ความคิดเห็นที่ 1 The King is Patient. พระมหากษัตริย์ผู้เปี่ยมขันติธรรม -------------------------------------------------------------- สัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนคนธรรมดาอย่างข้าพเจ้าต้องไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อเอาเนื้องอกในร่างกายออก ไม่เพียงเจ็บจากการผ่าตัดเท่านั้น ยังมีความทุกข์ใจ จากการเป็นผู้ป่วยด้วย การเป็นผู้ป่วยนั้นจะมีอาการไม่สบายกายไม่สบายใจจากโรคที่เป็น แม้จะนอนบนเตียงก็ไม่เป็นสุข เพราะจะมีแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่เข้ามาในห้องผู้ป่วยเป็นระยะ ๆ เจาะเลือดบ้าง วัดความดันบ้าง นำยามาให้บ้าง วัดไข้บ้าง สารพัดการพยาบาล ผู้ป่วยต้องปรับตัวกับสภาพที่เปลี่ยนแปลงไป ความเคยชินทำนู่นทำนี่ได้เอง เมื่อมาอยู่โรงพยาบาลแล้ว กลับทำไม่ได้ เช่น มีสายน้ำเกลือมีสายสวนปัสสาวะ จะลุกไปเข้าห้องน้ำก็ต้องมีคนพาไป จะลงจากเตียงหรือขึ้นเตียงก็ต้องมีคนช่วยพยุง หนังสือที่เคยได้อ่าน ภาพยนตร์ที่เคยได้ดู อาหารที่เคยได้กิน ก็มีอันเปลี่ยนแปลงไป จากคุณ : Flowery เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 15:47:28

ความคิดเห็นที่ 2 นี่เป็นความทุกข์ทรมานในฐานะ “ผู้ป่วย” ที่ประชาชนคนธรรมดาได้สัมผัส คำว่า ผู้ป่วย” นั้น ภาษาอังกฤษ ใช้ว่า “patient” มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน ที่ว่า patientem โดย pati แปลว่า to suffer, endure หรือ ทุกข์ทรมาน อดทน อดกลั้น ส่วน pei แปลว่า to damage, injure, hurt หรือ บาดเจ็บ เจ็บปวด เมื่อมารวมกัน “patient” จึงแปลว่า suffering or sick person นั่นคือ ผู้ได้รับความทุกข์ทรมานหรือผู้ป่วยนั่นเอง ทุกคนรู้ดีว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจคนไทยทั้งชาติทรงพระประชวร บัดนี้ท่านก็ยังประทับรักษาพระองค์อยู่ ณ โรงพยาบาลศิริราช ท่ามกลางกระแสความขัดแย้งของคนในชาติ ท่านไม่เพียงต้องเผชิญกับพระอาการประชวร ท่านยังทรงขันติธรรมกับความกดดันทั้งหลายทั้งมวลด้วย จากคุณ : Flowery เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 15:48:52

ความคิดเห็นที่ 3 วันก่อน ขณะที่ข้าพเจ้าติดตามข่าวในห้องผู้ป่วย ข้าพเจ้าสะดุดใจกับคำกล่าวของดร.สุเมธ ตันติเวชกุลที่ว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นต้นแบบของความอดทน เคยรับสั่งว่าทรงนั่งอยู่สูงสุดบนยอดปิรามิด แต่ประเทศไทยเป็นปิรามิดหัวกลับทุกสิ่งทุกอย่างเทใส่พระองค์หมด" จากคุณ : Flowery เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 15:52:38

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับตัวข้าพเจ้าเอง ช่วงเวลาที่พักรักษาตัวอยู่ ณ โรงพยาบาลศิริราช ทนทุกข์ทรมานไม่น้อยทีเดียวจากการผ่าตัด บางครั้งข้าพเจ้ายังนึกทนไม่ไหว ทำไมชีวิตต้องมาเผชิญความทุกข์เช่นนี้ แต่เมื่อข้าพเจ้ามองออกนอกระเบียงไป ข้าพเจ้าพบกับอาคารเฉลิมพระเกียรติ ที่นั่น ณ ชั้น 16 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประทับอยู่ จากคุณ : Flowery เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 15:53:59

ความคิดเห็นที่ 5 ข้าพเจ้าเกิดความรู้สึกว่าต้องทนให้ได้เฉกเช่นเดียวกับที่พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย ทรงขันติธรรมต่อเนื่องยาวนานมาจนปัจจุบัน ข้าพเจ้าซึ่งเป็นประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่ง ทั้งยังเจ็บป่วย ได้รับรู้ข่าวสารบ้านเมือง ความขัดแย้งของคนในประเทศ เกิดความทุกข์เศร้าเสียใจไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พระองค์ท่านซึ่งเป็นยอดปิรามิดหัวกลับ ผู้รับทุกข์สิ่งทุกอย่างเล่า ท่านทรงดำรงขันติธรรมอย่างที่ผู้ใดเสมอเหมือนได้ จากคุณ : Flowery เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 15:55:21

ความคิดเห็นที่ 6 วันสุดท้ายที่ข้าพเจ้าอยู่โรงพยาบาล ข้าพเจ้ายกมือไหว้กราบลาพระองค์ท่าน ขอให้พระองค์ทรงหายจากอาการประชวรโดยเร็ว และสถานการณ์ปัจจุบันจงคลี่คลายโดยไว ขณะนั้น น้ำตาข้าพเจ้านั้นซึมออกมาโดยไม่รู้ตัว ข้าพเจ้าประชาชนคนหนึ่ง เห็นว่าทุกคนเป็นสีเทา มีทั้งดำและขาวอยู่ในตัว ไม่ได้แบ่งแยกเป็นสีใดหรอก ปัญหาที่มีทุกวันนี้ อยากให้ทุกคนใจเย็น ๆ ถอยหลังกันออกมา พิจารณาด้วยหลักเหตุผล มีสติในทุกขณะ หากตัวเราสงบได้คิดได้ คนรอบข้างก็สงบไปด้วย สังคมเราก็จะน่าอยู่ขึ้น ปัจจุบันโลกก็ร้อนมากพอแล้ว ใจคนอย่าร้อนตามไปด้วยเลย จากคุณ : Flowery เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 15:56:02

ความคิดเห็นที่ 7 นี่แหละค่ะ ความรู้สึกที่ประชาชนคนหนึ่งอย่างเรารู้สึก ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน   จากคุณ : Flowery เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 15:57:41

ความคิดเห็นที่ 8 ขอพระองค์ทรงหายจากพระอาการประชวรและทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ขอให้คนในชาติกลับมารักใคร่สามัคคีกันอีกครั้งนึง ทุกครั้งที่เห็นคนไทยทะเลาะกันเอง ฆ่าฟันกันเอง พระองค์จะทรงทุกข์พระราชหฤทัยแค่ไหน ขอบคุณที่ให้เราได้อ่านอะไรดีๆแบบนี้นะคะ ขอให้คุณ Flowery ฟื้นตัวจากอาการผ่าตัดเร็วๆค่ะ จากคุณ : Beauty and the beast เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 16:24:20

ความคิดเห็นที่ 9 รู้สึกเหมือนกันเลยค่ะ คุณ Beauty and the beast ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะคะ จากคุณ : Flowery เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 16:49:23

ความคิดเห็นที่ 10   ขอขอบพระคุณเจ้าของกระทู้ได้นำเรื่องราวดีๆ มาให้กำลังใจดิฉันและทุกๆคนได้ เมื่อไปดูหนัง ขณะตอนร้องเพลงสรรเสริญก่อนหนังฉาย ดิฉันน้ำตาเออล้นทุกครั้ง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร รู้แต่ว่าดิฉันรักในหลวง เป็นห่วงพระองค์ และภายในใจดิฉันมันรู้สึกอึดอัดกับสถานการณ์ช่วงนี้ ไม่ขอพูดอะไรเกี่ยวกับการเมือง ขอให้พระองค์ทรงอยู่เป็นมิ่งขวัญกำลังใจของประชาชนชาวไทยตลอดไป ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : มองโลกสดใส ก็สุขสันต์ (RCP&W) เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 16:54:49

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณเจ้าของกระทู้เหมือนกันค่ะ เรื่องราวดีๆ แบบนี้หาได้ยากนักในช่วงนี้ มีแต่เรื่องทะเลาะด่าทอ ฆ่าฟันกันไปมา ทั้งๆ ที่เราก็คนไทยด้วยกัน พระองค์ท่านทรงลำบาก เพื่อคนไทยมาหลายสิบปี ตอบแทนพระองค์ท่าน ในขณะที่ทรงพระประชวรกันแบบนี้น่ะเหรอ ดิฉันน้ำตาไหลทุกครั้งเมื่อ ได้เห็นหรือได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพระองค์ท่าน ขอพระองค์ทรงพระเจริญค่ะ (ไม่อยากพิมพ์อะไรต่อแล้วค่ะน้ำตามันไหลออกมาอีกแล้ว) ปล. ขอให้จขกท.หายเร็วๆด้วยค่ะ จากคุณ : รักและเทิดทูนท่านยิ่งกว่าชีวิต (ขนตางอน) เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 18:11:53

ความคิดเห็นที่ 12 ผมโวตให้ครับ ขอให้หายดีเร็วๆ ครับ จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 18:22:12

ความคิดเห็นที่ 13 อีกหนึ่งเสียงโหวตครับ ขอให้คุณ Flowery หายดีเร็วๆ นะครับ อีกไม่นานช่วงเวลาแห่งความทุกข์นี้ก็จะผ่านพ้นไป ฟ้าทองผ่องอำไพสำหรับทุกคน ก็จะมาเยี่ยมเยียน เป็นธรรมดาของโลกครับ เมื่อลงลึกสุดแล้ว มันก็จะทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 18:44:18

ความคิดเห็นที่ 15 คห 14 คะ มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยค่ะ (ไปให้ไกลๆ เลยด้วย ชิ้ววๆๆๆๆๆ) ถ้าสำนึกดีๆ ไม่เคยมี ก็กรุณาอย่าใช้บัตรผ่าน แล้วเข้ามาป่วนแถวนี้ จากคุณ : ธัญลดา เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 20:31:01

ความคิดเห็นที่ 16 การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ จริงๆ หวังว่าจขกท. ผ่าตัดแล้วจะหายในเร็ววัน ผมนี่สิ 2 ปีก่อน ตัดลำไส้ใหญ่ทิ้งไปส่วนนึง ระบบทางเดินอาหารรวนจนบัดนี้ มาปีนี้ จอตาลอก เลเซอร์ตาขวาไป 4 ครั้ง ยังไม่ดีขึ้น หมอบอกอาจต้องผ่าตา ไม่งั้นตาอาจบอด แถมผ่าแล้วตาอาจเสียไปเลย -_- ช่วงนี้ซึมๆ ขอบ่นหน่อยนะ จากคุณ : JM2p เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 20:58:12

ความคิดเห็นที่ 17 แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 53 21:00:12 จากคุณ : JM2p เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 20:58:35

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณสำหรับข้อเขียนดีๆค่ะ ขอให้สุขภาพแข็งแรงเร็วๆนะค่ะ แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 11:01:38 จากคุณ : MiKi (Sichon) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 10:59:59

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณสำหรับข้อเขียน เราเองก็หวังให้แผ่นดินเกิดของเราสงบสุข แต่ทางข้างหน้าเลือนรางจังค่ะ ----------------- คุณฟลาวเวอรี่หายเร็วๆ นะคะ แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 12:19:02 จากคุณ : Guga เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 12:18:51

ความคิดเห็นที่ 20 รักในหลวง จากคุณ : เด็กใต้..ตัวดำ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 13:41:16

ความคิดเห็นที่ 21   ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน จากคุณ : mama i love u เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 13:53:12

ความคิดเห็นที่ 22 ใต้ร่มพระบารมี ปกป้องแผ่นดินไทย ผมมีความเชื่ออย่างลึกๆว่า พระสยามเทวาธิราช จะทรงปกป้องแผ่นดินนี้ ผมก็ฟัง ดร.สุเมธ พูดไว้เช่นกัน ท่านพูดไว้กินใจหลายคำมาก ขอให้จขกท. ฟื้นไข้ หายวันหายคืนนะครับ ได้มองเห็นภาพที่มองออกไปนอกหน้าต่าง เพียงเท่านี้ก็ทำให้หัวใจซาบซึ้งมากครับ ผมเคยได้ยินมาว่า คนเราจะมีอยู่ 3 กฏ ที่ลงโทษคนที่ทำความผิด แม้ว่าจะหนีจากกฎหมายได้ แต่ไม่อาจจะหนีกฏสังคมได้ และแม้ว่าหนีกฎทั้งสองได้ แต่ก็หนี กฏแห่งกรรม ไปได้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 15:27:28

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและกิฟที่มอบให้นะคะ ช่วงนี้ เราก็พักฟื้นอยู่ที่บ้านค่ะ ขอให้กำลังใจคุณ JM2p  นะคะ ขอให้อาการดีขึ้นเร็ววันนะคะ ห้องที่พักมองออกไปรู้สึกอิ่มเอมใจมากค่ะ นอกจากจะเห็นตึกเฉลิมพระเกียรติแล้ว ยังเห็นตึกสยามินทร์ที่อยู่ข้าง ๆ ด้วย จากคุณ : Flowery เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 16:19:16

ความคิดเห็นที่ 24 ที่ตึกสยามินทร์มีพระรูปรัชกาลที่ 5 อยู่ด้านบนตัวตึก หลังจากเราไปพักประมาณ 2 วัน ก็เห็นเจ้าหน้าที่นำแถบผ้ามาติด จากคุณ : Flowery เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 16:22:46

ความคิดเห็นที่ 25 รูปนี้ขยายให้เห็นพระรูปรัชกาลที่ 5 และพระปรมาภิไธย "สยามินทร์" จากคุณ : Flowery เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 16:23:52

ความคิดเห็นที่ 26 พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เมื่อถ่ายจากระเบียงห้องลงมาค่ะ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายช่วยกันคุ้มครองประเทศไทยให้รอดพ้นสถานการณ์ที่เป็นอยู่ด้วยเถิด จากคุณ : Flowery เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 16:29:27

ความคิดเห็นที่ 27 ขอให้เจ้าของกระทู้และทุกคนที่กำลังป่วยอยู่ มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่าดีดีค่ะ จากคุณ : natgabig เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 23:16:03

ความคิดเห็นที่ 28 k. Flowery, I wish you a speedy recovery na ka. joob joob <3 <3 จากคุณ : Genuine XXX เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 02:41:25

ความคิดเห็นที่ 29 อ้าวแล้วกันไม่สบายหรือ? ได้ข่าวแล้วใจหายเลย เมื่อไม่นานนี้เรายังคุยกันเรื่องการแปลเลยนิ สงสัยจะเรียนหนักไปหน่อย  ต้องระวังดูแลตัวเองให้ดีๆนะ ความเครียดมันทำให้ป่วยได้ เราเคยป่วยเพราะความเครียดมาหลายครั้งแล้ว กว่าเราจะหลุดพ้นจากความเครียดที่อยู่กับแฟนเก่าแล้วทะเลาะกันทุกวันเพราะเธอกล่าวหาว่าเราจะไปมีผู้หญิงอื่นทุกวันนะ พอเราหลุดพ้นมาได้ โหตกใจไปตรวจฟัน ฟันผุไปตั้งหลายซี่แน่ะ...กระดูกก็แทบแย่ แต่เรารักษากระดูกเราด้วยวีธีการที่ unconventional จะเล่าให้ฟัง จำเรื่อง The Law of Attraction ในหนังสือ The Secret ที่เราเคยคุยกันได้หรือไม่ล่ะ แม่เรามีปัญหา spinal misalignment (กระดูกสันหลังเอียงผิดแนวธรรมชาติ) ขาซ้ายเดินไม่ได้ต้องให้หมอเลื่อยหัวเข่าแล้วใส่ลูกสะบ้าเทียม ถึงเดินได้ แต่ก็ป่วยเรื่อยมา จนล้มแล้วกระดูกขาท่อนบนหัก เข้าโรงพยาบาลจนป่านนี้ก็ยังต่อกระดูกไม่ได้ แถมยังโรคอื่นแทรกซ้อนเช่นน้ำท่วมปอด จะหายก็ไม่หาย จะตายก็ไม่ตาย น่าเวทนาเป็นยิ่งนัก  เราว่าถ้าแม่เราอยู่ในสภาพเช่นนี้ไปอีกนาน พ่อเราคงหมดตัวเพราะค่ารักษาพยาบาล เราป่วยอาการเดียวกับแม่เราคือ spinal misalignment  แต่กระดูกสันหลังเอียงกลับทิศกัน เราก็เลยกำลังจะขาขวาพิการเดินไม่ได้ แต่พอเราไปอ่านหนังสือ The Secret เรามองเห็นกระดูกสันหลังเราเป็น “เสาอากาศ” เราเลยใช้ The Law of Attraction ไปเป็นแนวคิด ว่า “เชื่ออะไรก็เป็นอย่างนั้น” แล้วเปิดคัมภีร์กำลังภายในของนักพรตเต๋า ที่เราฝึกไว้ไม่สำเร็จตอนวัยเด็ก กลับมาฝึกใหม่อีกรอบหนึ่ง  ผลปรากฎว่าขณะนั่งเดินลมปราณอยู่ กระดูกสันหลังเราลั่นเสียงเปรี๊ยะๆๆๆๆ ดังมากๆ เหมือนที่อ่านเจอในนิยายกำลังภายในของจีนเลย และกระดูกสันหลังเราค่อยๆกลับเข้าแนวธรรมชาติได้ จนกระทั่งขาขวาของเราเดินได้เป็นปกติ จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 03:45:55

ความคิดเห็นที่ 30 หลังจากปรับแนวกระดูกสันหลังได้  มันก็เลยกลายเป็น “เสาอากาศที่ดี” มันดึงดูดงานดีๆมาให้เรา จากการที่เราซบเซาแทบจะหาเงินไม่ได้ก็กลายเป็นมีเงินใช้อย่างฟุ่มเฟีอย จน “ลืมตัว” " เราเกือบจะไปเรียนต่อด้านภาษาอังกฤษเพื่อเอาวุฒิสูงๆมาหางานเป็นใบเบิกทางให้หางานง่ายกว่านี้ แต่อยู่ดีๆเราฉุกคิดขึ้นมาว่า  บทเรียนภาษาอังกฤษในมหาลัยไทย มันเป็น “ตัวถ่วงการเรียนรู้ของเรา ที่เราคิดค้นเอง ทดลองเอง ด้วยสมองตัวเอง” เนื่องจากการเรียนภาษาอังกฤษแบบ unconventional ของเราที่เราเรียนเอง (คิดเอง) มันน่าจะได้ผลมากกว่า...เพียงแต่มันไม่ให้วุฒิสูงๆให้เราเอาไปใช้เป็นใบเบิกทางเท่านั้น  เราเลยตัดสินใจทุ่มเทให้กับการศึกษา The Law of Attraction ให้ดีๆ แทนเรียนต่อในมหาลัย โดยเพ่งกระแสจิตว่า “การมีวุฒิต่ำๆจะเป็นแรงผลักดันให้เรามุมานะเรียนภาษาอังกฤษแบบ unconventional ของเราให้เก่งกว่าคนเรียนจบปริญญาระดับสูงๆให้ได้ โดยเชื่อว่า The Law of Attraction จะเป็นตัวกำหนดได้ว่าเราจะมีหรือไม่มีงานดีๆทำ แทนที่จะให้ปริญญาระดับสูงๆเป็นตัวกำหนด ซึ่งงานนี้ถือว่าเรามีหน้าที่การงานและชีวิตของตนเองเป็นเดิมพัน กับการที่คิดเช่นนี้...!!!" ...ในเมืองไทยมีด้วยหรือคนแบบ Thomas Edison (ที่ีไม่เรียนหนังสือในมหาลัย) แต่เก่งแล้วเป็นอัฉริยะได้... และแล้วเราก็พลาดท่าจนได้ ไอ้ความหลงระเริงว่าหาเงินได้คล่อง แล้วใช้เงินฟุ่มเฟือยอยู่พักใหญ่ๆ อยู่ดีๆเราทำน้ำหยดลงบน notebook พังสนิทเลย และทำอุปกรณ์อย่างอื่นพังอีกหลายอย่าง จนสภาพการเงินเราทรุดลงทันตาเห็น  แถมทำงานแปลชิ้นล่าสุด  เราอ่านต้นฉบับภาษาไทย ที่เขียนมากระจุยกระจาย แบบความคิดไม่จัดลำดับดีๆ ต้องไปจัดลำดับให้เขาใหม่ตอนแปลเป็นอังกฤษ  ทำให้เราเสียสติไปหลายวัน  เลยแปลมันไม่ค่อยจะดี  และแล้วเราก็ต้องกลับไปนั่งสมาธิเพ่งดูว่า “เสาอากาศเราเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้มัน attracts fortunes or misfortunes กันแน่?” เรากลับไปฝึกพลังลมปราณใหม่ โดยเพ่งกระแสจิตว่า เราส่ง prana หรือ qi (พลังลมปราณ) กระจายคลุมทั่วร่างเรา และมันไป “สื่อสารกับ The Creator” เพื่อหวังเอาพลังเร้นลับมาเพิ่ม iq ตัวเองให้พุ่งกระฉูดตอนอายุมากๆ แล้วเรียนภาษาอังกฤษแบบกระโดนก้าวไกล ด้วย photographic memory (กำลังฝึกอยู่เพื่อจำศัพท์และรูปแบบประโยคภาษาอังกฤษไปเขียนให้สวยๆกว่าเดิม) เพื่อกลับไปแข่งขันในตลาดงานแปลกับนักแปลที่เรียนจบมาสูงๆกว่าเราอีกรอบหนึ่ง   ทฤษฎีที่เราคิดขึ้นมาแบบนี้ ถ้า logic มันแม่นยำ เราคงจะได้เห็นอะไรดีๆเกิดขึ้นกับตัวเราเองในระยะเวลาอันใกล้ๆนี้ แต่ถ้า logic มัน lame หน้าที่การงาน และการเงินเราคงพังพินาศย่อยยับเนื่องจากได้ปฏิเสธที่จะเรียนต่อไปแล้ว โดยการเพ่งกระแสจิตว่าจะประสบความสำเร็จให้ได้โดยไม่เอาวุฒิการศึกษาสูงๆมาเป็นใบเบิกทาง  แต่ถ้าพลาดไป เราก็จะ retire โดยการค่อยๆเดินไปนอนรอความตายอยู่ที่สุสานหนูอนาถา ดังนั้นเราจึงต้อง think positive สะกดจิตตัวเองจนมั่นใจในตัวเองมากไปจนกลายเป็นโรคจิตที่เรียกว่า superiority complex ก็เลยหมู่นี้ไม่ค่อยกล้าเขียนหรือตอบกระทู้เรื่องการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ เพราะเขียนๆไป น้ำเสียงเรากลายเป็นดูเหมือนอวดเก่ง  เรากลัวคนหมั่นไส้เอาเรื่องความมั่นใจในตัวเองของเรามากเกินไปจนดูเหมือนโอ้อวด แต่ถ้าไม่สะกดจิตตัวเองเช่นนั้น มันก็จะไม่มีแรงผลักดัน ให้ตัวเองก้าวไปข้างหน้าได้...คือเรามามั่นใจมากๆตอนเราเดินลมปราณรักษาขาตัวเอง ไม่ให้พิการได้ โดยไม่ยอมเข้าโรงพยาบาลเหมือนแม่เรานี่แหละ เราก็เลยเริ่มบ้ามาตลอด... จะอย่างไรก็ตาม ขอให้คุณ Flowery หายดีไวๆเหมือนชื่อบะหมี่ก็แล้วกัน นะ อย่าลืมเรื่อง The Law of Attraction ล่ะ May the force be with you. แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 04:07:01 แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 04:03:22 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 03:55:27

ความคิดเห็นที่ 31 ขอให้คุณFlowery หายไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ที่แวะมาแบ่งปันเรื่องราวดีๆให้พวกเราได้อ่านและได้คิด รักษาสุขภาพนะคะ จากคุณ : Noshka เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 08:56:32

ความคิดเห็นที่ 32 แค่แวะมากระทู้นี้ ก็รู้สึกผ่อนคลาย จาก แดงๆ รุ้งๆ เยอะเชียวค่ะ ขออนุญาต คุณเจ้าของกระทู้ ค่ะ อิฉัน อยากจะขอส่งรูป พระองค์ท่าน ให้เพื่อนๆ ที่มี "ดวงใจ" ดวงเดียวกันค่ะ จากคุณ : A Good girl เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 10:40:22

ความคิดเห็นที่ 33 อีกสักภาพนะคะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : A Good girl เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 10:41:57

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่ได้คุยกันนานมากๆเลย มารู้ข่าวอีกทีไม่สบายซะงั้น ขอให้ฟื้นตัวเร็วๆนะคะ ตอนนี้ก็อธิษฐานให้ในหลวงทรงหายประชวรและประเทศของเราสงบสุข อยู่ทุกวัน จากคุณ : Norchideen เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 10:52:35

ความคิดเห็นที่ 35 จากคุณ : jin leng เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 19:32:41

ความคิดเห็นที่ 36 ขอให้หายไวๆ นะครับ จากคุณ : ทอฟฟี่สีแดง เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 22:16:49

ความคิดเห็นที่ 37 คุณFlowery หายไวๆ นะคะ ^___^ ขออนุญาตโพสภาพที่แสดงถึงความจงรักภักดีต่อท่านค่ะ รูปถ่ายภาพวาดสีน้ำมันฝืมือนายสือสง แซ่ยาง ชาวจีนยูนนานวัย ๙๒ ปี (พ.ศ.๒๕๕๒) ซึ่งเป็นหนึ่งในชาวจีนยูนนานกลุ่มแรกที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่ บ้านยาง ต.:-)อน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ได้อธิบายความหมายของภาพว่า "  ขุนเขาหมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยุู่หัว และนกที่อยู่ในภาพหมายถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ นกและขุนเขาคู่กันหมายถึงความสงบสุขและความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน" *หมายเหตุ : ภาพวาดนี้ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของโรงงานหลวงที่ ๑ ฝาง ที่พระองค์ท่านทรงก่อตั้งขึ้นมา จากคุณ : โฉมสะคราญอันดับหนึ่ง เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 23:15:37

ความคิดเห็นที่ 38 ขอให้ท่านเจ้าของกระทู้หายไว ๆ นะครับ จากคุณ : Max2000 เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 00:54:21

ความคิดเห็นที่ 39 นำภาพของพระองค์ท่านที่ทรงงานหนักเพื่อประชาชนของพระองค์ มาผากครับ จากคุณ : Max2000 เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 00:57:53

ความคิดเห็นที่ 40 ทรงพระเจริญ ผู้ใดมันคิดร้ายกับบ้านเมือง ขอให้แพ้ภัยตัวเอง ในเร็ววัน จากคุณ : หงอนไก่ เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 23:52:40

ความคิดเห็นที่ 41   ขอความดีทั้งหลาย ช่วยปกป้องแผ่นดินไทยให้สงบสุข รักในหลวง จากคุณ : ความคิดมือสอง เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 01:24:10

ความคิดเห็นที่ 42 แวะมาจ้า พี่สาวเป็นอย่างไรบ้างแล้ว???? อยากเห็นพี่สาวเขียนหนังสือของตัวเองเล่มโตๆ ไวๆจังเลยยย จากคุณ : kurika เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 14:23:39