตัวเองเปนฅนเมืองมากกว่า ไม่ค่อยใช้คำว่ายวน หริภุญไชยเนี่ยเปนชื่อรัฐเมง เอามาเรียกก็จะพลอยเข้าใจว่าเปนสำเนียงเมงไปเสีย ฅนอุตรดิตถ์ (รวมไปถึง ตาก สุโขทัย) เนี่ย แยกเปนบ้านๆ ตำบล ไปดีกว่าเนาะ รวมให้หมดจังหวัดไม่ได้ ถ้าบ้านใหนตำบลใหน อู้เมืองอู้ยวน ก็นับเปนฅนเมืองฅนยวน อู้ไธย จะแบบสยามสุโขทัย หรือโยธิยากรุงเทพ ค่อยนับเปนฅนไธยชาวใต้ จากคุณ : นู๋เองง่ะ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 14:45:11

ความคิดเห็นที่ 3 ตัวผมเองเป็นคนอุตรดิตถ์โดยกำเนิด เข้ามายืนยัน คคห6 เป็นตามนั้นครับ เข้าใจเอาเองว่าน่าจะเป็นเพราะเป็นเมืองชุมทาง/กันชน ของนครรัฐโบราณแถบนั้น ทำให้มีคนพูดภาษาไทยหลายสำเนียง ถ้าเดินทางจากแพร่เข้าสู่อุตรดิตถ์ทางบก จะเห็นชื่อสถานที่ ที่แสดงถึงความเป็นชุมชนคนไทยล้านนากับคนไทยสยาม ได้อย่างชัดเจน คือพอออกจากเด่นชัยได้ซักพักก็จะเจอบ้าน ฮ้านน้ำหม้อ(อันนี้ล้านนาชัดแจ๋ว) ซักพักก็จะเจอ บ้านด่านนาขาม (อันนี้ยังดูก้ำกึ่งๆ) แต่พักใหญ่ๆจะเจอ ดงช้างดี (อันนี้ไทยสยามแหงๆ) คนในอำเภอเมือง จะพูดภาษาไทยกลาง สำเนียงกรุงเทพ >> เป็นกลุ่มคนที่อพยพมาอยู่ใหม่ สมัยเพิ่งตั้งเป็นเมืองในสมัย ร5 ครับ (รวมเอาคนจีนที่เข้ามาตั้งรกรากค้าขายด้วย) แต่ในบางตำบลชานเมือง เช่น ทุ่งยั้ง วังกะพี้ พูดภาษาไทยกลางสำเนียงสุโขทัย (เหน่อเล็กน้อย) คนในอำเภอลับแล เฉพาะตำบลทุ่งยั้ง อำเภอพิชัย และอำเภอตรอน จะพูดภาษาไทยกลาง สำเนียงสุโขทัย >> เข้าใจว่าเป็นกลุ่มลูกหลานของชาวเมืองโบราณที่อยู่มาแต่ดั้งเดิม คนในอำเภอลับแล (ยกเว้นตำบลทุ่งยั้ง) อำเภอท่าปลา จะพูดภาษาไทยเหนือ >> น่าจะอพยพมาจากล้านนา แถวๆตำบลนานกกกถึงกับมีตำนานว่าอพยพมาจากเชียงแสน สนับสนุน คคห 10 คนในอำเภอบ้านโคก อำเภอน้ำปาด หรือบางส่วนในอำเภอทองแสนขัน ก็พูดภาษาไทยอีสาน หรือลาว >> พวกนี้น่าจะอพยพหรือคนที่ตกค้าง จากการเดินทางไปมาระหว่างเมืองพิชัยเดิมกับหัวเมืองอีสาน/ลาว ตามเส้นทาง พิชัย>ทองแสนขัน>นครไทย>ด่านซ้าย แต่มีอยู่ 2 หมู่บ้านใน อ ทองแสนขันที่พูดภาษาไทยกลางสำเนียงสุโขทัย(เหน่อเล้กน้อย) คือบ้านนาลับแลงและบ้านนาป่าคาย ว่ากันว่าเป็นลูกหลานของกองทหารสยาม(จากภาคกลาง) ที่ถูกตั้งไว้ให้รักษาบ่อเหล็กน้ำพี่ จากคุณ : pixelchio เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 16:12:50

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณทุกท่านมากๆเลยครับ ในที่สุดผมก็ได้คำตอบแล้วว่า ทำไมสำเนียง ลำปาง จึงเหมือน ลาวพรวน นัก แฟนเก่าคนลำปาง คบกันนานพอที่จะเข้าใจ คำเมือง เกิน 75% อู้ได๋บ่มักเน้อ ..... ส่วนผม มี 25% เป็น พรวน ครับ จากคุณ : ชัยนาท เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 00:19:45

ความคิดเห็นที่ 5 ชอบภาษาเหนือ เพิ่งรู้ว่าเขามีแบ่งด้วยว่าสำเนียงไหน แต่ยังไงก็ชอบภาษาเหนืออยู่ดี ฟังแล้วอารมณ์ดี ยกเว้นเคยได้ยินวัยรุ่นพูดกัน พูดฟังแล้วน่ากลัวแฮะ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 06:39:38

ความคิดเห็นที่ 6 ผมก็คนอุตรดิตถ์ครับ ผมเองก็คิดว่าเราออกไปทางสยามมากกว่าล้านนา แต่ก็มีร่องรอยบางอย่างที่เป็นล้านนานะ ลองไปดูวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้งกับวิหารที่เค้าบูรณะเสร็จแล้วสิครับ นั่นออกไปทางล้านนาเพราะรูปทรงและหน้าบันเป็นม้าต่างไหม แต่เจดย์เป็นแบบทรงลังกาแบบสุโขทัย จากคุณ : captainnova เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 07:52:46

ความคิดเห็นที่ 7 เพิ่งรู้ประวัติบ้านตัวเองเหมือนกัน จากคุณ : กริชครับผม เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 16:32:02