|
ความคิดเห็นที่ 15 |
|
ขอแสดงความคิดเห็นด้วยความคิดเห็นส่วนตัว (สุดๆ) ครับ
ถ้าจะเรียนที่อังกฤษ - English linguistics / discourse analysis/New Literacy: Lancaster, Liverpool, Birmingham
-Theoretical/socio-linguistics ก็ Esssex, Lancaster, Edinburgh, York, Cambridge, King's College, Oxford, SOAS
- TESOL/Applied Linguistics: Bristol, Warwick, Leicester, Canterbury Christ Church, Leeds
- Language Testing: Lancaster, Leicester, Bristol
- English Literature: Oxford, Cambridge, UCL, Newcastle, Edinburgh, Warwick
จริงๆแล้วในอังกฤษมีหลายที่ที่เป็นมหาวิทยาลัยเล็กๆ ranking ท้ายๆ (หรือ ranking สูงแต่คนไทยไม่รู้จัก)คนไทย (และเอเชีย ยกเว้นเด็กญี่ปุ่น)ไม่รู้จักและไม่นิยมมาเรียน แต่ดังในกลุ่มคนอังกฤษและยุโรป คนที่จบไปก็ไปเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยดังๆ ของอังกฤษ มหาวิทยาลัยกลุ่มนี้คือ Loughborough (อันนี้ ranking สูงแต่ไทยไม่ค่อยรู้จัก), De Montfort, Sheffield Hallam (สองที่หลัง ranking รวมของมหาวิทยาลัยต่ำมากๆ แต่มีอาจารย์ด้านภาษาดังๆเยอะมากๆ)
ถ้าที่อเมริกา ลองถามคุณ เมื่อลมแรง...ฯ ดูครับ ผมไม่รู้เลย
ถ้าที่ไทย (อันนี้ก็ความคิดเห็นส่วนตัวอีกเหมือนกัน) อ. ที่สอนในระดับ ป.เอก สายภาษาแต่ละที่ profiles ไม่ต่างกัน ผู้เรียนก็ไม่ได้ต่างกันมาก (เด็กที่มาเรียนเอกที่อังกฤษก็ไม่ได้เก่งกว่าเด็กเรียนเอกที่ไทย เพียงแต่อาจมีโอกาสได้มาเรียน...อาจจะดีตรงที่ได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันมากกว่า)
ส่วนเรียนที่ไหนในไทยดี ขอเดาว่าคุณ จกท คงเป็นอาจารย์สอนภาษาหรือกำลังจะเป็นอาจารย์นะครับ
- ในกรณีที่เป็นอาจารย์อยู่แล้วและคิดว่าจะอยู่ทำงานต่อไปเรื่อยๆ ไม่ย้ายที่สอน ผมจะไม่ยอมเรียนในไทยเป็นอันขาดเพราะเชื่อว่าวันนึงมันต้องมีทุนมาถึงเราและได้ไปเรียนต่างประเทศ การเรียนเอก (หรือระดับไหนก็ตาม) เป็นการลงทุนลงแรงมากๆ ดังนั้นถ้าเราต้องเหนื่อย ก็ขอให้ได้อะไรกลับมาให้สมกับค่าเหนื่อยครับ การเรียนต่างประเทศไม่ได้หมายความว่าเราจะเก่งกว่าคนจบในไทย แต่มันได้ประสบการณ์หลายๆอย่างที่ต่อให้เราเก่งภาษาอังกฤษแค่ไหน แต่ถ้าไม่เคยไปอยู่ต่างประเทศเลย ความรู้ในเรื่องวัฒนธรรม การใช้ภาษาในสถานะการณ์จริง ความเป็นอยู่ สิ่งเหล่านี้เราไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้จากการไปเทคคอร์สสั้นๆแค่ไม่กี่เดือนครับ
- โดยส่วนตัวแล้ว ถ้าผมจะเรียนเอกที่ไทยก็ต่อเมื่อ เคยไปเรียนตรีหรือโท ที่ต่างประเทศมาแล้ว หรือมีครอบครัวและไม่อยากจากภรรยาหรือลูกเล็กๆไปเรียน (จริงๆแล้วเอาเค้าไปด้วยก็น่าจะดีกว่า) มีพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ หรือใครๆก็ตามในครอบครัวที่เราเป็นห่วง เช่นปัญหาสุขภาพหรือเรื่องอะไรก็ตาม ที่ทำให้เราคิดว่าเราควรจะอยู่ดูแลเขาข้างๆ หรือตัวเราเองมีปัญหาสุขภาพที่ถ้าเราไปอยู่ต่างประเทศอาจทำให้ครอบครัวเราเป็นห่วง (แต่ถ้าเขาไม่ห่วงเรา ให้เราไปได้เราก็ควรไป) แต่ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องพวกนี้ น่าจะเลือกไปเรียนต่างประเทศครับ
- ถ้าจะเรียนเอก ไม่ว่าในไทยหรือต่างประเทศ ผมว่าน่าจะขอทุนครับ เรียนเองไม่คุ้ม (อันนี้อย่าว่าผมงกนะครับ) ถึงแม้เรียนในไทย ค่าเรียนอาจไม่กี่แสน แต่กว่าจะเรียนจบ ค่าใช้จ่ายรายเดือนและอื่นๆ รวมๆแล้วเป็นเงินเยอะพอสมควร ถ้าเราลงทุนไปมากเมื่อเรียนจบแล้วก็คงต้องการถอนทุนคืนแน่นอน ผมว่ามันเป็นธรรมชาติของคนเรานะ เคยเห็นบางคนที่ต้องควักเงินตัวเองเรียน พอเรียนจบมาเลยต้องสอนจนแทบจะไม่ได้พักผ่อนเพื่อที่จะถอนทุนคืน เลยกลายเป็นว่าทำงานแบบไม่มีความสุขเลย (เพราะเงินก็คงสำคัญ กว่าจะจบ อายุก็คงไม่น้อยแล้ว ต้องมีภาระครอบครัวฯลฯ) นอกเสียจากว่าครอบครัวจะมีเงินอยู่แล้ว สามารถส่งเราเรียนได้โดยที่ไม่ได้คาดหวังให้เราต้องช่วยเหลือด้านการเงินหลังเรียนจบ
สรุปคือ ผมอยากให้ค่อยๆหาทุนเรียน ไปเรียนที่ไหนก็ได้ที่อยู่นอกประเทศไทย หรือถ้าไม่อยากติดทุน อยากออกเงินเรียนเอง ถ้าไปอเมริกา อังกฤษ ออสฯ แคนาดา นิวฯ ได้ก็ไป ถ้าอยากประหยัดก็ไปฮ่องกง (ถ้าเรียน TESOL ผมว่าดังพอๆกับอังกฤษเลยละ อินเดีย มาเลฯ อะไรก็ได้ครับ เพราะอย่างน้อยก็มีโอกาสได้ใช้ภาษามากกว่าอยู่ไทยอยู่ดี
ที่ไม่อยากให้รีบเรียนเอกที่ไทยตอนนี้เพราะว่า ถ้าอีกปีสองปีมีทุนไปต่างประเทศมาให้เรา แต่เราเรียนในไทยไปแล้ว เราก็อดไปทันทีครับ ต่อให้ต้องรอแบบแทบไม่รู้ว่าจะมีโอกาสหรือเปล่าก็น่าเสี่ยงนะครับ ถ้าต้องเหนื่อยกับการเรียนทั้งที ก็ขอให้ตอนเช้าๆเดินออกจากบ้านแล้วได้สูดอากาสดีๆ เจอกับอากาศหนาวๆ ทานอาหารแปลกๆ (ถึงจะไม่อร่อยก็เถอะ) ได้เห็นคนเดินผ่านไปผ่านมาที่รูปร่างหน้าตาแปลกไปจากเรา มีอะไรเล็กๆน้อยๆที่เราน่าจะรอไปสัมผัสกับสิ่งพวกนี้นะครับ
มีประสบการณ์ตรงคือ ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง เรียนดีทีเดียว ช่วงนั้นเพื่อนคนนี้อยากเรียนต่อเอกแต่ทางมหาวิทยาลัยยังไม่มีทุน เธอเลยเลือกเรียนเอกในไทย ผ่านไปสองปีก็มีทุนมา เนื่องจากเรียนไปแล้วทางมหาวิทยาลัยเลยไม่ให้เธอออกเพื่อรับทุนไปต่างประเทศ เพื่อนอีกคนที่ยอมเสียเวลารอสองปีเลยได้ไปแทน
ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณมีข้อจำกัดเรื่องครอบครัวดังที่ได้กล่าวไปแล้ว หรือไม่อยากจากแฟนไปเรียนครับ อันนี้ก็เรียนที่ไทย
อีกช้อยนึงคือ ถ้าไม่อยากเสี่ยงว่ารอเก้อไปหลายปี ทุนก็ไม่มาสักที เลยไม่ได้ทั้งไปเรียนนอก ในไทยก็ไม่ได้เรียนด้วย ถ้ากลัวแบบนี้ก็คงต้องยอมลงทุนลงแรงหน่อย โดยการเรียนเอกที่ธรรมศาสตร์ คิดว่าเป็นภาคพิเศษ เรียนเสาร์ อาทิตย์ครับ แล้วออกเงินเรียนเอง ในกรณีนี้ผมคิดว่าถ้าคุณเรียนไปสองปีแล้วเกิดมีทุนมา คุณก็น่าจะรับทุนนั้นได้ (เพราะคุณไม่ได้ขอเงินจากทางมหาวิทยาลัย แล้วก็เรียนนอกเวลา) แล้วก็ไปเรียนต่อต่างประเทศ ถ้าเสียดายของธรรมศาสตร์เพราะเรียนไปแล้ว ก็ขอดร็อป ไว้ว่างค่อยขอมาเรียนต่อ หรือขอเป็น ป.โท แทน ถ้าทำแบบนี้มีข้อดีคือ ถ้าคุณไม่มีโอกาสได้ทุนไปเรียนต่างประเทศเลย คุณก็ยังได้เรียนเอกที่ธรรมศาสตร์ไปด้วย อายุงานก็ไม่แป็กด้วย เพราะคุณก็สอนไปเรื่อยๆ จบเอกมาก็รอเวลา 2 ปี ทำวิจัยขอ ผศ ได้ครับ
จากคุณ |
:
JP
|
เขียนเมื่อ |
:
7 พ.ค. 53 02:23:51
A:109.246.5.90 X: TicketID:141052
|
|
|
|
|