ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ถูกต้องชอบธรรม จากคุณ : Aenieas เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 14:56:15

ความคิดเห็นที่ 2 ตราบเท่าที่เรายังคงยอมรับระบบเลือกผู้นำจากเสียงส่วนมากอยู่ ผู้นำคนนั้นก็มาอย่างถูกต้อง ส่วนเรื่องความชอบธรรมคงตอบไม่ได้เพราะมันไม่มีมาตรฐานความชอบธรรม เหมือนกับที่เราไม่สามารถวัดคุณธรรม จริยธรรม (และสารพัด ธรรมอื่นๆ) ระบอบประชาธิปไตยถึงได้มีข้อจำกัดระยะเวลา่การดำรงตำแหน่ง อย่างปธนสหรัฐอยู่ได้ไม่เกิน 2 สมัยเป็นต้น เพื่อว่าหากมีข้อผิดพลาดเิกิดขึ้นก็ยังมีทางแก้ไขได้ ป.ล. ผมเห็นว่าระบบสำคัญกว่าคน ดังนั้นการวางระบบที่ดีมันก็ช่วยได้เยอะ ดีกว่าจะหวังพึ่งว่าฟ้าจะส่งคนดีๆลงมาเกิด... จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 15:00:43

ความคิดเห็นที่ 3 อืม... ปรัชญา จากคุณ : นู๋เองง่ะ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 15:04:38

ความคิดเห็นที่ 4 ^- เห็นด้วยเรื่องระบบ เอางี้ ผมเติมประเด็นขัดแย้งให้คุณ Nexus ละกัน สมมติว่ามโนมัยล้างสมองคน 51% คนอีก 49% เดินขบวนประท้วง ขอให้ศาลสั่งยกเลิกคะแนนเสียง 51% นั้้นเสีย โดยบอกว่าพฤติกรรมนี้ไม่ต่างกับการซื้อเสียง ผมถามความเห็น(ไม่ขึ้น/ไม่สนกับกฏหมายในรัฐนั้น) ว่าคุณเห็นว่า ข้อเรียกร้องนี้ ถูกต้องหรือไม่(คือคะแนนเสียงจากการซื้อเสียงนั้นไม่ต่างกับคะแนนเสียงจากการล้างสมอง) ศาลตัดสินอย่างไรไม่นับนะครับ เอาแค่ว่า คะแนนเสียงจากการซื้อเสียง เหมือนหรือต่างกับคะแนนเสียงจากการล้างสมองหรือไม่ แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 53 15:08:56 จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 15:07:34

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ชอบธรรม แต่บุคคลบางพวก "ชอบทำ" จากคุณ : คุณซัมซุง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 15:23:29

ความคิดเห็นที่ 6 ต้องดูว่าล้างสะอาดหรือเปล่า จากคุณ : jazz..a.a.minor เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 15:34:20

ความคิดเห็นที่ 7 ใช้กองทุนหมู่บ้านง่ายกว่าเยอะ จากคุณ : muk_22 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 15:53:01

ความคิดเห็นที่ 8 คห 5 โดนใจอย่างแรง จากคุณ : Asitis เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 16:03:18

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเห็นว่าเหมือนกัน เพราะถ้าคนส่วนใหญ่โง่ขนาดถูกล้างสมองได้ขนาดนั้น สังคมนั้นก็ไปได้แค่นั้นแหละครับ หรือในอีกทางหนึ่งก็แสดงว่าคนที่ล้างสมองคนได้ขนาดนั้นมีความ "เหนือกว่า" ประชาชนโดยเฉลี่ยของสังคมนั้นๆ ผมต้่องบอกก่อนว่าผมตอบคำถามในกรอบที่ว่าที่ว่าใช้ปรัชญาประชาธิปไตยในการปกครองประเทศนั้นนะครับ ประชาธิปไตยที่ "ประชาชนจะได้รับรัฐบาลที่เหมาะสมกับตนที่สุด" (ไม่ใช่รัฐบาลที่ดีที่สุด) ถ้ามีแต่การเลือกตั้งอย่างเดียวโดยไม่ใช้ปรัชญาประชาธิปไตยคำตอบที่ได้อาจต่างไป อย่างเช่นถ้าเป็นรัฐศาสนาที่มีการเลือกตั้งคำตอบก็จะเปลี่ยนไปอีก ผมเห็นว่าหลายคนเข้าใจว่าประชาธิปไตยต้องได้รัฐบาลที่เป็นเทพ คนดีทุกกระเบียดนิ้ว ถือศีลกินเจ ไม่ทำธุรกิจ ไม่มีลูกมีเมียมีพรรคพวกพี่น้อง ฯลฯ ... ถ้าอยากได้อย่างนั้นก็กำหนดว่าให้เอาพระมาเป็นรัฐบาลเลยจะง่ายกว่า การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเสียงข้างมากนั้นอย่างมากก็ได้รัฐบาลที่มีความดีพอๆกับคุณภาพของประชากรโดยเฉลี่ยเท่านั้นแหละครับ ถ้าอยากได้รัฐบาลเทพๆ ประชาธิปไตยคงไม่เหมาะสม จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 16:22:16

ความคิดเห็นที่ 10 จะว่าแย้ง คห 2 หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่มองว่าถ้ามโนมัยมีพลังจิตได้แบบนั้นจริง รัฐธรรมนูญดีแค่ไหนบางทีก็เอาไม่อยู่เหมือนกันนะครับ เพราะอย่าลืมว่าถ้ามโนมัยมีอำนาจควบคุมเสียงข้างมากได้แบบไม่มีใครยับยั้งได้จริง ก็อาจจะ "ฉีก" รัฐธรรมนูญเก่า แล้วเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ตามใจตัวเองได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ใช่แค่เรื่องสมมติด้วย เพราะเคยเห็นข่าวมาหลายประเทศแล้ว ที่ประธานาธิบดีที่เป็นเผด็จการแฝงในคราบประชาธิปไตย สั่งแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัวเองสามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้แบบไม่จำกัดวาระ จะเป็นมันตลอดชีวิตก็ได้ ก็มีให้เห็นกันอยู่ แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 53 16:31:02 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 16:24:06

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าเลือกโดยจิตไม่ปกติถือว่าไม่ชอบธรรม เหมือนการบังคับ แต่ถ้าเลือกโดยจิตปกติถือว่าชอบธรรม ถึงจะโดนชักจูงก็ตาม จากคุณ : Cepa เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 16:29:37

ความคิดเห็นที่ 12 ผมถึงบอกว่าระบบที่ดีเหนือกว่าบุคคลยังไงครับ การวางระบบที่ดีปกป้องจิตวิญญาณเอาไว้ไม่ให้แก้ไขได้โดยง่าย วางระบบให้ตัวบุคคลไม่เหนือกว่าระบบ นั่นคือพื้นฐานของประชาธิปไตยที่มั่นคงครับ ประเทศเยอรมันนีที่เคยเจ็บปวดกับเรื่องแบบนี้มาแล้วคงเป็นคำตอบที่ดี บางเรื่องถ้าไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนก็คงจะไม่คิดจะทำ (แต่บางเรื่องถึงมีประสบการณ์มาแล้วก็ยังทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ..... ปลาทองจริงๆ) จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 16:45:03

ความคิดเห็นที่ 13 แหม.... ตัวกระทู้เองเป็นตัวอย่างของมโนมัยที่ท่านว่า ท่านตั้งธงไว้แล้ว...จะตอบอย่างอื่นได้อย่างไร คงต้องจำใจตอบว่า ไม่ชอบธรรม ครับ แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 53 17:38:35 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 53 17:37:18 จากคุณ : กัมม์ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 17:06:35

ความคิดเห็นที่ 14 มนุษย์ สร้าง ระบบ จากนั้น ระบบ ก็มา สร้าง มนุษย์ ระบบ  ก็มี  ระดับมาตรฐาน ระบบที่เหมาะสม  ก็คือ ระบบที่สอดคล้องกับระดับจิตสำนึกร่วม จิตสำนึกร่วม  ก็คือ คุณภาพของความรู้ ความเข้าใจต่อ ปชต. ต่อมา  ไม่ว่าจะเรียกว่า การล้างสมอง  การเสพติดประชานิยม เหล่านี้  คือ  คุณภาพของจิตสำนึกร่วมขององคาพยพทั้งสังคม ดังนั้น  รูปแบบ หรือ ระบบ  จะได้รับการประเมินว่า ดี หรือ เหมาะสม ก็ต่อเมื่อ   ปชช.ได้รับ การปลดแอกจาก  การล้างสมอง หรือการเสพติดประชานิยม ไปพร้อมกัน เพราะ มิฉะนั้น  ผลที่ได้จากระบบที่คิดว่าดี  ก็อาจเป็น.."ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง" จากคุณ : dicky5 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 18:41:38

ความคิดเห็นที่ 15 #13 ก็ตามท่านกัมม์ว่าแหละครับ นี่มันเป็นคำถามนำจริงๆ คำถามที่ 2 Social psychology และ Propaganda ต่างจากการล้างสมองของมโนมัยอย่างไร โปรดอภิปราย และเราควรจำกัด หรือบังคับให้การกระทำทั้งสองนี้มีต้นทุนสูงขึ้นหรือไม่? อย่างไร? จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 18:44:41

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยกับ #10 ครับ เจอแบบนี้ อะไรก็เอาไม่อยู่ -คนชนะคือผู้ออกกฏ -ยิ่งออกกฏยิ่งให้ตัวเองเป็นผู้ชนะ จากคุณ : Hoo เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 18:45:07

ความคิดเห็นที่ 17 ความชอบธรรม อิงตามระบบ ถ้าระบบไม่มีระบุถึงสภาพจิต ไม่มีบ่งชี้ถึงการผ่านการตรวจตรงนี้ ถือว่าชอบธรรม ทว่า ระบบการปกครอง ถูกสร้างโดยคน ถ้ามีคนไม่เห็นด้วยมากพอ ระบบนี้ก็จะทลายลง โดยไม่ต้องพูดว่าการกระทำนั้นชอบธรรมตามระบบหรือไม่อีกต่อไป เพราะความชอบธรรมของระบบมีพื้นฐานจากการยอมรับของมวลชน มีนิยายสั้นของ อ. คึกฤทธิ์ ที่เขียนถึงเรื่องคล้ายๆกันนี้ไว้ในหนังสือชื่อ เพื่อนนอน เรื่อง "ไม่เชื่อ ไม่จริง" ที่น่าจะลองเอามาอ่านเทียบเคียงกันครับ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 18:48:53

ความคิดเห็นที่ 18 "Social psychology และ Propaganda ต่างจากการล้างสมองของมโนมัยอย่างไร โปรดอภิปราย" ต่างกันตรงที่ว่ามโนมัยนั้นเป็นอำนาจเหนือมนุษย์(หรือสังคมนั้น)ครับ สมมติว่า Alien ที่มีเทคโนโลยีมากกว่ามนุษย์สัก 2000 ปี มาบุกโลกแล้วปกครองโลก เราคงไม่มีเวลามาถามถึง Legitimacy ของ Alien ในการครองโลก เช่นเดียวกับที่ชาวอินคาคงไม่ถาม Hernán Cortés ว่าคุณมี Legitimacy แค่ไหนในการบุกเข้ามาปกครองเขา ถ้าถึงเวลานั้นเขาก็แค่จับอาวุธมาสู้ ..... ซึ่งผมเชื่อว่้าถ้าผมเป็น 49% ที่ว่านั่น และถ้ามโนมัยเป็นเผด็จการผมคงจับอาวุธมาสู้ โดยไม่สนใจว่ามโนมัยก้าวขึ้นมาสู่อำนาจอย่างชอบธรรมหรือไม่ เพราะมันเป็นการรุกรานจากสิ่งที่เหนือมนุษย์...สิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ แต่ Psychology กับ Propaganda มันยังอยู่ในขอบเขตของมนุษย์ที่จะเข้าใจได้ หา Countermeasure ได้ และผมเชื่อว่าผมสามารถหาวิธีโน้มน้าวคนที่โดนล้างสมองได้ หรือเสนอข้อมูลที่ต่อสู้ได้ จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 20:07:15

ความคิดเห็นที่ 19 จิตวิทยามวลชนหรือการโฆษณาชวนเชื่อเป็น Tool ลักษณะเดียวกันให้ผลคล้ายกันเพื่อประโยชน์เดียวกันกับการใช้พลังจิตควบคุม แต่การพังทลายของเหตุผลแบบการใช้พลังจิตควบคุมเป็นการลัดขั้นตอน ต่างจากจิตวิทยามวลชนหรือโฆษณาชวนเชื่อที่เป็นการเข้าปะทะกับกำแพงเหตุผลและเล็ดลอดเข้าไปได้ซึ่งหมายความว่า มันมีความสอดคล้องกับตรรกะที่เป็นพื้นฐานของคนๆนั้นถึงเข้าไปได้ ผลสรุปความแตกต่างของ Psycho history กับ Special Mental Capability คงเหมือนคนเล่นเกมเก่งๆที่วางแผนเคลียร์ด่านผ่านไป กับ Hacker ที่เข้าไปแก้ Score และ ชื่อว่าตนเป็นคนเคลียร์เกมกระมัง จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 20:30:36

ความคิดเห็นที่ 20 ระบบที่ดี ? ระบบแบบไหนถึงเรียกว่าดี ถ้าเป็นระบบที่พึ่งพาวิจารณญาณของคน ในภาวะที่คนขาดวิจารณญาณ คงยากที่ระบบจะทำงานได้ครับ จากคุณ : CrazyHOrse เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 22:17:28

ความคิดเห็นที่ 21 ความเห็น 9 ตรงใจที่สุด แบบว่าเค้าคิเกียจตอบ งุงิ ขอลอกค่ะ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 22:18:52

ความคิดเห็นที่ 22 คุณภาพของประชาชน รัฐบาลจัดการให้เป็นไปได้ตามความต้องการในระดับหนึ่งนะครับ หากมีอำนาจยาวนานพอ จากคุณ : CrazyHOrse เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 53 23:38:27

ความคิดเห็นที่ 23 Foundation สามตอนแรก ของ Isaac Asimov ผมได้อ่านฉบับแปลครั้งแรกตอนเป็นวัยรุ่น ตอนนั้นรู้สึกว่าสนุกมากเป็นหนังสือที่อยู่ในความทรงจำเล่มหนึ่ง เมื่อเป็นผู้ใหญ่ผ่านชีวิตมาพอสมควร ผมมีโอกาสกลับไปอ่านใหม่ ทั้งภาษาไทย และอังกฤษ คราวนี้ยังสนุกเหมือนเดิม และได้พบว่าผู้แต่งได้จำลองการพัฒนาการของสังคม และประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ลงในนิยายวิทยาศาสตร์ได้อย่างกลมกลืนและแนบเนียนมากๆ โดยส่วนตัวแล้วเป็นนิยายที่ดีที่สุดเล่มหนึ่งที่ได้อ่าน   สำหรับตัวมโนมัยเองน่าจะเป็นตัวแทนของจอมเผด็จการที่ใช้สื่อมอมเมาประชาชน เช่น ฮิตเลอร์ หรือ อดีตเผด็จการในไทยทีทำเรื่องเลวร้ายไว้มากแต่ยังมีคนชื่นชมถึงปัจจุบัน แต่สุดท้ายต้องเสียอำนาจไปในที่สุด ผมเห็นด้วยกับคุณ Nexus มากๆ และขอเสริมว่าประชาธิปไตยจะมั่นคงได้ ต้องให้เวลาและโอกาสในการพัฒนา จะมาหวังว่าเมื่อเริ่มต้นแล้วจะสมบูรณ์พร้อมเลยมันคงเป็นไปไม่ได้ และถ้าคิดว่าสังคมไทยไม่พร้อม ประชาชนยังถูกหลอกง่าย แล้วหาเหตุรัฐประหารล้มกระดานกันตลอดประชาธิปไตยคงไม่มีวันพัฒนาหรอกครับ ในบ้านเราผมยังมองในแง่ดีครับ เพราะคิดย้อนไปแล้วตอนนี้ยังดีกว่า 2519 มากมายนักแต่ไม่รู้ว่าจะถอยกลับไปถึงหรือเลยจุดนั้นไปหรือเปล่า ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าไม่ ตอนนี้อาจสะดุดไปบ้างแต่จะเป็นบทเรียนที่ดีต่อไป ในประเทศที่ว่าเป็นแม่แบบประชาธิปไตยล้วนผ่านเรื่องทำนองนี้มาแล้วทั้งนั้น บางประเทศฆ่าแกงกันมากมาย บางประเทศเกิดสงครามกลางเมืองขนาดใหญ่และใช้เวลาเป็นร้อยปีกว่าจะพัฒนาประชาธิปไตยมาจนปัจุบัน ตอนนี้ได้แต่ภาวนาว่า อย่าให้มีการสูญเสียมากกว่านี้ และบทเรียนนี้จะคุ้มค่าในกาลข้างหน้าต่อไปครับ จากคุณ : เสธแก่ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 08:46:27

ความคิดเห็นที่ 24 #23 ทำไมผมเห็นต่างว่ามันต้องตายกันเยอะๆ(และทั้งสองฝ่าย) บทเรียนถึงจะได้จำ เพราะคนที่ได้บทเรียนจริงๆ คือคนที่สูญเสีย จนพบว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะเกิดการสูญเสียทำนองนี้อีกแล้วจำฝังใจจนต่างคนต่างพยายามทำนุบำรุงระบบใหม่ ถ้าการตายไม่มากพอ โครงสร้างสังคมไม่เปลี่ยน มันก็จะไม่สงบคุกรุ่นไปเรื่อย แล้วก็พัฒนาไม่ได้เพราะไม่มีใครชนะเด็ดขาด จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 09:35:21

ความคิดเห็นที่ 25 สุดยอดครับ คุณ  house (panote_saechiew) เปรียบเทียบได้เยี่ยม และคุณ Nexus ใน #9  ตรงใจสุดๆๆๆ   ความเห็นของผมคือ ไม่ชอบธรรม แต่การแก้ไขนี่ เอ้อออ   ว่าแล้ว คนทำงานหาเช้ากินค่ำ จ่ายภาษีตามเวลาแบบผม ก็ก้มหน้าทำงานต่อไป จากคุณ : 447 เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 10:12:33

ความคิดเห็นที่ 26 Nexus   9#  สุดยอดมากครับ เสียดายกิฟหมด จากคุณ : ศุกร์เล็งลัคนา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 11:37:11

ความคิดเห็นที่ 27 ลองมองในอีกมุมหนึ่งนะ พลังล้างสมอง พลังเงิน พลังความรู้ พลังความนิยม พลังกระบอกปืน ทั้งหมดนี้ล้วนมีค่าเท่ากับพลังเพื่อให้ชนะเลือกตั้ง ทำไมพลังบางอย่างบอกว่าชอบธรรมและพลังบางอย่างกลับถูกบอกว่า ไม่ชอบธรรม อย่างการซื้อเสียง ถ้าคนๆหนึ่ง ตัดสินใจจะเลือกผ้แทนที่จ่ายเงินสูงสุด ทำไมถึงบอกว่าผิดละ ก็เขาเลือกแล้วว่าเขาจะเลือกคนที่จ่ายเงินค่าเสียง เขาสูงสุด ต่างอะไรกับการเลือกเพราะคิดว่าคนนั้นดี ทำให้คิดว่าบางที การที่เราบอกว่าวิธีนี้ชอบธรรมวิธีนี้ไม่ชอบธรรมเป็นเพราะ เราถูกนักวิชาการล้างสมองให้อยู่ในกรอบวิถีที่ นักวิชาการชอบใจหรือเปล่า ดังนั้นผมคิดว่า ถ้ากระชาไทยนายหนึ่ง มีพลังล้างสมองและใช้พลังล้างสมอง นั้นเพื่อชนะเลือกตั้ง มันก็ควรจะชอบธรรมนะ ลองป่วนกระทู้ดู ฮ่าๆๆ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 53 12:28:59 จากคุณ : Pongkm (Pongkm) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 12:22:37

ความคิดเห็นที่ 28 ^- ผมเคยคิดเหมือนกัน เพราะคนเลือก สส ก็เพราะตัวเองหวังว่าจะได้ประโยชน์สูงสุดจาก สส คนนั้น การสัญญาว่า ถ้าได้เป็น สส แล้วจะประกันรายได้ กับการบอกว่า จ่ายวันนี้สองพัน ถ้าได้เป็นสส ผลประโยชน์เชิงเศรษฐศาสตร์ ต่อผู้เลือกไม่ต่างกันเลย ต่างกันแค่ เราเชื่อว่าเคสแรกชอบธรรม แต่เคสสองเอาป้ายซื้อเสียงไปแปะ จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 12:38:14

ความคิดเห็นที่ 29 มาตอบเพิ่มอีกเที่ยว  จากกท.ว่า" คะแนนเสียงที่ได้จากการล้างสมอง ถูกต้องชอบธรรมหรือไม่" ทั้งหมด  มีองค์ประกอบได้แก่   คน สร้าง ระบบ  จากนั้น  ระบบ ก็มาสร้าง คน คน แยกเป็นสองกลุ่มใหญ่คือ  ผู้นำ และ ปชช. ระบบ ได้แก่    ปชต. ด่านแรกคือ การเลือกตั้ง  (จากนั้น..การจัดตั้งรัฐบาล  การทำงานของรัฐบาล  อายุการทำงาน) ปัญหา  คือ ภาวะผู้ำนำของตัวแทน  กล่าวคือ  คุณภาพการเป็นตัวแทนต้องไม่แปลกแยกต่อเจตนารมณ์ ของสถานะแห่งตัวตน ต่อมา  ปชช.มีคุณภาพอิงมาตรฐานปชต.ที่เลือกใช้หรือเข้าใจกันแค่ไหน   ว่ากันตามรูปแบบแล้วคือ จิตสำนึกของพวกเขาเป็นปชต.หรือไม่  เพียงใด  เช่น  การถูกล้างสมอง  การเสพติดประชานิยม หรือการเห็นแก่อามิสสินจ้างหรือผลตอบแทนเฉพาะหน้า  เพื่อ การเลือกตั้งหรือใช้สิทธิ์ มองความเป็นจริงของสังคมไทย ระบบอุปถัมภ์  คือ รากเหง้าของสังคมไทย  สูงสุดสะท้อนไปที่สถาบัน.. แต่การศึกษาที่สูงขึ้นของพลเมือง  ทำให้ปชต.ที่ยึดหลักความเสมอภาค กลายเป็นค่านิยมที่ขยับเบียดและแทรกขึ้นมา ในระดับปรัชญาการเมืองแล้ว   จึงหาความเสถียรไม่ง่าย ระหว่าง การยึดตัวคน กับ การยึดระบบ เพราะ ตราบเท่าที่บารมีสะสมจากคุณูปการอันบุคคลสร้างขึ้นได้อย่างทรงพลัง    ฐานเชื่อต่อระบบ ก็ยากจะพัฒนาไปได้อย่างทรงประสิทธิภาพ..... นี่อาจช่วยอธิบายได้ว่า   ทำไม..สังคมไทยจึงเป็น สังคมแบบหลวมๆ กล่าวคือ   ไม่ค่อยเคารพกฏกติกา  มากกว่า การยึดตัวบุคคล ตัวแปรที่มีนัยยะต่อทิศทางการชี้นำ  ก็คือ  ระดับการศึกษากับฐานะทางเศรษฐกิจ..ของปชช. ซึ่งส่วนใหญ่  มักมีหน่ออ่อนจากชนชั้นกลาง แล้วอาจขยายแนวร่วมจากชนชั้นล่าง  ซึ่งมีฐานกว้างแต่ กลับเป็นเจ้าของพลังการเปลี่ยนแปลง  เพราะ  อยุติธรรมจากวงจรทุนสามานย์ กลับมาที่คำว่า  ชอบธรรม  ว่ามีความหมายอย่างไร? ถ้าหมายถึง  การยอมรับจากคนส่วนใหญ่  หรือความหมายคล้ายได้รับ  ฉันทานุมัติจากคนส่วนใหญ่ ตรงนี้หมายถึง  ชอบธรรม  แต่บ่อยครั้ง  เราก็อาจพบว่า  คุณภาพของจิตสำนึกทางสังคม-การเมืองก็ ต่างกัน   เช่นนี้แล้ว  เราจะประเมินตรงนี้เพื่ออะไร   แรก..ต่อระบบ ก็ว่า คุณภาพรัฐบาล/ผู้แทนย่อม สะท้อนคุณภาพปชช.โดยเฉลี่ยต่อการเลือกตั้ง   หรือสอง...ต่อการยกระดับปชต. ก็ว่าต้องพัฒนาจิตสำ นึกทางสังคม-การเมืองแก่ปชช. เพื่อสร้างคุณภาพการเลือกตั้งที่ถูกต้องตามมาตรฐานปชต.คือ ไม่ ขายสิทธิ์ขายเสียง อย่างไรก็ตาม  ปัญหาของระบบปชต.ที่เป็นจริง  ก็คือ  ระบบตัวแทนที่แปลกแยกต่อสถานะตนเอง เพราะ  นี่...มันได้กลายเป็นวัฒนธรรมการเมืองที่เคยชิน(อัตราเร่งเข้มข้นของการคอร์รัปชั่น..นัยยะคือ การทำลายระบบ)   ตรงนี้สะท้อนว่าเป็นปัญหาของทั้งระบบ และตัวบุคคล....ซึ่งมิอาจแยกออกจากกัน สิ่งที่จักช่วยยกระดับจิตสำนึกของคนส่วนใหญ่  ก็คือ   การเคลื่อนไหวที่เป็นจริงอันการเข้ามีส่วนร่วม เป็นไปอย่างถ้วนทั่ว    ซึ่งต้นทุนย่อมสูง แต่ถ้าสามารถเก็บเกี่ยวบทเรียนได้   ก็ไม่น่าจะมีทางอื่นที่ทรง ความหมายมากกว่าหนทางตรงอย่างธรรมดานี้ จากคุณ : dicky5 เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 20:16:05

ความคิดเห็นที่ 30 ก็มึนๆว่า เวลาพูดถึงประชาธิปไตย คนกลุ่มนึง มักจะอ้างหลักการ ว่า "ประชาธิปไตย จะเลือกคนที่ดีขึ้นมาปกครอง ส่วนคนเลวจะไม่ได้รับเลือก" แต่พอเอาความจริงมาพูด สุดท้ายคนกลุ่มเดียวกันก็บอกว่า "ถ้าคนเลวได้รับเลือกเข้ามา ก็ต้องยอมรับมัน" (- -') จากคุณ : Hoo เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 21:32:00

ความคิดเห็นที่ 31 ใครพูด? ผมเห็นได้ยินแต่เป็นคนดีมีคุณธรรม อะไรแถวๆนั้น ... ฟังแล้วเอียนกับคุณธรรม จริยธรรมไปพักใหญ่ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 53 22:51:24 จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 53 22:29:57

ความคิดเห็นที่ 32   ก่อนลงคะแนนเลือกคนคงต้องลงคะแนนเลือกว่าสิ่งใดเป็นการล้างสมองเสียก่อนล่ะมั๊ง .. จากคุณ : vincentlenon เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 13:06:07

ความคิดเห็นที่ 33 ผิดกระทู้ ^^ แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 10:49:47 จากคุณ : q_cosmo เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 09:50:52

ความคิดเห็นที่ 34 ชาวเยอร์มันในยุคนาซี เห็นด้วยกับการกำจัดชาวยิว เนื่องมาจากการโหษณาชวนเชื่อ การปลูกฝังแบบนี้ชอบธรรมใหมครับ ประชาชนส่วนใหญ่จีนเห็นด้วยกับระบบคอมมิวนิสของจีน เพราะมองว่าระบบประชาธิปไตยอาจก็ให้เกิดความแตกแยกในชาติ เชลยชาวอเมริกาบางคนที่ถูกโซเวียตจับตัวไป โดนล้างสมองให้ชื่นชมคอมมิวนิส ระบบการปลูกฝังความคิดเหล่านี้ ชอบธรรมใหมครับ? ผมเคยโพสกระทู้เรื่องกลวิธีในการล้างสมองไว้ในห้องหว้ากอ สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการล้างสมองต้องทำในภาวะที่จิตใจของคนเราไม่ต้องการต่อต้าน ดังนั้น ไม่มีใครสามารถบังคับให้เราเชื่อ ในสิ่งที่เราไม่อยากเชื่อ ผมจึงมองว่า คะแนนเสียงที่ได้มานั้น ชอบธรรม แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 53 12:22:33 จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 12:21:19

ความคิดเห็นที่ 35 ความคิดเห็นที่ 32 ขอตอบความเห็นที่  32 ด้วยสิ่งที่ผมเคยโพสไว้ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ครอบคลุม ก็ตาม จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 12:32:30