ความคิดเห็นที่ 1 เคยอ่านเจอ Michael Swan เขียนเรื่องนี้ไว้ในหนังสือ เขาบอกว่านักภาษาศาสตร์ยังไม่ค้นพบวิธีการที่จะสอนคนเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองให้แยกแยะได้ด้วยกฎอะไรตายตัวว่าเมื่อไหร่จะใช้ ed หรือ ing เพื่อทำ verb ให้เป็น adjective แต่เขาเขียนหนังสือเล่มนั้นมาแล้วหลายปี ไม่แน่นะ เผื่อบางทีนักภาษาศาสตร์อาจค้นพบวิธีการแล้วก็ได้ แต่สำหรับตัวเราเอง เราก็ยังไม่ค้นพบวิธีการ แต่รู้ว่ามันเป็นประสาทรับรู้อย่างหนึ่งที่พอฟังกับอ่านมากๆมันซึมเข้าสมองไปเองจนมีสัญชาติญาณพอที่จะบอกได้ว่าอันไหนมันถูกหรือผิด สมัยนี้มี google คุณไม่แน่ใจก็ลอง หาดูสิว่ามีฝรั่งเจ้าของภาษาที่ไหนเขาใช้แบบที่คุณคิดว่าถูกหรือเปล่า ถ้่าหาเจอมีคนใช้กันเยอะๆถึงคุณใช้ผิดคุณก็ยังมีเพื่อน จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 10:43:41

ความคิดเห็นที่ 2 ลงท้ายด้วย -ed แปลว่า รู้สึก... ลงท้ายด้วย -ing แปลว่า น่า... เช่น interest แปลว่า สนใจ to be + interestED (+in) = รู้สึกสนใจ to be + interestING = น่าสนใจ I am interestED in this book because it is interestING. หรือ surprise แปลว่า ประหลาดใจ to be + surprisED = รู้สึกประหลาดใจ to be + surprisING = น่าประหลาดใจ จากคุณ : เมื่อลมแรง...ใบไม้ก็ร่วง เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 10:44:36

ความคิดเห็นที่ 3 ADJ. ending with -ed ใช้กับความรู้สึกของคน ADJ. ending with -ing ใช้อธิบายลักษณะ ส่วนใหญ่ใช้กับสิ่งของ หรือบางทีใช้กับคนก็ได้ เช่น That book interests me. I am interested in the book beacause it is interesting. จากคุณ : genuine_part เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 10:58:02

ความคิดเห็นที่ 4 พวกนี้ก็น่าสนใจ the arrived immigrants  แบบนี้ผิด the arriving immigrants แบบนี้ถูก the recently-arrived immigrants แบบนี้ถูก จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 11:10:34

ความคิดเห็นที่ 5 เวลาเราจำไม่ได้ว่า อะไรใช้ยังไง ลองยึดจาก ตัวอย่างนี้ดู นะคะ (เผื่อช่วยได้) ^o^ Bored -> รู้สึก เบื่อ.... I'm bored... -> ฉัน รู้สึก เบื่อ Boring -> น่า เบื่อ..... It's boring.... -> มัน น่า เบื่อ จากคุณ : ~~ LucKy_RiN ลัล..ล้า..~~ เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 11:25:26

ความคิดเห็นที่ 6   การนำเอาคำกริยา มาต่อท้ายด้วย -ed หรือ -ing แล้วกลายเป็น Adjective นั้น เราเรียกมันว่า participles ครับ ซึ่ง 1.กริยาที่ลงท้ายด้วย -ing จะเรียกว่า Present participle ใช้กับประโยคที่เป็น active voice ครับ เช่น  * The custom fascinates me. ก็จะได้เป็น The fascinating custom has been the subject of many book. (ประธาน custom กระทำครับ) 2.กริยาที่ลงท้ายด้วย -ed จะเรียกว่า Past participle ใช้กับประโยคที่ passive voice เช่น  * My leg was broken in three places. ทำใหม่ก็จะเป็น My broken leg is healing slowly. (ขา เป็นตัวถูกกระทำ ดังนั้น break ก็เปลี่ยนเป็นช่อง 3 คือ broken) กริยาช่อง 3 หลายตัวก็คือ กริยาที่ลงท้ายด้วย -ed แบบที่ถามมาครับก็เป็นแบบเดียวกันกับในกรณ๊นี้ครับ สรุปคือ ต้องดูครับว่า นามนั้นเป็นผู้กระทำ หรือถูกกระทำ แล้วค่อยเลือกเติม -ed หรือ -ing เพื่อให้กลายเป็น adj. มาขยายนามนั้นได้ถูกต้องคัรบ ***อ้างอิงจาก Writing Academic English, page 251. แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 53 13:16:06 จากคุณ : นิสิตปริญญาโทการสอนอังกฤษ มศว (Frenchkid) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 13:09:05