ความคิดเห็นที่ 1 ตรงใจในสิ่งที่ที่บอกมา จากคุณ : รักเสมอแม้ไม่ได้เจอก็คิดถึง เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 18:25:19

ความคิดเห็นที่ 2 พยายามอ่าน แต่ งงกับชื่อต่างๆ  จนไม่สามารถเข้าใจได้  ขออภัยอย่างยิ่ง จากคุณ : t.tays เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 18:37:00

ความคิดเห็นที่ 3 ได้มุมมองอีกด้านที่น่าสนใจค่ะ จากคุณ : ลูกแม่เกตุ เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 18:41:28

ความคิดเห็นที่ 4 ก็แค่การระบายความในใจและใส่ร้าย เหน็บแนมธรรมดา นี่คือสภาพสังคมที่เป็นอยู่ในขณะนี้ จากคุณ : คิดเองไม่เป็น (คิดเองไม่เป็น) เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 18:58:04

ความคิดเห็นที่ 5 รู้แต่ว่า  เท้าแชร์  ยังรู้จักรับผิดชอบ เมื่อ ลูกแชร์คนใดคนหนึ่งเบี้ยว จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 19:10:49

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องธรรมดาครับ เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล ใครที่รู้จักเอาตัวรอดก็ต้องรีบถอนตัวจากวังวนอำนาจโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นแบบขุนพลใหญ่หลายๆ คนในประวัติศาสตร์ จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 19:21:16

ความคิดเห็นที่ 7 ประวัติศาสตร์ทุกยุคทุกสมัย ล้วนจารึกไว้ว่า ผู้ชนะเท่านั้น คือผู้ถูกต้อง จากคุณ : PHAROTI (pharotai) เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 20:08:13

ความคิดเห็นที่ 8 อันนี้วิเคราะห์ของผมนะครับ ผมคิดว่า ข้อสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ เกิดจากความไม่เด็ดขาด ของนายกอภิสิทธ์เอง ซึ่งหลังเสร็จศึก เมษาเมื่อปีที่แล้วกลับไม่ตามตีต่อ ปล่อยให้ฝ่ายเสื้อแดง ส่องสุมกำลังด้วยการดึงขุนศึกอกหัก ทั้งหลาย เข้ามาอยู่ใต้ทัพแดง การแต่งตั้งผบตรที่ทำให้เสียกำลังและการสนับสนุน จากฝ่ายตำรวจ และสุดท้ายคือการปล่อย ให้ PTV และวิทยุชุมชน ปลุกระดมมวลชนขยายแนวร่วมได้เป็นจำนวนมาก สุดท้ายก็นำมาสู่ การรบยืดเยื้อ 2 เดือนในปีนี้ โชคดีของฝ่ายรัฐบาลก็คือ แกนนำฝ่ายวิชาการที่กำหนดเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ไม่ได้เรื่อง หรืออาจเป็นเพราะเป้าหมายไม่เป็นเอกภาพ ก็เป็นได้ หรือเป็นไป ได้ว่าเพราะความต้องการปิดเกมเร็วของท่านผู้นำทำิพิษก็เป็นไปได้ คุณภาพไพร่พล ที่ทำได้แค่ซ้ายหันขวาหันสั่ง พูดแบบท่องจำ เป็นนกแก้วนกขุนทอง ยุบสภาคือประชาธิปไตย ไพร่กับอำมาตย์ แต่พอถามรายละเอียดว่า ทำไมยุบสภาคือประชาธิปไตย ใครเป็น ไพร่เป็นอำมาตย์ มีคนตอบเข้าท่าเข้าทางได้ไม่มาก ขอเรียกว่า กำลังพลไม่มีคุณภาพ ขุนพลที่ำจะนำทัพออกทัพหน้า ก็มีแต่ขุนพลชั้นรองๆ เนื่องจากขุนพล เกรดเอ ส่วนมากอาจจะไม่อยากเปลืองตัวเป็นเป้าเสี่ยง หรือไม่ก็ น่าจะโดนโรคระแวงของ ท่านผู้นำตัดหัวไปหมดแล้ว จนไม่ค่อยมี ขุนพลเกรดเอไำว้ใช้งาน ลองนึกภาพเปลี่ยนสามเกลอ เป็นเนวิน หรือสมคิด ดูสิครับ ผมเชื่อว่าคุณภาพของงานจะเปลี่ยนไปได้มาก ทีเดียวทำให้ขาดความชอบธรรมไปหลายส่วนและผมเข้าใจว่า อาจจะมาจากนิสัยความใจร้อนของผู้นำ ที่ชอบเร่งรัดตามนิสัย ทำให้เดินเครื่อง ยกทัพก่อนที่มวลชนจะบ่มได้ที่ ทำให้ขาดแรงสนับ สนุนจากภาคอื่นๆ ของสังคมทำให้ต้องสู้แบบโดดเดี่ยว ไม่นับรวมการ ก่อ ความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย ยิ่งทำให้เสีย มวลชนไปกันใหญ่ แต่ในการเดินเกมการทหาร ถือว่าทำได้ดีเลย ทั้งการวางไพร่พล การสกัดกั้น ฝ่ายข้าศึก การแยกทัพออกเป็นสองส่วน ทำให้ฝ่ายปราบ ปรามต้องห่วงหน้าผวงหลัง การปรับเปลี่ยนกลยุทธระหว่างการรบ การวางแผนต่อเนื่อง ถือว่าทำได้ดีและเหลื่อนไหลมากๆ ผมเชื่อว่า ขุนศึกที่บัญชาการรบ ต้องเป็นขุนศึกที่เก่งมากๆ เลย และไม่น่า ใช่เสธแดงเพราะถึงเสธแดงตาย การตั้งรับก็แค่รวนไปแค่ชั่วครู่เท่านั้น เองกลับมาตั้งรับใหม่ได้อย่างรวดเร็ว รัฐบาลชนะด้วยอำนาจการยิงที่ เหนือกว่าเท่านั้นเอง หลังจากนี้ คงถอยกลับไปตั้งหลัก และบ่มมวลชนกันใหม่ หาขุนพลใหม่ ถ้ารัฐบาลไม่ทำอะไร ปีหน้าก็มีิสิทธเจออีก แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 53 20:45:48 จากคุณ : Pongkm (Pongkm) เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 20:44:00

ความคิดเห็นที่ 9 ต่อเนื่องจาก #8 ที่เรียบเร่งเพราะเสบียงหลัก 4 หมื่นล้านกำลังจะถูกยึดครับ ถ้าพูดตามที่คุณบอกแต่ ความจริงแล้วเรื่องราวมันเป็นยังไง ความจริงเหล่านี้ อยู่ไกลเกินไปสำหรับผมที่พิจารณาว่าอันไหน จริง ไม่จริง ยังไม่รวมถึงเรื่อง ถูก ผิด หรอกอันนั้นยิ่งจะเละไปกันใหญ่ จากคุณ : ค้างคาวเฒ่า เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 22:07:36

ความคิดเห็นที่ 10 ปีหน้าจะมาทำไมอีกละพ่อคู๊ณณณณณณณ สิ้นปีก็ครบวาระต้องเลือกตั้งใหม่แล้ว จากคุณ : [[Joachim]] เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 22:48:33

ความคิดเห็นที่ 11 น้อง Pongkm ขุนพลคนที่ว่า ไม่รู้ว่ามีบทบาทในการวางแผนการแค่ไหนนะ แต่เขาเป็นตัวสำคัญเลยล่ะ ที่ทำให้รูปเกมมันเปลี่ยน และฝ่ายที่พลาดก็คือฝ่ายรัฐด้วย เพราะฝ่ายรัฐไปแตะขุนศึกใหญ่รุ่นเก่าคนนี้เข้า ทั้งที่ไม่จำเป็นแล้วปล่อยแกลอยตัวไปก็ได้ ทำให้ขุนศึกคนนั้นซึ่งแต่เดิมก็มีสายใยกันอยู่กับทักกี้เลยไปยืนฝ่ายแดงแล้วซัดกลับ ซึ่งอาจจะเกินคาดของฝ่ายรัฐว่าภายใต้หน้าฉากที่ดูบื้อๆ จะแฝงความร้ายกาจและบารมีในกองทัพขนาดนั้น ผลคืออาวุธ ยุทโธปกรณ์ทั้งหลายที่ไม่น่าจะไปดึงมาจากกองทัพได้ก็ไปอยู่ในมือกองกำลังพิเศษที่เสธแดงฝึกขึ้น จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 22:59:56

ความคิดเห็นที่ 12 ใช้การเผาตึก เป็นยุทธวิธีที่เลือกใช้นี่.... ผมก็ไม่รู้ว่า คนสั่งการ เขาหวังผลอะไรกันแน่ ?  ยังมึนๆอยู่เหมือนกัน จะเพื่อทำลายกองกำลังแดง หักหลังนายใหญ่ หรือเปล่า ก็ไม่แน่ใจ หรือจะเผากลบเกลื่อนเบาแสอะไร หรือเปล่า ก็ไม่ทราบ ฯลฯ   วางแผนการไว้ลึกซึ้งจนน่าปวดขมอง....... เพราะอันที่จริงถ้ายุติการชุมนุมก่อนที่จะมีความโกลาหลเกิดขึ้น น่าจะหาช่องทาง ซ่องสุมผู้คนในโอกาสต่อไปได้อีก และโรดแมปของ รบ. ก็เป็นที่น่าพอใจระดับหนึ่งแล้ว อย่างน้อยถ้า รบ. ผิดสัญญา โอกาสที่แดงจะชนะขาดครั้งหน้า จะมีสูง ผมว่าแดงมีโอกาสชนะ 8 ใน 10 เลยก็ว่าได้ ถ้าถึงวันนั้น หรือมายื่นข้อเสนอต่อยอด ในภายหลัง (คือให้สุเทพ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม) ถ้าไม่ได้ก็ระดมพลกันอีกรอบ ถึงจะเสียงบเยอะหน่อย แต่ก็ยังดึงมวลชนที่สนับสนุนตนเองเอาไว้ได้... เพราะหลังจากเสธแดงฯโดนยิง ทุกอย่างมันเริ่มรวนกันหมดแล้ว... (อันที่จริงน่าจะเห็นลางแพ้ และควรจะเผ่นกันช่วงนี้แล้ว) แต่การสั่งเผาเมือง และเกิดมีคนตายเยอะๆแบบนี้ มันเหมือนทุบหม้อข้าว ตัวเองชัดๆ เพราะน่าจะรู้ว่า นอกจากจะไม่ชนะแล้ว ยังจะต้องถูกฝ่ายรัฐบาลเอาเรื่องไปใส่ไข่ ใส่สี ได้อีก อย่างเอิกเกริก ไหนจะสร้างความเกลียดชังให้คนในพื้นที่อีก มารอบหน้า... ถึงทหารยิงก่อน เจรจาทีหลัง ก็คงไม่มีใครออกมาช่วยประนาม จากนี้ไป... คงจะมีไม่มากแล้วครับ สำหรับแดงม็อบ ที่เป็นแดงจริงๆ ถ้าจะมีก็คงมีแต่แดงหน้าม้าเท่านั้นที่จะออกมาอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าค่าตัวคงสูงลิบลิ่ว ส่วนแดงจริงๆ  คงจะมีก็แต่แดงอินเตอร์เน็ต กับแดงบัตรเลือกตั้ง ส่วน 4 หมื่นล้าน ผมว่ามันไม่เยอะให้ถึงกับเสียดายน่ะ ถ้าเทียบกับที่นายใหญ่เขามีอยู่ตอนนี้... เห็นมีบางสื่อ บอกสมัยที่ได้ผูกขาดสัมปทาน ได้มาหลายแสนล้านเลยนิ ผมว่าที่อยากได้คือ สถานภาพของตัวเองกลับคืนมามากกว่า เพราะตอนนี้โดนบีบจนไม่มีที่จะไปอยู่แล้ว ซึ่งก็ไม่แน่ว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นทางนั้น หรือเปล่า... ถึงได้เร่งเกมส์เร็วแบบนี้ ผมว่า รัฐบาลชนะครั้งนี้ เพราะหาความชอบธรรมในการเข้าสลายได้มากกว่า... ถึงจะมีอำนาจการยิงที่เหนือกว่า แต่ถ้าขาดความชอบธรรมในการลั่นไก รัฐบาลจะตกอยู่ในฐานะตกต่ำทันที  และเผลอๆเกมส์อาจพลิกได้ ถ้าสถานะการณ์เป็นแบบนั้น.... รู้สึกว่าแดงมาครั้งนี้ ถึงจะเตรียมตัวกันมาดี แต่ก็ไม่ได้เอาประสบการณ์ครั้งที่แล้วมาใช้กันเลย... กลับไปขุดเอามุข  14 ตุลา มาใช้  ด้วยการบุกกรามคำแหงช่วงสอบ แต่นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่เก็ท เพราะถูก อ. ปลูกฝังให้เกลียดแดงกันมาทั้งเทอม แถมมหาลัยยังเลื่อนสอบออกไปอีก  แกนนำเลยจนด้วยเกล้าไปต่อไม่ออก แล้วก็เลยลงเอยด้วยด้วยวิธีการเดิมๆ.... จากคุณ : สหายกุนเชียง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 00:46:39

ความคิดเห็นที่ 13 แพ้ตั้งแต่แรกแล้วครับ เพราะการต่อสู้ ไม่มีแผนยุทธศาสตร์  มีเพียงยุทธวิธีที่กำหนดวันต่อวัน (ฟังณัฐวุฒิพูดแล้วจะรู้  เขาไม่มีแผน  คิดแก้เกมส์กันวันต่อวัน ซึ่งลักษณะนี้  ในระยะยาวจะแพ้ และไม่ได้อะไรเลย เพราะการเคลื่อนไหว ไม่มีเป้าหมาย) การวิเคราะห์ของเจ้าของกระทู้ เป็นลักษณะของการจับแพะชนแกะ แสดงให้เห็นว่า ยังไม่ได้มองการเมืองพวกนี้ชัดจริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น คุณกำลังบอกว่า ตัวหัวหน้า บอกสามเกลอ และเสธแดงมาบุก  พอชนะ จะกำจัดทิ้ง ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่เลย  ตามประวัติ ตัวหัวหน้าคนนี้  ถูกลูกน้องหักหลัง ซะเป็นส่วนมาก  ไม่เคยได้เห็นมีโอกาสหักหลังลูกน้องเลย ที่ผมบอกว่า ม๊อบแดงรอบนี้ แพ้เพราะไม่มียุทธศาสตร์ เพราะแม้แต่แกนนำเอง ยังตอบไม่ได้ว่าจะชนะได้อย่างไร   ถ้าเผาเมืองแล้วจะได้ประชาธิปไตยได้อย่างไร  ตอบไม่ได้เลย  ทุกอย่างเปะปะ  ไม่มีแผนล่วงหน้า ขาดการบริหารจัดการที่ดี สามเกลอเด่นแค่ในเรื่องของด้านพลาธิการและการจัดตั้งมวลชน  การปลุกขวัญเท่านั้น   ในเรื่องความสามารถในการวางแผน  ด้านเสธนาธิการ  การช่าง  การสื่อสาร  เรียกว่า อ่อนด้อยทั้งหมด คนถามณัฐวุฒิว่า ถ้าโดนตัดสัญญานมือถือจะทำอย่างไร  เขาบอกว่า ใช้กระป๋องนมคุยกัน  คงพูดเอาฮาแหละ แต่เห็นได้เลยว่าเขาแก้ไขปัญหาด้านการสื่อสารไม่ได้จริงๆ   เรื่องการสร้างบังเกอร์ที่เป็นด้านการช่าง  ก็ไม่มีการป้องกัน จริงๆ ปากประตูเข้าวัดปทุม  ต้องมีการวางกระสอบทราย กันแนวกระสุนจากด้านนอก เพื่อ save ชีวิตคนแก่ เด็กที่หนีเข้าไปด้วย  แต่กลับไม่มีการดูแล แนวทางการบุกของนปช รอบนี้  ขาดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนครับ เพราะการระดมคนมามากเพียงอย่างเดียว แม้แต่แกนนำก็ตอบไม่ได้ว่าจะชนะได้อย่างไร แล้วจะเอาคนที่มากันมากนั้น มาทำอะไร  ถ้ามาเพื่อแลกกับการยุบสภา  จะมาทำไมให้เสี่ยงตาย เพราะปลายปีหน้า สภาก็ครบวาระให้เลือกตั้งแล้ว หลายๆอย่างจึงดูไม่สมเหตุสมผล และสุดท้าย ก็จบลงด้วยการวางเพลิงเผา เกิดความเสียหายกับบุคคลที่สาม ที่เขาไม่ใช่คู่กรณีด้วยเลย กองทัพมวลชนใหญ่ แต่อยู่ในมือแม่ทัพที่โง่เขลา  ทัพย่อมล่มสลาย และทำให้เกิดความเสียหายแก่ทุกฝ่าย โดยไม่มีใครได้อะไรเลย จากคุณ : ทรงพล (Bgate) เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 53 03:15:53

ความคิดเห็นที่ 14 ไม่ค่อยได้โพสต์ แต่ครั้งนี้ผมเห็นด้วยกับคคห.ที่ 13 ครับ จากคุณ : readabout เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 10:06:30

ความคิดเห็นที่ 15 จริงๆแล้ว ถ้าเสื้อแดง รอเลือกตั้งใหม่ ยังไง ก็ได้เป็นรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เข้าใจ ทำไมหัวหน้าใหญ่ถึงรอไม่ได้ คงห่วง 40bn จริงๆนั้นแหละ จากคุณ : Roninkung เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 15:28:10

ความคิดเห็นที่ 16 เอาวรรณคดี มาวิเคราะห์กับปัจจุบัน อ่านแล้วก็สนุกดี แสดงว่า ไอ้ที่ทำๆกันทุกวันนี้ สมัยก่อนก็ทำๆกันมาแล้ว พูดอีกแง่ ประวัติศาสตร์ก็สอนอะไรหลายๆอย่าง เสียอย่างเดียวก็คือคนไม่ชอบเรียนสิ่งที่เป็นบทเรียน อิอิ จากคุณ : cybrarian เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 15:49:25

ความคิดเห็นที่ 17 พวกที่เผาห้างร้านของประชาชนคนไม่เกี่ยวข้องเนี่ย เป็นกองกำลังของเผ่าฮวนนอกกำแพงที่ทัพแดงไปจ้างมาใช่ไหมครับ จากคุณ : จ้องจนปวด เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 16:16:03

ความคิดเห็นที่ 18 นี่ยังต้องทำสงครามกันอีกเหรอครับ อึ้ง จากคุณ : ผ่านมา (songsary) เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 22:20:07

ความคิดเห็นที่ 19 ในแง่กลยุทธ ต้องยอมรับว่าเสื้อแดงผิดพลาดหลายอย่างครับ ควรรุกไม่รุก ควรถอยไม่ถอย มีจุดอ่อนไม่เข้าตี ดันไปตีจุดแข็ง จะบอกว่าแม่ทัพด้อยประสบการณ์ก็คงไม่ผิดนัก ส่วนยุทธศาสตร์ในภาพรวมพอใช้ได้ แต่แม่ทัพเกาะกุมไว้ไม่อยู่ แต่ยังงงๆที่ จขกท. ว่ามาระหว่างยุทธศาสตร์ของสุมาเจียวกับเสื้อแดงนั้นมันเกี่ยวกันยังไงครับ ผม mapไม่ถูก เห็นสรุปอยู่จุดเดียวว่าถ้างานเสร็จแกนนำหรือเสธแดงจะถูกเก็บเหมือนเตงงายกับจงโฮย ถือว่าไม่เนียนนะครับ :P แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 53 03:59:48 จากคุณ : Sparker เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 03:56:34

ความคิดเห็นที่ 20 จขกท เขามองว่าเสื้อแดงแบ่งวิธีการบุกเป็นสองฝ่าย ซึ่งก็คือ สายพิราบ กับ สายเหยี่ยว ตามที่เคยได้ยินกัน เหมือนกับ เตงงายและจงโฮย ฝ่ายหนึ่งเน้นยืดเยื้อค่อยๆบุก อีกฝ่ายเน้นรุกเร็ว ส่วนเสร็จงานแล้วถ้าชนะผมคิดว่าแกนนำเสื้อแดงคงไม่ถูกกำจัดง่ายๆ เพราะแกนนำยังใช้ดึงมวลชนในการเลือกตั้งได้อีก ยังไงก็มีประโยชน์เพราะนายใหญ่ยังลงมาลุยเองไม่ได้ จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 05:36:30

ความคิดเห็นที่ 21 เทียบกันไปได้ยังไง... เสื้อแดง..ไม่ได้มีศักยภาพทาง การรบ ใดๆเลย...   อย่าว่าแต่ รัฐใหญ่ ต่อรัฐใหญ่ อย่าง จ๊ก กับ วุย เลย เทียบแบบ รัฐเล้กๆ  เวียดกง ต่อต้าน  มหาอำนาจ อย่างอเมริกา หรือ เป็นกลุ่ม ซ้องกัง ( ทัพเขาเหลียงซาน)   ที่ต่อสู้กับรัฐจีน ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ   เพราะ เสื้อแดงเป็นเพียง การชุมนุมของประชาชน..เพื่อให้บรรลุประสงค์ ข้อเรียกร้องเท่านั้น...ไม่ได้มุ่งหมาย  "โค่นล้มรัฐ"..!! ส่วนกองกำลังที่ รัฐบาลอ้างว่าเป็นผู้ก่อการร้ายนั้น..  มีเพียงหยิบมือ และทำงาน ด้วยวัตถุประสงค์ สกัดกั้น การสลายการชุมนุมเท่านั้น.. ไม่มี ศักยภาพ ล้อมป้อมค่าย หรือ  เชิงรุกใดๆจะไปแตะต้องศูนย์กลาง บัญชาการของรัฐบาลได้   กลยุทธที่ เสื้อแดงใช้ได้มีเพียงอย่างเดียวคือ..ชุมนุมยืดเยื้อ..ดึงเวลา สร้างความกดดันให้รัฐบาล ..สร้างแนวร่วมที่จะเพิ่มขึ้น ทั้งภาคเอกชน และ  มวลชนที่ ทนไม่ได้กับความ อ่อนแอ ของรัฐบาล....    จนต้องยอมเจรจา ด้วย เงื่อนไขที่ เสียสละมากขึ้น  สิ่งเดียวที่จะทำให้ เสื้อแดงแพ้.... คือ รัฐบาลใช้อาวุธสงครามสลายการชุมนุม  และ พร้อมที่จะ ให้เกิดการสูญเสียของชีวิตและ ทรัพย์สินของ คนไทยด้วยกัน  ปิดเกมส์เร็วด้วยเลือด ..   ซึ่ง  แกนนำคงคาดไม่ถึง...  ที่รัฐบาลประเทศประชาธิปไตย จะตัดสินใจ   เหี้ยมโหดเช่นนี้ ได้ถึง 2 ครั้ง  ....         ซึ่งอันที่จริง...รัฐบาลควรพ่ายแพ้ไปตั้งแต่ความผิดพลาดครั้งแรก   ไม่ควรมีโอกาสครั้งที่ 2 อีก ..    แพ้ ..ที่ใช้อาวุธสงครามสลายเต็มรูปแบบ....  มีการสูญเสียชีวิตประชาชน     แต่ ม็อบ ไม่สลาย    แพ้ ที่มียุทธปัจจัย และกำลังสรรพวุธ พร้อมกว่าทุกอย่าง ..กลับ ต้องถอยหนี     เพราะ กองกำลังไม่ทราบที่มา ไม่กี่คน     ชัยชนะของรัฐบาล..ในการสลายครั้งที่2 ....เพราะอาวุธลับสำคัญ     ซึ่งเป็นสิ่งเดียวที่ รัฐบาลไทยมี...และไม่คิดว่าจะมีรัฐบาลประเทศ ประชาธิปไตย ประเทศไหนในโลกมี   คือ        "หน้าด้าน"  " ไร้จิตสำนึกรับผิดชอบ"...!!!!!!!!      คนตาย..ก็ตายไป...  เป็นเรื่องความรับผิดชอบของ พระสยามเทวาธิราช    ไม่ใช่ ของรัฐบาล..!!       อาวุธหรือ ยุทธศาสตร์นี้ต่างหาก... ที่ทำให้รัฐบาลชนะ 0000000000000000000000000000000000000000000000000000000000 จากคุณ : Bismarck the third เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 11:33:13

ความคิดเห็นที่ 22 ประเทศไทยไม่เหมือนเดิมแล้วครับ กระสุนปืนปกครองไม่ได้ คำพูดแบบปากต่อปากอันตรายกว่าการโหม propaganda เมื่อความคับแค้นเกิดขึ้นมามันยากที่จะเยียวยาครับ การพยายามผลักให้คนอีกกลุ่มหนึ่งให้เป็นพวกล้ม.ล้าง.สถาบัน พวกก่อการร้าย ระวังมันจะเป็นจริงๆนะครับ ผมยังเชื่อว่าชาวบ้านที่มาชุมนุมยังจงรักภักดีต่อสถาบัน แต่เมื่อทางอีกฝั่งหนึ่งพยายามจะผลักใสให้เป็นให้ได้ น่ากลัวว่ามันจะเป็นจริงๆเอานะครับ ผมยังไม่อยากเห็นเขตปลดปล่อยในภาคเหนือกับอีสาน และยังไม่อยากเห็นรัฐบาลแบบกั๋วมินตั๋ง ที่ภาคใต้นะครับ และอย่าคิดว่ามันเป็นไม่ได้นะครับ อาก้า กระบอกละไม่กี่สตางค์ บวกกับอารมณ์ที่คับแค้น ความน้อยเนื้อต่ำใจ ซึ่งแน่นอนผู้สนับสนุนมันมีอยู่แล้วซึ่งเราก็รู้ว่าเป็นใครนะครับ อย่าพยายามผลักไส เลิกใส่ความ ผมยังอยากเห็นการเสียสละของคุณอภิสิทธิ์ ซึ่งก็คงไม่มากเกินไปถ้าว่ากันตามมาตรฐานที่เขาเคยพูดไว้ตอนที่เป็นฝ่ายค้าน จากคุณ : คุณชายเอก เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 16:00:15

ความคิดเห็นที่ 23 "คิดว่าที่เสื้อแดงหนนี้มีอาวุธกันครบมือได้เพราะใครกันล่ะ "  แค่คำพูดนี้มันก็ไม่ใช่บทวิเคราะห์ที่เป็น กลางแล้วครับ กรุณามีภาพประกอปกับคำว่าอาวุธครบด้วยครับ เอาภาพที่อยู่ระหว่างชุมนุมนะครับ ไม่ใช่ภาพที่ประกาศเคอฟิวส์แล้วก็เอามากอง ๆเอาไว้  ... แล้วลองเอามาเทียบกับของทหารดูด้วยนะครับ ..เรื่องอื่นว่ากันทีหลัง ขอดูภาพก่อนครับ ถ้าไม่มีหรือหาไม่ได้ กระทู้นี้มันก็ไร้ค่าทันที เพราะมันจะกลายเป็นการใส่ร้ายข้างเดียว ถ้ามีก็จะได้มีการต้แย้งกันต่อไปในเรื่องของหลักฐานและมุมมองทั้ง 2 ฝ่าย จากคุณ : โรงเห็ดสีแดง เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 16:35:22

ความคิดเห็นที่ 24 ถ้าผู้นำฝ่ายแดงคิดอย่างคุณ Bismarck the third   ผมก็ว่า "คงไม่แปลก ที่แพ้" เรื่องกลยุทธ์ ผมคิดว่ารัฐก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากเช่นกัน แต่ทำเหมือน "อยุธยา ในสมัยก่อน" เวลาพม่ามาล้อมเมือง รอให้น้ำท่วมไล่ทัพพม่ากลับไป "ฝ่ายรัฐ" ก็คงพอจะประเมินได้ว่า ฝ่ายแดง เคลื่อนไหวแบบคู่ขนาน มี"มวลชน" ,"พรรคการเมือง" และ "กองกำลัง" ฝ่ายแดงเปิดแนวรุกโดย การเอามวลชนเข้ากรุง ใช้พรรคการเมืองถล่มในสภา รัฐเองก็โนคำ้คอด้วยกฏหมาย,องค์กรอิสระ,ต่า่งชาติ การเข้าสลายในวันที่ 10เมษายน จึงแพ้ไปแบบหมดรูปเมื่อเจอฝ่ายตรงข้ามถล่มด้วยอาวุธที่หนักกว่า ยังไม่รวมไปถึงการรบแบบกองโจร ตอดเล็กๆน้อยๆตลอดเวลา ยิงรวมถึงการชุมนุมที่ราชประสงค์ ที่สร้างความ"รำคาญ","เยื่อหน่าย" ให้คนกรุงเป็นอย่างมาก อย่าลืมว่าฐานเสียงคนกรุงเป็นสิ่งสำคัญของการคงอยู่ของรัฐบาล ยิ่งคนกรุงเทพที่เป็นคน"เบื่อง่าย"ด้วยแล้ว จุดเปลี่ยนคือ ตอนนั้นฝ่ายแดงกำลังได้เปรียบ แต่ไป"พลาด เรื่องโรงพยา่บาลจุฬา" กระแสงสังคมจึงให้กำลังใจนายกอย่า่งล้นหลาม และถล่มฝ่ายแดงแบบไม่โงหัว แม้จะแก้ตัวอย่างไรก็ไม่สามาถหลุดผ้นเรื่องนี้ไปได้ นี่จึงเป็นความสำคัยของ "ไพร่พลรบ" กำลังพลที่มากไม่ใช่ว่าได้เปรียบ "อ้วนเสี้ยวกำลังมากกว่าโจโฉเท่าไหร่"  คุณภาพของกำลังพลก็ว่าด้อยแล้ว แถมยังมีการกระทำที่ขัดกับหลักเมตตากรุณา ทำให้เสียงสนับสนุนยิ่งขาดหาย ต้องเข้าใจว่าคนกรุงเทพ จะชอบไม่ชอบรัฐบาลนี้ ส่วนใหญ่ก็ไม่สนับสนุนการชุมนุมขิงเสื้อแดงเท่าไหร่ อาจจะเพราะจากเหตุการณ์ปีก่อนที่"แดงแถ" กันไปแม้จะมีหลักฐาน "ทำไมผู้ชุมนุมเสียชีวิตในวันที่ 10เมษายน ถึงไม่สามารถปลุกคนกรุงได้ แต่แค่เสื้อแดงบุกโรงพยาบาล ไม่มีคนตาย คนกรุงหรือาจจะทั้งประเทศที่ไม่แดงหรือเป็นกลางหันมาให้กำลังใจรัฐบาล"  ถ้าแค่นี้ยังคิดไม่ได้ ก็สมควรที่แพ้ รัฐบาลใช้แผนปิดสกัดทางเดินทัพ "ซึ่งเป็นแผนทางกายภาพ" ผนวกกับ แผนการประชาสัมพันธ์ "ซึี่งเป็นแผนทางจิตวิืทยา" สร้างความอึดอัดให้เสื้อแดงอย่างมากและเป็นการ "แสดงภาพว่ารัฐบาลไม่ได้ใช้ความรุนแรง" เป็นฝ่ายแดงที่ออกไปตั้งเวทีตามที่ต่างๆสร้างความเดือดร้อนเพิ่มอีก เรื่องการเข้าขอคืนพื้นที่ไม่อาจวิเคราะห์ได้ แต่การรบครั้งนี้แสดงให้เหก็นว่า "ไพร่พลของฝ่ายแดง" เป็นไพร่พลที่ด้อยคุณภาพ รัฐบาลไม่ต้องทำอะไร รอให้เกิดการที่ แม่ทัำพคุมทหารไม่ได้ ออดไล่ปล่นสดมภ์ สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน สร้างความชอบธรรมให้ล้อมปราบ แถมฝ่ายแดง ทัพแตกไม่ถอยทัพ กลับเผา สถานที่ในเมืองหลวงแถมด้วย เรื่องความเสียหายคณานับ แต่ก็เป็นการเพิ่มคะแนนความเห็นใจให้รัฐบาลมากมาย การกลับมารบในเมืองของฝ่ายแดงในครั้งหน้า ยากยิ่งกว่าปีนป่ายขึ้นสวรรค์เสียอีก แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 53 21:47:54 จากคุณ : Longinus เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 21:44:46

ความคิดเห็นที่ 25 ผู้นำเสื้อแดงต้องการอำนาจคืน หมากที่วางให้ขุนพลเดิน เรียกมวลชนเข้าร่วมเพื่อกดดันรัฐบาล แต่ประชาชนที่เข้าใจการเมือง ไม่เห็นเหตุและผลที่ต้องกดดันรัฐบาล จึงวางเฉยไม่เข้าร่วม จนเมื่อตัวเองเดือดร้อนจากแรงกดดันของเสื้อแดง ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น ร้องขอให้มีเจรจา พบว่าฝ่ายรัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาให้ประเทศ เกิดแผนปรองดอง และประกาศวันเลือกตั้ง เสื้อแดงกลับตุกติกไม่จริงใจ แกนนำเริ่มแตกคอกันเอง เมื่อรัฐเข้าปิดล้อมการชุมนุม ผู้นำฝ่ายแดงยอมเสียหมาก ตัวที่เสี่ยงต่อแผนรั่วไหล และแก้ปัญหาความแตกแยกในกลุ่ม กระตุ้นกระแสเพิ่มมวลชน เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นก2ตัว รบด้วยสื่อต่างชาติ นำเอ็นจีโอบางองค์กร ช่วยประณามรัฐบาล และใช้กลุ่มฮาร์ดคอร์ใช้ความรุนแรงกับทหารที่เข้าปิดล้อม สร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง พวกเสื้อแดงจะนำUNเข้ามาแทรกแซง ซึ่งสภาวะนั้นรัฐจะอยู่ในสถานะรัฐล้มเหลว ประชาชนส่วนใหญ่ที่รักชาติ รักแผ่นดินเกิด จึงไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น สว.เป็นตัวแทนเปิดการเจรจาอีกครั้ง ซึ่งรัฐยอมแต่เสื้อแดงต้องหยุดการชุมนุม เสื้อแดงกลับบอกว่าให้รัฐนำทหารออกไป ถึงจะเจรจา ความไม่จริงใจที่ปรากฏจากคำพูดณัฐวุฒิ ประเทศชาติจะต้องเดือดร้อนต่อไป ทหารได้รุกปะทะรบกับนักรบเสื้อแดง จนจะเข้าถึงแยกราชประสงค์ แกนนำขอมอบตัวอ้างว่ารักษาชีวิตของกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ไม่บอกว่าให้ยุติ ให้สู้ด้วยการทำลายประเทศชาติ เหมือนกับไม่ใช่ประเทศของตนเองอย่างนั้นแหละ  ความรุนแรงที่เกิดขึ้นก็ลองคิดเอาเองก็แล้วกันเกิดจากใคร ผู้นำเสื้อแดงออกสื่อ อหิสา ไม่มีอาวุธ (เบา) ถูกทหารใช้ความรุนแรง ต่างชาติประณามประเทศไทย เป้าหมายคืออะไร จากคุณ : 111 (urikoa) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 21:49:00

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ว่าจะว่าอย่างไรก็ตามแต่ แต่ศึกครั้งนี้เสื้อแดงพ่ายแพ้อย่างราบคาบ ต่อให้มีการเลือกตั้ง ผมเชื่อว่าคนที่เคยกาไม่ลงคะแนนเลือกใคร จะหันไปกาเลือกรัฐบาลมากขึ้น ไม่ใช่เพราะชอบรัฐบาลแต่เพราะกลัวคนที่มีความคิดประชาธิปไตยแบบแดงๆจะเข้าไปมีอำนาจในสภา คงไม่ต้องบอกว่าคนกรุงเดือดร้อนแค่ไหนกับการกระทำของพวกเสื้อแดง คนกรุงตามทะเบียนบ้านอาจจะมีสิทธิเลือก สส.แค่ 30 กว่าคน(ไม่แน่ใจ) แต่คนต่างจังหวัดที่อยู่ในกรุงเทพ คนที่เสียงาน เสียกิจการเพราะเสื้อแดง เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง ของพวกเขาจะพร้อมใจกันปฎิปักษ์กับพวกเสื้อแดงแน่ แม้แต่คนเสื้อแดงเองที่เคืองกับแกนนำในการชุมนุมครั้งนี้ก็มีจำนวนมาก พวกที่อยากกลับการ์ดก็ไม่ให้กลับ เกณฑ์คนไปแต่แกนนำกลับหายหัวในกรณีขวัญชัย อริสมันต์ / เหวง แรมโบ้อีสาน ที่หนีมวลชนทิ้งพวกเขาได้หน้าตาเฉย นำเขา นำเพื่อน พี่น้องเขาไปตาย แต่แกนนำกลับหนีหางจุกตูด (จตุพรปีนี้หนีไม่ทันคิดว่าคงโดนผู้ชุมนุมจับตาดู) เชื่อว่าคนที่เข็ดกับแกนนำเสื้อแดงคงมีจำนวนมาก กระทั่งนายใหญ่เอง ก็คงจะไม่เอาด้วยแล้ว เพราะเข็ดเหมือนกัน งานนี้ลงทุนไปเยอะ แต่ไม่ได้อะไรกลับมาเลยแถมขาดทุนไปบานเบอะ เสียทั้งชื่อเสียง เสียทั้งเงิน เพราะใช้แกนนำด้อยประสิทธิภาพ ต้องรีบออกมาฎิเสธปัดความรับผิดกันใหญ่ I am not a red shirt leader แม้กระทั่งนายใหญ่เองก็ทิ้งฝูงชนเสื้อแดง ไม่มีน้ำเลี้ยงจากนายใหญ่จะเอาทุนที่ไหนมาระดมคน สรุปว่างานนี้พ่ายแพ้อย่างย่อยยับจริงๆ จากคุณ : bigcy เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 03:43:18

ความคิดเห็นที่ 27 bigcy แต่ผมกลับมองว่า การแพ้ครั้งนี้ เสื้อแดงแค่กลับไปปรับกระบวนทัพนะครับ แต่ที่แน่ๆตอนนี้เป็นเวลาของแดงสยาม ป.ล. เสื้อแดงนัดชุมนมครั้งใหม่ภายในเดือนมิถุนานี้ครับ จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 53 15:47:30

ความคิดเห็นที่ 28 "หน้าด้าน" นี่น่าจะใช้กับพวกที่คอยออกมาปกป้องพวกเผาบ้านเผาเมืองมากกว่านะ คห.21 จากคุณ : หลวงสรเดช เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 53 11:09:31

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นด้วยกับความเห็น 28 จากคุณ : พี่จ๊ะเอ๋ เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 53 23:07:23

ความคิดเห็นที่ 30 ผมเห็นว่าเลือกตั้ง แดงก็ชนะอยู่ดีนั่นแหละถ้าอีกฝ่ายยังแบ่งเป็นหลายพรรคอยู่ อยากชนะเลือกตั้งได้ มีอยู่ทางเดียว รวมพรรคอื่นๆแล้วชนกับพท.ตัวต่อตัวในทุกสนามครับ ผิดจากนี้ผมว่ายาก จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 53 16:48:35