ความคิดเห็นที่ 1 *****วิธีการสอนภาษาอังกฤษที่ีดีที่สุดไม่ใช่การอิงกับหนังสือเรียนเล่มใดเล่มหนึ่ง***** ก่อนอื่นเราควรค้นข้อมูลว่าการเรียนการสอนในระดับนี้ มันต้องครอบคลุมเนื้อหาอะไรบ้าง  เมื่อได้ข้อมูลเช่นนั้นมา เราก็สามารถบรรลุเป้าหมายได้โดยไม่ต้องอาศัยหนังสือเรียนที่นักเรียนเรียนอยู่ที่โรงเรียนเลยแม้แต่นิดเดียว โดยมันจะต้องมีปัจจัยต่างๆดังต่อไปนี้ 1. ความรู้ของผู้สอน 2. เทคนิคในการสอนที่ต้องหมั่นศึกษาค้นคว้าหรือคิดขึ้นมาเองให้เก่งๆพลิกแพลงยืดหยุ่นได้เสมอ 3. สื่อการสอนที่ดี... ซึ่งในกรณีนี้ผู้สอนต้องรู้วิธีสร้างสื่อที่ดีขึ้นมาเอง หรืออย่างน้อยที่สุดต้องรู้แหล่งดีๆในการหาสื่อการสอนที่จะนำมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ...โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคอินเตอร์เน็ตนี้ ครูสอนภาษาอังกฤษที่เก่งคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตมากๆ (ถ้าไม่เก่งก็ต้องเรียนรู้ จะได้ไม่ตกยุค) จะหาสื่อการสอนที่ัทันสมัยแถมยังของฟรีอีกได้จากอินเตอร์เน็ต... ถ้าค้นดีๆจะได้สื่อการสอนภาษาอังกฤษในรูปแบบต่างๆมากมาย เช่น ebooks, audio files และ video clips หรือแม้กระทั้ง software ที่ใช้ช่วยสอน แบบที่เขาเรียกว่า computer assisted language learning ด้วยก็ยังได้...ซึ่งนับว่าเป็นการสอนภาษาอังกฤษระดับไฮเทค ที่สอนได้ตั้งแต่ประถมถึงระดับสูงๆ ที่สูงเกินระดับปริญญาตรี ก็ยังหาสื่อการสอนเหล่านี้ได้จากอินเตอร์เน็ตล้วนๆ... จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 22:24:28

ความคิดเห็นที่ 2 "การเรียนการสอนในระดับนี้ มันต้องครอบคลุมเนื้อหาอะไรบ้าง" เนี่ยเลยค่ะคือสิ่งที่หาอยู่ แต่ไม่รู้จะหามาจากไหนนอกจากจากหนังสือเรียนที่เด็กใช้ในหลักสูตร ลองหาในเน็ตแล้ว หาไม่เจอค่ะ รบกวนแนะนำด้วยค่ะ จากคุณ : safety_sake เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 22:45:32

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ ไปหาข้อสอบภาษาอังกฤษสำหรับ entrance เข้ามหาลัย (ข้อสอบเก่าๆมีขายเยอะแยะไป) มาศึกษา แค่เห็นข้อสอบ ดูจากเนื้อหาก็รู้แล้วว่าต้องสอนศัพท์ยากถึงระดับไหน แค่ดู sentence structure types ในข้อสอบ ก็รู้แล้วว่า ต้องสอน grammar ครอบคลุม topics อะไรบ้าง...นี่เป็น logic และวิธีคิดเบื้องต้น... แต่ถ้าฝึกคิดไปเรื่อยๆ จะคิดวิธีการพลิกแพลงมากกว่านี้ได้อีกหลายท่าเพลง แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 53 22:56:18 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 22:55:33

ความคิดเห็นที่ 4 สอน ม. ปลาย ในความหมายคือ สอน ม. 4 ม. 5 และ ม. 6  แยกชั้นเรียนกัน ( 3 กลุ่ม ) ถ้าหาข้อสอบภาษาอังกฤษสำหรับ entrance เข้ามหาลัย มาศึกษา แล้วจะรู้ได้ยังไงเหรอคะ ว่าควรจะสอนแต่ละกลุ่มต่างกันยังไง หรือ...สอนเหมือนกันไปเลย รบกวนแนะนำด้วยค่ะ จากคุณ : safety_sake เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 53 00:57:17

ความคิดเห็นที่ 5 ข้อสอบแนวนี้ จะสอบได้ต้องเรียนสะสมกัน นักเรียนคนไหนเริ่มติวตั้งแต่ ม.4 ก็ได้เปรียบ นักเรียนคนไหนเริ่มติวตั้งแต่ ม.6 ก็เสียเปรียบ ถ้าพื้นฐานไม่แน่นอยู่แล้วอาจเรียนไม่ทันก็ได้  ยิ่งถ้าติวเตอร์สอนไม่เป็น แค่สอนแต่ vocab อย่างเดียว สอนไป 1 ปีการศึกษาเต็มๆ ก็สอนได้ไม่ครบ (เว้นเสียแต่ว่านักเรียนจะรู้ศัพท์มากอยู่แล้ว แต่ถ้ารู้มากเขาก็ไม่มาติว)  แต่ถ้าสอนเป็น ก็สอนได้ครบ แต่นักเรียนที่มาเริ่มติวตั้งแต่ ม.6 จะต้องจำอัดแน่นในสมองจนเครียด (แบบที่เขาเรียกว่า cram ยังไงล่ะ) ในขณะที่นักเรียนที่เริ่มติวตั้งแต่ ม.4 หรือ ม.5 จะค่อยๆจำได้จนหมด สบายๆ ไม่เครียด ดังนั้น การสอนจึงสอนรวมกันได้ ทั้ง ม.4 ม.5 และ ม.6 เนื่องจาก สอนๆไปเดี๋ยวนักเรียนก็ลืมศัพท์ (เพราะมันมีเยอะ)  แล้วก็ต้องสอนทวนใหม่อยู่ดีนั่นแหละ แต่ทุกครั้งที่สอนจะใช้ teaching material หรือสื่อการสอน คนละชุดกัน นั่นก็หมายความว่า ไม่ว่าจะเป็น vocab หรือ grammar ขนาดสอนระดับ ม.4 แต่เด็ก ม. 6 ลืมไปแล้วต้องทวนใหม่ก็มีบ่อยๆไป ดังนั้น รวมสอนทีเดียว 3 ระดับเลย ทำได้แน่นอน แต่ต้องวางแผนให้ดีๆว่าจะ present อย่างไร การสอน vocab ถ้าสอนให้จำศัพท์เป็นคำโดดๆ แล้วจดลงไปว่าอังกฤษแบบนี้ แปลเป็นไทยแบบนี้ สอนแบบนี้นักเรียนไม่มีทางทำข้อสอบได้ครบทุกข้อ เนื่องจากเหตุผลง่ายๆก็คือ "คำศัพท์ภาษาอังกฤษส่วนใหญ่จะแปลเป็นกลุ่มคำ (ที่เีรียกว่า collocation) ไม่ใช่แปลเป็นคำโดดๆ คำศัพท์ตัวเดียวเมื่ีอเปลี่ยนไปอยู่กลุ่มคำอื่น มันก็จะเปลี่ยนความหมายไปเรื่อยๆ...จนน่าเวียนหัว" ในการห้ำหั่นกันระหว่างติวเตอร์  ที่จะชิงชัยในการสอน vocab นั้น ติวเตอร์ที่เขียนภาษาอังกฤษได้เป็นธรรมชาติใกล้เคียงเจ้าของภาษา ก็จะต้องเป็นผู้ชนะติวเตอร์ที่แค่อ่านภาษาอังกฤษรู้เรื่อง แต่เขียนผิดธรรมชาติ ไปได้ในที่สุด แบบขาดลอย เนื่องจากติวเตอร์ที่เขียนอังกฤษเก่งจนไม่มีกลิ่นกะปิน้ำปลาจะคิดตัวอย่างประโยคออกมาเตรียมการสอนได้อย่างรวดเร็ว มากกว่าหลายๆเท่า ส่วนเรื่อง grammar นั้น ขอยืนยันว่า เซียนภาษาอังกฤษทุกคน แค่อ่าน passage ใดๆที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นในหนังสือเล่มไหน หรือในข้อสอบที่ไหน ก็รู้ทันทีว่า writing ในระดับนี้ จะต้องครอบคลุม topics ของ grammar กว้างไกลแค่ไหน แค่ดู sentence structure types ก็อ่านเกมได้แล้ว แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 53 01:43:16 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 53 01:39:09

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าคุณ fortuneteller อุตส่าห์เขียนยาวขนาดนี้ ด้วยความหวังดีจากใจจริง ดิฉันก็ขอขอบพระคุณอย่างสูง (จริง ๆ ค่ะ) แต่..บอกตรง ๆ อ่านไปอ่านมา ไม่รู้ทำไมมันมีความรู้สึกเหมือนโดนด่าว่าโง่ โง่ โง่ ยังไงไม่รู้ ปล. ไม่ได้โกรธนะคะ แต่แค่งง ๆ ว่าถ้าเป็นอย่างหลัง.. ดิฉันทำอะไรผิดรึเปล่าเนี่ย... จากคุณ : safety_sake (safety_sake) เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 53 22:25:46

ความคิดเห็นที่ 7   BLUEPRINT จากคุณ : ริสาสาวสวย เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 10:02:16 A:10.100.95.100 X:203.155.165.15 TicketID:142104

ความคิดเห็นที่ 8 จริงๆแล้วเราตอบกระทู้นี้ด้วยความสนุก มันมือ เพราะเราชอบค้นคว้าเป็นการส่วนตัวเรื่องการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 เป็นเพราะเมื่อในอดีตเราเคยตกงานแล้วจำใจไปสอนสนทนาภาษาอังกฤษตามบ้านและสำนักงาน และเปิดติวภาษาอังกฤษสำหรับสอบ entrance ตอนแรกเราสอนไม่เป็น (รู้ตัวว่าโง่) มืดแปดด้าน เราก็เลยต้องออกแรงค้นข้อมูลเรื่องนี้อย่างหนัก ตอนนี้ถึังแม้ว่าเราจะเลิกสอนภาษาอังกฤษไปนานแล้วก็ตามด้วยเหตุผลที่ว่าเราเกลียดการแต่งตัวเรียบร้อยแล้วทำตัว conservative เพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักเรียน แต่เราก็ยังค้นคว้าเรื่องการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 อยู่ เพราะมันลับสมองดี และพอเห็นคุณคุยเรื่องนี้เราก็เลยนึกสนุกเข้ามาคุยด้วย เขียนๆไปเราก็ตั้งปริศนาให้ึึคุณฝึกคิดลับสมอง ทีแรกเรากะจะไขปริศนาว่า ทำยังไงจึงจะอ่านข้อสอบเก่าๆ แล้วแค่ดู writing บนข้อสอบจะมองทะลุได้ว่า แต่ละประโยคพัวพันหรือโยงใยกับ topics ไหนของ grammar ได้ ทำให้การสอน reading comprehension อย่างเดียว ขยายผล กลายเป็นสอน writing และ grammar ไปได้พร้อมๆกันโดยการทำ cross references ถึงกันและกันได้อย่างน่ามหัศจรรย์   แต่นั่นน่ะสิ เขียนๆไป ก็หวั่นใจว่าคุณ จขกท อาจจะคิดว่าเราไปอวดภูมิข่มคุณและหาว่าคุณโง่ก็ได้ ก็เลยตัดสินใจหยุดเขียนดีกว่า ขอโทษด้วยที่ำทำให้คุณรู้สึกไม่ดี   ขอให้โชคดีกับการสอนก็แล้วกัน จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 10:29:50

ความคิดเห็นที่ 9 เข้าใจแล้วค่ะ... พูดตรง ๆ เลยก็คือว่า ตอนแรกที่อ่านด้วยความไม่เข้าใจจุดมุ่งหมายของคุณ fortuneteller อ่านแล้วมันรู้สึกไม่ดีจริง ๆ ค่ะ แหะ ๆ คือเราเป็นคนคิดมากน่ะ... ถึงได้เขียนไปอย่างนั้น ตอนนี้ เข้าใจแล้วว่าคุณ fortuneteller เข้ามาตอบด้วยความหวังดี ก็ขอน้อมรับด้วยความเต็มใจ ยังไงก็อย่าพึ่งหนีกันไปเลยนะคะ มาช่วยกันเถอะ (หึ ๆ ว่าเค้าแล้วยังไปขอร้องเค้าอีกแน่ะ - -") ตอนนี้มืดแปดด้านเลยค่ะ แถมมีเวลาเตรียมตัวอีกแค่สองอาทิตย์ ก็เลยไปหาข้อสอบเก่ามานั่งลองพินิจพิจารณาดู แต่บอกตรง ๆ ว่ายังงง ๆ อยู่ แล้วก็จะเป็นพระคุณอย่างสูงเลย ถ้าจะบอกเราทีว่า "ทำยังไงจึงจะอ่านข้อสอบเก่าๆ แล้วแค่ดู writing บนข้อสอบจะมองทะลุได้ว่า แต่ละประโยคพัวพันหรือโยงใยกับ topics ไหนของ grammar ได้ ทำให้การสอน reading comprehension อย่างเดียว ขยายผล กลายเป็นสอน writing และ grammar ไปได้พร้อมๆกันโดยการทำ cross references ถึงกันและกันได้" ถ้าได้เคล็ดลับนี้นะ ก็คงจะเด็ดสะระตี่ไปเลย โฮ่ ๆๆ จากคุณ : safety_sake เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 21:30:43