ความคิดเห็นที่ 2 |
แพ้เพราะหญิง ไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาด
แม้ว่า เซี่ยง หยู่ มีความกล้าหาญเหลือประมาณก็ตาม แต่เขามีจุดอ่อนด้านกลยุทธ์ในการทำสงคราม
ระหว่างสงครามต่อต้าน ราชวงศ์ฉินนั้น เซี่ยง หยู่ กับ หลิว ปังสาบานเป็นพี่น้องกันและให้การสนับสนุนแก่กันและกัน
สองฝ่ายทำข้อ ตกลงไว้ว่า หากผู้ใดสามารถบุกยึดกรุงเสียนหยางได้ก่อน ผู้นั้นก็จะสถาปนาตนเองขึ้นมาเป็นอ๋อง
เวลานั้น กองทัพของเซี่ยง หยู่มีจำนวน 4 แสนคน ส่วนของหลิว ปังมีเพียงแสนคนเท่านั้น
แต่หลิว ปังกลับสามารถบุกยึดกรุงเสียนหยางได้ก่อน เมื่อทราบข่าวนี้ เซี่ยง หยู่ มีความโกรธเคืองเต็มทรวง
จึงนำทัพไปถึงหงเหมินซึ่งอยู่ใกล้ๆ กรุงเสียนหยาง เขารับฟังกลอุบายจากเสนาบดีของเขา
แล้วจัดงานเลี้ยง หลิว ปัง เพื่อหวังจะสังหารเขาเสีย แม้ว่าระหว่างงานเลี้ยง
เหล่า เสนาบดีของ เซี่ยง หยู่ แอบส่งสัญญาณหลายครั้งให้ เซี่ยง หยู่ ออกคำสั่งให้สังหาร หลิว ปัง เสียก็ตาม
แต่เซี่ยง หยู่ใจอ่อนและคำนึงถึงความเป็นพี่น้องกันอยู่เนืองๆ จึงปล่อยให้หลิว ปังฉวยโอกาสหนีไปได้ในที่สุด
นี่คือที่มาของคำกล่าวที่ว่า "งานเลี้ยงหงเหมิน" ที่รู้จักกันดีในประวัติศาสตร์ของจีน
"งาน เลี้ยงหงเหมิน" แสดงให้เห็นความมีน้ำใจไมตรีของ เซี่ยง หยู่
แต่ขณะ เดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความดื้อรั้น และความลังเลใจไม่มีความเฉียบขาดของเขาด้วย
การพลาดโอกาสสังหาร หลิว ปัง ในครั้งนั้น เป็นต้นเหตุที่นำเขาไปสู่ความปราชัยในที่สุด
เมื่อ ได้ปล่อย หลิว ปัง ไปเสียแล้ว เซี่ยง หยู่ ก็เข้าสู่กรุงเสียนหยางและสถาปนาตนเองเป็น
"ซีฉู่ป้าอ๋อง" หรือ "ฌ่อปาอ๋อง" ที่คนไทยคุ้นหูกัน มีฐานะเท่ากับพระจักรพรรดิ
และแต่ง ตั้งให้ หลิว ปัง เป็นฮั่นอ๋อง ต่อมา หลิว ปัง กลับเป็นผู้ก่อสงครามแย่งชิงราชบัลลังก์อยู่ถึง 4 ปี
เรื่องนี้ได้ รับการบันทึกไว้ในตำราประวัติศาสตร์ว่าเป็น "สงครามฉู่-ฮั่น"
แรก เริ่มเดิมทีนั้น เซี่ยง หยู่ มีแสนยานุภาพมากกว่า แต่เขาไม่รับฟังคำติชมใดๆ
เอา แต่ดื้อรั้นในความคิดของตัวเองอย่างเดียว เหล่าเสนาบดีและนายทหารทั้งหลายจึงพากันทรยศหนีไป
นอกจากนี้ เซี่ยง หยู่ ยังชอบโอ้อวดต่อบรรดาเจ้าผู้ครองนครรัฐต่างๆ สร้างศัตรูขึ้นมาอยู่เสมอ
จนถึงเมื่อ 202 ปีก่อนคริสต์ศักราช กองทัพของเซี่ยง หยู่ถูกกองทัพของ หลิว ปัง
ปิดล้อมที่กายเซี่ยซึ่ง อยู่ในมณฑลอันฮุยปัจจุบัน เซี่ยง หยู่ เห็นไม่ได้การณ์เสียแล้ว
จึง ร้องเพลงด้วยน้ำเสียงอันแสนเศร้าสลด หยู จี คู่รัก
และพระสนมคนโปรด ของเขาเมื่อได้ยินเสียงก็ผวารีบวิ่งออกมาดู หยู จี เป็นเพื่อนบ้านเดียวกับ เซี่ยง หยู่
สองคนรักกันอย่างสุดซึ้ง ไม่เคยพลัดพรากจากกันสักครั้งเดียวแม้ในยามสงคราม
ขณะนี้อันตรายถึง แก่ชีวิตได้มาถึงแล้ว เพื่อไม่ให้ตัวเองกลายเป็นภาระแก่ เซี่ยง หยู่
ใน ระหว่างทำการหักด่านหาทางออกจากการปิดล้อม หยู จี รอจังหวะที่เซี่ยง หยู่ไม่ทันสังเกต
ชักดาบจากบั้นเอวของเซี่ยง หยู่ ออกมา แล้วปาดคอตัวเองตาย เซี่ยง หยู่ เสียใจยิ่งดั่งหัวใจจะขาด
แต่ก็จำ ต้องอำลาศพของ หยู จี เป็นครั้งสุดท้าย แล้วนำทหารม้า 800 นายหักด่านไปได้
นี่ ก็คือความเป็นมาของคำว่า "ฌ่อปาอ๋องอำลาพระสนม"
ซึ่งเป็นโศกนาฏกรรม ด้านความรักที่ได้รับการเล่าขานกันตลอดนับพันปีที่ผ่านมา
และเรื่อง นี้ก็ได้ถูกนำไปแต่งเป็นละครงิ้วหรือรูปแบบการแสดงประเภทอื่นๆ มากมาย
จน เป็นที่รู้จักดีของผู้คนทั้งหลาย ท่านผู้ฟังคะ หลังจากเซี่ยง หยู่สามารถหักด่านออกไปได้แล้ว
กองทหารของหลิว ปังก็ไล่ล่าเขาอย่างเฉียดฉิวถึงบริเวณฝั่งแม่น้ำวูเจียง ในชั่วขณะเส้นยาแดงผ่าแปดเช่นนี้
มีเรือประมงลำหนึ่งอยู่ในแม่น้ำพอ ดี ชาวประมงยินดีจะพา เซี่ยง หยู่ ข้ามฟากกลับไปถึงถิ่นเดิม
แต่ เซี่ยง หยู่ กลับไม่ยอมลงเรือ เอามือปิดหน้าอุทานขึ้นมาว่า
"ข้าจะ มีหน้าไปพบพ่อแม่ร่วมชาติที่ฝั่งตะวันออกได้อย่างไรเล่า"
ว่าแล้วก็ ชักดาบออกมาสังหารตนเองเสีย รวมขณะนั้นเซี่ยง หยู่มีอายุเพียง 31 ปีเท่านั้น
แก้ไขเมื่อ 21 พ.ค. 53 10:34:45
จากคุณ |
:
คนบ้าบิต
|
เขียนเมื่อ |
:
21 พ.ค. 53 10:29:50
|
|
|
|