ความคิดเห็นที่ 1 หลังจากญี่ปุ่นได้รับความพ่ายแพ้และความบอบช้ำจากสังครามโลกครั้งที่ 2 จึงเกิดการปฏิวัติระบบของตัวเองใหม่เพื่อให้ทัดเทียมกับอเมริกา โดยมีคติว่าฝรั่งทำอะไร กินอะไร ก็ต้องทำให้เหมือนอย่างเขา เริ่มตั้งแต่การกิน แต่ก่อนคนญี่ปุ่นมักบริโภคนมผง ก็เปลี่ยนมาดื่มนมสดแทนเพื่อให้ร่างกายสูงใหญ่ และประเพณีการนั่งเข่าซึ่งคิดกันว่าทำให้ขาสั้น(สมัยนั้นคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ตัวเล็กมาก) ญี่ปุ่นก็ไม่เคร่งกับตรงนี้เพื่อปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของตนเอง สร้างความเป็นชาตินิยม(ซึ่งเป็นมานานแต่ก็ยังแอบตามฝรั่งอยู่ดี) กินเพื่อสร้างชาติ ส่งเสริมนู่นนี่มากมาย จนทำให้ประเทศยืนอยู่สถานะผู้นำทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของโลก ปล. มีมากกว่านี้ แต่จำไม่ไ่ด้แล้ว จากคุณ : เสร่อแมนน์ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 18:33:14

ความคิดเห็นที่ 2 มีวินัยในการทำงาน ขยันทำงานเพื่อองค์กร มีการพัฒนาสินค้าของตัวเองตลอดเวลา รัฐสามารถทุ่มงบประมาณในส่วนเศรษฐกิจได้เต็มที่ เพราะไม่ต้องมีงบด้านป้องกันประเทศมากนัก (ถูกห้ามมีกองทัพ มีอเมริกาปกป้อง) จากคุณ : Redder ครับ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 18:41:10

ความคิดเห็นที่ 3 สหรัฐครับ ช่วยญี่ปุ่น เต็มที่เพราะไม่เข่นนั้นญี่ป่นเป็นคอมมิวนิสต์แน่ และ การที่ญี่ปุ่นไม่ต้อง มีกำลังทหาร ทำให้ประหยัดงบไปได้เยอะ ญี่ป่นก็เลยมีเงินพัฒนาประเทศศ และสุดท้าย ญี่ปุ่น มีระเบียบ วินัย ขยัน ผิดกับประเทศไทย เฮ้อออออออออออออออออออ ปลง จากคุณ : ทาสเทวี เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 19:05:37

ความคิดเห็นที่ 4 วินัยครับ ไม่ใช่แต่ญี่ปุ่นนะครับ เกาหลี และไต้หวัน วินัยต้องมาก่อนผมเคยไปทำงานที่ซาอุฯ  คนงานบริษัทเกาหลีทุกชาติ ตอนเช้าจะต้องร้องเพลงชาติ แล้วบริหารร่างกาย 15 นาที แล้วจึงเข้าแถวเข้าห้องอาหาร เสร็จแล้วเข้าแถวขึ้นรถไปทำงานเวลาทำงานไม่มีคุยสูบบุหรี่เฉพาะเวลา เบรค เรื่องงานเก่งไม่เก่งไม่สนให้ทำตามคำสั่งอย่างเดียว นอกคำสั่งไล่ออก ผมเคยคุยกับหัวหน้าชาวเกาหลี เขาบอกว่าคนทำงานไม่เก่งเขาฝึกได้แต่คนไม่มีวินัยเขาไม่เอา  เขาบอกว่าคนญี่ปุ่นยิ่งกว่าพวกเขาหลายเท่า แต่พวกเกาหลีไม่ชอบญี่ปุ่นมากๆ  นาน20กว่าปีแล้วตอนนี้เกาหลีหายใจรดต้นคอญี่ปุ่นแล้ว จากคุณ : นักรบมือ2 เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 53 21:57:35

ความคิดเห็นที่ 5 คนญี่ปุ่นเป็นคนที่มีระเบียบวินัย และชอบแข่งขัน ค้นคว้าหาสิ่งแปลกๆใหม่ๆ พวกเขาทำงานอย่างมุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อองค์กรอย่างเต็มที่ ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลาเกือบยี่สิบปี มองเห็นความต่างระหว่างคนไทยกับคนญี่ปุ่นอย่างชัดเจน เขาเริ่มฝึกคนของเขาตั้งแต่ยังเป็นเด็กอนุบาล เด็กของเขามีความแตกต่างจากเด็กของเราอย่างเห็นได้ชัด คนไทยส่วนมากยังไม่ค่อยมีระเบียบวินัย ขาดความมุ่งมั่น พนักงานญี่ปุ่นสามารถทำงานล่วงเวลาได้โดยไม่รับเงินเพิ่ม เรื่องทำงานเช้าชามเย็นชามไม่ค่อยมี ทั้งที่ประเทศเขาแหล่งการพนันเยอะแยะ สามารถเข้าไปได้อย่างสะดวก แต่ทำไมประเทศเขาไม่มีโจรผู้ร้ายมาก ตำรวจไม่ต้องทำงานหนักในการจับผู้ร้ายจี้ปล้น จากคุณ : พนอจัน เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 08:49:17

ความคิดเห็นที่ 6 จริงแฮะ มีเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่น สัมผัสได้จากพวกเค้าจริงๆ ยิ่งเรื่องระเบียบวินัยแล้ว เรื่องทำงานไม่ต้องพูดถึง ชัดเจน ยิ่งเรื่องบางเรื่องแบบนี้ อะไรจะเคร่งขนาดนั้น แตกต่างกับตัวเองด้วย อิอิ แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 53 10:22:44 จากคุณ : ip~ (Glot^Gofe) เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 10:22:23

ความคิดเห็นที่ 7 นอกจากนี้ คนญี่ปุ่นยังถือสัจจะวาจาด้วยครับ ตย.ล่าสุดก็นายกฯญี่ปุ่นที่ไม่สามารถย้ายฐานทัพสหรัฐฯออกไปจากเกาะโอกินาวาตามที่ได้หาเสียงไว้ เมื่อถูกทวงถาม เขาแสดงความเสียใจ แล้วลาออกเลยครับ เห็นนักการเมืองเขา แล้วย้อนมาดูนักเลือกตั้งไทย แสนจะวังเวง จากคุณ : เหนียว-อวี่ เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 53 14:19:15

ความคิดเห็นที่ 8 เอ่อ ถามนิดนะครับ คือเกาหลีนี่ผมไม่รู้ว่าเกาหลีไหน ไม่ขอถามละกัน เพราะถ้าเป็นเกาหลีเหนือก็ไม่แปลกที่จะระเบียบขนาดนั้น แต่ที่สงสัยคือ ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตยเต็มตัว ไม่มีใครออกมาประท้วงไม่ยอมทำตามกฎระเบียบเพราะคำว่า "สิทธิเสรีภาพ" แบบเด็กไทยบ้างหรือครับ อย่างเด็กไทย แ่ค่ตัดเกรียนก็ไม่ยอมกันแล้ว อ้างเสรีภาพ แล้วทำไมที่ญี่ปุ่นไม่อ้างกันบ้าง อย่างในความคิดผม ผมว่าไอ้การทำงานล่วงเวลาโดยไม่ได้เงิน มันน่้าอ้างประท้วงไม่ทำตามมากกว่าตัดผมเกรียนเยอะเลย ทำไมไม่มีใครทำกันละครับ จากคุณ : Chineseman เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 14:17:48

ความคิดเห็นที่ 9 การทำงานล่วงเวลาโดยไม่เอาเงินของญี่ปุ่นนั้น มันเหมือนกับเป็นวัฒนธรรมขององค์กรของเขาหน่ะครับ สมมติเจ้านายคุณ 5 โมงเย็นยังนั่งทำงานไม่กลับบ้าน, รุ่นพี่ที่ทำงานก็ยังนั่งทำงานกันอยู่ เราเข้าไปใหม่ก็คงไม่กล้าฝืนกระแส 4 โมงครึ่งเก็บของเตรียมเดินออกแน่นอน จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 53 15:22:52

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกความเห็นครับ จากคุณ : Saamaa5 เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 07:01:21

ความคิดเห็นที่ 11 นอกจากเหตุผลตามที่ข้างต้นกล่าวมาแล้ว  คุณภาพคนของเขาดีมาก  ทำอะไรทุกอย่างจะคำนึงถึงส่วนรวมเป็นหลัก   เคยไปเที้ยวญี่ปุ่นอยู่ครั้งหนึ่ง  ตอนนั้นฝนตก  แล้วพี่เขยเอาหนังสือพิมพ์ไปทิ้ง(เดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่รัฐมาเก็บ)  ตอนทิ้งฝนไม่ตก  แต่พอสักครู่ฝนตก  เห็นพี่เขยเอาถุงพลาสติกไปห่อ  เพื่อไม่หนังสือพิมพ์เปียก  ถามเขาว่าจะทิ้งแล้วทำไมต้องห่อด้วย  เขาบอกว่าเดี๋ยวเปียกแล้วเจ้าหน้าที่ต้องไปทำให้มันแห้ง  เปลืองไฟ  เปลืองพลังงาน  เดี๋ยวรัฐบาลจะมาเก็บภาษีประชาชนแพง ๆ อีก และอีกเรื่องหนึ่ง  พออีกวันไปนั่งรถไฟฟ้า  คนเยอะมาก  เดิน ๆ อยู่  เห็นผู้ชายคนหนึ่งวันประมาณ 50 ปี ในมือข้างหนึ่งถือกระเป๋าเอกสาร   และมืออีกข้างหนึ่งจูงเด็กผู้ชายอายุประมาณ 10-12 ปี  เป็นโบลิโอ  เดินช้ามาก  เขาก็ค่อย ๆ ประคองเด็กคนนั้นไปเรื่อย ๆ จึงถึงหัวมุมที่เขาจะแยกไป  เขาก็ทิ้งเด็กผู้ชายไว้ตรงหัวมุมทางแยก(ครั้งแรกคิดว่าชายคนนี้เป็นพ่อเด็ก)  อีกสักครู่ก็มีคนอื่นมาจูงไปตามทางที่เด็กคนนั้นต้องการ  พี่สาวก็อธิบายว่าคนที่นี่เขาจะช่วยเหลือคนพิการโดยไม่ต้องเป็นญาติกันหรอก  ใครมาเห็นหรือมาเจอหากไปทางเดียวกับเขา  เขาจะช่วยจูงไปส่งจนถึงเส้นทางที่เขาจะไปส่งได้   และเรื่องขยะอีก  อย่าว่าแต่ทิ้งขยะเลย  คนญี่ปุ่นเดินไปตามถนนเห็นขยะจะเก็บทันทีโดยที่ตนเองไม่ได้ทิ้งเลย คุณภาพคนของเขาดีมาก  หากบ้านเรามีสักครึ่งหนึ่งของเขาก็จะดีหรอก แก้ไขเมื่อ 11 มิ.ย. 53 14:32:02 จากคุณ : คนไม่สวยแต่จริงใจ เขียนเมื่อ : 11 มิ.ย. 53 14:30:22

ความคิดเห็นที่ 12 แต่ด้านมืดของเขาก็มี ไม่ใช่ไม่มีเลย แถมเป็นปัญหาใหญ่ด้วย คือการแข่งขันที่สูงเกินไปของผู้คนในชาติ ทำให้ผู้คนของเขามีความเครียดสูง จนเกิดเป็นปัญหาฆ่าตัวตาย คนวัยทำงานเป็นพวกบ้างานเกินเหตุ และคู่แต่งงานชาวญี่ปุ่นไม่นิยมมีลูก จนเกิดเป็นปัญหาการเกิดน้อย ทำให้รูปแบบประชากรของเขาเป็นปิระมิดหัวกลับ คือคนชราจะมีมาก แต่เด็กน้อย เป็นปัญหาแรงงานในขณะนี้ อีกเรื่องคือการเป็นวัตถุนิยมอย่างสูง จนตอนนี้เขาต้องเริ่มหันมารณรงค์ในเรื่องความคิด และจิตใจใฝห้มากขึ้น อีกเรื่องที่ไม่รู้จะเป็นเรื่องดีหรือแย่ คือพวกญี่ปุ่นเป็นพวกทำอะไรจริงจัง ดังนั้นถ้าทำดีก็ดีจริงๆ แต่ถ้าจะทำเลว ก็เลวจริงๆเหมือนกัน จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 18:39:39

ความคิดเห็นที่ 13 เพราะเราอยู่ที่นี่ จากคุณ : Archemedis500 เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 11:05:20

ความคิดเห็นที่ 14 Thailand only. จากคุณ : tonky96 เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 16:06:20

ความคิดเห็นที่ 15 สหรัฐช่วยทุกประเทศที่อยู่ข้างเขาในช่วงสงครามเย็นนั่นแหละครับ  รถทหารให้เปล่า ฮ.ให้เปล่า ปืน กระสุน เงินตั้งเท่าไหร่    ไม่งั้นทหารบ้านนอกๆที่ได้เป็นนายพลสมัยนั้นจะรวยเรอะ แต่ที่ยังด้อยอยู่เหมือนเดิมก็มีไทยกับปินมั้ง จากคุณ : Ninjax เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 23:22:11

ความคิดเห็นที่ 16 ขอเสริมนะคะ น่าจะเป็นที่ระบบของปฏิวัติการเกษตรของญี่ปุ่นด้วยแหละคะที่ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขามีความเจริญ และมีค่าครองชีพสูงกว่าเรามาก  สังเกตุไหมคะว่าในเมืองต่างๆ ของญี่ปุ่นเราเห็นว่าถึงแม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่ขอโทษเถอะคะ เพียบพร้อมกว่าบ้านเรามาก ระบบการเกษตรเขาทำเป็นระบบ มาก มีการแนะนำมีข้อมูลเชิงสารสนเทศ มีระบบสหกรณ์ที่เรียกว่าสูงมากและจัดการดีมากคะ คนเป็นชาวนาญี่ปุ่นนี่ไม่ใช่กระจอกงอกง่อย ออกวงเวียนชีวิตแบบบ้านเรานะคะ ขอโทษรวยพอๆกับเจ้าของกิจการในเมืองไทยเลยทีเดียว  และการปฏิวัติเกษตรก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนในญี่ปุ่นไม่ทะลักเข้าเมืองคะ คนส่วนมากพอใจที่จะอยู่บนพื้นที่ทำกินของตัวเอง เพราะคนมีเงิน พอคนมีเงินก็ไม่จำเป็นต้องไปหาเงินที่อื่นมัน ความเจริญก็เลยไม่ค่อยไปกระจุกตัวที่เมืองหลวงเพราะคนในพื้นที่มีกำลังซื้อ พอมีกำลังซื้อก็เลยใช้จ่าย ถ้าใครนึกภาพไม่ออกลองนึกภาพโฆษณาธนาคาร ที่บอกว่าเงินกำลังจะหมุนนไปไว้ ใกล้เคียงกันค่ะ โดยเฉพาะใช้จ่ายในพื้นที่ตัวเอง พื้นที่แต่ละพื้นที่มันก็เจริญเท่ากัน พอแต่ละที่เจริญเท่าๆกันไม่เกิดการกระจุกตัว มันก็ส่งผลต่อภาพรวมไงคะ  อย่างเมืองเล็กๆบางเมืองนี่พร้อมสรรพมาก มีร้านดอกไม้ โรงเรียนสอนดนตรี คาราโอเกะิ ร้า่นเบเกอรี่ ซึ่งเทียบกับบ้านเรานี่แบบว่าแค่บางจังหวัด  ร้านดอกไม้ที่เป็นแบบฟอริสมันยังไม่กล้าจะเปิดเลย เพราะทุกอย่างถูกนำมากระจุกตัวในบริเวณเมืองหลวงหมด ถ้าใครเคยไปญี่ปุ่นจะบอกได้เลยว่าแถบจะเห็นสลัมน้อยมากค่ะในเมืองหลวง หรือแม้แต่พวกหาบเร่ เบกะดินมันแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำนะคะ นี่อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาเจริญก็ได้นะคะ และอีกอย่างตามเหตุผลต้นๆ จริงคะคนญี่ปุ่นวินัยสูงมากจริงๆ ทุกอย่างเป็นระเบียบหมด ไม่ต้องมองไปไกลหรอกคะ แค่สิงค์โปร์ ดิฉันไปเที่ยวแบบว่า โอ้โหแถบอยากจะเอาตัวเองเกลือกกลิ้งลงไปบนถนน ทางเท้าบ้านเขา แบบสะอาดดดมาก ระบบอะไรก็ดี คนเขามีวินัย กฏหมายก็เข้มงวด  เห้อหันมามองบ้านเรา ขนาดผู้ใหญ่ยังจะหาความสามัคคีไม่ได้ วินัยย่อหย่อน คนในรุ่นต่อไปมันจะทำอะไรได้คะ แล้วอีกอย่างกฏหมายก็อ่อนยิ่งกว่าขนมชั้น มันจะไปมีประสิทธิภาพในการจัดการอะไรได้คะบ้านเรา อุ้ยพอก่อนดีกว่าเดี๋ยวออกอ่าวไปยิ่งกว่านี้ จากคุณ : ทากิ เขียนเมื่อ : 11 ก.ค. 53 17:24:32

ความคิดเห็นที่ 17 เอิ่ม ก่อนจะพาตัวเองเข้าสู่สงคราม จนมีชื่อบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ แบบแ่ย่ๆ แล้ว ญี่ปุ่นพัฒนาตัวเองมา่ก่อนหน้านั้นนานแล้วนะครับ ไม่ใช่ว่าสงครามกดดันให้เจริญ ข้อเท็จจริงอาจจะเป็นที่ว่า พอแพ้สงคราม เป็นแรงผลักดันให้ยิ่งเจริญกว่าเดิมมากกว่า ไม่ต้องอะไรมาก ลองพิมพ์แล้วกดเสิร์ชดู เรื่องรถไฟใต้ดินในญี่ปุ่น มีมาตั้งแต่ปี 1927 83 ปีก่อนแล้วนะครับ http://www.metro.tokyo.jp/ENGLISH/PROFILE/overview01.htm แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 53 22:25:43 จากคุณ : Nagano เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 22:21:57