ความคิดเห็นที่ 1 Reader Digest  เบาๆดีค่ะเนื้อหาไม่ซีเรียสมากราคาไม่แพง ไม่ก็หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษธรรมดาๆนี่ล่ะค่ะ จากคุณ : justkitty (justkitty) เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 11:32:31

ความคิดเห็นที่ 2 Reader Digest จากคุณ : HappyFood เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 13:18:24

ความคิดเห็นที่ 3 เอาที่อ่านแล้วไม่เบื่อ ..................... นานาจิตตังครับ แต่ละคนมีรสนิยมไม่เหมือนกันหรอก อะไรที่ผมอ่านแล้วไม่เบื่อ คุณอาจอ่านแล้วเบื่อก็ได้ แนะนำว่าไม่ต้องเสียเงินค่าสมาชิกวารสารหรอก หาอ่านในอินเตอร์เน็ตนี่แหละ มีทุกเรื่องที่อยากอ่านอยู่แล้ว จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 14:14:35

ความคิดเห็นที่ 4 Reader Digest เป็นหนังสือที่ควรมี ใช้ภาษาดี  แม้จะมีคำผิดบ้าง จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 14:46:15

ความคิดเห็นที่ 5 Eine Frage Wo bist Du  ?? จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 14:47:17

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนทำงาน ผจก เป็นฝรั่งสวิส-เยอรมัน เห็นเขาอ่าน Bangkok Post / Nation ผมก็รับเหมือนเขา ก่อนไปทำงาน อ่านแค่ Headline News ไม่อ่านรายละเอียดหรอก Post ภาษามันอ่านยาก ผมไม่ชอบ ผมชอบซัก ผมสงสัยอะไรก็ใช้สิทธิผู้อ่าน ยกหูโทร ไปหาผู้เขียน จนรู้จักตัวเป็นๆ ผมอ่าน Headline News แค่นี้ได้ผล ใช้หากินได้ เมื่อไปถึงที่ทำงาน ฝรั่งชอบถาม ยูเรื่องนี้ไหม ?? ผมก็ร้อง อ๋อ ได้เต็มปากเต็มคำ แล้วก็เกทับ กลับไป  (เคยได้เงินฝรั่ง 100 บาท จริงๆ ) ... ถามฝรั่งว่า  Yr opinion ???  อะไรทำนองนี้ คำถามพวกนี้ ผมใช้จำๆเอาทุกวัน ที่ฝรั่งถาม จำไว้ มาใช้ จะเห็นได้ว่า คำสนทนากันในออฟฟิส จะเป็นคำในกลุ่ม HeadlineNews นี่แหละ ถ้าเราดักทางได้ เราจะได้เปรียบครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 14:55:27

ความคิดเห็นที่ 7 ผมขออนุญาตบอกต่อ อย่าเปิดดิ๊ก แปล อ่านๆไปเถอะ ไม่ต้องกลัวผิด ผิดก็ผิดซิ(วะ) ... ผมเห็นหลายคน พยายามจะเล่นบท perfect-man จะเอา สมบูรณ์แบบ ทำอย่างนี้ ปวดหัว เครียด แล้ว .... ความล้มเหลว ยืนรออยู่ข้างหน้า มองรอบตัวเราจะเห็นว่า Idol ของเรายังไม่ perfect นี่ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 14:59:15

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าจะเอาเล่มเดียวครอบคลุม เราว่าคงจะเป็น Times หรือ Newsweek อ่านไม่ยากมาก (จริง ๆ ก็แล้วแต่ระดับความรู้และความถนัดของแต่ละคน บางทีเราอ่านเรื่องวิทยาศาสตร์มาก ก็ปวดตุ้มเหมือนกัน) Reader's Digest ก็โอเค แต่่ถ้าให้เลือกเราเลือกสองฉบับแรกมากกว่า เพราะมันรวดเร็วดี จริง ๆ คงมีอีกเยอะแยะนะ จากคุณ : Genuine XXX เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 15:38:11

ความคิดเห็นที่ 9 Reader's Digest ก็เลิศค่ะ เสียแต่ว่าหลังๆมานี้เนื้อหาวนอยู่แต่ด้านสุขภาพ ความอ้วน อะไรแบบนี้ แต่ในเล่มก็มีหลากหลายเรื่อง มีทั้งมุขตลกเฮฮา สาระน่ารู้ และประสบการณ์เรื่องเล่า อีกเล่นที่แนะนำคือ National Geographic ค่ะ แนวสารคดีสัตว์ ธรรมชาติ ภาพสวยมากๆ เนื้อหาก็สนุกดี แต่ถ้าอยาได้พวกข่าวสถาณการณ์ทั่วไปก็คงเป็น time ละค่ะ จากคุณ : kingofearth เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 20:44:40

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าเพิ่งหัดอ่านนะ อย่าไปเสียเงินรับประจำเลย เปลืองเปล่าๆ อ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสารต่างประเทศที่เขามีให้อ่านฟรี (ไม่เต็มเล่ม)บน websites ต่างประเทศ แค่นี้ก็เหลือกินแล้ว เปิดหน้าเวปมาอันไหนยากไปก็ปิดซะ อันไหนกำลังพอเหมาะก็อ่านไป เรียนรู้ไป ปรับระดับไปเรื่อยๆ เพื่อขยับไปอ่านเรื่องยากๆไปเรื่อยๆ หลายๆคนที่เพิ่งหัดอ่าน บางคนไม่รู้ เล่นอ่านหนังสือยากๆระดับ Time เพราะนึกว่าเท่ห์  จะบอกให้ว่าคนที่จะอ่าน Time รู้เรื่องนี่ภาษาอังกฤษต้องแข็งแรงมากๆนะ  ไม่ใช่เพิ่งหัดอ่านภาษาอังกฤษแค่ 2-3 เดือน แล้วจะอ่าน Time รู้เรื่องกันได้ง่ายๆ ถ้าพื้นฐานไม่ดี แล้วกระโดดไปอ่านหนังสือยากๆขนาด Time ละรับรองว่าปวดหัวแน่ๆ เผลอๆประสาทกินแล้วเลิกเรียนไปเลยหละ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ค. 53 23:07:15 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 53 23:06:03

ความคิดเห็นที่ 11   กำลังจะบอกเหมือนท่าน fortuneteller บอกเป๊ะ ถ้าคุณถามคำถามนี้เมื่อ 10 ปีก่อน ผมว่าเป็นคำถามที่ legitimate นะ ..... แต่ถามตอนนี้ ผมอ่านแล้วรู้สึก แป่ว..ว ทันที่ เพราะข้อมูลข่าวสารใน Internet มันเยอะมาก......ก....ก อยู่แล้ว แถมมีทุกระดับเลย ทำไมต้องไปเสียเงินอีกเล่า เอาอย่างนี้.. คุณสนใจเรื่องอะไรล่ะ เด๋วรบกวนท่านผู้รู้หลายๆท่านมา share กันว่ามี web ไหนน่าสนใจ ผมยกตัวอย่างให้ดูนะ.... แนว IT : http://news.cnet.com/      for latest news, critiques, product reviews -- many Thai magazines and newspaper got their stories from this site. Super popular. Science Magazines:   American Scientific, Popular Science, Discovery Magazine, How Stuff Works, Wired (and a lot more>>> type in those names in Google and their URLs will pop up.) Entertainment: http://www.etonline.com/ www.movies.com ...อีกเยอะ อ่ะ... ลองบอกเรื่องที่สนใจมาดิ เผื่่อตรงกับทางของคนอื่น เขาจะได้แนะนำให้ ตอนผมยังละอ่อน อยากเท่ ซื้อ Bangkok Post มาอ่าน อ่านรู้เรื่องไม่ถึง 2-3% แต่ทำฟอร์มไปงั้น ต่อมาทนไม่ไหว กลับไปอ่าน Student Weekly ดีกว่า :-) ... แนะนำกันตรงๆ อย่าโกรธกันเด้อ จากคุณ : MissingInAction (MissingInAction) เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 09:01:09

ความคิดเห็นที่ 12 ก็บางคนยังชอบอ่านหนังสือที่จับต้องได้อยู่ในมือนะ เพื่อนร่วมงานเป็นโปรแกรมเมอร์ซื้อหนังสือทุกอาทิตย์ ยังไม่ซื้อ Kindle เลย เค้าบอกตัวเค้ายังชอบความรู้สึกที่ได้จับ ได้พลิกหน้ากระดาษอยู่ ตัวเราเิองก็ชอบอ่านนิตยสารเล่มจริงมากกว่า (ถ้ามีตังก์ซื้อ) จะนอนหงาย นอนตะแคง นอนคว่ำ นั่งส้วม (กรุณาปิดจมูก) ก็อ่านได้ สบายตากว่าเป็นไหน ๆ นานาจิตตัง จากคุณ : Genuine XXX เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 11:28:08

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ ใช่บางคนชอบอ่านหนังสือเป็นเล่มๆก็จริง แต่ถ้าอ่านเพราะ "อยากฝึกฝนภาษาอังกฤษ" การไปซื้อหนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร มาจากต่างประเืทศ ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเพราะ 1. มีค่าใช้จ่ายสูงมากๆ 2. โอกาสที่อ่านแต่ละเล่มไม่จบเล่มมีมาก (เพราะมันจะมีเรื่องยากๆเกินไป ปนมาด้วย ทำให้เปลืองเิงินซื้อมาเปล่าๆ) 3. ไม่สะดวกต่อการจัดเก็บบันทึกสิ่งที่เรียนรู้มา เช่นต้องมีวิธีการจัดเก็บเอกสารที่ยุ่งยากหรือถ้าจะเก็บในเชิงอิเล็กทรอนิก ก็ต้องเสียเวลา scan หนังสือให้เป็น files แต่การอ่านบทความสั้นๆ online ไปเปรียบทุกรูปแบบคือ 1. ค่าใช้จ่ายต่ำ 2. อันไหนยากไปก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อ แค่ปิดหน้าเวป แล้วไปหาหน้าอื่นที่อ่านง่ายกว่ามาอ่าน แบบค่อยๆอ่านจากง่ายไปหายาก 3. จับบทความที่อ่านวางลงใน file ได้ จดศัพท์ จดตัวอย่างประโยค จัดเก็บ files ไว้เป็นหมวดหมู่ ง่ายต่อการกลับไปค้นหาและทบทวนความจำได้ง่าย 4. ถ้าอยากอ่านเป็นแผ่นกระดาษก็ print ออกมาอ่านได้ ซึ่งการทำเช่นนี้ ค่าหมึกพิมพ์ (เติมเป็นถังใหญ่ๆ) ก็ยังถูกกว่าไปซื้อ หนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร (มาครบเล่ม) จากต่างประเืทศ (แล้วก็อ่านไม่จบทุกเล่ม) อย่างแน่นอน ที่เราคิดเช่นนี้ก็เพราะเมื่อสมัยเราหัดอ่านภาษาอังกฤษใหม่ๆ (ตอนนั้นยังไม่มีของฟรีใน Internet) เราก็ซื้อดะไปหมด ทั้ง  หนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร (มาครบเล่ม) จากต่างประเืทศ ซื้อไอ้แบบยากๆเกินไป ซื้อมาก็อ่านไม่รู้เรื่อง ในที่สุดก็ต้องมาชั่งกิโลขาย เสียดายเงินอ้ะ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 53 12:02:44 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 11:58:20

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ ที่คุณพูดก็ถูก และที่เราพูดก็ไม่ผิด เพราะเราเขียนว่า "ถ้ามีตังก์ซื้อ และถ้ายังอยากอ่านหนังสือเล่มจริงอยู่ (แทนที่จะมองมอนิเตอร์) นานาจิตตัง" เราอยู่อเมริกานี่ ถ้าจะใช้ความพยายามซักนิดนะ สามารถสมัครสมาชิกแม็กกาซีน ฟรี ๆ หรือไม่ก็ถูก ๆ เยอะมาก เช่น The Economist 12 เหรียญ/ปี Times, (Bloomberg) Businessweek ปีละ 2 เหรียญ จขกท ก็ไม่ได้บอกงบประมาณเรามา เราก็ไม่รู้ว่าเค้ายินดีจ่ายราคาไหน แล้วถ้าตัวเราไม่ได้อ่านทุกหน้าจากปกหน้าถึงปกหลัง ก็ไม่ได้หมายความว่า คนอื่นจะต้องทำเหมือนกับเราเสมอไป เรามีเพื่อนหลายคน ซื้อแพรวติดต่อกันมาเป็นสิบปีแล้ว (ไม่น่าจะมีฉบับออนไลน์) แต่เราไม่สนใจ ขนาดเพื่อนหอบมาให้จากเมืองไทย เรายังไม่แตะเลย บอกเธอเอากลับไปเหอะ แต่เราว่าคนอ่านหนังสือที่พิมพ์บนกระดาษน้อยลงก็ดีเหมือนกัน น่าจะเป็นการช่วยประหยัดทรัพยากรโลก จากคุณ : Genuine XXX เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 13:02:36

ความคิดเห็นที่ 15 เราก้ชอบอ่านนิตยสารเล่มจริงๆเหมือนกันค่ะ แต่คิดเหมือนกันว่า เรียนภาษาอังกฤษเราว่า อ่านบนเวบง่ายกว่า มีสื่อให้เลือกเยอะ แล้วถ้าสมัครนิตยสารมาไม่ถูกใจ เราว่าโอกาสที่จะเสียดายตังค์ก็เยอะ เราเคยเช่า NG มาอ่าน ปรากฏ...งืมม อ่านไม่รู้เรี่อง 55+ เอาไปคืนดีกว่า ทั้งๆที่ภาคไทยเราชอบอ่านนะ ได้ความรู้ดี ถ้าจะซื้อหนังสือภาษาอังกฤษ เราจะซื้อนิยายที่คิดว่าสนุกแน่นอน แล้วก็อ่านจบชัวร์ จากคุณ : marina_rain เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 53 17:27:16

ความคิดเห็นที่ 16 555 ขอบคุณทุกท่านที่มาแนะนำครับ คุณ MissingInAction ผมสนใจเรื่อง การตลาด ธุรกิจ บันเทิง ท่องเที่ยว ประมาณนี้ครับ จากคุณ : Das ist ein Mensch เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 53 22:33:38