ความคิดเห็นที่ 1 ตอบตรงๆ นะ ถ้าสายธุรกิจ ABAC เหนือกว่าหลายขุม จุฬาฯ เขาเด่นไปอีกด้าน เรื่องค่าเทอมหรือค่าอะไรต่อมิอะไรต่างๆ รอท่านต่อไปครับ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 18:33:15

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณมากๆเลยครับ หนุ่มไทยไร้นาม จากคุณ : ruth13 เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 19:54:33

ความคิดเห็นที่ 3 ออกตัวก่อนนะครับว่าไม่เคยเรียนของทั้งสองที่ แต่มีเพื่อนจบจากทั้งสองที่ รวมถึงเคยทำกิจกรรมร่วมกันระหว่างเรียน และส่วนตัวก็เคยเปรียบเทียบก่อนเลือกว่าจะเข้าเรียนที่ไหน(ผมเรียนแถวท่าพระจันทร์นะครับ) ข้อเปรียบเทียบก็มีอย่างนี้แล้วกันนะครับ ไม่จริงหรือคลาดเคลื่อนยังไง คนที่เรียนอยู่หรือคนที่ทราบข้อเท็จจริงก็มาบอกได้นะครับเพราะ ผมเปรียบเทียบโดยการหาข้อมูลของผมเองและประสบการณ์ระหว่างเรียน 1. เรื่องของสายธุรกิจ จริงๆแล้วในสายตาของผมจุฬา ค่อนข้างดีนะครับ เพราะ มีอาจารย์มีคุณภาพพอสมควร อาจารย์มีคอนเน็กชั่นเยอะซึ่งจะเห็นได้ตอนทำกิจกรรมก็จะมีส่วนเกื้อหนุนมาถึงนักศึกษา และอาจารย์ก็มีงานวิจัยเชิงลึกในหลายสาขา ศิษย์เก่ารุ่นพี่รุ่นน้องรักกันดีครับและช่วยได้เยอะพอสมควร แต่เป็นไปในลักษณะการช่วยแนะนำนะครับ ไม่ใช่เล่นสีเล่นพวก ของเอแบ็คเรื่องอาจารย์ยังไม่ค่อยชัดนะครับเมื่อเทียบกับจุฬา คือไม่ค่อยเห็นผลงานวิจัยหรือ อีเวนท์ทางวิชาการจากอาจารย์ฝั่งเอแบ็ค เมื่อก่อนเรื่อง marketing เอแบ็คจะเด่นมาก คือในเวทีการประกวดจะต้องมีเอแบ็ค ติดท็อบทรี ตลอด เด๊่ยวนี้ไม่ค่อยเห็น ไม่แน่ใจว่าเปลี่ยนอาจารย์รึเปล่าหรืออาจารย์ลาออก เพราะ สองสามปี มานี้ไม่เห็นเลย (ข้อมูลเสริม :ในเรื่องของธุรกิจแล้วจริงๆ ตอนนี้เราเน้นในเรื่องของนวัตกรรมทางธุรกิจ การสร้างผู้ประกอบการ คือเน้นสอนให้นักศึกษามีแนวคิดประกอบธุรกิจหรือแสวงหาโอกาสจากนวัตกรรมแล้วนำมาสร้างมูลค่า) 2. เรื่องของเพื่อน มีหลายกลุ่มหลายแบบครับ เด็กเอแบ็คและจุฬาแบบไม่ไฮโซก็มีเยอะนะครับ แต่จุฬาจะออกแนวรักเรียนมากกว่านิดนึง คือสภาพแวดล้อมมันบังคับเพื่อนเรียนเราก็ต้องเรียน เพื่อนอ่านเราก็ต้องอ่าน ที่เอแบ็คก็จะมีหลายแบบ ต้องเลือกๆคบอะครับ แต่ที่ผมเคยทำกิจกรรมด้วยจะตั้งใจเรียนดีนะครับ เคยคุยกับเค้าว่าเพื่อนๆเป็นไงบ้าง คือที่เราเจอไม่เหมือนกับที่คิดไว้ นึกว่าจะแบบแรงๆ เค้าก็บอกว่าแบบนั้นก็มีเหมือนกันแต่เค้าก็จะไปอยู่กับพวกแรงๆด้วยกัน แต่ถ้าเกเรมากๆส่วนใหญ่ก็โดนรีไทร์ไป (จริงๆแล้วผมว่าที่ธรรมศาสตร์ เด็กก็แรงนะครับ รุ่นน้องบางคนที่ผมยังอึ้งเลย) 3. เรื่องค่าเล่าเรียน ไม่ต่างกันมากครับ เท่าๆกัน 4. เรื่อง facility เรื่องของอาคาร ที่เรียน เอแบ็คดูดีกว่านะครับ จุฬา นั้นมาจากงบประมาณแผ่นดินก็ต้องก่อสร้างไปตามที่ได้รับงบมา หลังๆ จุฬาก็ พัฒนาเรื่องของอาคารและห้องเรียนไปเยอะนะครับ (ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์นี่ อย่าให้พูดเลยครับ เพิ่งมาทำเมื่อสองสามปี มานี้ เมื่อก่อนนี่ โทรมมาก) เท่าที่นึกออกก็มีเท่านี้นะครับ ไม่ค่อยได้พูดของเอแบ็คเท่าไร เพราะพูดเท่าที่รู้น่ะครับ จากคุณ : ETHIC@MIND เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 20:40:00

ความคิดเห็นที่ 4 ในฐานะที่ตัวเองจบบัญชี-บริหารจุฬาฯ (ภาคไทยค่ะ) แต่มีพี่ชายและน้องชายและเพื่อนสนิทๆ จบบริหารธุรกิจ ที่ ABAC เราขอเชียร์ จุฬาฯ ค่ะ เอิ๊กๆๆ :D (เชียร์ BBA มากกว่าภาคไทยด้วยค่ะ ^^") ที่บอกว่า ABAC เหนือกว่าหลายขุม นี่ใช้เกณฑ์อะไรวัดขุมอ่าค่ะ แอบสงสัย เคยมีประสบการณ์ในรั้วจุฬา/เอแบค มั้ยคะ จบสายธุรกิจหรือเปล่าคะ ทำไมถึงได้กล้าตัดสินขนาดนั้น =__= ไม่ได้หาเรื่องนะคะ เพียงแต่เราคิดว่ารู้จักทั้ง 2 มหาลัยนี้ดีพอสมควร ยังไม่กล้าตัดสินเลยค่ะ ที่เชียร์จุฬาฯ อยากบอกว่าไม่ใช่แค่เพราะเรื่องการเรียนค่ะ เราชอบสังคมที่นี่มากกกกก ^^" ยิ่งคณะบัญชีเนี่ย อยากบอกว่า อบอุ่นสุด ๆ (แดดเปรี้ยงเลยล่ะ 555) เรามีแต่เพื่อนดีๆ รุ่นพี่น่ารักๆ เรามีกรุ๊ป มีสายรหัส (ซึ่งมีประโยชน์มากกก) ที่สำคัญคือ กิจกรรมเยอะมาก ๆ ค่ะ มันให้อะไรเราได้มากกว่าแค่การเรียนในห้องแน่นอน :D อย่างคณะเราฮิตประกวดแผนธุรกิจกัน ถ้าน้องลองหาข้อมูลดู ก็จะเห็น BBA จุฬา ชนะเลิศแผนธุรกิจเยอะมากมาย ไปจนถึงแผนธุรกิจระดับโลก ที่ชนะเยอะ ก็ไม่ใช่อะไรค่ะ เราส่งประกวดเยอะ มีหลายทีม โอกาสชนะเลยสูงกว่า ฮ่าๆๆ แต่น่าแปลก เพื่อนที่เอแบคกลับไม่ค่อยรู้ข่าวอะไรพวกนี้เลย ต้องคอยตามข่าวจากเรา หรือบางทีอยากประกวดบ้าง ก็หาทีมไม่ได้ ไม่ค่อยมีคนสนใจมากนัก สารภาพว่าตอนแรกเราแค่อยากเรียนจุฬาฯ เพราะยึดติดชื่อเสียงเก่าๆ และอยากติดเข็มพระเกี้ยวเท่ ๆ (คิดได้เนอะ -*-) แต่ตอนนี้เรียนจบแล้ว เรารู้แล้วว่า เรารู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสเรียนที่จุฬาฯเพราะอะไร ไม่ใช่เพราะเรื่องการเรียน แต่เป็นประสบการณ์ (ประหลาดๆ) ที่เราได้รับ เป็นเพราะเรื่องเพื่อน เรื่องสังคม เรื่องกิจกรรม เรื่องน้ำใจน้องพี่ ฯลฯ บางคนอาจจะมองว่า ไร้สาระ ก็ได้ เพราะเราก็ไร้สาระจริงๆค่ะ แบบว่า ไม่ใช่เด็กเรียน เท่าไหร่ (ยอมรับอีกนะ - -") คนที่ไม่เคยเรียนคงไม่เข้าใจ (แต่เด็กธรรมศาสตร์ก็น่าจะเข้าใจนะ เพราะเราชอบสังคมที่ธรรมศาสตร์เหมือนกัน ^^") จริง ๆ ที่บ่นๆเป็นป้าแก่มาเนี่ย แค่อยากมาแชร์ประสบการณ์มากกว่าค่ะ ^^ บอกก่อน อย่ามาเปิดสงครามกับเค้าน๊า กลัวค่า สงครามทุกวันนี้ก็มากเกินพอแล้วเนอะ เราว่าแต่ละที่ก็มีข้อดีข้อเสีย แตกต่างกันไป เรียนที่ไหนก็ดีทั้งนั้น ขอแค่เราเป็นคนดี ตั้งใจเรียน รู้จักแบ่งเวลา และใช้ชีวิตให้คุ้มค่า (4 ปีสั้นมากค่ะน้อง!) ขอให้โชคดีค่ะ ป.ล.ความเห็นแบบส่วนตัวสุดๆค่ะ ไม่ขอพาดพิงถึงเอแบคมากละกันค่ะ ไม่ชอบให้ข้อมูลอะไรโดยที่ตัวเองยังไม่รู้จริง ^______^ " จากคุณ : เด็กหญิงริมขอบฟ้า เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 21:04:15

ความคิดเห็นที่ 5 โฮๆ T T ถ้าเรียนจุฬาภาคไทย คงจะแข็งกว่าภาคอินเตอร์เยอะอ่ะครับแต่ที่บ้านคงไม่ยอมแน่เลยเพราะอยากให้เข้าอินเตอร์น่ะครับ อีกอย่างภาคไทย จะเข้าได้รึเปล่าก็ไม่รู้ครับ 555 ขอบคุณ ETHIC@MIND,เด็กหญิงริมขอบฟ้า มากๆครับ : )) จากคุณ : ruth13 เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 21:24:36

ความคิดเห็นที่ 6 ผมผ่านมาแล้วทั้งสองที่ครับ คุณเด็กหญิงริมขอบฟ้า ถึงได้กล้าฟันธง ไม่พูดถึงสายวิทย์นะ เช่นสายวิศวกรรม ไม่ใช่ว่าจบวิศวกรรมศาสตร์จากจุฬาฯ ไม่ว่าสาขาไหน แล้วจะโดดเด่นเป็นเอกกว่าหมด ยังครับ ยัง ต้องดูสาขาด้วย วิศวกรรมศาสตร์บางสาขา ที่อื่นที่เจ๋งกว่าจุฬาฯ มีเยอะแยะไป มาถึงสายธุรกิจบ้าง นักบัญชีจุฬาฯ เก่ง ใชครับ ผมยอมรับ แต่นักบัญชีจุฬาฯ ส่วนใหญ่เป็นคนตรง ตรงเกินไป ถึงกับมีคำเปรียบเปรยว่าตรงเป็นเสาธงจุฬาฯ ซึ่งใช้ไม่ได้ในโลกของความเป็นจริง มีเรื่องตลกที่ขำไม่ออก ร่ำไห้มิได้จะเล่าให้ฟัง ที่บริษัทผมนี่แหละ มีอยู่วันหนึ่งเลขาฯ ของ big boss ไปซื้อของขวัญปีใหม่ให้ลูกค้า แต่ใบกำกับภาษีนั้นสะกดชื่อบริษัทผิด ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี (ซึ่งจบจุฬาฯ) ไม่ยอม เลขาฯ big boss ต้องนั่งแท็กซี่ไปแก้ใบกำกับภาษีใหม่ เสียค่าแท็กซี่ไปสองร้อย เพื่อแลกกับภาษีมูลค่าเพิ่มยี่สิบบาท โธ่เอ๋ย เวรกรรมจริงๆ ก็แค่ให้ big boss เซ็นต์อนุมัติยี่สิบบาทนั่นเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัท แกร๊กเดียวเท่านั้น แล้วก็ไม่ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับรายการนี้ เวลายื่นเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลก็ถือเป็นรายจ่ายของบริษัทไป เงินแค่ยี่สิบบาทเทียบกับขนาดของบริษัทที่มียอดขายเกือบหมื่นล้านต่อปี ผู้สอบบัญชีเขาไม่สนใจหรอกครับ เทียบกับบัญชีธรรมศาสตร์ เขายืดหยุ่นกว่านะ เข้าใจโลกของความเป็นจริงมากกว่า จึงทำงานได้มากกว่า แต่ถ้าพูดถึงอักษรศาสตร์ ก็ต้องยกให้จุฬาฯ เขาเป็นแชมป์ จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 21:50:10

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องค่าเทอม เอแบคเขาบอกว่า เป็นอินเตอร์ที่ค่าเทอมถุกที่สุดในไทย พอจบ Intensive แล้วก็จ่ายแค่ค่าเทอมครับ ไม่มีอย่างอื่นเว้นแต่นอนหอ จอดรถ ส่วนเรื่องอาจารย์ ถ้าเป็นที่อื่นจะเจออาจารย์อังกฤษ อเมริกา ออสเตรเลีย แต่เอแบคไม่ใช่อะ มีทั้งเอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง แขก เยอะแยะ มันจะทำให้ชินกับสำเนียงต่างๆเยอะขึ้น สังคมเอแบคก็มีทกประเภททั้ง ไฮ โล ลูกนักธุรกิจหรือคนธรรมดา จากคุณ : KC_CRUSH เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 22:08:41

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าคุณเรียนที่ Assumption University of Thailand คุณต้องยอมรับว่าเด็กส่วนหนึ่งที่เข้าเรียนที่นี่คือเด็กที่สอบเข้ามหาวิทาลัยยรัฐไม่ติด อีกส่วนหนึ่งคือเด็กที่มีความคิดแบบผิด ๆ ว่าการเรียนอินเตอร์จะช่วยทำให้ภาษาอังกฤษเก่งขึ้นมาก (เดี๋ยวผมจะขยายความในจุดนี้ต่อไป) และอีกส่วนหนึ่งคือเด็กที่ตั้งใจจะเข้าเรียนที่นี่จริง ๆ หลายคนเก่งมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย หลายคนได้รับทุนมา (ความจริงยังมีอีกหลายส่วน แต่ขอแบ่งไว้เป็นกลุ่มใหญ่ ๆ แค่นี้ครับ) ถ้าคุณเรียน B.B.A. Chulalongkorn Business School เด็กส่วนใหญ่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเกรดสมัยมัธยมปลาย ที่เฉลี่ยแล้วใกล้ 4.00 มาก หรือ ภาษาอังกฤษที่มีคะแนน CU-TEP เฉลี่ยแล้วใกล้ 600 มาก ซึ่งแน่นอนว่าการที่คุณเรียนกับคนเก่งระดับประเทศย่อมมีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพตนเองมากกว่า อีกอย่าง จุฬาฯ ยังไงก็ยังคงเป็นจุฬาฯวันยังค่ำ ถ้าคุณจะไปเรียนต่อยังต่างประเทศ รุ่นพี่คุณหลายคนไปทำชื่อเสียงระดับโลกมาแล้ว Admission Committees ที่นั่นเขาจะคุ้นชื่อมหาวิทยาลัยนี้ของไทยที่สุดครับ และพอจะรู้ศักยภาพบัณฑิตของมหาวิทยาลัยนี้ด้วย ถ้าพูดถึงเรื่องอาจารย์ เท่าที่ผมรู้มาคือ เอแบคจะมีอาจารย์หลายเชื้อชาติ คุณอาจได้เปรียบในการเห็นหลาย ๆ วัฒนธรรมหลาย ๆ สำเนียง เช่น พม่า มาเลเซีย อเมริกัน แต่ก็เป็นจุดด้อยเหมือนกันถ้าคุณไม่ชอบสำเนียงแปลก ๆ ถ้าเอาเข้าจริง ๆ มันเปรียบเทียบไม่ได้หรอกครับว่า มหาวิทยาลัยไหนดีกว่ากัน ควรจะวัดเป็นด้าน ๆ ไปเพราะเอแบคมีนักเรียนระดับหัวกะทิของประเทศไปเรียนน้อยกว่าจุฬาฯ อยู่แล้ว ถ้าให้จุฬาฯ เปิดรับนักเรียนแบบเอแบค คุณภาพบัณฑิตอาจแย่กว่าเอแบคก็เป็นได้ ขอพูดเรื่องภาษาอังกฤษต่อจากข้างบน ซึ่งผมพูดจากประสบการณ์ผมตอน ม.ปลาย ล้วน ๆ นะครับ หากท่านใดไม่เห็นด้วยก็ขออภัย เพื่อนผมหลาย ๆ คนในระดับเข้าเรียนที่เอแบคประมาณ 20 คน ทุกคนย้ำว่าทุกคนไม่มีใครเก่งภาษาเท่าเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ติด B.B.A. CU เลย ใน 20 คนนั้น เกรดภาษาอังกฤษจะได้ประมาณ 2 ถึง 3 กันเป็นส่วนใหญ่ พอผมถามว่า ทำไมถึงอยากเรียนเอแบค พวกเขาตอบ "จะได้เก่งภาษาอังกฤษ" ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมาก การจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยหลักสูตรภาษาอังกฤษ คุณต้องเก่งภาษาอังกฤษก่อนระดับหนึ่งอยู่แล้ว ซึงมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่เด็กนักเรียน คะแนนภาษาอังกฤษเกรด 2-3 จะเข้าไปอ่าน Textbooks รู้เรื่องหรือเขียนตอบภาษาอังกฤษอย่างถูกหลักไวยากรณ์เกินกว่า 80% และพวกเขาพูดง่าย ๆ ว่า "มันมี Intensive Course ให้" ถ้าพวกคุณได้อ่านความเห็นของคุณ fortuneteller บ่อย ๆ นะ จะรู้ว่า ภาษาอังกฤษไม่มีทางเรียนแบบเห็นผลจะ ๆ ว่าคุณเก่งขึ้นมากภายในระยะเวลาอันสั้น ภาษาอังกฤษเป็นทักษะที่ต้องค่อย ๆ สร้าง ค่อย ๆ สะสมและฝึกอย่างสม่ำเสมอ ผมไม่แปลกใจเลย ที่ทำไมเอแบคมีสถาบันติวพิเศษอยู่ข้างหน้ามากมาย จากคุณ : Rifle D. เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 22:33:29

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ ^ ถึงคุณหนุ่มไทยไร้นามครับ ปรกติบัญชีที่ไหนเค้าก็ต้องแบบนี้ทั้งนั้นแหละครับ ถ้าเค้าเขียนชื่อบริษัทผิด ที่อยู่ผิด มันก็เสียหายนะครับ บริษัทเก่าผม นังพนักงานบัญชีเป็นเกย์จบ มศว ไม่ใช่จุฬา เขียนผิดมันยังให้ไปเอาใหม่เลย หรือไม่ก็วันหลังก็ไปเปลี่ยนเป็นใบใหม่ ยังไงมันก็ไม่ยอม ผมไม่ทราบมูลค่าเกี่ยวกับภาษีอะไรหรอกนะครับ แต่ในความคิดผมไม่ว่าที่ไหน หรือบริษัทไหนก็ยอมไม่ได้หรอกครับ เรื่องใบกำกับภาษีเขียนผิดเนี่ย อาจจะเป็นไปได้ว่าบุคคลิกของคนเรียนบัญชีจะ้ต้องเป็นคนตรง ๆ อะครับ ตามที่ผมเข้าใจ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรคนเรียนบัญชีต้องเป๊ะ ผมเจอมาแล้ว ผมโครตจะเกลียดแม้งงงเลย มันเเป็นเกย์อะครับ พอมาทำอีกบริษัทไม่มีความแตกต่างเลยครับ หัวหน้าบัญชีมาแนวเดียวกันเลยจบธุรกิจบัณฑิต (แกเคยบอกผม) ตั้งแต่ยังไม่เริ่มก่อตั้งมหาลัย ยังไม่เป็นมหาลัยเลย ตาคนนี้เค้าก็ไม่ยอมนะครับ สรุป คนทำงานบัญชีผมว่าพอ ๆ กันแหละ คือเป็นคนตรงทุกที่อะครับ ไม่เกี่ยวกับจุฬา แต่ถ้าจุฬากะเอแบค ในความคิดผม ใคร ๆ เค้าก็เลือกจุฬาทั้งนั้นแหละครับ จากคุณ : ปีเตอร์นอร์ธ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 22:35:16

ความคิดเห็นที่ 10 ขอเสริมอีกเล็กน้อยถึงคณะบัญชี จุฬาฯค่ะ เราเคยคิดเหมือนกันนะว่าภาคไทยฯ วิชาการน่าจะต้องแข็งกว่า BBA เราเลยมุ่งเอนท์อย่างเดียวเลย ไม่ได้คิดถึงภาคอินเตอร์เท่าไหร่นัก (แต่ก็มีไปสอบ BBA TU ไว้ กะจะเอาไว้สำรองกันพลาดค่ะ แต่ดันพลาดอันที่เป็นสำรองซะนี่ -*-) พอเข้ามาเรียนแล้วเนี่ย รู้สึกเสียดายมากเลย ที่ไม่สมัคร BBA เราว่าวิชาการเค้าไม่แพ้ภาคไทยนะคะ รู้สึกจะเรียนเข้มข้นและหนักกว่าด้วย ภาษาเท่าที่เห็นหลายๆคนก็ดีจริงๆค่ะ แต่เค้าอาจจะเก่งอยู่แล้วก็มีส่วน แต่ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษ ทำรายงานเป็นภาษาอังกฤษ เราว่ายังไงก็ได้เปรียบค่ะ ^^" จากคุณ : เด็กหญิงริมขอบฟ้า เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 23:15:53

ความคิดเห็นที่ 11 แง้ ส่งเบิ้ล ขอลบอันนี้ละกัน ขออภัยค่ะ แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 53 23:18:21 จากคุณ : เด็กหญิงริมขอบฟ้า เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 23:16:06

ความคิดเห็นที่ 12   เล่าจากประสบการณ์ให้ฟัง เห็นคนได้เกียรตินิยมสามย่าน คณะพาณิชย์นี่แหละภาคไทย ที่เรียนด้วยกันที่ ป.โท ที่ยูแห่งหนึ่ง(Top world 50) เวลาทำรายงานแต่ละครั้งจะ ต้องวิ่งมา ขอ ต.ย. ไปดูทุกครั้ง บอกทำไม่เป็น บางครั้ง ดูเหมือนไม่น่าทำได้เกียรตินิยม มาได้เลย เวลาเกรดออกมา ก็ได้น้อยกว่าทุกวิชา พอพอสนิทหน่อยก็เลยกล้าถาม ว่าได้มาได้ไง เกียรตินิยม เค้าบอกว่า เน้นเกาะอยู่งาน กลุ่มดีๆ แล้วที่เรียนแบบไม่ได้ยากไรเลย เหมือนเท่าที่เรียนอยู่ ป โท ปัจจุบัน ชอบบอกว่าไม่ได้เรียน inter มา ไม่เคยทำรายงานเป็นอังกฤษ เลยทำไม่เป็น นร แบบข้างบนที่กล่าวอาจเป็นส่วนน้อย แต่ก็มีอยู่ ส่วนจะเลือกอะไรนั้น ก็ แล้วแต่ แต่โดยส่วนตัวเห็นว่าถ้าจะเรียนบริหาร ถ้าในไทย ควรเลือกเรียนแค่สี่ยูนี้เท่านั้น CU, TU, ABAC, MUIC จากคุณ : Phua Chu Kang รู้จักกันปะ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 00:01:15 A:123.243.86.213 X: TicketID:195043

ความคิดเห็นที่ 13   เทียบเป็นข้อ 1. เรื่องอาจารย์ คุณลองเข้าไปดูในเวบละกันว่าอาขารย์ของทั้งสองที่แต่ละท่านมี Profile เป็นอย่างไร 2. เพื่อนร่วม Class CU นักเรียนที่ถูกคัดมาแล้วระดับหัวกะทิ ของประเทศไทย ABAC มีเงินก็เข้าไปเรียนได้ 3. ผลงานทางวิชาการ CU มีผลงานเยอะกว่าแน่นอน ลองหาดูในอินเตอร์เน็ต 4. Ranking CU ติดอันกับ ที่ 133 ของโลก ABAC ไม่ติด 1 ใน 500 พูดตรงๆ ครับแบบไม่กลัวถูกด่า ผมเชื่อว่า CU เหนือกว่าเยอะในหลายๆด้าน ทั้งด้านคุณภาพการศึกษา การเป็นที่ยอมรับ ถ้ามีโอหาศ จขกท. เลือก CU เถอะครับ แล้วอีก 4 ปีคุณจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียดาย จากคุณ : พี่รักเจ้า (พี่รักเจ้า) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 00:52:20

ความคิดเห็นที่ 14 อ่านมาก็ไม่พ้นเปรียบเทียบ ข้อดีข้อด้อยก็แถลงกันมา อ่านแล้วจิ๊ดนิด ๆ 1. abac มีเงินก็เข้าได้ 55555 ใช่ครับเป็น ม. เอกชนครับ แล้วถามหน่อยเถอะโปรแกรมที่จขกท. จะเข้าเรียนเนี่ยถูกมากจนลูกตาสีตาสาที่หัวระดับกะทิเนี่ยเข้าไปเรียนได้ไหม?  ถ้าไม่ได้เปรียบเทียบเพื่อ........ (เพิ่มเติมจากในเว็บของคณะ รายปี BBA Inter ของจุฬา ฯ จนถึงปี 2010 ปีละ 180,000 บาทเศษ) CU เปิดมากี่ปีครับ (ไม่นับโปรแกรมที่เจ้าของกระทู้สนใจ) เป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่ได้รับเงินงบประมาณไปตั้งเท่าไรแล้ว เงินชาวบ้านผู้เสียภาษีครับ ทำไมเวลาเปรียบเทียบสถาบันไม่เห็นยกมาบอกด้วยล่ะ ก็เงินภาษีชาวบ้านนะทำให้สถาบันยังดีอยู่ได้ไม่ใช่หรือ ถ้าดีอยู่ก็หยุดเปรียบเทียบเรื่องม. เอกชนเรื่องมีเงินเข้าเรียนได้เถอะ เพราะสถาบันการศึกษาของรัฐได้เปรียบสถาบันการศึกษาเอกชนไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรแล้ว  โปรดทราบครับ ม. เอกชนทั้งหลายดิ้นรนเพื่อเปิดโอกาสทางการศึกษามากขึ้น โทษทีจิ๊ดบอกว่ามีเงินก็เรียนได้ เปรียบเทียบน่าเกลียด อีกเรื่องถ้าไม่เคยทราบ โปรดทราบว่าตั้งแต่ไหนแต่ไรสำหรับเอแบคเขารับเข้าหมดแหละครับถ้าคุณสมบัติการสมัครครบแต่จะจบได้หรือเปล่ามันก็อีกเรื่องครับ fyi "ต้อง" มีเงินเหมือนกันถึงเรียนโปรแกรมอินเตอร์มหาวิทยาลัยรัฐได้ 2. ขอให้ท่านชื่นชมกับการติดอันดับที่ 133 ย้ำ 133 (ไม่ทราบข้อมูลจากไหน) ranking มหาวิทยาลัย หรือ ranking Business School คือไม่ว่ากันหรอกครับขอให้ท่านชื่นชมกับลำดับที่ 133 ต่อไป AU หรือสถานศึกษาในเครือเซนต์คาเบรียลไม่มีอันดับอะไร คงมีแต่ LABOR OMNIA VINCIT" (อิอิไม่ได้อ่าน motto เครือเซนต์คาเบรียลมานานแล้ว ไปค้นมาก็เพื่อกระทู้นี้แหละ) "We can overcome all difficulties through working hard," or, as the Latin proverb says : "Work conquers all things"  ฯลฯ แค่นั้น ที่จิ๊ดเพราะทำไมคุณเอาแต่ข้อดีของสถาบันคุณว่ามาก็พอครับ ถ้างั้นก็บอกว่าน้องครับไปเรียนที่เขาอันดับ 132 ด้วยครับไม่ต้องเอาแค่สองตัวเลือก จะปิดทางเลือกตัวเองทำไม สำหรับคนอื่น ๆ ที่เผอิญได้แวะมาอ่านก็ขอเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอแบคก็เป็น international university จริงคือเกือบทุกคณะใช้ภาษาต่างประเทศเป็นสื่อในการสอน ยกเว้นคณะนิติศาสตร์ (เฉพาะวิชาที่เกี่ยวกับกฏหมายไทย) จำนวนนักศึกษาต่างชาติ (น่าจะ) มากที่สุดในมหาวิทยาลัยทั้งหมด (คงไม่ใช่ฝรั่งอั้งม้อทั้งนั้น ก็ชาติเอเชียก็เยอะแหละครับ) ดังนั้นสำหรับท่านผู้สนใจเข้าเรียน และใฝ่หาการเรียนรู้จากสังคมอื่นมาเรียนที่นี่ก็ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบ สำหรับท่านที่บอกว่ารอบ ๆ เอแบคมีสถาบันติวเตอร์??? คณะบริหารธุรกิจเขาย้ายไปอยู่บางนาหมดแล้วน่าจะสัก 2-3 ปีแล้วกระมัง ไม่เห็นนะครับติวเตอร์ที่ว่าแถวบางนาเพราะเข้าไปลึกมาก ใครไปเปิดคงไม่คุ้ม ถ้าเป็นสมัยก่อน (ไม่เกินสองสามปี) เห็นมีป้ายแปะตามร้านกินข้าวที่หัวหมากรับติววิชาพื้นฐานทั้งหลาย ส่วนติวเตอร์ที่ตั้งอยู่หน้ามหาลัยรู้สึกเลิกไปเป็นปีแล้วกระมัง แต่นั่นเขาก็เป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษด้วยนิครับ จะเกี่ยวกับเด็กเอแบคต้องวิ่งไปหาติวเตอร์ไหมล่ะเนี่ย คคห. 6 ผมเห็นว่าเขาหมายถึงแนวคิดทางธุรกิจคือลดต้นทุน การที่จะไปเอาภาษีซื้อ 20 บาท โดยต้องลงทุน 200 บาทไม่รวมเวลาที่เสียไปเป็นอะไรที่ไม่คุ้มค่า คคห. 6 ก็แค่เอาความคิดเห็นมาแบ่งปัน แต่พอมีเรื่องสถาบันเข้ามาหน่อยก็ไม่จบ และในนี้ผมเห็นแค่ คคห. 6 ที่บอกว่าผ่านมาทั้งสองสถาบัน (5555 หวังว่าไม่ใช่ขับรถผ่าน) ที่เหลือก็มองจากมุมของตนเองซึ่งก็ไม่ว่ากันเพราะเป็นเรื่องของความคิดเห็นและข้อเท็จจริง แต่จิ๊ด (อีกแล้ว) เอาแค่ข้อดีหรือประสบการณ์ตรงเถอะครับท่าน ผมชื่นชม ม. ราม ฯ ครับเพราะหน่วยกิตละ 25 บาท มหาวิทยาลัยรามคำแหงทำ E-book, วีดีโอคำบรรยายรายวิชาให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปอ่าน ศึกษาเองได้ฟรีครับ โทษทีนอกเรื่องเพราะอย่างที่บอกมันจิ๊ด............จิ๊ดเยอะไปหน่อยเลยขอพิมพ์ยาว ๆ เรื่องแบบนี้สักที แก้ไข เพิ่มเติมข้อมูลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียน แก้ไข เพิ่มเติมข้อความ แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 16:41:39 แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 15:16:59 จากคุณ : elenote เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 05:00:43

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ elenote จี๊ดเรื่องอะไรครับ กลับไปอ่าน คห. 1 และ 6 ของผมใหม่ ผมไม่ได้ว่าสถาบันไหนเลย แต่ละสถาบันก็มีเด่น มีด้อย กันไปคนละด้าน ซอยย่อยลงมาถึงแต่ละบุคคล เด็ก ABAC ที่เก่งก็มี ที่แย่ก็มี เด็กจุฬาฯ หรือที่ไหนๆ ก็เฉกเช่นกัน ผมมีลูกน้องทั้งที่จบจุฬาฯ และ ABAC อยู่หลายคน เห็นชัดเลย เอาสายวิศวกรรมศาสตร์ดีกว่า เห็นชัดดี วิศวกรสองคนจบจุฬาฯ ทั้งคู่ คนหนึ่งมาด้วยเกียรตินิยมหราเลย ทำงานมาหลายปีก็ให้ไปบริหารโรงงานหนึ่ง ทำบริษัทผมเจ๊งไปหลายร้อยล้านภายในห้าปี อีกคนจบมาด้วยเกรดธรรมดาๆ สาขาเดียวกับคนแรกเป๊ะเลย เป็นเพื่อนร่วมชั้นกันด้วย โรงงานที่ให้เขารับผิดชอบ ขยายเอาๆ จนครั้งหนึ่งเราลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทที่โรงงานนี้ คุณเป็นพวกบ้าสถาบันโดยขาดสติหรือเปล่า คุณ elenote จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 05:44:14

ความคิดเห็นที่ 16 ลืมตอบคุณ ปีเตอร์นอร์ธ และตุณ elenote เรื่องภาษีซื้อ 20 บาท แลกกับค่าแท็กซี่ 200 บาท ผมไม่ได้มองในแง่การลดต้นทุนหรอกครับ ส่วนต่างของเงิน 180 บาทไม่มีความหมายอะไรสำหรับบริษัทใหญ่ขนาดนี้ แต่ผมมองในแง่ "ความมีปัญญา" ต่างหากล่ะ หลักเกณฑ์ทางบัญชีและภาษีอากรไม่ใช่เจ้านายเรา แต่เป็นลูกน้องเรา เราต้องรู้จักใช้มัน จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 06:37:22

ความคิดเห็นที่ 17 แน่ใจว่าเด็ก ABAC เก่งอังกฤษนะครับ อย่างไรผมเชียร์ CU ครับ ถ้ามีโอกาสได้แล้วก็ไม่ควรสละสิทธิ์ครับ จากคุณ : natthaset เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 09:00:49

ความคิดเห็นที่ 18 CU เข้ายาก ABAC จบยาก -ที่บอกว่าCUเข้ายาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะจบง่ายหรือเรียนง่ายนะคะ เพราะยังไงคนที่ได้รับเลือกให้เข้าเรียนทีนี้ เขาคัดมาแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นเข้าไปได้แล้ว ถึงแม้การเรียนจะเข้มข้น ดังนั้นเรื่องจบก็ไม่น่าเกินความสามารถค่ะ -ส่วน ABAC มีตังค์ก็เข้าได้ค่ะ แต่ที่นี้เขาก็มีนศ.ทุนที่เรียนดีพอสมควรนะคะ คุณเข้าเรียนได้ แต่จะเรียนจบได้หรือเปล่า เพราะส่วนใหญ่คนที่ไม่ตั้งใจเรียน นึกว่าที่นี่เรียนชิวเนี่ย เรียนที่นี่ไม่รอด โดนไทน์ออกไม่ใช่น้อยเลยนะคะ ส่วนที่จขกท.ถามเรื่องค่าใช้จ่ายที่เอแบค ขอตอบละกัน ในฐานะศิษย์เก่า ค่าเล่าเรียนเอแบคอาจจะถูกกว่าCUด้วยซ้ำ แต่ค่าครองชีพที่นี่สูงค่ะ คุณต้องไปเรียนที่บางนา อาจมีค่าใช้จ่ายเช่นพวกค่าจอดรถ ค่าหอก็แพง ค่าอาหารที่นี่ก็ค่อนข้างแพงนะคะ ยกเว้นในcafeteria แต่ร้านส่วนใหญ่ราคาจานละไม่ต่ำว่าประมาณ55บาทค่ะ ส่วนเรื่องเพื่อนที่นี่มีหลากหลายนะคะ แต่บรรยากาศการเรียนCUน่าจะอบอุ่นกว่า เนื่องจากจำนวนนศ.BBAเอแบคค่อนข้างเยอะ คุณจะไม่ได้เรียนกับเพื่อนหน้าเดิมไปตลอด วิชานึงมีหลายsectionมากๆ คุณจะเจอกับเพื่อนหน้าใหม่ตลอดเวลา และที่นี่แทบจะไม่มีกิจกรรมสัมพันธ์รุ่นพี่-น้องเหมือนที่ ม.อื่นๆด้วย จากคุณ : ^^ (sweetz_syrup) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 11:26:16

ความคิดเห็นที่ 19 ถ้าฐานะครอบครัวไม่ดีนัก ก็เลือกจุฬา ครับ จากคุณ : petroleum geologist เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 11:29:57

ความคิดเห็นที่ 20   แหม ๆๆ ไม่เห็นต้องตีความหมายตามตัวอักษรขนาดนั้น 1. เอแบคเข้าง่ายกว่าก็จริงนะคะ แต่ไม่ถึงขนาดมีขาก็เดินไปสมัคร รับเข้าเรียนได้แล้ว ไม่ง่ายขนาดนั้น โง่มากก็เรียนไม่จบเยอะแยะค่ะ ถึงจะเฝือแต่ไม่ง่ายขนาดจ่ายครบจบแน่ แต่ไม่ยากเกินความสามารถของคนไทยโดยเฉลี่ยแน่ ๆ 2. จบอินเตอร์ก็โง่อังกฤษเยอะแยะค่ะ เคยดูผล ETS สมัยที่ทำสอบ Toefl เด็กเอแบคไม่ได้คะแนนเฉลี่ยเยอะที่สุดนะคะ สมัยนู้นยังไม่มีหรอกคะ หลักสูตรอินเตอร์ มีแต่เอแบคนี่แหละค่ะที่เรียนเป็นอังกฤษ ตอนนี้เพลา ๆ ความดังลงไปแล้วเพราะหลายคณะของมหาลัยเก่าแก่ก็มาเปิดแย่งเด็กเก่งไปหมด 3. เรียนเอแบคทำใจเรื่องอาจารย์หน่อย คือ part-time เข้าพบยากนิด เกณฑ์อะไรไม่ชัดเจน บางทีโวยวายอาจารย์หน่อยได้ A B มาแล้ว สอนให้ต้องรู้จักสิทธิ์ตัวเอง ที่จุฬาคาดว่าน่าจะต้องพินอบพิเทาอาจารย์พอควร นับ seniority วุ่นวาย 4. เด็กหลากหลายดี มีตั้งแต่เด็กเรียนยันพวกถลุงเงินพ่อแม่ไปวัน ๆ ข้อดีคือถ้าตั้งใจเรียน เกรดไม่ยากเลย เพราะมีฐานให้เหยียบอยู่แล้ว แต่ที่จุฬาคงต้องแข่งขันเอาหน่อย แต่คณะวิชาพวกนี้ เกรดเฟ้ออยู่แล้วค่ะ ไม่ว่าจะจุฬา มธ. เอแบค ยันราชมงคล ราชภัฎ เกียรตินิยมโหลโคตร ๆ เพื่อนเราจบ summa cum laude แต่แบบว่าสอบ gmat สูงสุดได้ 580 (สอบไป 4 ครั้ง) คือ intellectual ไม่ได้จริง ๆ 5. คณะบริหารของเมืองไทย ส่วนใหญ่คนเก่งไม่ค่อยเป็นอาจารย์ ผิดกับพวกหมอหรือวิศวะ profile ของจุฬา มธ ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่เทียบไม่ได้กับ business school ที่เป็น truly worldclass เลยค่ะ ตำแหน่งศาสตราจารย์ในสาขานี้แทบจะนับนิ้วมือข้างซ้ายก็พอค่ะ (เอาที่ยังมีชีวิตอยู่นะคะ ไม่ต้องไปถึงศ.พระยาไชยยศสมบัตินู่น) 6. ถ้าเป็น finance เห็นเด้ก abac ใน field นี้น้อยค่ะ คาดว่าน่าจะทำงาน marketing กับพวก gm เป็นหลัก เพื่อนจบ finance นับหัวที่ทำงาน finance ได้เลยค่ะ เผลอ ๆ น้อยกว่าวิศวะจุฬาอีก ไม่ต้องพูดถึงความสำเร็จก้าวหน้าอะไรให้ยุ่งยาก แต่เด็ก abac รุ่นเค้าเป็นเจ้าของกิจการหลายคน มี entrepreneurial spirit สูงนะเค้าว่า พวกจุฬา มธ ชอบทำ mnc, ib, บริษัทไทยใหญ่ ๆ อ่ะ อ่าน ๆ แล้วใช้วิจารณญาณเองนะคะ เอาใจช่วยค่ะ แต่เชื่อเถอะค่ะ คุณเรียนที่ไหนก็รักที่นั่น.. ชีวิตป.ตรีสนุกนะคะ จากคุณ : ภูธรวดี เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 11:57:03 A:203.172.120.227 X: TicketID:137537

ความคิดเห็นที่ 21   ส่วนตัวถ้าตั้งใจจะทำธุรกิจเอง เลือกจุฬาครับ...เพราะว่าสังคมใหญ่และคนส่วนใหญ่ในจุฬามีคุณภาพมากกว่า การทำกิจกรรมจะทำให้รู้จักคนในทุกสาขาอาชีพ ซึ่งต่อยอดทางธุรกิจได้ง่าย แต่ถ้ามันไม่ได้จุฬา ก็คงต้องเอแบค จากคุณ : plotinus เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 12:53:53

ความคิดเห็นที่ 22 คคห. 15 ครับ ทำไมคุณชอบตัดสินคนคนอื่นครับ "คุณเป็นพวกบ้าสถาบันโดยขาดสติหรือเปล่า คุณ elenote "คุณอ่านความคิดเห็นผมอันเดียวแล้วก็พูดออกมาแล้ว คิด ๆ บ้างก็ดีนะครับ สำหรับคนที่อ่านไม่แตกที่เขียนไปไม่ได้เชียร์เอแบคแบบหน้ามืดตามัว คนทั่วไปถ้ามีสองตัวเลือกและสามารถเข้าได้ทั้งสองสถาบัน อ่าน ๆ มาจาก คคห. ทั้งหมดก็ต้องเลือก CU อยู่เป็นส่วนใหญ่เพราะพร้อมกว่าจริงตาม คคห. ข้างต้นที่ว่ามา แต่มาเพิ่มให้เท่านั้นว่าเวลาจะเปรียบเทียบก็เปรียบเทียบกันดี ๆ ก็แค่นั้น มองให้ครบ ๆ แล้วผมจะมาบอกว่าคุณพูดเรื่องสถาบันการศึกษาอะไรทำไม ผมออกจะเห็นด้วยกับคุณเพราะคุณเป็นคนเดียวในกระทู้นี้ที่บอกว่าผ่านมาทั้งสองสถาบัน บอกแล้วครับ นาน ๆ เข้ามาตอบเรื่องสถาบันที่เรียนสักครั้ง อ่านข้อความให้ครบ ๆ ก็แล้วกันครับ ที่ผมบอกว่าพอเรื่องสถาบันก็ไม่จบ หมายถึงที่คุณบอกว่าบัญชีจุฬา ฯ บรา ๆๆๆ อีกท่านหนึ่งก็ยกบัญชีธรรมศาสตร์ ฯ บรา ๆๆๆ ข้องใจถามได้ครับ ผมจะต้องไปอ้างถึงคุณว่าคุณเป็นแบบไหน อะไรยังไง เพราะไงเราก็แค่มาแสดงความคิดเห็นกันในนี้แค่นั้น ที่บอกจิ๊ดอะไร ก็แค่ขำ ๆ ใครจะไม่ขำก็ว่ากันไม่ได้อยู่แล้วครับ เพิ่มเติมข้อมูลสำหรับ คคห. 19 ถ้าเป็นโปรแกรม BBA Inter ที่กล่าวถึงกันในกระทู้นี้ฐานะครอบครัวของผู้เข้าเรียนต้องดีเลยครับเพราะข้อมูลของปี 2010 ค่าใช้จ่ายประมาณปีละ 180,000 บาท (จากเว็บของคณะ ฯ) แก้ไข เพิ่มเติมข้อความ + แก้ไขคำผิด แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 16:46:04 แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 14:30:19 แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 14:14:44 จากคุณ : elenote เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 13:27:18

ความคิดเห็นที่ 23   FYI: Assumption University ต้นแบบ Business School ของไทย โดย สมศักดิ์ ดำรงสุนทรชัย see this web http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id จากคุณ : Phua Chu Kang เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 14:30:37 A:172.19.229.137 X:129.78.64.103 TicketID:195043

ความคิดเห็นที่ 24   see this web http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=3657 จากคุณ : Phua Chu Kang เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 14:34:04 A:172.19.229.137 X:129.78.64.103 TicketID:195043

ความคิดเห็นที่ 25   ไม่ต้องคิดมากหรอก เจ้าของกระทู้ เรียนจุฬาฯ ไปเลย สบายใจ ไม่มีปัญหา ส่วนผมจะเรียนเอแบคให้เอง ไม่ต้องห่วง ป.ล. เรื่องภาษาอังกฤษ ผมว่าเรียนอินเตอร์มีส่วนนะ สังเกตจะเด็กที่จบไป เวลาสัมภาษณ์ เรียนต่อโท หรือว่า เขียนหนังสือ เพราะถ้ามันจบมาได้แสดง ว่ามันพรีเซ้นท์หน้าห้องและเขียนตอบข้อสอบได้อย่างน้อย 10 หน้าขึ้นไป ป.ล. 2 ช่วง 5 ปีที่ผ่าน ๆ มา เริ่มมีกระแสเปรียบเทียบเอแบคกับมหาวิทยา- ลัยอื่น ๆ มากขึ้นนะ ตั้งแต่ ม.กรุงเทพฯ เกษตร มหิดล ธรรมศาสตร์ แล้ว ตอนนี้มาจนถึงจุฬาฯ แล้ว ไม่รู้ว่า เกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน และเขาต้องการ อะไรกันแน่ โดยส่วนตัวแล้วผมว่า เอแบคก็คือมหาวิทยาลัยเอกชนธรรมดา ไม่ได้แข่งกับใครเท่าไร (ไม่เน้นสื่อโฆษณามากมายโดยเฉพาะทีวีไม่มีเลย) อีกอย่างเด็กพวกนี้ก็มีสังคม หน้าที่การงาน ฐานะที่ ถึงไม่เก่ง ไม่ดีมาก แต่ก็ ไม่ลำบาก และแข่งกับใครอยู่แล้ว แล้วทำไมยังต้องผลักดันให้แข่งด้วย ผม ไม่เข้าใจเลย ผมก็ไม่เคยเห็นมหาวิทยาลัยเขาจะพรีเซ้นท์ว่าเขาจะมีศักดิ์ศรี ชาติวุฒิ ปรัชญาอะไรสูงส่ง ก็เน้นปริญญาตรีที่จบไปเพื่อทำมาหากิน แล้วก็ เป็นคนดีต่อสังคมแค่นั้นเอง ทำไมมันจะต้องอะไรกันมากมายขนาดนั้นน่ะ จากคุณ : ประพันธ์ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 15:27:21 A:10.10.25.127 X:203.113.119.124 TicketID:091427

ความคิดเห็นที่ 26 เราว่ามหาวิทยาลัยเป็นแค่ปัจจัยส่วนเดียวของคุณภาพการศึกษาที่ "ผู้เรียนจะได้รับ" คนเรียนม.เอกชน อย่างมกท. หรือเอแบค หรือจะเรียนจากม.รัฐเข้ายากๆอย่าง จุฬาฯ หรือ มธ. หากจะเก่ง ก็มีปัจจัยที่ว่า ระหว่างเรียนเขาตั้งใจและตักตวงแค่ไหน รวมถึงพื้นนิสัย พื้นความรู้เดิม ความตั้งใจ จริงๆแล้วอยู่ที่จขกท.จะคิดให้ดีๆ ในหลายปัจจัย การเดินทางเอย หรือความรู้สึกของเรากับครอบครัว และตัวเราในอนาคต อย่างหลายๆคนที่บอกว่าเลือกเอแบคเพราะมั่นใจ และเบื่อการศึกษาในมหาวิทยาลัยรัฐ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ซึ่งเราเองก็เคยคิดค่ะ (จะเอาทุน แต่อาจารย์ดันเอาทุนไปให้คนอื่น แล้วบอกว่า "ไงๆเธอคงสอบมหาวิทยาลัยรัฐได้อยู่แล้ว ให้คนอื่นเขาไปเถอะ" ) เราว่าเอแบคมันก็มีดีที่เรียนธุรกิจ และภาษา (ซึ่งอยู่ที่ผู้เรียนว่าจะกอบโกยแค่ไหน) ส่วน BBA ที่จุฬาฯ จากที่เราได้เรียนกับอาจารย์หลายๆท่านของภาคนี้ซึ่งจะสอนวิชาด้านธุรกิจและ IT/Information System ให้ภาค Communication Management ของนิเทศศาสตร์ ก็ขอบอกว่าอาจารย์คุณภาพดีมากๆ ภาษาอาจารย์ดี นิสิตมาจากโรงเรียนอินเตอร์ จบนอก หรือนักเรียนโรงเรียนไทยที่มีระดับภาษาดีมาก (จะต้องผ่านการสอบวัดความรู้ซึ่งเข้มข้นทีเดียว) และยังมีปริมาณนักเรียนแลกเปลี่ยนสูง ทุกสัปดาห์เราต้องมีเรียนวิชาของ BBA (เราเรียน Communication Management ของนิเทศ จุฬาฯค่ะ) ตอนนี้เราว่า BBA มันเจ๋งมากๆแล้ว คือพื้นฐานคณะเขาดีมาก (ทุนเขาหนาค่ะ หนามากๆ) สภาวะการเรียนเรียกว่ามันจูงใจให้เรียน ส่วนสังคมคนหนุ่มสาวเราว่าก็ไม่ต่างกัน คือมีคนที่เรียนๆๆๆ กับคนที่เรียนๆเล่นๆ แชทBB  อันนี้อาจจะเป็นเรื่องสามัญไปแล้ว ตึกอาจจะไปสวยงามแต่ข้างในก็มีประสิทธิภาพ (บอกแล้วเขาเงินหนา) ค่าใช้จ่าย เราจำไม่ผิด ค่าเทอมของที่BBA เทียบแล้วน่าจะสูงกว่าเอแบค (อย่างของเราเอง เรียนนิเทศอินเตอร์ สูงกว่าCommArt ของ ABAC อยู่หน่อยๆ คือหกหมื่นห้า รุ่นน้องตอนนี้น่าจะไปที่เจ็ดหมื่นแล้ว) แต่ของจุฬาฯจะไม่มีIntensive มากมาย คุณต้องถีบตัวเองมากๆเลยเพื่อให้สามารถเรียนมหาวิทยาลัยได้สบายๆ อย่างตอนเราเรียนใหม่ๆก็ต้องขยันมากกว่าตอนม.ปลาย โดยเฉพาะเรื่องภาษา อ่อ วิชาภาษาอังกฤษที่จะมีให้เรียนก็ไม่มากมาย มีเท่าที่จำเป็น ไม่ได้จับลงเรียนนั่นนี่ (เขาถือว่าผ่านเกณฑ์มาแล้ว และเด็กอินเตอร์มีศักยภาพภาษาสูงกว่าเด็กภาคปกติในปีเดียวกัน ดังนั้น "คงจะ"สามารถเรียนระดับสูงกว่าได้ อย่างเราโดนเรียนภาษาอังกฤษที่เป็นของพวกปีสองกันตั้งแต่ปีหนึ่ง ปีสาม และเข้มข้นกว่ามากๆ ใช้อาจารย์สถาบ้นภาษาที่เป็นต่างชาติ อยากบอกว่า ช็อคภาษาด้วยล่ะ ใช้เวลาเทอมกว่าๆ กว่าจะปลงตก และค่อยๆซึมอะไรเข้าหัวได้) ถ้าเรื่องความสะดวกสบาย จุฬาฯน่าจะได้เปรียบกว่ามากๆ (เว้นแต่ตอนนี้ที่ถ้ามีปิดถนน ปิดBTS MRT ก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว) ถ้าติดห้างก็มีห้างแวดล้อม (ตอนนี้เหลือแค่ MBK กับ จามจุรีสแควร์ แต่ก็มีเยาวราช สำเพ็ง และสามย่านใกล้ๆนะ สีลมก็ใกล้) เว้นแต่เรื่องจะเอารถส่วนตัวมาเรียนก็อาจจะลำบากเพราะที่จอดรถน้อย จากคุณ : kurika เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 17:53:55

ความคิดเห็นที่ 27   ถ้าเป็นเรานะ เราจะไม่เรียน จุฬา หรือ ธรรมศาสตร์ แต่ถ้าเรียนธรรมศาตร์ก็ต้องเรียนรังสิตเท่านั้น ลองไปถามเด็กจุฬาภาคอินเตอร์ดูสิว่าตอนนี่้เค้าเป็นยังไงกัน เด็กภาคไทยปิดเทอมกันแท้ๆยังต้องมามหาลัย ออกจากบ้านทีต้องคอยเช็คข่าว บางทีนั่งเรียนๆอยู่โดนไล่กลับบ้าน ปิดประตูมหาลัย วันดีคืนดีก็จะมีคนมาบุกมหาลัย เหอๆ และเหตุการณ์แบบนี้มันจะมีไปเรื่อยๆ อีกหลายปีด้วย ไม่มีวันจบ ขอฟันธงเลย และสังเกตุเลยว่าทุกครั้งมันต้องเกิดตอนภาคไทยปิดเทอม เพราะถ้าเปิดอยู่โดนด่าเละแน่ อินเตอร์มันเป็นชนกลุ่มน้อย จะปิด บีทีเอส ปิดใต้ดิน ปิดถนน อะไรก็ช่าง ถ้ามหาลัยไม่ประกาศปิดก็ต้องมาเรียนไม่งั้นเรียนไม่ทัน พ่อแม่ก็ต้องคอยลุ้นว่าลูกชั้นจะได้กลับบ้านมั๊ย จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 18:40:02 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 28   เอ่อ เพิ่งเห็นว่า จขกท กลัวเข้าภาคไทยไม่ได้ แต่คิดว่าเข้าอินเตอร์ได้แน่ๆ ส่วนมากคนที่เรียนระบบไทยมาแล้วเอ็นด้วย แบบพวกยื่นทั้งไทย+อินเตอร์ คือคนเด็กบีบีเอที่สอบเอ็นด้วยมักติดภาคไทยด้วย แต่ปีหลังๆเด็กจากโรงเรียนอินเตอร์มาเยอะขึ้นตั้งแต่ตัดระบบเอาคะแนน admission ของระบบไทยมาใช้ ส่วนที่ถามว่า แล้วถ้าสอบ CU-TEP และ CU-ATT ผ่านเกณฑ์แล้วเข้าได้เลยหรือไม่---คะแนนต้องไปแข่งกันอีกทีนะ CU-AAT ระยะปลอดภัยน่าจะเกือบๆ 1200 แล้ว ถ้าต่ำกว่า 1100 โอกาสได้ต่ำมาก ส่วน CU-TEP แค่ผ่านก็พอจ้า เสร็จแล้วก็สอบสัมภาษณ์ ซึ่งถ้าพูดอังกฤษได้และไม่เอ๋อส่วนมากก็ผ่าน แต่ยังคงยืนยังว่าเพื่อความปลอดภัยไปเรียนนอกเมืองดีกว่าเน้อ ต่างจังหวัดได้ยิ่งดี เพราะขณะนี้ย่านที่เจริญที่สุดมันกลายเป็น..... จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 19:08:04 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 29 เราจบBBA เอแบคมาสามปีแล้วค่ะ... ในขณะเดียวกันก็มีเพื่อนจบจาก BBA จุฬาอินเตอร์ หลักสูตรของจุฬา เทียบกับเอแบค จุฬายังอ่อนกว่ามาก เพราะเพิ่งเปิดใหม่ เด็กจุฬาเองยังงง วิชาปีสองของเอแบคบางวิชา เท่ากับวิชาเมเจอร์ของเค้าเลย (ถ้าได้เรียนแล้วจะรู้ว่าวิชาอะไร) พอเรียนจบจากเอแบค ได้เข้ามาตลาดแรงงาน ยอมรับเลยว่า เค้าเรียก สกรีน เด็กจุฬาผ่านก่อน ชื่อสถาบันมาก่อนโดยไม่ได้ดูหรอกว่าเป็นหลักสูตรอินเตอร์หรือเปล่า เรียกว่าเป็นใบผ่านทางได้ดีกว่าเอแบคเยอะค่ะ ถ้าให้แนะนำอยากให้เจ้าของกระทู้เรียน จุฬามากกว่า ง่ายกว่า แถมชื่อเสียงนี่ล่ะ ใบเบิกทางอย่างดี ที่รู้ว่า เพราะฝ่ายบุคคลแต่ก่อน ขยันรับเด็กจุฬา เหลือเกิน จนหลังๆต้องไปบอกเค้าว่าไม่เอาเด็กจุฬาแล้ว สมัครงานมาทำงานแค่ผ่านๆ ฝันว่าจะเรียนต่อ ทำงานผ่านๆ งานไปวันๆ เราก็เซ็นไม่ผ่านโปรไปหลายคน เด็กพวกนั้นถ้ารู้ว่าเราจบจากไหนคงกรี๊ดๆ อยู่เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 19:52:51 จากคุณ : giang_au (giang_au) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 19:39:36

ความคิดเห็นที่ 30   คห.29 เราอ่านแล้วขอเข้ามาชี้แจงนิดนึง ไม่ได้จะว่าสถาบันไหนแค่ไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิด เรื่องหลักสูตร คือคุณก็จบไปตั้ง 3 ปีแล้ว จุฬาก็ปรับหลักสูตรไปหลายครั้ง มากกกก และจะปรับอีกปีหน้า จวบจบปัจจุบันรุ่นล่าสุดเค้าก็ห่างจากคุณ 7-8 ปีแล้วเน้อ (ไม่เรียกว่าพึ่งเปิดใหม่แล้วนะเราว่า)สังคมเด็กบีบีเอจุฬา ตอนนี้กับตอนนั้นมันคนละอย่างกันเลยทีเดียว เมื่อก่อนเด็กจากโรงเรียนไทยเยอะมาก เดี๋ยวนี้น้อยมาก ถ้ามีจะเป็นเตรียมอุดมส่วนใหญ่ ส่วนมากเป็นเด็กโรงเรียนอินเตอร์ หรือเด็กมาจากเมืองนอก คุยกันเป็นภาษาอังกฤษ แล้วที่ฟังแล้วดูแปลกๆนิดนึงเพราะเมื่อก่อนจุฬาอินเตอร์มี 2 เมเจอร์ คือ บัญชี กับ บริหารระหว่างประเทศ ซึ่งบริหารระหว่าประเทศจะเรียนโน่นนิดนี่หน่อยอยู่แล้ว ไม่เจาะลึกซักวิชาอยู่แล้ว ดังนั้นเมเจอร์นี้จึงไม่น่าจะใช่ที่คุณบอก จึงไปตกเมเจอร์บัญชีแทน ซึ่งจุฬาเรียนวิชาบัญชีหลักๆเหมือนภาคไทยทุกประการ เค้าเรียนถึงขั้นนสูง1-2 ถ้าเอแบคเรียนขนาดนี้ตั้งแต่ปี 2 แล้วปี3 ปี4 เรียนอะไรกัน สงสัย เอาจริงๆเรื่องหลังสูตรไปดูรายวิชาหลักๆจะเหมือนภาคไทย เรียนที่เดียวกัน ถ้าครูคนไทยก็เซทเดียวกันอีกต่างหาก เราเลยงงเลยทีเดียวที่ว่าหลักสูตรภาคอินเตอร์ของจุฬาอ่อน แต่หลักสูตรภาคไทยแข็ง....ทั้งๆที่มันคล้ายกันมากกก ชะเองเอย จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:38:51 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 31 เด็กเอแบคค่ะยังเรียนอยู่ปีสามละ เรียนที่เอแบคเพราะว่าได้ทุน ไม่มีความรู้อะไรกับจุฬาเท่าไรเลย เพราะไม่ได้สนใจมากนัก แนะนำคุณน้องว่าเอแบคสอนพื้นฐานธุรกิจรอบด้าน เหมาะสมยิ่งถ้าคุณจะเป็นเจ้าของกิจการส่วนตัว เพราะสอนทุกภาคส่วนไฟแนน มาร์เกต มาร์เนจ บัญชี คือปีหนึ่งปีสองเนี่ยจะต้องเรียนพื้นฐานธุรกิจครอบไปหมดเลยค่ะ ปีสามแล้วถึงจะเรียนวิชาเอกอย่างเจาะลึก บางทีก็ลึกมากจนถึงขั้นยากทีเดียวละ ที่บอกว่าเด็กเอแบคไม่ค่อยมีสังคมเนี่ยเพราะว่ามหาลัยไม่บังคับให้คุณต้องทำกิจกรรมอะไรเลย แต่ถ้าคุณขยันทำกิจกรรมคณะ ทำชมรมทำค่าย คุณก็จะมีสังคมที่อบอุ่น(แดดแรงจ้ากลางทุ่งนา)เลยละค่ะ เดี้ยนไม่ทราบว่าจุฬาเรียนแบบไหนอย่างไร รู้แค่ว่าถ้าเรียนอินเตอร์เทอมจะนับผิดปกติจากชาวบ้าน ภาคไทยปิดเทอมภาคอินเตอร์เปิดเรียนประมาณนี้ค่ะ ถ้าคุณน้องมีปัญญาเข้าจุฬาได้ก็แนะให้เลือกจุฬาก่อน เพราะชื่อเสียงหนึ่งละ วิชาการที่ต้องดีแน่อยู่แล้ว และสังคมที่ดีกว่าเอแบคมาก ที่สำคัญไม่ได้มีเงินถึงจะเข้าได้ค่ะ จากคุณ : กะเทยเอแบค (kingofearth) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:41:26

ความคิดเห็นที่ 32 BBA inter ของจุฬาฯ กพ.ไม่รับรองหลักสูตร BBA inter ของเอแบค กพ.รับรองหลักสูตร จากคุณ : boy_mc_carey เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 22:59:06

ความคิดเห็นที่ 33   คห.31 อินเตอร์ของจุฬา จะเปิด-ปิดเทอมตามแบบอเมริกาจ้า เพราะหลายๆประเทศเป็นแบบนั้น ต้องรองรับเด็ก exchange และเด็กจบนอกด้วย ขณะนี้เด็กอินเตอร์ก็เลยต้องเสี่ยงชีวิตไปมหาลัยอยู่ TT เด็กต่างชาติก็อยากกลับประเทศใจจะขาดเพราะกลัว คห.32 ไม่เคยได้ยิน ไม่รู้จริงรึเปล่านะ แต่เวลาเรียนต่อยูดังๆที่เมืองนอกหรือทำงานไม่เคยเห็นใครมีปัญหานะ พวกเมเจอร์บัญชีก็สอบ cpa ได้ปกติ เราคิดว่า กพ น่าจะรับรองนะ แต่ถ้าไม่รับรองจริงๆก็ไม่ต้องกลัว เพราะทำทุกอย่างได้เหมือนภาคไทยแต่ได้เปรียบตรงภาษา แต่พวกเก่งเทพๆมักอยู่ภาคไทยเป็นส่วนมากนะ จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 23:21:16 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 34 ค.ห. 28 เราไม่รู้อ่ะครับว่าภาคไทยเข้าง่ายกว่าภาคอินเตอร์ ^ ^ เพราะเราฟังมาจากพี่สาวที่จะเข้าจุฬาปีเดียวกับเราบอกว่า ภาคไทยเข้ายากกว่าอินเตอร์นะ เราก็เลยคิดตามพี่ว่ามันคงเข้าง่ายกว่าภาคไทย ถ้าเราฟิตสอบ cu-tep ,cu-att อ่ะครับ : ) แต่เพราะที่บ้านอยากให้เข้าอินเตอร์คงต้องพยายามอย่างมากๆแน่ๆถ้าจะเข้าจุฬาให้ได้ T T ก็เครียดๆอยู่เหมือนกันครับ : ( เพราะที่บ้านถ้าบอกจะเข้าเอแบคคงดุเราจนหูชาแหงๆเลย : O เพราะใจจริงแล้วผมก็อยากเข้าเอแบคน่ะครับ บางคนอาจคิดว่าเอ้า ! แล้วมาถามทำไมอยากเข้าก็เข้าไปดิ 55 คือถ้าทุกคนบอกว่า จุฬา เข้าไปเถอะดีอยู่แล้ว ผมก็จะได้ฟิตเข้าจุฬาก่อนถ้าเข้าไม่ได้ก็คงไปเอแบค : ) ไม่รู้ว่าความคิดของผมทำให้งงๆกันรึเปล่า เพราะผมเองก็งงเหมือนกันว่าผมคิดอะไรอยู่ 555 ยังไงก็ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ : ) * 555 อาจจะงงเอ้่า จขกท ไม่ได้ล็อคอินแล้วแสดงความคิดเห็นได้ไง ผมไม่เคยเล่นบอร์คพันทิปนึกว่ามันโพสโดยไม่ต้องล๊อคอินก็ได้ 55 เพราะยูสเซอร์นี้ เป็นยูสเซอร์ของพ่อผมเองอ่ะครับ 555 แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 23:34:10 แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 53 23:33:47 จากคุณ : จขกท แต่ไม่ได้ล๊อคอินครับ (ruth13) เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 23:29:24

ความคิดเห็นที่ 35   ปล ถ้าจขกท ไม่อยากอยู่จุฬาก็บอกพ่อแม่ไปสิ ว่ากลัวเหตุการรุนแรงบริเวณนั้น555 ส่วนมากเด็กที่อยู่จุฬาอินเตอร์จะไม่มีความคิดแบบ จขกท เลยอะ ส่วนมากเป็นพวก จุฬาเท่านั้นๆๆ แบบสมัครมันทุกคณะที่เป็นจุฬา หลายๆคนไม่ยื่นธรรมศาสตร์เลยด้วยซ้ำ เอแบคนี่ไม่มองเลย พวกนี้คะแนนสอบสูงๆทั้งนั้น ได้ยู top เมืองนอกก็มีเยอะแยะ แต่พ่อแม่อยากให้ลูกเข้าจุฬาไง พวกนี้ก็เผลอดูถูกมหาลัยชาวบ้านเขา เลยโดนคนอื่นหมั่นไส้ไง ถ้าถามข้อมูลจากคนพวกนี้จะบอกว่าจุฬาดีหมด อย่าไปฟังมาก หลักสูตร การเรียนการสอน ครู ของจุฬาไม่แย่นะ(ครูสอนไม่รู้เรื่องบางคนซึ่งเราคุยกะเพื่อนที่เรียน มธ. หรือ มหิดล มันก็มีเหมือนกัน) รับประกัน แต่ที่อื่นอาจจะดีกว่าเราก็ไม่รู้เพราะไม่เคยไปเรียนกับเค้า ครูไทย-ฝรั่ง ประมาณครึ่งๆ ถ้าเรียนบัญชีครูไทยเยอะกว่า เรียนบริหารระหว่างประเทศฝรั่งเยอะกว่า ครูสูงอายุหลายคนสำเนียงไทยฟังยาก ครูรุ่นใหม่สำเนียงดี ครูฝรั่งสอนดีกว่าเมืองนอกหลายคนอยู่ กิจกรรมมีให้ทำเยอะแยะมากมายขึ้นอยู่กับว่าจะทำรึเปล่า มีทั้งวิชาการและกิจกรรมคณะ จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 23:41:13 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่รู้จริงรึเปล่านะ แต่เวลาเรียนต่อยูดังๆที่เมืองนอกหรือทำงานไม่เคยเห็นใครมีปัญหานะ ขยายความให้ การที่กพ.ไม่รับรอง ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะสอบบรรจุเข้ารับราชการได้ สาเหตุของการไม่รับรอง ต้องไปดูตามกฏสกอ. ซึ่งปัจจัยถ้าไม่ครบตามคุณภาพที่กำหนด ก็ไม่รับรอง ซึ่งส่วนมากของมหาวิทยาลัยของรัฐที่ไม่ผ่านการรับรอง คือมีสายสอนไม่ครบตามจำนวน หรือมีคุณวุฒิสายสอนไม่ตรงตามกำหนด ส่วนเอกชน และพนักงานเงินรายได้ของรัฐมักไม่สนใจจุดนี้ หลายๆคนจบยูดังจากเมืองนอก แต่เป็นสาขาห้องแถว ซึ่งในม.ของรัฐมีโดนปลดออกจากราชการแล้วหลายคนอยู่ ต้องตรวจสอบกันอย่างดี และถี่ถ้วนทีเดียว จากคุณ : boy_mc_carey เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 23:46:57

ความคิดเห็นที่ 37   โอๆ เราไม่ได้ขนาดฟันธงว่าภาคไทยเข้าง่ายกว่าน้า คือบีบีเอมันรับคนน้อยกว่าด้วยไง (เมื่อก่อน)คิดดูรับ 100 เด็กที่เอ็นเข้า ได้โควต้า 50 คนเอง คะแนนต่ำสุดสูงกว่าภาคไทยเลยล่ะ แต่ปีหลังๆมันใช้ CU-TEP กับ CU-AAT และ SAT เท่านั้นไง เลยเทียบกันบ่ได้ เด็กรุ่นหลังเลยเป็นอินเตอร์กับเด็กจบนอกเยอะอะ อ่อ ที่เราบอกว่า ระยะปลอดภัยอยู่ 1200 อะ ไม่แน่ใจว่าเฉพาะ SAT รึเปล่า คือ CU-AAT จะคะแนนสูงกว่าอะเพราะคนสอบเยอะ ค่าสอบมันถูกกว่า เค้าแยกกันคิดด้วย แต่รุ่นล่าสุดไม่รู้เข้าง่ายขึ้นนิดนึงรึเปล่าเพราะรับคนมากขึ้นนิดนึงอะ แล้วนี่สรุป จขกท ยังไม่ได้สอบหรอเนี่ย ลองไปสอบดูก่อนค่อยมาเครียดดีกว่านะเราว่า คือ สำหรับเด็กที่เรียนโรงเรียนไทยมาอะนะ SAT 1100 ก็หืดขึ้นคอแล้วอ่า เพราะอังกฤษยากมากมาย ถ้าไม่เก่งเลขไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะไม่มีคะแนนมาช่วย คือถ้าโง่เลขนี่ไม่ต้องไปสอบเลยเอาง่ายๆ คะแนนรุ่นหลังๆขึ้นจนรุ่นพี่ๆตกใจเลยว่าง่ายๆ คะแนนสูงกว่าบีบีเอธรรมศาสตร์อีก(แต่ไม่ได้หมายความว่ามันดีกว่า คือมันเป็นจุฬาไง เหอๆ) ระบบการคัดเลือกรุ่นใหม่ ถ้าไม่เก่งอังกฤษระดับหนึ่ง เข้าไม่ได้แน่นอน จะบอกว่า CU-TEP ก็ไม่หมูนะ เด็กโรงเรียนไทยปกติเฉลี่ยสอบได้ไม่เกิน 450 ด้วยซ้ำ (เค้าเอา 550 ) แต่ถ้าเก่งอังกฤษก็สบายไป (แต่ก็ต้องเก่งวิเคราะห์กับแกรมม่าด้วย เพราะมีบางคนไปเรียนม.ปลายเมืองนอกมา3ปี สอบไม่ผ่าน เหอๆ) จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 23:56:19 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 38   คห.36 ไม่ได้กวนนะแต่คือเราไม่มีความรู้เรื่องนี้เท่าไหร่ เลยสงสัย คือถ้า กพ.ไม่รับรองก็ไม่น่าสอบ cpa ได้ไม่ใช่หรอ เราว่า กพ.น่าจะรับรองนา แล้วยูเมืองนอกที่เค้าไปกันมันก็ไม่ใช่ยูห้องแถวด้วย เราเห็นเค้าจบไปทำงานสถานฑูตกันบ้าง ทำงานแบงค์ชาติบ้าง ไม่รู้เรียกว่ารับราชการป่าว ก็เห็นมีไปกันหลายคนอยู่ จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:02:12 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 39   ผมขอมาพูดบ้างได้มั้ยครับ ผมแปลกใจว่าทำไมเราจะต้องมาทะเลาะกันเรื่องสถาบัน แทนที่เราจะมานั่งคิดพัฒนาประเทศ มีน้ำใจกันซึ่งกันและกัน แข่งขันกับตัวเองให้มากขึ้น บ้านเมืองเราทุกวันนี้มันไม่น่าอยู่แล้วนะครับ เหตุบ้านการณ์เมืองหลายคนก็ทราบกันอยู่ แต่เรายังจะมานั่งทะเลาะอีก ผมเองเห็นแล้วก็ไม่สบายใจ ทำไมเรายังจะมานั่งทะเลาะกันเรื่องสถาบันการศึกษา ทุกสถาบันการศึกษาก็มุ่งเน้นที่จะสอนให้ทุกคนมีวิชาความรู้ ถามว่าเราเรียนไปเพื่ออะไร? คำตอบของทุกคนก็คือ เข้าสู่ตลาดแรงงาน ยกเว้นพวกที่อยากเป็นอาจารย์หรืออยากเป็นนักวิจัยส่วนน้อยไม่นับนะครับ เอากันแบบส่วนใหญ่ ประเทศเราก็ทะเลาะกันมามากพอแล้ว แต่ทำไมเยาวชนของชาติมาทะเลาะกันอยู่ แล้วไม่เข้าใจว่าทำไมชอบเอาไปเปรียบเทียบกันจัง ก็รู้อยู่ว่าคนเรียนจุฬาก็ชอบคิดว่าเป็นมหาลัย (ที่เค้าว่า) เป็นอันดับ 1 เอแบคก็ชอบนึกว่าเป็นมหาลัยเอกชนที่ (ทึกทักเองว่า) ดีที่สุด ผมเองไม่ได้เรียนทักสองที่หรอก ขอเป็นกลางล่ะกัน ไม่อยากให้คนไทยมาทะเลาะกัน มันน่าปวดหัวมากพออยู่แ้ล้ว ในความคิดผมทั้ง 2 สถาับันเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียง ตลาดแรงงานให้การยอมรับ คนเรียนจุฬาีที่ทำงานบริษัทดัง ๆ มีเยอะแยะ แต่พวกไม่ได้เรื่องก็มี เฉกเช่นเดียวกับเอแบคก็มีทั้งที่เก่งและไม่เอาไหน (บ้านรวย) เอาเป็นว่า จะว่าไหมที่ผมจะขอพูดบ้างในฐานะคนกลาง ที่เจอเรื่องดี ๆ และเลว ๆ ในแต่ละสถาบัน จุดประสงค์ที่ผมอยากจะพูดเพราะว่า ไม่มีที่ไหนดีที่สุด ทุกที่มีดีและเลวปะปนกันไป ซึ่งผมเองเรียนจบมาก็มีเพื่อนทั้งเอแบคและุจุฬา พอเรียนจบมาทำงานก็มีทั้งเอแบคและจุฬา ทำไมผมจะไม่รู้ ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็รู้ว่าทุกที่ไม่มีที่ไหนดีที่สุด แต่จุดประสงค์ของทุกสถาบันก็คือ มุ่งมั่นให้ความรู้กับนักศึกษาทุกคน เพื่อไปใช้ในการประกอบอาชีพ คนเราเกิดมามีพ่อ มีแม่ เราจงภูมิใจที่ได้เรียนหนังสือ และไม่ไปทำเรื่องร้าย ๆ กับใคร ไม่ไปปล้นไปจี้ก็พอ (หรือคนอื่นกำลังจะมองว่าผมหลอกตัวเอง ไม่ได้เรียนสองที่นี้ล่ะสิ ทำมาเป็นพูดดี) ในวงเล็บไม่เลยครับ ผมแค่พูดในฐานะคนกลางคนนึงที่เจออะไรด้วยตัวเอง ผมจะยกตัวอย่างด้านดี ๆ ของจุฬาก่อนล่ะกัน ข้อดีของจุฬา - ขึ้นชื่อว่าจุฬา สังคมทั่วไปมองว่าเป็นมหาลัยที่เก่าแก่ ถูกสร้างขึ้นมาโดยเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน มีมาเป็นร้อย ๆ ปี แต่ก่อนคนที่เรียนที่นี่ได้ จะเป็นพวกขุนน้ำขุนนาง ผู้ดีเก่า ผู้รากมากดีต่าง ๆ สังคมไทยสมัยโบราณปลูกฝังกันมา "ให้เรียนเยอะ ๆ จะได้เป็นเจ้าคนนายคน" สมัยก่อนไม่มีหรอก ม.เอกชนอะ พวกคนใช้ คนที่ไม่มีการศึกษาอย่าได้ไปย่างกรายหรือไปแตะเนื้อต้องตัวของเหล่าบรรดาขุนน้ำขุนนาง ผู้ลากมาดีนะ มันคนละชั้น นั่นคือสังคมไทยสมัยก่อน และนี่ก็เป็นสิ่งที่คนไทยยังยึดติดกันมา แต่ทุกวันนี้มันก็เริ่ม ๆ เลือนหายไป แต่ก็ยังมีคนคิดอยู่ - จุฬาเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย ก่อตั้งมานาน ใคร ๆ ก็อยากเข้า สังคมมองว่าเป็นมหาลัยที่คนเก่ง ชอบไปเรียน เพราะจะได้งานการทำดี ๆ เนื่องจากบริษัทห้างร้านต่าง ๆ เจ้าของต่างก็จบจุฬา อยากรับรุ่นน้องเข้าไปทำงาน นี่เป็นข้อดีของเด็กที่นี่ พ่อแม่ก็อยากให้ลูกไปเรียนติว สอบเข้ากันเยอะ ๆ - จุฬาสำหรับผมก็เป็นสถาบันที่ดีแห่งนึง ที่มีคุณภาพการศึกษาที่ดีมาก ๆ ใคร ๆ ก็อยากเข้าไปเรียน เป็นมหาลัยที่เค้าว่ากันว่าชั้นนำ ซึ่้งอืมมม ผมก็เห็นด้วย ก็เห็นเด็กไปติวกัน ผมก็เชื่อว่าจุฬาเป็นมหาลัยที่ดีแห่งนึง ที่คนอยากเข้าเรียน มาดูของเอแบคกันบ้าง ข้อดี - สำหรับผม ในความคิดส่วนตัว เอแบคเป็นมหาวิทยาลัยหนึ่งก็ดีเหมือนกัน ไม่ต่างจากจุึฬา แล้วก็เป็นมหาลัยที่ผมคิดอยากจะไปเรียนตอบจบ ม.ปลายใหม่ ๆ ตอนนั้นลังเล สรุปแล้วก็ไม่เรียน เพราะมีปัจจัยอื่น ๆ - การไปเรียนที่เอแบค คุณจะได้ไปเจอสังคมที่ผมคิดว่าเปิดกว้างมาก ๆ คุณจะได้ connection ที่ดีมาก ๆ แนะนำกันไป เนื่องจากหลายคนเป็นลูกคนมีตังค์ ลูกคนรวยทำธุรกิจต่าง ๆ ก็เป็นสิ่งที่ดี สำหรับเพื่อน ๆ ที่ฐานะไม่ดีเท่า แต่อยากได้งานทำ เพื่อน ๆ มันก็ช่วยกันไปทำงานบริษัทอะไรแบบนี้ ในความเห็นผมนะ - ที่เอแบค สื่อการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ แน่นอนเด็กที่ไปเรียนที่นั่นก็ได้เรียนหลักสูตรอินเตอร์ มันเป็นสิ่งที่ดีที่จะได้เรียนภาษาอังกฤษ มันง่ายในการที่จะหางานทำ เพราะเดี๋ยวนี้ภาษาอังกฤษมีความสำคัญมาก ๆ จากมุมมองของผมเอง สำหรับผมจุฬาเป็นมหาวิทยาลัยที่จริง ๆ แล้วเป็นมหาวิทยาลัยที่จำกัดคนเรียน ถามว่าถ้าเค้ารับคนเรียนทั้งประเทศ จะเอาสถานที่ที่ไหนให้คนไปนั่งเรียน เค้าเลยต้องคัดและแยกให้คนได้เข้าไปนั่งเรียน ผมมองว่านี่คือจุดประสงค์ของจุฬา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่สอบเอนท์ไม่ผ่านแล้วไปเรียนจุฬา จะไม่สามารถเรียนได้ นี่เป็นมุมมองผม เอแบคก็เป็นอีกมหาลัยหนึ่งที่ผมเองยอมรับมาตั้งแต่แรกว่าจะเรียน ผมอยากเรียนที่นี่มาก ๆ เพราะผมเชื่อว่าเอแบคก็เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีอีกเช่นกัน เพราะโดยส่วนตัวผมชอบภาษาอังกฤษอยู่แล้ว อีกอย่างผมชอบสังคมที่เอแบคมาก ๆ ผมจึงอยากเรียนและเป็นมหาวิทยาลัยที่ผมฝันใฝ่ที่จะเรียน โดย ณ ตอนนั้นผมเองไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าเอนท์ทรานซ์คืออะไร รู้แค่มีมหาลัยไม่กี่ที่ในเมืองไทย อันนี้เรื่องจริง ผมรู้จักจุฬา รู้จักธรรมศาสตร์ แต่ผมไม่ทราบว่าเค้าเป็นมหาลัยที่ (คนทัวไปคิดว่า) 1 ของเมืองไทย กลับกัน ผมคิดว่าเอแบคเป็นมหาลัยที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับ 1 เสียอีก จนพอมาทำงานถึงได้เพิ่งจะมารู้จักการเอนท์และจุฬามากขึ้น อันนี้มุมมองผมและประสบการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ตอนผมเด็ก ๆ จนโตแล้วได้รู้อะไรต่อมิอะไร ผมไม่อยากให้คนมาทะเลาะกันด้วยเรื่องแบบนี้ แต่อยากให้คนไทยมารักกันพัฒนาตัวเองและประเทศชาติ ทั้ง 2 สถาบันก็มีเรื่องแย่ ๆ เหมือนกันหมด ผมบอกข้อดีไปแล้ว ผมจะบอกข้อไม่ดีบ้าง ถ้ารับไม่ได้ก็เชิญด่ากันตามสบาย เพราะผมถือว่าผมได้พูดแบบเป็นกลางแล้ว จุฬา - จุฬาผมมองว่าไม่ได้ดีไปกว่าที่อื่นสักเท่าไร ก็เป็นเพียงมหาลัยนึง ที่อย่างที่ได้กล่าวไปว่ามันเป็นมหาลัยที่คนอยากเข้า เพราะสังคม การปลูกฝังมานมนาน ถามว่าคนทั้งประเทศไทยเค้าไปเอนท์หรือไปแอดมิชชั่นกันมั้ย ผมเชื่อว่าไม่ ผมเองไม่เคยเรียนวิชาที่เค้าจะต้องเอาไปสอบเอนท์ คือผมยกตัวอย่างตัวผมเอง ผมก็เลยไม่ได้ถูกปลูกฝังมาให้ต้องเอนท์ กอปรกับที่บ้านและสังคมที่ผมอยู่ตอนเด็ก ๆ (เมืองไทยเนี่ยแหละ) ไม่ได้ถูกปลูกฝังกันให้เอนท์ ผมเลยไม่รู้จัก คนที่แข่งขันกันไปสอบนั้นก็เป็นเด็กที่อยู่ในระบบกันส่วนมาก แต่ถามว่ามันมีอีกส่วนมากอื่นเหมือนกัน ที่เค้าไม่ได้เรียนมาทางนี้ ผมมองว่ามันเป็นการที่ไม่ยุติธรรมของสังคมไทยที่จะมองเด็กเอนท์ติดจุฬาแล้วบอกว่าเก่ง มันไม่ยุติธรรมเลย แล้วไงล่ะเด็กที่เค้าอยากเรียนพาณิชย์จริง ๆ ล่ะ เด็กช่างที่อยากเรียนช่างจริง ๆ ล่ะ เค้าได้เข้ามาอยู่ในระบบนี้รึเปล่า ก็ไม่ กลับกลายเป็นว่าสังคมมองพวกเค้าโง่ เพราะไม่ได้เข้าจุฬา แต่ถามสังคมหน่อยสิครับว่าจุฬามีพิ้นที่เพียงพอให้คนทั้งประเทศรึเปล่า ก็ไม่ แล้วคนที่เข้าไปแล้วอยากเอนท์จุฬามันครอบคลุมคนเรียนหนังสือทุกคนรึเปล่า ก็ไม่อีก ข้อสรุปนี้ผมจึงมองว่ายังไงมันก็ไม่แฟร์สำหรับหลาย ๆ คน ที่มองไปว่าคนเรียนจุฬาคือคนเก่ง เว้นแต่อย่างที่ผมบอกเพราะสังคมไทยปลูกฝังกันมานาน - เวลามหาวิทยาลัยอื่นเค้าประกวดการแข่งขันอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะมหาลัยเอกชน ผมถามสังคมนิดนึงว่า เคยได้ออกทีวีรึเปล่า เคยได้รับการลงหนังสือพิมพ์บ้างมั้ย (มันก็มีแต่แค่จิ๋มมด) คนในสังคมเคยยกยอเด็ก ม.เอกชนที่สร้างผลงานรึเปล่า หรือแม้กระทั่งเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน (ผมรักพระเทพมาก แต่ขอนิด) ท่านเสด็จเยื่อนแต่จุฬา แต่ท่านเคยไปมหาลัยเอกชนรึเปล่า ท่านให้ทุนแต่เด็กจุฬา ท่านเคยให้ทุนกับเด็ก ม.เอกชนรึเปล่า ทุกวันนี้มันน่าน้อยใจนะ ผมเองเรียน ม.เอกชนผมก็น้อยใจ ที่น้อยใจเพราะว่าสังคมเรายังเป็นแบบนี้อยู่ แต่ไ่มใช่ว่าไม่ให้เพราะไร้ความสามารถ แต่เป็นเพราะสังคมอีกนั้นแหละ ทำไมเวลาจุฬาได้รับรางวัลก็ทำข่าวซะใหญ่โต (ขนาดมหาลัยรัฐอื่น ๆ ก็หมั้นไส้ หรือว่าไม่จริง) คนที่อยู่ในแวดวงการศึกษาก็ต่างออกมาดีอกชกใจ กลับกันมหาลัยอื่นหรือแม้แต่ ม.รัฐแนว ๆ ลาดกระบัง ที่เค้าทำผลงานกลับไม่เป็นข่าว ก็สังคมอีกนั่นแหละ มันลำเอียง - จะมีสักกี่คนในประเทศไทยที่รู้ว่า ว่าหนังค่าย GTH หลาย ๆ เรื่องเป็นผลงานของเด็ก ม.กรุงเทพ ละครเวทีต่าง ๆ หลาย ๆ เรื่อง "กินรีสีรุ้ง" ม.กรุงเทพทำมาแล้วหลายเวอร์ชั่นมาก เป็นละครเวทีที่เป็นโปรเจคเพื่อแค่ส่งอาจารย์ก่อนจบเท่านั้นเอง แต่พอจุฬามาเอาไปทำ กลับดังซะงั้น เอาหนังเค้ามาแล้วเอามาทำเป็นการค้า ใช้ของเค้า แต่ตีตราเป็นของตัวเอง แกรมมี่ จีทีเอช พวกบอสใหญ่ ๆ จุฬาทั้งนั้นก็ได้หน้ากันไป ถามต่อไปว่าจุฬาเคยให้เครดิตเค้ารึเปล่า เคยบอกสังคมให้รู้ไหมว่าหนังเรื่องนี้ละครเรื่องนี้ที่มา มันมาจากไหน ใครเป็นคนคิดก่อน แต่คนส่วนใหญ่มารู้แค่ว่า "อ่อ่อ่อ ของจุฬา ค่ายจีทีเอช มันเป็นของจุฬา" อย่างที่เกริ่นไปสักครู่ว่าผมก็มีเพื่อนจุฬา แต่เป็นเพื่อนแนว ๆ เที่ยว เป็นเพื่อนของเพื่อนที่ผมรู้จักมาอีกที แล้วก็ไปเที่ยวด้วยกัน สนิทกันด้วย ผมเห็นการใช้ชีวิตของเค้าในแต่ละวันอยู่กับผู้หญิง บาร์ เที่ยว ไม่เรียนหนังสือ โทรถามเพื่อนว่าอาจารย์เช็คชื่อรึเปล่าแล้วบึ่งรถไป เพื่อไปเช็คชื่อ แต่เพื่อนผมเองก็สามารถเรียนจบออกมาได้ กลับกันเอแบคในแต่ละปีมีคนโดนรีไทร์กันเป็นว่าเล่น อันนี้ผมก็ยังหาคำตอบไม่ได้ แต่ถ้าใครจะเข้ามาว่า "โดนไทร์ไม่โดนไทร์ไม่ได้หมายความว่าจะมีคุณภาพ" ก็แล้วแต่ ใครอยากหาข้ออ้างไปเรื่อยก็เอา - พูดถึงคณะยอดฮิตของวัยรุ่นอย่างนิเทศศาสตร์บ้าง สังคมจะมองแบบนี้ นิเทศจุฬา วารสารศาสตร์ธรรมศาสตร์ นิเทศ ม.กรุงเทพ ผมขอถามหน่อยว่าทำไม ทำไมแบบว่า ม.กรุงเทพ นิเทศจุฬา วารสารศาสตร์ธรรมศาสตร์แบบนี้ หรือวารสารศาสตร์ ม.กรุงเทพ นิเทศจุฬา หรือนิเทศจุฬา ม.กรุงเทพ และวารสารศาสตร์ ไม่ได้หรือ ทำไมอะไร ๆ ก็ต้องจุฬามาก่อน ผมรู้สึกว่าสังคมชอบมองอะไรด้านเดียว พอเห็นจุฬาเค้าดัง สังคมสมัยก่อนยอมรับ ก็มองไปต่าง ๆ นานา อันนี้ผมไม่อยากพูดกลัวเป็นประเด็น แต่ขอพูดแบบเป็นกลาง เพราะผมได้เอ่ยยไปแล้ว อีกอย่างหากผมจะบอกว่า ม.กรุงเทพเป็นมหาลัยที่เก่งทางด้านนิเทศเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย มันจะกลายเป็นประเด็น ซุบซิบ และไม่ยอมรับกัน แ่ต่จะมองไปว่าจุฬาล่ะ จุฬาก็ดีกว่านะ อะไรทำนองนี้ - ผมเคยมีเจ้านายคนนึงแกก็จบจากจุฬา แต่ปริญญาโทนะ แกไม่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้เลย แม้แต่คำง่าย ๆ เอาเป็นว่าแกไม่รู้ศัพท์ภาษาอังกฤษเลยยยสักตัว ถ้าจะบอกว่าไม่รู้เลยสักตัวมันก็ดูเวอร์ไป เอาเป็นว่า ถ้าจะเขียนว่า There is a book on the table แค่ประโยคนี้เค้าก็ไ่ม่สามารถแปลได้แล้ว มิหนำซ้ำยังโทรมาถามผมว่า "ลูกชายเค้าชื่อนิธิ จะสะกดยังไงวะ" ตอนที่ผมมีเวลาคุยกันกับเค้าเวลาว่าง ๆ หลังเลิกงานเนี่ยแหละ ผมถามว่า "เค้าผ่านพวก cu tep อะไรแบบนี้มาได้ยังไง แล้วคุณสมบัติล่ะยังไง" เค้าบอกกับผมว่าที่เค้าได้เข้าไปเรียนที่นี่ได้ เค้ายังไม่รู้เลยว่าเพราะอะไร ผมถามเค้าว่าสอบยังไงภาษาอังกฤษก่อนเข้าไปเรียน เค้าก็อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ หรือเค้าตอบอะไรมาสักอย่างแต่ผมเองจำไม่ได้ เพราะรู้สึกว่าจะไม่มีเนื้อ มีแต่น้ำ ๆ ก็เลยขี้เกียจฟัง เอาเป็นว่าไหนใครบอกจุฬาเข้ายาก (ตอนนั้นผมคิด ) เค้าบอกว่าหลังจากสอบเข้าก็สอบสัมภาษณ์ เค้าบอกว่าอาจารย์ให้เต้น เต้น แล้วร้องเพลง สรุป เจ้านายผมแกบอกคณะกรรมการตอนสัมภาษณ์ว่า แกเต้นไม่เป็น ร้องเพลงไม่เป็น แต่ ณ ตอนนี้แกก็จบจากจุฬามาแล้ว แล้วแกก็ตกงานอยู่ ซึ่งเค้าเคยได้รับเรียกการสัมภาษณ์งานจากบริษัทแห่งหนึ่ง แต่ต้องรอหลายรอบคือสัมภาษณ์หลายรอบ แล้วทีนี้เค้าก็แนะนำให้ผมไปสมัคร เชื่อรึเปล่าว่า ผมส่งเมลไป เขียน cover letter อย่างดี resume อย่างแจ่ม แต่ไม่มีเสียงตอบรับเลยสักแอะ ผมก็เลยมองว่าเค้า (HR) คงชอบอะไรที่ปลอม ๆ ผมไม่ได้ด่าเหมารวมทั้งจุฬานะ สรุปก็คือนี่เป็นประสบการณ์ที่ไม่ดี ของจุฬา ต่อไปผมขอเป็นเอแบคบ้างนะจะได้เท่าเทียมกัน จากคุณ : จะเถียงกันทำไม คนไทยเหมือนกัน เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:02:38 A:124.120.32.203 X: TicketID:174238

ความคิดเห็นที่ 40   อย่างที่ผมกล่าวไปเอแบคสำหรับผมก็เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีแห่งนึง ซึ่งผมอยากเรียนมาก แต่เพราะปัจจัยหลาย ๆ อย่าง (ไม่เกี่ยวกับบ้านจน) ผมเลยตัดสินใจไม่เรียนที่เอแบค แต่มาเรียนมหาลัยเอกชนย่านกล้่วยน้ำไทแทน ในความคิดผมนะครับ - เอแบคสำหรับผมถ้าจะมองกันแบบเจาะลึกแล้ว มีดีอยู่ไม่กี่อย่างคือ 1. เรียนเป็นภาษาอังกฤษ กับ 2 สถานที่เรียนสวยงาม นอกนั้นผมยังไม่เห็นเอแบคมีอะไรเด่น ๆ เลยสักนิด แต่เพราะอะไรที่คนมองว่าเอแบคเด่น เท่าที่เห็นก็มีอยู่ 2 อย่าง มันดีในด้านจิตวิทยา - เอแบคชอบมองว่ามหาลัยตัวเองเรียนเป็นภาษาอังกฤษ ก็เลยดีกว่ามหาลัยอื่น หรือแม้กระทั่งไม่วายเอาตัวเองไปเทียบกับจุฬา >>>>>> สำหรับผมแล้วทุกมหาลัยมีจุดเด่นและมีข้อดีต่างกัน เราไม่ควรเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น มันจะกลายเป็นว่ามหาลัยคุณไม่มีดีอะไรเลยหรอ ถึงได้ไปเทียบกับมหาลัยอื่นเค้า แต่เด็กเอแบคมักเป็นแบบนี้ ซึ่งผมก็เคยโดนด่าจากคนในเว็บนี้แหละว่าผมแต่งเรื่อง คิดไปเอง มะนาวหวานบ้าง องุ่นเปรี้ยวบ้าง แล้วเป็นไงล่ะ ที่ผมพูดมันก็เรื่องจริง มันไม่พ้นสัจธรรมอยู่ดี ไปดูได้ในกระทู้นึงผมจำไม่ได้แล้วแหละ หาเอาเอง อิอิ - จากด้านบนก็จะกลายเป็นเฉลยที่ว่าทำไมผมถึงไม่เรียนเอแบค เพราะเท่าที่ผมเห็นเอแบคมีเด่นอยู่ไม่กี่อย่าง เอแบคชอบบอกว่าเด่นด้านบริหาร ผมอยากรู้ว่าเอาปรอทอะไรมาวัด ผมมองว่ามันจับต้องไม่ได้ อย่างจุฬาที่เห็นได้ชัดเค้าเด่นแพทย์ ทันตแพทย์ (ทันตแพทย์จุฬาเคยทำผมประทับใจจนยากจะลืม) นี่คือสิ่งที่จับต้องได้ แต่คณะบริหารผมเห็นหลาย ๆ มหาลัยก็มีคณะบริหาร แล้วคณะบริหารของมหาลัยผม มหาลัยหอการค้า หรือ ม.รังสิต ก็เคยได้รางวัลชนะผลัดกันไปมาตลอด ในด้านบริหาร บางทีมีมหาลัยม้ามืดจากไหนไม่รู้มาคว้ารางวัลไป ซึ่งผมเองมองว่าไม่มีอะไรมาวัดว่าเอแบคเด่นด้านบริหาร มันวัดกันไม่ได้ มันจับต้องได้ยาก อย่างที่ผมเรียน ม.กรุงเทพ ที่เด่นนิเทศ หรือจุฬาที่เค้าก็เด่นเหมือนกัน มันจับต้องได้ คุณเห็นดารา นักประกาศข่าว นักข่าวที่จบจากที่เหล่านี้ และได้รับรางวัล ม.กรุงเทพมีอุปกรณ์พร้อมสรรพ นักศึกษาจับต้องได้ ม.รังสิตเค้าสร้างตึกนิเทศ เด่นด้านภาพยนตร์เค้าก็จับต้องได้ จุฬาเด่นเรื่องแพทย์เค้าจับต้องได้ แต่บริหารมันหลัก ๆ ลอย ๆ ยังไงไม่รู้ - มาถึงภาษาอังกฤษบ้างที่ชาวเอแบคภูมิใจนักหนา >>>>> ผมอยากจะบอกว่าทุกวันนี้การศึกษาของเรามันไม่ได้ถอยหลังลงคลองอะไรมากมายหรอก เดี๋ยวนี้ภาษาอังกฤษคนส่วนใหญ่พูดกันได้ เขียนได้ อย่ามาบอกว่าแล้วดีเท่าเด็กเอแบครึเปล่า ผเชื่อว่ามีดีกว่าเอแบคก็มี ด้อยกว่าก็มี แต่สุดท้ายเค้าก็อ่าน ออกเขียนได้ โดยที่เค้าเองไม่ได้จบจากที่อื่น วันนี้ผมนั่งทำงานอยู่ มี job alert ส่งมาทางเมล บริษัท adecco เป็นบริษัทจัดหางานที่ใคร ๆ ก็รู้จัก คุณเชื่อรึเปล่าครับว่า เดี๋ยวนี้ผมเห็นแต่ละงานของอเด็กโก้ นับวันยิ่งจะคุณภาพแย่ลง แย่ลง แย่ลง วันนี้ตำแหน่งที่ผมได้อ่านแล้วเท่าที่ผมจำได้นะครับ มันมีหลายตำแหน่ง 1. เจ้าหน้าที่อิมพอร์ต เอ็กซ์พอร์ต ประสบการณ์ 1-3 ปี ภาษาอังกฤษดี เงินเดือน 10000-11000 อันนี้เงินเดือนคนพูดภาษาอังกฤษดี ทุกวันนี้เหลือเท่านี้แล้ว 2. พนักงานขายของประจำบิ๊กซี คาร์ฟูร์ เงินเดือน 7000 สื่อสารภาษาอังกฤษได้บ้าง 3. พนักงานธุรการ สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี 8500 4. พนักงานติดรถส่งของ วันนี้แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง จากคนภายนอกที่มองว่าเป็นบริษัทจัดหางานฝรั่ง มีแต่งานดี ๆ แต่วันนี้ ไม่ว่างานจากลูกค้าเจ้าไหน adecco ฮีเอาหมด เอามาลงประกาศหมด ผมเองก็เคยไปสัมภาษณ์กับอเด็กโก้ แล้วได้งานด้วย จนถึงวันนี้นี่คือตำแหน่งที่หลายคนไม่เชื่อว่าอย่างอเด็กโก้เนี่ยนะ จะมีตำแหน่งนี้ด้วย มันมีจริง ๆ ครับ - ตั้งแต่จบมา ผมมาทำงาน เจอทั้งเด็กเอแบคและจุฬา แต่จุฬาพูดไปแล้วผมจะไม่พูดอีก ในที่ทำงานเด็กเอแบคมักชอบพูดกระแนะกระแหนผม แต่ผมก็เข้าใจว่าเค้าอยากเล่นกับเรา แต่มันทำให้ผมรู้สึกว่า พูดแบบนี้ไม่ควรเล่นนะ "จบจากไหนอะ?" "อ่อ ..........จบจาก ม.กรุงเทพครับ" โอ๊ยยยย........เด็กมหาลัยฉันชอบไทร์ไปเรียนมหาลัยเธอทั้งนั้นนนนนนน..........อืมมมมมมมมม แล้วไม่ใช่เจอครั้งเดียว เจอบ่อยด้วยสิ ทั้งในชีวิตจริงและก็ในเว็บ สรุปแล้ว เด็กเอแบคภูมิใจอะไรกันแน่ เรียนเป็นภาษาอังกฤษหรอ? อืมมมม.........ผมก็พูดได้ภาษาอังกฤษ ไม่ได้จบเอแบค ผมก็พูดได้ทำไมหรอ ฉะนั้นผมมองว่าภาษาเป็นเรื่องของทักษะ ไม่เกี่ยวว่าต้องจบเอแบค เด็กเอแบคก็ไม่ได้เก่งภาษาแบบเจ้าของภาษาสักหน่อย จริงหรือเปล่าครับ สรุปเลยนะครับว่า ผมพูดถึงข้อดีและข้อเสียของมหาลัยที่เป็นประเด็นในกระทู้แล้ว ผมจะด่ามหาลัยตัวเองบ้างล่ะกัน เกรงว่าคนอื่นจะหาว่ายกหางมหาลัยตัวเอง มหาลัยที่ผมเรียนไกลก็ไกล อยู่ตั้งรังสิต เหม็นพวกกระดูกวัว กระดูกควาย เด็กไม่เป็นระเบียบ ชอบแบ่งกลุ่มเหล่าคนรวยกับคนจน ไม่มีมาตรฐาน บางคนบอก ม.กรุงเทพเรียนยาก (สามารถวัดจากเด็กโดนไทร์ในแต่ละปีโดยเฉพาะนิเทศกับมนุษย์ศาสตร์ภาษาอังกฤษ) บางคนบอกเรียนง่าย อ้างว่าเพื่อนซิ่วจากเอแบคไปเรียน ม.กรุงเทพได้ 3 กว่า ผมก็เลยไม่รู้ว่ามหาลัยผมมันปล่อยเกรดหรือไม่ปล่อยกันแน่ พูดยากจริง ๆ หลายคนพูดแบบ หลายคนพูดอีกแบบ วิทยาเขตรังสิตมีแต่สลัม ภูมิทัศน์ไม่ดี บูอิคคณะน้อย เรียนแค่ 129 หน่วยกิต ทำไมเรียนน้อยมากมายกว่าที่อื่น จนคนอื่นมองว่าเรียนน้อย แสดงว่ามหาลัยไม่ดี เอากับเค้า คณะวิศวกรรมไม่เด่นเลย แต่พอได้รางวัลมามากมายกลับไม่มีข่าว จากข้าวจานละ 15 บาท 20 บาท ตั้งแต่ทำโรงอาหารวิทยาเขตกล้วยน้ำไทใหม่ กับข้าวกลายเป็น 25-30 ส่วนตัวไม่ชอบให้มหาลัยตัวเองโฆษณาผ่านสื่อ แต่ถ้าพูดกันจริง ๆ มหาลัยนี้เพิ่งจะทำสื่อออกมาตอน 2006 จนมาบัดนี้มีโฆษณา 4 ตัว ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่มีโฆษณาแต่ก็มี่คนเรียน สุดท้ายฝากบอก คห. 25 นิดนึง มหาลัยผมทำโฆษณาออกสื่อไม่กี่ปีก่อนเองครับ แล้วอีกอย่างจะโฆษณาทางไหน มันก็คือการโฆษณาเหมือนกันแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นทีวี หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ต มันไม่ต่างกันเท่าไรหรอกครับ มันก็คือโฆษณาเหมือนกัน เพียงแต่ว่าจะให้มันออกมาแล้วผ่านตาผู้คนด้วยวิธีการไหนก็เท่านั้น เอาเป็นว่าอย่าทะเลาะกันเลยครับ ทุกมหาลัยต่างมีข้อดีข้อเสีย มาพัฒนาตัวเองและประเทศกันจะดีกว่ามั้ยครับ ขอบคุณครับที่ได้เข้ามาอ่าน ใครเข้ามาด่าและไม่พอใจ ผมก็จะไม่ด่าตอบ เพราะที่ผมพูดไปมันเป็นความจริง ใครจะแทงใจดำ ใครอยากรับก็รับครับ จากคุณ : จะเถียงกันทำไม คนไทยเหมือนกัน เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:03:24 A:124.120.32.203 X: TicketID:174238

ความคิดเห็นที่ 41   อืม พี่สาวจขกทว่าอินเตอร์เข้าง่ายหรอ ขอเตือนว่า คนอื่นใครเค้าจะคิดว่าอินเตอร์เข้าง่ายก็ไม่เป็นไร แต่คนที่คิดจะเข้า ต้องเช็คข่าวดีๆ ยกตัวอย่างให้ฟัง เพื่อนเราคนนึง เรียนเก่ง อยู่ห้องคิง สายศิลป์ ภาษาอังกฤษก็เก่งเชียว เวลาใครถามว่าจะเข้าที่ไหนก็บอกว่า บีบีเอจุฬาค่ะ (คือคิดว่าเข้าง่าย เข้าได้แน่ๆ) ปรากฎไม่ติดแม้แต่ตัวสำรอง เราก็ว่าแล้วว่ามันชิวเหลือเกิน แต่ก็คิดว่าเค้าคงเก่งมั้ง ที่ไหนได้ได้ข้อมูลมาผิด ทีนี้กลับลำก็ไม่ทันแล้ว เพราะนึกว่าที่ๆตัวเองจะเข้ามันเข้าง่าย เข้าได้อยู่แล้ว เลยชิว ไม่อ่านหนังสือหนักเท่าคนอื่น เอ็นก็ไม่ติดอีกต่างหาก ไม่ติดคณะอะไรเลยเพราะเลือกสถาบันอีก จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:14:00 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 42 การรับรองหลักสูตรการศึกษาขั้นอุดมศึกษาเดิมทบวงเป็นผู้อนุมัต ปัจจุบันเป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษา สำหรับก.พ. ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งตามที่ คคห. ข้างต้นบอกไว้คือเอาไว้สอบเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ (หรือเป็นข้าราชการในความหมายเดิม) ของ BBA Inter (บัญชี) จุฬา ฯ กระทรวงศึกษาคงรับรองไปแล้วเพราะไม่งั้นสภาวิชาชีพคงไม่รับรอง (คือหมายถึงสมัครเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี ซึ่งทำให้ขอเป็นผู้ทำบัญชี/ผู้สอบบัญชีได้) http://www.tuct.ac.th/programs/announce-33-2549.pdf (ประกาศรายชื่อปริญญา ฯลฯ) ถ้าไม่คิดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ (คือรับราชการ) ก็ไม่ต้องห่วงเรื่อง ก.พ. เพราะหลักสูตร ฯ นี้เปิดมาจนมีคนจบสัก 7-8 รุ่นไปแล้วกระมัง คงมีคนใช้วุฒิ BBA Inter ไปเรียนระดับปริญญาโทต่อกันไปแล้ว ถ้ามีปัญหาคงเคยได้ยินกันไปแล้วล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 00:17:35 จากคุณ : elenote เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:17:00

ความคิดเห็นที่ 43   คห.39-40 เราไม่ได้อ่านทุก คห. ละเอียดนะ แต่ไม่ได้รู้สึกว่ามาทุะเลาะกันเลยอะ คือแต่ละคนเค้าก็เล่าๆเรื่องที่เค้าเจอ เค้ารุ้ เฉยๆหนิ หรือเรามองโลกในแง่ดีเกินไป? จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:21:37 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 44   ขอบคุณ คห.42 ค่า บีบีเอจุฬาเปิดมาจะเข้ารุ่นที่ 15 แล้วจร้า สรุปว่า กพ. รับรองใช่มั๊ยคะ ปล่อยให้งงอยู่นาน ว่าเค้าสอบซีพีเอกันได้ไง จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:24:13 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 45   โหเศรษฐศาสตร์เกษตรสอบบัญชีได้ด้วยรึ พึ่งรู้ จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:26:23 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 46 พรุ่งนี้จะโทรไปถามกพ.ให้ อย่าว่าเรื่องจบมาเกิน 1 รุ่นเลย ม.รัฐบาลหลายแห่ง บางที่จบไปแล้วกว่า 10 รุ่น นศ.เพิ่งกลับมาโวยวายว่าสอบรับราชการไม่ได้ เพราะกพ.ไม่รับรอง ก็ได้แต่คำตอบมาว่า ให้ยื่นจดหมายไปทางสภามหาวิทยาลัย ให้สภามหาวิทยาลัยช่วย สุดท้ายก็เงียบกริบ ปล.เหตุที่เกิดขอเจาะชัดๆว่าคือม.ทักษิณ และมศว. ส่วนม.อื่นไม่แน่ใจ เพราะไม่ได้ไปสืบทราบ ไว้จะสืบและรายงานในภายหลัง ขอแก้ไข และขอโทษเรื่องการไม่รับรองหลักสูตรของจุฬา เนื่องจากข้อมูลเดิมที่มี เป็น ว6/2546 ซึ่งได้โทรไปสอบถามแล้ว เขาได้ส่งฐานข้อมูลใหม่มาให้ เป็นว6/2550 ซึ่งกพ.ได้รับรองหลักสูตรแล้วในปัจจุบัน ขอแก้ไขเพิ่มเติมประเด็นปัญหาการไม่รับรองหลักสูตรจากกพ. อันนี้ขอเขียนตามความเข้าใจจากเหตุการณ์จริงว่า หลักสูตรการศึกษาที่กพ.รับรอง จะถูกส่งข้อมูลมาจากการตรวจสอบของสกอ. ซึ่งสกอ.จะมีตัวชี้วัดบ่งบอกชัดเจน ซึ่งที่จำได้คร่าวๆ ได้แก่ สาขา หรือภาควิชาต้องมีเจ้าหน้าที่ประจำ มีห้องสมุดประจำ มีอาจารย์ประจำที่มีคุณวุฒิตรงตามกำหนดไม่ต่ำกว่า 5 คน และส่วนใหญ่ของหลักสูตรม.รัฐที่ไม่ผ่านมาตรฐานสกอ.คือ การสร้างหลักสูตรโดยมีจำนวนอ.ประจำไม่ครบจริงตามที่สกอ.กำหนด โดยมักขอยืมชื่อผู้มีคุณวุฒิมาพิมพ์ใส่ให้ครบ แต่เมื่อตรวจสอบการจ้างจริง กลับไม่มีฐานข้อมูลการจ้าง ทำให้สกอ.ไม่สามารถให้การรับรองได้ ซึ่งเรื่องนี้ทางมหาวิทยาลัยก็นิ่งนอนใจ เพราะส่วนมากคิดว่าชื่อสถาบันจะช่วยให้นศ.หางานทำได้เอง แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 00:40:04 แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 00:34:16 จากคุณ : boy_mc_carey เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:28:27

ความคิดเห็นที่ 47   โห คห.46 รวดเร็วมากๆ ขอบคุณสำหรับความกระจ่างค่า จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:38:25 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 48   ขอเพิ่มเติมว่าที่เราเทียบกับภาคไทยเรื่องการสอบเข้า เราเทียบกับรุ่นเราเอง+รุ่นพี่และรุ่นน้องใกล้เคียง ซึ่งรุ่น จขกท มันมี gat pat ไรด้วยใช่มั๊ย ถ้างั้นเราว่าภาคไทยคงเข้ายากกว่าแล้วมั้ง5555 ต้องวิเคราะห์สีผ้าปูโต๊ะด้วย จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:44:27 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 49 ตอบ คคห. 44 ต้องแยกเรื่อง 1. ก.พ. 2. กระทรวงศึกษา 3. CPA เรื่อง CPA (ประเทศไทย) เป็นเรื่องของสภาวิชาชีพบัญชี ฯ และคาดว่ากระทรวงศึกษาคงรับรองหลักสูตร BBA Inter ไปนานแล้ว ไม่งั้นสภาวิชาชีพคงไม่รับรองปริญญา BBA Inter การบัญชีว่าสามารถใช้วุฒิการศึกษาที่ได้มาสมัครเป็นสมาชิกสามัญสภาวิชาชีพได้ในประกาศตั้งแต่ปี 2549 ส่วนเรื่อง ก.พ. คุณ คคห. 46 ก็ตอบมาให้แล้ว : ) ตอนนี้ดูราวกับจะเป็น live chat มากกว่า webboard ป.ล. 1. ต้องดูด้วยว่าที่เรียนมามีวิชาบัญชีตามที่กำหนด 8 รายวิชาด้วยหรือไม่ http://www.dbd.go.th/mainsite/index.php?id=1782 ไม่ได้เรียนมาก่อนก็หาที่ลงเรียน 2. เห็นสนใจเรื่องผู้สอบบัญชี เลยแปะลิงค์ไว้ให้ลองอ่านดูครับ http://www.autoflight.co.th/index.asp?ContentID=10000040&title=%A2%D1%E9%B9%B5%CD%B9%A1%D2%C3%E0%B5%C3%D5%C2%C1%B5%D1%C7%E0%BB%E7%B9%BC%D9%E9%CA%CD%BA%BA%D1%AD%AA%D5%C3%D1%BA%CD%B9%D8%AD%D2%B5+&getnews=90&keyword= แก้ไขเพิ่มเติมข้อความ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 01:07:08 จากคุณ : elenote เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:47:25

ความคิดเห็นที่ 50 เดี๋ยวอีกไม่นานจะขยับจาก live chat ไปเป็นดราม่าชัวร์ป้าบ จากคุณ : boy_mc_carey เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:52:49

ความคิดเห็นที่ 51   ถ้าดราม่าขอดูอย่างเดียวพอค่า 555 จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 00:58:03 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 52 คุณ กกก เราลองสอบมาแล้วรอบนึงแต่เป็น cu-tep นะ : O หินมากเลยทีเดียว ตรง error นี้แทบจะหลับเลยก็ว่าได้ T T ตอนนี้ก็รอสอบรอบ 2 พ.ค นี้อยู่อ่ะครับ ไม่รู้คะแนนจะต่ำไปกว่าเดิมรึเปล่า 55555 แต่ cu-aat ยังไม่ได้ลองเลยหล่ะครับ แต่ผมพอเก่งเลขอยู่บ้าง ไม่รู้จะสอบได้ทะลุเป้าที่เค้าตั้งเกณฑ์ไว้รึเปล่าอ่ะครับ  55555 คห.39-40 ถ้าคุณคิดว่าผมตั้งกระทู้ให้คนมาทะเลาะกัน T T   ผมไม่ได้ตั้งใจให้ทะเลาะกันหรือเอามหาลัยมาแข่งกันน้าครับ : )) ยังไงก็ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ : )))) อย่าดราม่ากันน๊า >__< แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 01:10:32 แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 01:09:52 จากคุณ : ruth13 เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 01:09:30

ความคิดเห็นที่ 53 อ๊ออ พึ่งเห็นที่ คุณ กกก พูดเรื่องสีผ้าปูโต๊ะ 5555 นั่นทำให้เราอยากหนีการแอดกลางมากกกกกกก 55555 จากคุณ : ruth13 เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 01:14:47

ความคิดเห็นที่ 54   จขกท ได้เท่าไร่เอ่ยCU-TEP อังกฤษ CU-AAT น่าจะยากกว่า CU-TEP อยู่หลายขุม แต่น่าจะง่ายกว่า SAT อยู่นิดนึง SAT นี่มันเป็นข้อสอบที่เอาไว้ให้ฝรั่งทำ คำศัพท์เป็นพวกศัพท์ที่ฝรั่งที่มันเกิดมาพูดอังกฤษยังมึน CU-AAT เป็นข้อสอบที่ไปเลียนแบบเจ้าตัวนี้มา เลข SAT น่าจะง่ายกว่า CU-AAT นิดนึง เลข SAT ง่ายมาก แต่โจทย์ชอบหลอก และถ้าภาษาไม่ดีอีกจะโดนหลอกซ้ำซ้อน เด็กโรงเรียนไทยไม่ควรได้น้อยกว่า 650 ถ้าได้เกิน 700 ยิ่งดี เอาให้เกือบเต็ม เพราะอังกฤษคุณจะตกต่ำมาก ต้องเอาเลขมาช่วย ขนาดเด็กเรียนอินเตอร์หรือจบนอกหรือฝรั่งเองสอบภาษาอังกฤษไม่ถึง 500 เยอะมากกก เด็กไทยถ้าไม่เตรียมตัว 400 ก็ไม่ถึง (คือตกว่าง่ายๆ) ควรได้เกิน 400 หรือถึง 500 ยิ่งดี คะแนนรวมต้องเกิน 1100 ไม่งั้นหมดหวัง ถ้า 1150 ยังมีหวัง 1200 ได้แน่ๆ จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 01:19:40 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 55 cu-tep ครั้งแรกนี่ผมชิวมากเพราะพี่แอบสมัครให้โดยไม่ทันตั้งตัว = =; เลยได้คะแนนอัปลักษณ์มากๆ ประมาณ 400 กว่าอ่ะครับ จำไม่ได้ว่าได้เท่าไหร่ แต่น้อยอ่ะครับ 5555 เราเดี้ยงตรง error มากๆ พอสอบคราวนี้ก็เลยตั้งใจซื้อหนังสือมาอ่าน ลองดูหนังซับอังกฤษไปสอบ listening นะ เผื่อจะได้ฟังรื่นหูบ้างเพราะบางทีแอบกาไม่ทันยังไม่ทันกา มันอ่านอีกข้อแล้ว 555555 ถ้าคราวนี้ยังไม่ผ่านอีกที่บ้านคงจะจัดหาที่ติวให้แล้วหล่ะครับ T T 55 ส่วน SAT นี่เห็นแฟนพี่สาวเคยไปสอบคงต้องถามดูแล้วมั้งครับนี่ว่ายากขนาดไหน  : ) จากคุณ : ruth13 เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 01:27:25

ความคิดเห็นที่ 56   ยากมากกกค่ะขอ confirm ทรมานมากๆแบบตูอ่านไม่รู้เรื่องแต่ตูต้องตอบ ถ้าไม่ตอบไม่ได้คะแนน แต่ถ้าตูตอบผิดโดนหักคะแนนอีกกกก ไม่ใช่แค่ศัพท์ยากนะ เรื่องที่มันเขียนจะสลับซ้อนมาก เขียนเรื่องนึงแต่จริงๆจะเอาไปเปรียบกับอีกเรื่องก็มี บางทีก็ยกโคลงฉันท์กาพท์กลอนมา ยกวรรณกรรมสมัยเชคสเปียร์มาบ้าง แล้วคำถามนี่แปลไม่ออกอีกต่างหาก choice ก็แปลไม่ออก ฝึกทำข้อสอบทีหัวจะระเบิดเลยทีเดียว ถ้าไปสอบ SAT หรือ CU-AAT เสร็จก่อน CU-TEP จะรู้สึกว่า ทำไมมันง่ายอย่างนี้ฟะ จากคุณ : กกก เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 01:40:18 A:124.120.12.172 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 57 แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 01:43:00 จากคุณ : elenote เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 01:41:51

ความคิดเห็นที่ 58 คุณ จะเถียงกันทำไม คนไทยเหมือนกัน คห.39 และ 40 คุณออกความเห็นได้อย่างเป็นกลางและตรงไปตรงมามาก ผมอยากให้กิ๊ฟคุณจริงๆ แต่ไม่รู้จะให้ยังไง คุณ กกก คห.43 ครับ กระทู้นี้ไม่มีการทะเลาะกันหรอกครับ เราแค่แลกเปลี่ยนประสบการณ์และมุมมอง แค่นั้นเอง จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 09:17:33

ความคิดเห็นที่ 59   #40, 41 ที่พูดเรื่องเอแบค ไม่โฆษณา ไม่ได้แปลว่า การโฆษณาเป็นสิ่งไม่ดีนะ เพราะผมก็เรียนมาร์เก็ตติ้งมา และเห็นว่าโฆษณานั่นแหล่ะดีแล้ว แต่ที่พูดนี่คือ ผมมองว่า ในเมื่อมหาวิทยาลัยเอกชนอยู่ตั้งไกล สงบ ๆ ดีอยู่ แล้ว ทำไมมันถึงมีประเด็นให้เปรียบเทียบบ่อยครั้งมากมายนัก อย่างเวลาไปเรียนต่อโทที่อังกฤษ หรือออสเตรเลียก็เจอบ่อย ๆ ประเภทบาง คนก็จะพูดทำนองว่า เด็กเอแบคเป็นลูกคุณหนูไม่ทำงานร้านอาหารเยอะเท่า มหาวิทยาลัยเค้า ผมก็มองว่า เงินมันก็พอแล้ว จะต้องไปทำมาทำไม หรือ บางทีเวลาเราเรียนห้องเดียวกันกับหลาย ๆ มหาวิทยาลัยแล้วส่วนใหญ่เด็กที่ ไปเรียนจะมีเอแบค จุฬาฯ ธรรมศาสตร์เยอะมาก ๆ หน่อย ก็จะมีประเด็นอีก เช่น มหาวิทยาลัยเอกชน เรียนต่อต่างประเทศได้ยังไง พอจบมาเงินเดือนดี ก็เจออีก เช่น เงินเดือนดีได้ยังไงจบเอกชน (จริง ๆ ถ้าทำธุรกิจส่วนตัวที่บ้าน เงินเดือนจะมากกว่านี้อีกเป็น 10 เท่า) จริง ๆ ในเมื่อไม่ชอบมหาวิทยาลัยเอกชน ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนก็ได้ เขาก็ไม่ ได้บังคับ หรือว่าถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องสนใจก็ได้ อย่างเวลาผมเรียนเงี้ยแล้ว เจอพวกประเภทพูดว่า "ไม่มีเกียรติภูมิ เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแล้วมาตี เสมอด้วยการทำเกรดได้สูงกว่า แล้วโกรธ แล้วก็มาเล่าทำนองว่าไม่รู้จักที่ ต่ำที่สูงบ้าบออะไรแบบเนี้ยไม่ชอบเลย" ป.ล. ส่วนตัวมองว่าเรื่องที่พระเทพฯ จะเปิดงาน ไปมอบใบปริญญาอะไรแบบ นี้ ผมไม่ซีเรียส โดยส่วนตัวเลย เพราะมีของรามฯ แล้วอีกใบ (ถ้าถามใจจริง ก็อยากจะรับปริญญากับอธิการบดีมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยไหนก็ ตาม เหมือนกับงานแต่งงาน บางคนแต่งงานโรงแรมใหญ่กลางเมือง ไม่ให้ พ่อแม่ตัวเองเป็นจุดเด่น ไปเชิญรัฐมนตรี ผู้ว่าอะไรมาแทน ผมว่ามันไม่ใช่น่ะ มันเรื่องของเรา คนของเรา งานแต่งงานพ่อแม่เราก็ต้องเป็นประธาน การจบ การศึกษาอธิการบดีก็ต้องมาเป็นประธาน งานเกี่ยวกับพระราชวังก็ต้องให้ พระราชวังเป็นประธาน ผมว่า ความสำคัญของคนกับงานมันต้องเกี่ยวกัน ยืนยังอย่างที่สรุปเหมือนเดิมน่ะ เจ้าของกระทู้เรียนจุฬาฯ เถอะ ดีจริง ๆ พ่อแม่ก็ชอบ (มีเพื่อนได้จุฬา แล้ว ไม่เรียน ไปเรียนที่อื่น ที่บ้านด่าเหมือนกัน เรื่องเกียรติภูมิอะไรสักอย่าง)แล้ว ปัญหามากอีกต่างหาก (ทั้ง ๆ ที่ไปเรียนอังกฤษน่ะเว้ย มหาวิทยาลัยดีด้วย) จากคุณ : ประพันธ์ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 09:18:35 A:10.10.25.20 X:203.113.119.124 TicketID:091427

ความคิดเห็นที่ 60   โอโหหหหหหหหหหห......................คุณประพันผมชอบความเห็นคุณมาก คุณคิดแบบผมจริง ๆ ผมเองก็เคยเจอเหตุการณ์แบบคุณมาก่อนนะ ในพันทิพย์เนี่ยแหละ แต่ว่าไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด อย่างที่ผมบอกไปผมตั้งใจอยากเรียน ม.เอกชนอยู่แล้ว แต่คนอื่นหรือสังคมก็มักจะมองไปว่า เอนท์ไม่ติดน่ะสิ อะไรแบบนี้ ผมเองเรียนมหาลัยเอกชนเหมือนกัน ผมภูมิใจมากที่เรียนที่นี่ มันเป็นภาคภูมิใจของผมจริง ๆ ครอบครัวผมก็ภูมิใจ พ่อผม แม่ผมก็จบจากที่เดียวกับผม ตั้งแต่สมัยที่มหาลัยไม่ได้รับการรับรองจากทางการ ทั้งบ้าน ทั้งครอบครัวผมก็เรียน ม.กรุงเทพกันหมด ผมถึงรู้สึกรักและก็ผูกพันธ์มาก ผมเคยเห็นใรกระทู้นี้นะแต่นานมาแล้ว มีคนตั้งกระทู้ประมาณว่า จบสายนั้น สายนี้เงินเดือนเท่าไร มีบางความเห็นที่ผมอ่านแล้วก็สกิดใจ เค้าบอกว่า "ถ้าจบจาก ม.รัฐเงินเดือน 15000 เอกชน 10000-12000 ซึ่งผมอ่านแล้ว มันไม่เกี่ยวเลยจริง ๆ ผมเห็นด้วยกับคุณนะ เห็นด้วยมาก ๆ บางคนในนี้พอเจอเด็กมหาลัยเอกชนได้ทำงานบริษัทดัง ๆ ก็เหมือนจะไม่ค่อยพอใจอันนีเรื่องจริง ประมาณว่าไรวะ จบจากเอกชน แต่ได้ทำงานที่เดียวกับตู หรือจบจากเอกชนแต่ได้ทำงานในบริษัทที่ดังกว่า ดีกว่าอะไรแบบนี้ผมเจอเหมือนคุณแหละครับ จริง ๆ แต่ถ้าหากว่าการพาดพิงใน คห. 25 เป็นการที่ผมเข้าใจผิด ผมก็ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ เนื่องจากผมอาจจะมองโลกในแง่ร้ายไปหน่อยว่าคุณกำลังพูดถึงมหาลัยผมที่โฆษณาทางทีวี เหมือนจะหลอกให้เด็กไปสมัครเรียนอะไรแบบนั้น ผมอาจจะมองในแง่ร้ายไปหน่อย ก็อย่างที่ผมบอก ผมเจอเด็กเแบคหลายคนชอบพูดถึง ม.กรุงเทพในลักษณะแบบนี้เยอะ ผมก็เลยคิดว่าคุณตั้งใจจะพูดแบบนั้น แต่ถ้าผมเข้าใจผิดก็รบกวนขอโทษนะครับ ผมนะอยากเรียนมากครับเอแบค แต่ด้วยอะไรหลาย ๆ อย่าง เช่นไกลบ้าน อะไรแบบนี้ ผมเลยเลือกเรียนที่นี่เพราะผมก่อนที่จะเข้าไปสมัครเรียน ผมได้สกรีนมหาลัยหลาย ๆ ที่จากหัวสมองอันไม่ค่อยหยักเท่าไร อิอิ ว่าจะเลือกเรียนที่ไหนดีและที่มีคุณภาพ นั้นผมจึงตัดสินใจที่จะเรียนที่นี่ ไม่ใช่เพราะเอนท์ไม่ติด ก็เหมือนเด็กเแบคหลายต่อหลายคน ไม่สนใจหรอกเอนท์ มาเรียนเอแบคดีกว่าคอนเน็คชั่นดี ลูกคนรวยมีตังค์เรียนกัน มีเพื่อนที่ช่วยกันได้ อะไรแบบนี้ ก็เลยไม่คิดจะเอนท์ ยังไงก็ยินดีทีจะให้ความร่วมมือในการเขียนสิ่งดี ๆ ในพันทิพย์ครับ ขอบคุณคุณหนุ่มไทยไร้นามมาก ๆ ครับ ผมอ่านกระทู้คุณตลอดนะ แต่ผมไม่อยากล็อกอิน กลัวเหมือนกัน 555555555 แต่ผมคิดว่าหลาย ๆ คนคงรู้แหละว่าผมใช้ชื่อล็อกอินอะไร เพราะผมเป็นคนไม่ปิดบัง เปิดเผย เพียงแต่กลัวว่ามันจะ sensitive อะไรแบบนี้ครับ ยังไงก็ขอบคุณอีกทีนะครับ ยินดีที่ได้ร่วมเข้ามาแบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ นะครับ หวังว่าคงจะไม่มีกระทู้เรื่องสถาบันแล้วมาเปรียบเทียบกันนะเด้อออออออ จากคุณ : คนไทยเหมือนกัน ทะเลาะทำไม เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 10:49:32 A:58.8.12.151 X: TicketID:174238

ความคิดเห็นที่ 61 - จะมีสักกี่คนในประเทศไทยที่รู้ว่า ว่าหนังค่าย GTH หลาย ๆ เรื่องเป็นผลงานของเด็ก ม.กรุงเทพ ละครเวทีต่าง ๆ หลาย ๆ เรื่อง "กินรีสีรุ้ง" ม.กรุงเทพทำมาแล้วหลายเวอร์ชั่นมาก เป็นละครเวทีที่เป็นโปรเจคเพื่อแค่ส่งอาจารย์ก่อนจบเท่านั้นเอง แต่พอจุฬามาเอาไปทำ กลับดังซะงั้น เอาหนังเค้ามาแล้วเอามาทำเป็นการค้า ใช้ของเค้า แต่ตีตราเป็นของตัวเอง แกรมมี่ จีทีเอช พวกบอสใหญ่ ๆ จุฬาทั้งนั้นก็ได้หน้ากันไป ถามต่อไปว่าจุฬาเคยให้เครดิตเค้ารึเปล่า เคยบอกสังคมให้รู้ไหมว่าหนังเรื่องนี้ละครเรื่องนี้ที่มา มันมาจากไหน ใครเป็นคนคิดก่อน แต่คนส่วนใหญ่มารู้แค่ว่า "อ่อ่อ่อ ของจุฬา ค่ายจีทีเอช มันเป็นของจุฬา" โดนจริงๆ ขนาดเพื่อนเรายังโดนเลย หนังทำเอง 80% เพื่อนที่เป็นเด็กจุฬา ช่วยอีก 20% ดันเอาชื่อเพื่อนที่เรียนจุฬามาเป็นผกก.ซะอย่างนั้น เวลาไปฉายหนังสั้นตามที่ต่างๆ ทั้งๆที่เขียนอย่างชัดเจนว่าใครเป็นผกก. ใครเป็นผู้ช่วยผกก. แต่ดันเลือกชื่อเพื่อนที่เรียนจุฬาเพื่อโฆษณาให้หนังมีคนอยากดู อย่างนี้ดูไม่ค่อยยุติธรรมกับคนอื่นเท่าไหร่นัก แค่อีกคนเรียนราม มันจะดูต้อยต่ำขนาดนั้นเลยเหรอ จากคุณ : dfh เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 11:46:36

ความคิดเห็นที่ 62 เบื่อ จุฬา อะไรๆก็จุฬา จากคุณ : diew@au เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 14:24:26

ความคิดเห็นที่ 63 ตอบคุณ กกก เข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ... เมเจอร์นั้นนั่นแหละ จากคุณ : giang_au (giang_au) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 14:45:54

ความคิดเห็นที่ 64 สงกรานต์ เราต้องการสงกรานต์ ร้อนนน จากคุณ : เราหล่อมาก เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 15:16:09

ความคิดเห็นที่ 65   เจ้าของกระทู้เลือกดูดี ๆ แล้วกัน สมัยนี้ข้อมูลเยอะแยะ ผิด ถูก อคติ ต้องเลือกเสพเลือกเชื่อเอง สมัยนี้เก่ง กล้า ก๋า เมื่ออยู่ใต้นามแฝงหรือ anonymous มหาลัยใคร ๆ ก็รักทั้งนั้นแหละ ถ้าเจ้าของกระทู้อยากทราบจริง ๆ ข้อมูลพันธ์ทิพย์เชื่อได้ส่วนหนึ่ง แต่คงต้องไปขอคำแนะนำจากคนที่เค้ามีความรับผิดชอบในการให้ข้อมูล ที่เรารู้จักตัวตน มาถามคนในนี้ หาได้น้อยมากที่จะตอบแบบประจักษ์นิยม มีอคติผสมปนเปบ้าง อยากเป็นนายธนาคาร ไปถามนายธนาคารที่ประสบความสำเร็จ ระดับ ผกจ รกจ กจ .... อยากเป็นผู้บริหารบริษัทข้ามชาติ ไปถามคนเหล่านั้น md ceo อยากเป็นผู้บริหารบริษัทไทยใหญ่ ไปถาม กจ. ไม่มีเวลาหรือโอกาสไปถาม หาหนังสือมาอ่าน ชีวะประวัติเค้าอาจช่วยเราไม่ได้มาก แต่แนวคิดนั้นมีแน่ ๆ และคงช่วยเจ้าของกระทู้ได้เยอะ คนตอบพันธ์ทิพย์ส่วนใหญ่ ในแง่นึงอาจมีมิตรจิตมิตรใจมาช่วยแชร์ข้อมูล หรือไม่ก็ว่างมากกกกกก อีกครั้ง...โปรดใช้วิจารณญาณ จากคุณ : ขขข เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 15:18:21 A:203.172.120.227 X: TicketID:137537

ความคิดเห็นที่ 66 ทุกสถาบันมีดีต่างกันต้องยอมรับ ไม่ใช่แค่มองยี่ฮ้อก็คิดว่าสินค้าของยี่ฮ้อนี้ดีทุกอย่างมันไม่ใช่ เรายอมรับว่า สายวิทย์ จุฬาเด่น แต่สานศิลป์ไม่ดี                  สายวิทย์ ธรรมศาสตร์ไม่ดี แต่สายศิลป์ดี                  สายภาษา เอแบคดี สายวิทย์ไม่ดี แต่สายศิลป์ดี ถ้าเรามองที่มหาลัยแล้ว จริงอยู่คนในสังคมดันมีพวกที่มีค่านิยมผิดๆ เอาเรื่องสถาบันมาอ้างในการรับคนเข้างานโดยไม่ได้ดูพื้นฐานด้วยซ้ำว่าเป็นอย่างไร ใครอดทนงานและยืดหยุ่นได้มากกว่า บอกตามตรงจบธรรมศาสตร์ มองว่าเป็นคนเถรตรง แต่ไม่ทนงาน เพื่อนหลายคนลาออกภายในเดือนเดียวเพราะทนไม่ไหว เช่นเดียวกับ จุฬา คือ คนเหล่านี้มาจากมหาลัยที่ดี จะมีศักดิ์ศรีมาก ยอมไม่ได้ แต่อย่างอีกหลายสถาบัน กลับทนงานมากกว่า ย้ำกว่า อย่ามองแต่ยี่ฮ้อ ชื่อสถาบันเสมอไป เพราะเนื้อในมันเป็นยังไง คนที่ผ่านมาย่อมรู้ดี จากคุณ : dfh เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 16:29:34

ความคิดเห็นที่ 67 สอบให้ติดแล้ว ค่อยเลือกทีหลังดีกว่าครับ ได้ Tep แค่ 400 กว่า ยังไม่ผ่านเกณฑ์หรอกครับ ยังอีกยาว อินเตอร์ไม่ได้เข้าง่ายอย่างที่คิด ผมว่าคุณไปฟิต Cu-AAT ด้วยก็ดี ปีนี้ตัวสำรองอันดับสุดท้าย 1090  ไม่มีสิทธิ์ติดหรอกครับ คะแนนนี้ ต้องให้ อีก 2-3 ร้อยคนสละสิทธิ์เป็นไปไม่ได้ ชัวร์ๆ ยื่นรอบ Early ก็ 1200 ผมว่าเอาเวลาไปอ่านหนังสือดีกว่า มาโพสกระทู้ทำเหมือนกับว่าติดแล้วดีกว่านะ ครับ * จากคุณ : Tua12 เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 17:19:24

ความคิดเห็นที่ 68   เราว่าถ้าน้องเค้าพึ่งขึ้นม.4 หรือ ม.5 ก็ยังมีเวลาพัฒนาภาษาอยู่นา ถึงหลายคนเข้ามาแบบไม่ต้องเตรียมตัวสอบรอบเดียวผ่าน แต่ถ้ามีเวลาซัก 2 ปี อาจไล่ทันได้อยู่ แต่ถ้าเข้าไปได้อาจกดดันนิดนึงเรื่องภาษา จากคุณ : คคค เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 18:52:39 A:124.120.0.71 X: TicketID:178919

ความคิดเห็นที่ 69 จุฬาเนี่ยนะเด่นด้านแพทย์ ทันตแพทย์ กร๊ากก มั่วแล้วพิมพ์นี่หว่า จากคุณ : อย่าให้ต้องพูดซ้ำอีกนะ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 18:52:44

ความคิดเห็นที่ 70 ดีแล้วที่ความเห็นที่ 40 ไม่เข้าเอแบค นี่ไม่ได้เข้านะนี่ เค้าไม่มีอะไรดีเลย ถ้าเข้าไป เอแบคคงแย่ มีศิษย์ปากแบบนี้ ฮาฮา ปล.ว่าแ้ล้วก็อวยมหาลัยตัวเองกันต่อไป แต่ไม่อวยตรงๆนะ โฆษณาแฝงๆ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 18:58:22 จากคุณ : อย่าให้ต้องพูดซ้ำอีกนะ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 18:56:22

ความคิดเห็นที่ 71   คห. 39 - 40 ตกลงเป็นชายหรือเป็นหญิงครับ ผมสงสัยมาก หรือจริงๆแล้วเป็นกระเทย คุณ เป็นคนเดียวกับที่เคยใช้ชื่อ เสร่อมาตอบ ใช่มั้ยครับ คนเดียวกันเลย ผมจำ Ticket ID ได้ ตอนนั้นเป็นผู้หญิง ตอนนี้กลายเป็นผู้ชาย คุณเป็นคนเดียวกับคนที่เคยเถียงกับ คุณ Kurika เรื่อง นิเทศน์ ม.กรุงเทพ กับนิเทศน์จุฬา ไรปามานเนี้ยแหละ ที่สำคัญผมเห็นมาหลายกระทู้แล้วชอบกัดจุฬา ธรรมศาสตร์ ยกหางม.กรุงเทพ บางทียังพาลไปดูถูกม.เอกชนอื่นๆ อีก แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 22:46:53 จากคุณ : พี่รักเจ้า (พี่รักเจ้า) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 22:36:11

ความคิดเห็นที่ 72   ^ ^ ^ ^ ^ คุณ 71 ครับ ผมอยากให้แยกแยะนิดนึงนะครับ ที่พูดไปใน คห.แล้วนั้น ก็แค่จะพูดเป็นกลาง ๆ ไม่ได้อะไรกับสถาบันไหน แล้วคุณเป็นอะไรหรอครับ อ่านเมนท์ผมแล้วมันไปสะเืทือนอะไรคุณรึเปล่า ถ้าไม่รู้จักแยกแยะคุณเองก็ไม่ควรจะมาตอบ ให้มันมีเรื่องนะครับ ไม่มีได้หรือมีเสียอะไรทั้งนั้น โอเค ผมตอบคุณครับ Ticket id อันนี้ผมได้มาจากเพื่อน แล้วที่รู้ ๆ มาเค้าใช้กันหลายคน เนื่องจากเค้าใช้อันเดียวเพื่อนเล่นพันทิพย์ ผมเองก็ไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของ แต่ที่รู้ ๆ ก็เป็นพวกเพื่อนของเพื่อน ที่ยืม ๆ กันมาเล่น ข้อนี้ผมทราบดี เรื่อง Ticket ID เนี่ย มันไม่สามารถปกปิดตัวตนได้เลย มันก็เหมือนบัตรประชาชนของคน ๆ นั้น ผมไม่โง่พอที่จะเปลี่ยนชื่อผู้หญิงหรือชาย หรือแอบอ้างอะไรทั้งนั้น ก็แค่ขอยืมเค้ามาใช้ต่อ ๆ ผมเองไม่มีอะไรจะเอี่ยวหรือเข้าข้าง หรือด่าใครทั้งนั้น อีกอย่างเนี่ยเมนท์ที่ผมเขียนไปข้างต้นผมก็เขียนเองจากความรู้สึก แล้วที่คุณพยายามว่าผมเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ผมถามจุดประสงค์หน่อยสิครับว่าเพื่ออะไร ที่นี่เป็นเว็บสาธารณะใคร ๆ มีสิทธิ์ที่จะโพสท์อะไรก็ได้ แล้วไงล่ะถ้าผมเองเป็นกระเทย แล้วไงล่ะถ้าผมเป็น ญ คนนั้น แล้วทำไมหรอ คุณจะมาอะไรกับผมล่ะ ที่คุณกำลังจับผิดอยู่เนี่ย ขอจุดประสงค์ได้รึเปล่าครับ แล้วถ้าผมใช่หรือเป็นคนเดียวกัน คุณจะทำไมหรอครับ เอาเป็นว่าคุณแค่มาจับผิด หรืออะไรยังไง เพื่ออะไรครับ แล้วไงล่ะ สิ่งที่ผมพูดไปก็พูดตามความคิดที่เห็น มันผิดหรอครับ แล้วถ้าผมเป็นคนเดียวกันกับเสร่อมาตอบหรือใครก็ตามแต่ แล้วมันจะยังไงหรอครับ ผมขอถามหน่อย สรุปแล้วไอดีอันนี้ เล่นกันหลายคน บางคนผมเองก็ไม่รู้จัก ผมแค่เข้ามาโพสท์อะไรสนุก ๆ มีอะไรน่าสนใจก็เข้ามาเล่น ก็แค่นั้นเองครับ อยากให้แยกแยะด้วยนะครับ จากคุณ : จะเถียงกันทำไม คนไทยเหมือนกัน เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 23:31:54 A:124.120.206.185 X: TicketID:174238

ความคิดเห็นที่ 73   ^ ^ ^ ^ ^ คุณ 71 ครับ ผมอยากให้แยกแยะนิดนึงนะครับ ที่พูดไปใน คห.แล้วนั้น ก็แค่จะพูดเป็นกลาง ๆ ไม่ได้อะไรกับสถาบันไหน แล้วคุณเป็นอะไรหรอครับ อ่านเมนท์ผมแล้วมันไปสะเืทือนอะไรคุณรึเปล่า ถ้าไม่รู้จักแยกแยะคุณเองก็ไม่ควรจะมาตอบ ให้มันมีเรื่องนะครับ ไม่มีได้หรือมีเสียอะไรทั้งนั้น โอเค ผมตอบคุณครับ Ticket id อันนี้ผมได้มาจากเพื่อน แล้วที่รู้ ๆ มาเค้าใช้กันหลายคน เนื่องจากเค้าใช้อันเดียวเพื่อนเล่นพันทิพย์ ผมเองก็ไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของ แต่ที่รู้ ๆ ก็เป็นพวกเพื่อนของเพื่อน ที่ยืม ๆ กันมาเล่น ข้อนี้ผมทราบดี เรื่อง Ticket ID เนี่ย มันไม่สามารถปกปิดตัวตนได้เลย มันก็เหมือนบัตรประชาชนของคน ๆ นั้น ผมไม่โง่พอที่จะเปลี่ยนชื่อผู้หญิงหรือชาย หรือแอบอ้างอะไรทั้งนั้น ก็แค่ขอยืมเค้ามาใช้ต่อ ๆ ผมเองไม่มีอะไรจะเอี่ยวหรือเข้าข้าง หรือด่าใครทั้งนั้น อีกอย่างเนี่ยเมนท์ที่ผมเขียนไปข้างต้นผมก็เขียนเองจากความรู้สึก แล้วที่คุณพยายามว่าผมเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ผมถามจุดประสงค์หน่อยสิครับว่าเพื่ออะไร ที่นี่เป็นเว็บสาธารณะใคร ๆ มีสิทธิ์ที่จะโพสท์อะไรก็ได้ แล้วไงล่ะถ้าผมเองเป็นกระเทย แล้วไงล่ะถ้าผมเป็น ญ คนนั้น แล้วทำไมหรอ คุณจะมาอะไรกับผมล่ะ ที่คุณกำลังจับผิดอยู่เนี่ย ขอจุดประสงค์ได้รึเปล่าครับ แล้วถ้าผมใช่หรือเป็นคนเดียวกัน คุณจะทำไมหรอครับ เอาเป็นว่าคุณแค่มาจับผิด หรืออะไรยังไง เพื่ออะไรครับ แล้วไงล่ะ สิ่งที่ผมพูดไปก็พูดตามความคิดที่เห็น มันผิดหรอครับ แล้วถ้าผมเป็นคนเดียวกันกับเสร่อมาตอบหรือใครก็ตามแต่ แล้วมันจะยังไงหรอครับ ผมขอถามหน่อย สรุปแล้วไอดีอันนี้ เล่นกันหลายคน บางคนผมเองก็ไม่รู้จัก ผมแค่เข้ามาโพสท์อะไรสนุก ๆ มีอะไรน่าสนใจก็เข้ามาเล่น ก็แค่นั้นเองครับ อยากให้แยกแยะด้วยนะครับ จากคุณ : จะเถียงกันทำไม คนไทยเหมือนกัน เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 23:32:18 A:124.120.206.185 X: TicketID:174238

ความคิดเห็นที่ 74   เหอๆ ชอบจริงไอ้พวกประเภทนี้ โทษทีครับ คุนเล่นอวย มหาลัยคุณเองซะขนาดนี้ กลางมากครับความเห็นคุณ ความเห็น 70 ยังรู้เลยว่าจุดประสงค์คุณคือมาอวย ม.กรุงเทพ ผมจะมาจับผิดคนโกหกครับ บางทีก็เป็น ญ บางทีก็เป็นชาย ไอ้ Ticket ID ที่บอกได้มาจากเพื่อนขำครับ แถเหมือนคุณลาบห้องสยามเลย เชื่อก็โง่แล้วครับ บอกยืม Ticket ID มาแต่วิธีการเขียนกับนิสัยเหมือนยัยเสร่อมาตอบเป๊ะเลย 555 จะบอกหรอว่าไม่ใช่คนเดียวกันใครจะไปเชื่อ คิดว่าไม่มี Login แล้วไม่มีใครจำได้หรอไง เค้าไม่ได้โง่กันหมดนะครับ ถึง Ticket ID บอกมาว่ายืมคนอื่นมาได้ แต่ลักษณะการเขียนมันปกปิดไม่ได้ครับ ถ้าคุณRifle D. หรือคุณ Kurika เข้ามาอ่านหรือใครก็ได้ไปเชิญสองคนนี้มาหน่อย ลองเข้ามาดู คห. 39 คห. 40 คห. 60 หน่อย ว่าเป็นคนเดียวกับยัยเสร่อมาตอบรึเปล่า ที่เคยด่าจุฬาละอวยม.กรุงเทพซะเวอร์น่ะ 5555 ชอบจริงๆ ไอ้พวกโกหก ปลิ้นปล้อนเด๋วก็ญ เด๋วก็ชาย ทำฟอร์มว่าเป็นกลางแต่หลอกด่าจุฬากับเอแบคละยกหางม.ตัวเองแบบนี้ จากคุณ : พี่รักเจ้า (พี่รักเจ้า) เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 01:13:06

ความคิดเห็นที่ 75 1. TicketID:174238 ก็พิมพ์มาเองไม่ใช่หรือในคคห. 60 ว่ามี login แล้วจะมาใช้บัตรผ่านทำไม? ลืมไปหรือเปล่า "แต่ผมไม่อยากล็อกอิน กลัวเหมือนกัน 555555555  แต่ผมคิดว่าหลาย ๆ คนคงรู้แหละว่าผมใช้ชื่อล็อกอินอะไร เพราะผมเป็นคนไม่ปิดบัง เปิดเผย.........." มี login ก็ใช้มาเลยไม่ใช่ใช้บัตรผ่านก็แค่นั้น พูดเองเสร็จสรรพว่าบัตรผ่านก็หลบกันไม่ได้เหมือนบัตรประชาชน ฯ ถ้างั้นก็ควรรู้ว่าของแบบนี้ของใครของมัน เพราะเอามาใช้แบบนี้ก็ต้องรับผิดชอบร่วมไปด้วย ก็บัตรผ่านหมายเลขนี้วนเวียนอยู่กับ ม. กรุงเทพ, ม. รังสิต, หอการค้า, เอแบค นิเทศ ฯ มีคนจำได้ว่ามีพฤติกรรมซ้ำ ๆ ก็แค่นั้น อาทิเช่น ในกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9072938/K9072938.html คคห. 2/3 กระทู้นี้เขาก็ถามเรื่องคณะบริหารธุรกิจแค่นั้น ยังพาไปนิเทศ ม. กรุงเทพ ฯ จนได้ 2. เห็นเขียนมา "แล้วไงล่ะเด็กที่เค้าอยากเรียนพาณิชย์จริง ๆ ล่ะ เด็กช่างที่อยากเรียนช่างจริง ๆ ล่ะ เค้าได้เข้ามาอยู่ในระบบนี้รึเปล่า ก็ไม่ กลับกลายเป็นว่าสังคมมองพวกเค้าโง่  เท่าที่อ่านความคิดเห็นในกระทู้นี้มาก็เห็นมีคุณนั่นแหละที่เขียนมาแบบนี้คือเหมาว่า "สังคมว่า ..."โง่" 3. เรื่อง Adecco เท่าที่รู้มาคือ Adecco แยกหน่วย (สาขา) กันทำระหว่างหา entry level กับ middle mgt + ดังนั้น job alert ที่คุณได้ครับก็ไม่แปลกที่เป็นเฉพาะ entry level ก็เพราะมาจากหน่วยนั้นซึ่งทำแต่หาพนักงานระดับแรกเข้า ไม่ใช่ Adecco ซึ่งเป็นบริษัท ฯ นานาชาติหาแต่พนักงานระดับนั้น 4. เรื่องที่คุณสมัครงาน แล้ว resume อย่าง "แจ่ม" นี่ ไม่ต้องไปโยงกับ (อดีต) หัวหน้าคุณหรอก ("ฮี") คุณบอกว่าคุณมาแบบเป็นกลาง แล้วจะเอาสถาบัน ฯ เขาไปผูกกับเรื่องสมัครงานของคุณเพื่อ.... เวลาสมัครงานมันต้องทั้งสองฝ่ายคือทั้งผู้สมัครกับบริษัท ฯ เราคิดว่าเรา "แจ่ม" แต่บริษัท ฯ อาจเฉย ๆ หรือเป็นบริษัท ฯ ชั้นยอดแต่อาจไม่น่าสนใจไปสมัครก็แค่นั้น มาทั้ง "ผม" "ฮี" ทั้ง "แจ่ม" ประกอบกับมีกระทู้มาก่อนหน้า ไม่ต้องถามหรอกครับถ้าเป็นแบบไหนแล้วจะยังไง อยากเป็นแบบไหนก็เป็นไปเลยครับ เอาแค่คงเส้นคงวาหน่อย 5. วิธีที่ยกข้อดีคนอื่นขึ้นมาก่อน ตามด้วยข้อด้อย แต่หยอดนิดหยอดหน่อยว่าแต่ที่ฉันจบมามันดีตรงนี้นะ ก่อนจบก็เอาซะหน่อยว่ามหาลัยฉันก็มีข้อไม่ดีนะ ตบจบด้วยโอวววว เรามารักกันเถอะ นี่ไม่ "กลาง" หรอก ก็รู้ ๆ กันอยู่แล้วสถาบันการศึกษาใคร ๆ จะเอียง ๆ ก็เข้าใจกันได้ แต่รวม ๆ เขาก็รู้ ๆ กันอยู่อีกเหมือนกันว่าขึ้นกับตัวเด็กเอง ความพร้อมของสถาบัน โอกาสหลังจบ แต่ประเภทเขียนไปหยอดไปเนี่ย ไม่เอาน่า ล้อเล่นหรือเปล่า จากคุณ : elenote เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 01:21:13

ความคิดเห็นที่ 76 ไม่มีกีบเหลือให้ 75 จากคุณ : อย่าให้ต้องพูดซ้ำอีกนะ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 01:23:31

ความคิดเห็นที่ 77   คห. 75 โดนใจมาก ไอ้พวกปลิ้นปล้อนโกหก เด๋ว ก็ ญ เด๋ว ก็ชาย โคตรเกลียดเลย พอมีคนจับได้ก็มานั่งแถว่าบัตรผ่านนี้มีคนใช้เยอะ ทุเรศว่ะ แน่จริง Login สิ มีไม่ใช่หรอ อย่ามาอ้าง ละถามหน่อย คุณบัตรผ่าน 174238 คุณทำอาชีพอะไรพอจะบอกได้มั้ย แก้ไขเมื่อ 29 เม.ย. 53 16:09:41 จากคุณ : พี่รักเจ้า (พี่รักเจ้า) เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 53 01:41:13

ความคิดเห็นที่ 78   หึหึหึ.... ความลับไม่มีในโลกจริงๆ เสียไหมนี่ คุ้มไหมนี่ หาเรื่องให้ ม.กรุงเทพ เองโดยแท้ จากคุณ : icutou เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 53 16:19:34 A:125.27.35.30 X: TicketID:138818