ความคิดเห็นที่ 1 แปลหนังสือจ่่ายเงินตายตัวเป็นเล่มๆไม่เคยโดนเบี้ยว แต่แปลหรือเขียนหนังสือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์นี้นักแปลหรือนักเขียนไม่มีทางรู้ว่า สนพ ในเมืองไทยพิมพ์มากน้อยแค่ไหน เราเคยคิดจะเขียนหนังสือแล้วขอให้เขาจ่ายจำนวนตายตัวทุกๆ 3 เดือนหรืออะไรงี้ก็ไม่เคยทำ ไม่รู้ว่าเขาจะยอมหรือเปล่า? แต่ที่แน่ๆก็คือสำนักพิมพ์ต่างประเทศไม่เคยเบี้ยวนักเขียน เขียนเล่มหนึ่งขายดีๆรวยเละ ตอนนี้เราเลยซุ่มๆฝึกเขียนภาษาอังกฤษกะจะเขียนหนังสือเป็นภาษาอังกฤษเผื่อจะได้เงินมากกว่าแปลหนังสือหรือเขียนหนังสือให้สำนักพิมพ์ในประเทศไทย จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 17:13:04

ความคิดเห็นที่ 2 ในสัญญาระบุถึงประเด็นนี้ไว้ว่ายังไงล่ะครับ? ทราบหรือไม่ว่าพิมพ์ครั้งแรกนั้นกี่เล่ม? ระบุไว้ว่าจะจ่ายเงินให้เมื่อไหร่ อย่างไร? การที่คนขายบอกว่ามาวางใหม่ อาจไม่ได้แปลว่าเป็นการพิมพ์ล็อตใหม่นะครับ หนังสืออาจกองรวมอยู่ที่คลังสินค้าแล้วถูก กระจายมาตามสาขาที่ขายหมดเป็นรอบๆ และอาจขายดีแค่บางสาขาในกรุงเทพฯก็เป็นได้ แต่ถ้าข้องใจจริงๆ อาจลองโทรไปถาม สนพ ดูก็ได้ครับ ไม่ต้องถามแบบจับผิด เอาแค่อยากรู้ว่ายอดขายเป็นไง ขายดีมั้ย มีโอกาสได้พิมพ์ซ้ำมั้ย แล้วดูว่าเขาตอบว่าอย่างไร จากคุณ : sundown เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 53 22:26:43

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณทั้งสองท่านค่ะ คุณ sundown คะในสัญญามีระบุค่ะ และมีการันตีจ่ายขั้นต่ำด้วย  เช่นพิมพ์สามพันเล่ม การันตีจ่ายสองพันห้าร้อยเล่ม  แต่ที่เช็คดูกับสนพ.ยอดขายก็ไปเรื่อยๆแบบอืดมาก  ประมาณปีกว่าแล้ว พิมพ์เล่มสองตามออกมาแล้ว แต่ยอดขายรวมกัน อยู่ที่ประมาณพันกว่าเล่ม  ในสัญญาไม่ได้ระบุการจ่ายเงิน แต่สนพ.บอกว่าต้องครบพันเล่มจึงจะจ่ายที  อันนั้นพอรับได้ แต่ที่กลัวก็คือว่ายอดขายที่เขาส่งมาให้เราน่ะสิคะ  จะเป็นตัวเลขที่ทางสนพ.made ขึ้นมาเองรึเปล่า เราก็ไม่รู้ได้  กลุ้มเลย.... คุณ fortuneteller, that is a good idea, let's do it, and wish u good luck ค่ะ จากคุณ : ตลับไหม เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 12:19:12

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าสัญญาระบุชัดเจนตามข้างบน ผมว่าแปลกๆนะครับ เนื้อหามันขัดกันเอง การันตีจ่ายแน่ 2,500 เล่ม แต่ครบพันเล่มจึงจะจ่ายครั้งหนึ่ง? งั้นถ้าสมมติขายจริงๆได้ 1,900 เล่ม ก็แปลว่าเราจะได้เงินแค่ 1,000 เล่มสิครับ? ถ้าการันตีจริง สนพ ก็ควรจะจ่ายให้เรา 2,500 เล่มภายในช่วงระยะเวลาหนึ่งหลังเซ็นสัญญา เช่น ภายในหนึ่งปี อีก 500 เล่มก็จะได้ตามยอด ขายจริงหากว่าขายดี ส่วนยอดขายที่ว่าเกือบสองปีแล้วขายได้พันกว่าเล่ม ผมว่าไม่แปลกนะ คิดคร่าวๆก็ตกเดือนละ 40-50 เล่มแล้ว เว้นแต่จะมั่นใจว่าหนังสือ คุณขายดีมากๆจริงๆ จากคุณ : sundown เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 21:26:50

ความคิดเห็นที่ 5 วิธีนึง ที่ช่วยได้ แต่ต้องควักเพิ่มคือ ติดสติกเกอร์เลเซอร์บนปกทุกเล่มด้วย ทำให้ สนพ. ไม่กล้าพิมพ์เพิ่ม เพราะไม่มีสติ๊กเกอร์ จากคุณ : Hoo เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 10:21:33

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ sundown คะ สนพ.เขาการันตีจ่าย 2,500 เล่ม หมายถึงว่าแม้หนังสือขายไม่ถึง 2,500 เล่ม เขาก็จะจ่ายให้เรา 2,500 เล่มค่ะ (คิดว่าน่าจะเป็นกรณีของหนังสือที่ขายไม่ดีจริงๆ อาจจะหยุดขายหยุดพิมพ์แล้ว ) แต่ที่จ่ายตังค์เมือครบพันเล่มนั้น  เป็นการเคลียร์ยอดขายเมื่อครบพันเล่ม  เห็นเขาบอกประมาณว่าทางซีเอ็ดจะส่งเช็คมาเคลียร์ให้เขาเมื่อยอดขายครบพันเล่ม  เขาก็เลยขอจ่ายเราเมื่อยอดครบพันเล่ม  ถ้าขายได้ 1,900 เลม ก็แปลว่าเขาต้องจ่ายเราไปแล้วครั้งหนึ่งค่ะ แล้วเดี๋ยวพอครบสองพันเล่ม เขาก็จะจ่ายนักเขียนมาอีก คุณ hoo คะ  การติดสติ๊กเกอร์นี่ต้องติดในขั้นตอนไหนคะ  ติดจากโรงพิมพ์หรือติดที่ซีเอ็ด แล้วใครเป็นผู้ติด ใครเป็นผู้จ่าย  ค่าใช้จ่ายประมาณดวงละเท่าไหร่เหรอคะ  ขอบคุณมากค่ะ  นี่เป็นความรู้ใหม่จริงๆ จากคุณ : ตลับไหม เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 15:56:24

ความคิดเห็นที่ 7 ผมขอตอบในฐานะของนักเขียนคนหนึ่ง และตอนนี้เริ่มจะผันมาทำเอง เล่มแรกขาดทุน (ความโง่ส่วนตัวหลงเชื่อคนบางคนว่ารับผิดชอบงานได้) ยอดขายตอนนี้ ยังไม่ถึง 700 เล่ม เล่มที่สอง 1000 เล่มใน 3 เดือน เริ่มดีขึ้น ติด top100 se-ed อยู่สัก10 กว่าวัน เล่มสามยังไม่รู้ยอดแต่คิดว่าน่าจะดี ติด top100 se-ed มา 40 กว่าวันแล้ว ไม่หวือหวา แต่ก็พอทำให้มีกำลังใจ ก่อนอื่น ขอให้คุณในระบบสายส่งก่อน คือสำนักพิมพ์เล็กๆเนี่ย ถ้าจะส่งไปให้ทีละร้านด้วยตัวเอง ก็คงจะเป็นปัญหาไม่น้อย เพราะร้านหนังสือในไทยมีราวๆ เป็นพันร้านด้วย ไปส่งร้านละ 3-5 เล่มทุกร้านคงไม่ไหว อันนี้จึงต้องพึ่งสายส่ง เช่น สายส่งซีเอ็ด มีหน้าร้านของตัวเองด้วย คือ ซีเอ็ด อมรินทร์มีหน้าร้าน นายอินทร์ ดวงกมล มีหน้าร้าน ดอกหญ้า (นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมหนังสือแต่ละเล่มเมื่ออยู่คนละร้านจึงลดราคาไม่เท่ากัน ปกติหนังสือร้านไหนที่สายส่งเป็นเจ้าของ ถ้าเราส่งให้สายส่งเจ้านั้น หน้าร้านเขาจะลด 10 % แต่ถ้าเป็นสายส่งอื่น มักจะลด 5 % เช่น ผมให้ซีเอ็ดเป็นสายส่ง หนังสือผมในร้านซีเอ็ดลด 10 % แต่ในร้านอื่นๆจะลด 5 % แต่ไม่เสมอไปนะครับ) ทีนี้เวลาหนังสือออก สมมติว่าพิมพ์ 3000 เล่ม โรงพิมพ์ที่พิมพ์ให้เราจะจัดการไปส่งให้ที่คลังสายส่งเลย สายส่งจะทำหน้าที่กระจายหนังสือออกไปแต่ละร้านอีกที เมื่อหนังสือหมด ทางร้านก็จะแจ้งสายส่งมาอีกที สายส่งก็จะนำหนังสือไปเติมให้ ประมาณนี้แหละครับ เพราะการที่หนังสือไปเติมนั้น อาจจะไม่ได้หมายความว่าขายดี เพียงแต่ร้านนึงจะสั่งเข้าไป 3-5 เล่มหรืออาจจะถึง 10 เล่ม หมดทีก็เติมที 3-5 เล่มต่อร้าน (ไม่อยากจะบอกว่าเล่มแรกที่แย่ๆของผม บางเดือนขายได้แค่ 30 เล่มก้มี เฉลี่ยขายได้วันละเล่ม จากทั่วประเทศไทย 5555) เชื่อไหมว่าบางทีสองเดือน ซีเอ็ดทั่วประเทศสั่งเติมแค่ 50 เล่มก็มี จริงๆผมเคยเป้นทั้งนักเขียนและตอนนี้ก็เริ่มทำเองแล้ว ก็เข้าใจทั้งสองฝ่าย ของอย่างนี้ต้องอาศัยความไว้ใจกัน โชคดีที่ผมได้สำนักพิมพ์ที่ค่อนข้างไว้ใจได้ทำให้ แม้จะเป็นสำนักพิมพ์เล็กๆก็ตาม ตอนนี้ก้ยังส่งให้เขาอยู่ (เพราะที่ตัวเองทำทำเฉพาะแนวๆกำลังใจ พวกนิยาย หรือแนวอื่นๆก็ส่งให้ที่อื่นพิจารณาตีพิมพ์เหมือนเดิม) ของอย่างนี้ต้องอาศัยความไว้ใจกันครับ อย่าแปลกใจว่าทำไมไม่เปลี่ยนปก คุณดูหนังสือขายดีบางเล่มดิ บางทีปกใหม่พิมพ์ว่าพิมพ์ครั้งที่ 5 ข้างในบรรณานุกรม เขาจะเขียนว่า พิมพ์ครั้งที่ 1-4 วันเดือนปีอะไรก็ว่ากันไป คือเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนปกเหมือนกัน เปลี่ยนปกทีก็แพงนะครับ อย่างน้อยก็หมดค่าเพลทหาลยบาทอยู่นา หนังสือของผมที่ออกกับที่อื่น พิมพ์ซ้ำมาน่าจะ 5-6 ครั้งแล้ว ก็ไม่ได้เปลี่ยนปกนะครับ จากคุณ : urbandoctor (urbandoctor) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 10:45:37

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่ทราบในรายละเอียด เหมือนกันครับ เคยได้ยินคอนเซ็ปต์มาคือ ติดต่อ คนออกแบบสติ๊กเกอร์ เป็น โลโก้เราเอง เสร็จแล้วก็ ติดต่อกับโรงงาน ให้ทำออกมากี่ชุดก็ว่าไป ซึ่งเหมือนกับโรงพิมพ์คือ ยิ่งสั่งเยอะ ราคาต่อหน่วยยิ่งถูก (ถ้าเราจะเขียนหลายเล่ม ทำเผื่อไปเลยก็ได้) ได้สติ๊กเกอร์มาแล้ว พอเราไปตกลงกับโรงพิมพ์เท่าไหร่ ก็ให้สติ๊กเกอร์ไปตามจำนวน พร้อมเผื่อเค้าทำขาดหรือเสียหาย ซัก 10% แล้วให้เขาส่งคืนส่วนที่เกินหลังแปะเสร็จ โดย ส่วนที่เกินไม่ได้ใช้+ซากที่ขาด = เท่ากับจำนวนที่เราให้เผื่อไป เรื่องการแปะ คิดว่าคงทำที่โรงพิมพ์ ก่อนโรงพิมพ์จะห่อเป็นก้อนๆ นั่นแหละครับ ถ้าทำขั้นตอนอื่นจะยุ่งยากกว่ามาก แน่นอนต้องเพิ่มค่าแรงให้เค้าด้วย จะเห็นว่า ต้นทุน และความปวดหัว สูงขึ้นมาก หนังสือที่มีสติ๊กเกอร์จึงมักเป็นหนังสือที่มีราคาสูงๆ ถึงจะคุ้ม ครับ ไม่อย่างนั้นคงต้องหาคนที่ไว้ใจได้ ไม่ต้องปวดหัววุ่นวายใจ ต้นทุนในการตรวจสอบก็ลด โบราณถึงว่าไว้ "มิตรแท้มีค่ามากกว่าทองคำ" จากคุณ : Hoo เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 11:41:16

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ hoo คะ อย่างนั้นคงจะยาก เพราะนอกจากความยุ่งยาก และแพงแล้ว เรายังไม่เคยติดต่อกับโรงพิมพ์ด้วยตัวเองอีกด้วยค่ะ เพราะเป็นหน้าที่ของสนพ.ในการติดต่อประสานกับโรงพิมพ์ นักเขียนไม่ได้ติดต่ออะไรกับโรงพิมพ์เลย แทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาพิมพ์หนังสือเราที่ไหน นอกจากจะอ่านจากปกในหรือถามสนพ. ขอบคุณคุณ hoo และคุณ urbandoctor มากค่ะ ทำให้ได้รู้ข้อมูลมากขึ้น จากคุณ : ตลับไหม (ตลับไหม) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 18:14:56

ความคิดเห็นที่ 10 ในฐานะที่เป็นนักเขียนคนนึงค่ะ ตอนที่เขาเสนอค่าตอบแทนให้ เขาจะถามเราว่า จะรับค่าตอบแทนเป็นแบบไหน แบบเอาเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย หรือว่าจะขอแบบทีเดียวจบ เราก็เลือกแบบทีเดียวจบ  ..ได้ค่าตอบแทนมา 80,000 หักคนช่วยถ่ายภาพแล้วเหลือ 72,000 โอค่ะ เราไม่ได้เรียก แต่เป็นราคาที่เขาเสนอให้ เขาบอกว่า คิดให้เราแบบ ยอดขายหมื่นเล่ม พิมพ์ครั้งละ 5,000 ถ้าคุณไม่อยากปวดหัว ว่าเขาจะแอบพิมพ์แล้วเราไม่รู้ ก็ขอให้เลือกแบบ ได้ค่าตอบแทนมาทีเดียวจบ ถึงเขาจะขายได้มากกว่านั้น เราก็ตัดใจไปเลย อย่าโลภ โลภแล้วปวดหัวค่ะ   การที่คุณไปทำอะไรมาก อย่างเช่น คิดจะทำสติกเกอร์ บอกตรงๆว่าคิดได้แต่ทำไม่ได้หรอก ถ้าเราพิมพ์เองอาจทำได้ ในกรณีที่เรากลัวหนังสือปลอม แต่นี่ไม่ใช่  นี่เราขายต้นฉบับให้สำนักพิมพ์ แล้วสำนักพิมพ์เขามีโรงพิมพ์เองหรือให้ที่อื่นพิมพ์ให้เราก็ไม่รู้ และเช็คไม่ได้ด้วยว่าเขาจะพิมพ์กี่ครั้ง จะขอดูใบส่งของของบริษัทก็ใช่ที่ ตัดสินใจให้ต้นฉบับเขาไปแล้ว ก็ทำใจอย่างเดียวค่ะ เขาจะให้เงินเท่าไร ก็ขอให้ทำใจ  คิดเสียว่า ปัญญาอยู่ที่เรา เราเขียนใหม่ได้ เคยมีคนโทรมาหาเรา แบบว่าปรับทุกข์ เขาเขียนหนังสือคนละแนวกับเราค่ะ โรงพิมพ์เสนอค่าตอบแทนได้เขาแค่เล่มละ 3,000  แล้วจะให้อีกทุกครั้งที่มีการพิมพ์เพิ่ม เราก็ไม่รู้จะตอบยังไง ส่วนอีกคน บอกว่า หนังสือเขายอดขาย5,000 เล่มสบายๆ อยู่แล้ว ได้ค่าตอบแทนเล่มละหมื่น เราก็เงียบ บางครั้ง การที่เราจะส่งหนังสือให้สำนักพิมพ์ไหน บางทีเราก็ต้องคิดด้วย ว่าเราจะได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่ามั๊ย  ลองเสนอสำนักพิมพ์อื่นดู คิดเสียว่า ตอนนี้เรามีจุดเริ่มต้นแล้ว การจะเดินก้าวต่อไปไม่ใช่เรื่องยาก .. สำหรับสำนักพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือให้เรา บอกตรงๆว่า เราให้ต้นฉบับเขาไปถึง 2 ปีกว่าจะถึงคิวพิมพ์ให้เรา เขามีคิวที่จะพิมพ์หนังสือเยอะมาก  ทั้งส่วนที่เป็นหนังสือใหม่และพิมพ์เพิ่ม  เราโทรไปถาม เขาก็บอกว่า ขายได้เรื่อยๆ  และเวลาเราไปซีเอ็ด นายอินทร์ ฯลฯ เราก็ชอบแวะไปดูหนังสือของเราบ่อยๆ เขาบอกเราว่า พิมพ์ครั้งที่ 2 ไปแล้ว แต่เราก็ยังเห็นปกแรกอยู่ค่ะ   ตอนหนังสือพิมพ์แล้วเรารอเขาจ่ายเงิน 2 เดือนค่ะ ได้งวดแรกครึ่งนึง และอีกเดือนถัดมาได้อีกครึ่งนึง แนวการเขียนหนังสือ ก็เป็นอีกปัจจัยนึงว่า เขาจะให้ค่าตอบแทนเรามากน้อยแค่ไหน แต่ถ้าคิดจะเปลี่ยนสำนักพิมพ์ สำหรับต้นฉบับเดิม อย่าดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ทีหลังเปล่าๆ  เขียนใหม่ดีกว่าค่ะ  ภูมิปัญญาอยู่ที่เรา เราเขียนได้ จากคุณ : yanang เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 19:29:51

ความคิดเห็นที่ 11 เพิ่มเติมค่ะ ในส่วนของซีเอ็ด การส่งหนังสือครั้งแรก เขาจะให้เวลา 2 เดือน แล้วจะให้ สนพ.ส่งใบขอเช็คยอดไป จากนั้นเขาจะเช็คยอดให้ภายใน 15 วัน โดยแจ้งกลับมาทางแฟ็ก พอสำนักพิมพ์ได้รับยอดแล้วว่า เดือนนี้ขายเล่มนี้ได้เท่าไร  สนพ.ก็จะไปวางบิล ตามเวลาที่เขากำหนด แล้วอีก 1 เดือนหลังจากนั้น ก็ไปรับเงินค่ะ ตามที่ขายหนังสือได้จริงค่ะ ถ้าวางบิลไม่ทันก็ให้ไปวางในรอบต่อไป  เช็คยอดรอบต่อไป เช็คทุกเดือน ค่ะ   (ผิดพลาดบวกลบไม่เกินนี้ค่ะ เราพอรู้ระบบ แต่หลายปีแล้ว ลืมๆ ไปบ้าง) ที่เขาบอกคุณว่า ซีเอ็ดจะบอกมา เมื่อขายครบ 1,000 เล่ม แล้วถึงให้เช็คมา แล้วเขาก็ขอจ่ายคุณตอนนั้น ไม่เป็นความจริงเลยค่ะ ถ้าเขาเช็คยอดทุกเดือนเขาก็ได้เช็คทุกเดือน ...แต่ถ้าขายไม่ได้จริงๆ เขาอาจจะรวมหลายๆ เดือนแล้ววางบิลทีก็เป็นได้   เป็นความจริงที่คุณข้างบนบอก คือ ครั้งแรกที่เขาเอาหนังสือเราไปส่งให้ซีเอ็ด อาจจะเอาไปส่งที 500-1,000 เล่ม แล้วซีเอ็ดก็กระจายไปตามสาขาต่างๆ สาขา 5 เล่มบ้าง 10 เล่มบ้าง สาขาไหนหมด ก็จะสั่งไปยังคลังหนังสือ เขาก็เอาที่เราเอาไปส่งไว้นั่นแหละไปเติมให้แต่ละสาขา  ทีละ 5 เล่ม 10 เล่ม การเอามาวางใหม่ ตามการบอกเล่าของคนขายก็ด้วยความหมายนี้   เห็นใจค่ะ ค่อยๆ คิด ความจริงมันก็ประการฉะนี้แหละ ถือเป็นประสบการณ์ของนักเขียนใหม่ อย่าท้อเพราะเรื่องแค่นี้เลยค่ะ จากคุณ : yanang เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 19:51:03