ความคิดเห็นที่ 1   ตามนั้นครับ เสริมเล็กน้อย นอกจากคนจีนแ้ล้ว คนภาคใต้เองก็สามารถรวมตัวเป็นกลุ่ม เป็นสมาคมที่มีอำนาจต่อรองได้พอกัน จะพบได้ว่าคนใต้สามารถแทรกตัวเข้าไปเป็น Elite ของสังคมได้รองจากคนเชื้อสายจีนเลยครับ เมื่อ 2 วันก่อนดูรายการทาง TPBS มีแกนนำม็อบคนจนบางคนพูดได้ดีมาก เขาบอกว่า " ท้องถนนเป็นเพียงกลไกหนึ่งของการต่อสู้ แต่เป้าหมายหลักคือการที่กลุ่มของพวกเขาสามารถเข้าไปร่วมกำหนดทิศทางการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นรวมกับภาครัฐได้เช่นกัน " แต่ปัญหาคงอยู่ที่ว่า ระบบพรรคการเมืองแบบที่เป็นอยู่ต้องใช้เิงินมาก แล้วจะมีพรรคของชาวบ้านที่ไม่ใช่พรรคของนักเลือกตั้งอาชีพได้อย่างไร? แก้ตรงนี้ได้ ก็จะมีพรรคของ ปชช. เกิดขึ้นเองครับ จากคุณ : Avatar of TonyMao_NK51 (2) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:09:05 A:58.11.59.74 X: TicketID:246102

ความคิดเห็นที่ 2   อะไรคือเมือง อะไรคือชนบท ทุกคนก็ล้วนทุกข์เหมือนกัน มีแต่คนเราที่พ่ายแพ้กิเลสของตนก็เท่านั้น มารอยู่ภายในใจ หากกำราบมันไม่อยู่ เรานี่แหละที่จะกลายเป็นมารเอง จากคุณ : ความมืดกลืนกิน เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 12:40:12 A:125.26.223.50 X: TicketID:251205

ความคิดเห็นที่ 3   คห.2 เมือง - มีเทคโนโลยี มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ชนบท - แทบจะไม่มีเทคโนโลยี แทบจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก คุณคิดว่า คนเราไม่เท่ากันหรือ? จึงไม่มีสิทธิ์ได้รับสิ่งเหล่านี้ คนชนบทก็อยากให้ไฟฟ้าไปถึง อยากให้ทุกที่เป็นเขตชลประทาน บางคนก็อยากให้ adsl ไปถึงด้วย ( อย่าไปคิดว่า internet ไม่มีประโยชน์กับชาวบ้าน ถ้าจะไม่มีประโยชน์ ก็แค่กับชาวบ้านรุ่นนี้เท่านั้นเพราะใช้คอมฯ ไม่เป็น แต่ถ้ารุ่นลูกรุ่นหลานเขาที่ใช้เป็นกันเกือบหมดแล้ว internet สามารถใช้ประโยชน์ในการทำโน่นนี่ได้หมด รวมไปถึงการรับข่าวสารได้หลายทาง มากกว่าจะโดนสื่อหลักกรอกหูได้ทางเดียว ) แต่ใครจะใช้ยังไง ก็เป็นเรื่องของจิตใจของเขา ซึ่งก็ต้องไปว่ากันอีกกรณีหนึ่ง แต่การที่จะบอกว่า ชนบทไม่สมควรมีบริการแบบนี้เช่นเดียวกับเมือง เพราะเป็นการกระตุ้นกิเลส ผมว่าก็เิกินไป คนไทยเหมือนกัน สมควรได้รับโอกาสการพัฒนาที่เท่าเทียมกันครับ ไม่ว่าเขาจะเกิดจะโตที่ส่วนไหนของประเทศก็ตาม หุๆ จากคุณ : Avatar of TonyMao_NK51 (2) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:05:24 A:58.11.59.74 X: TicketID:246102

ความคิดเห็นที่ 4 แพ้เป็นพระ ชนะเป็นมารค่ะ เราเป็นคนกรุงเทพฯ เกิดที่นี่ ทำงานที่นี่ คิดว่าเรารู้จักคนเมืองดีพอสมควร เราไม่ใช่คนชนบท ได้แต่อ่านหนังสือและงานวิจัย ไม่กล้าบอกว่ารู้จักเขาดี แต่ก็พอมีญาติอยู่ต่างจังหวัดบ้าง เคยคุยกับญาติตอนที่มีประท้วงทักษิณ บอกเขาว่า ทักษิณโกงนะ เขาก็ยังอยากให้ทักษิณอยู่ต่อ เพราะคนส่วนใหญ่เลือก เราไม่เข้าใจ หัวฟัดหัวเหวี่ยง แต่ก็แปลกพอไปคุยกับอาจารย์ฝรั่ง อาจารย์บอกว่า ก็ให้เขาอยู่ต่อสิ คนส่วนใหญ่เลือกนี่ และมองเราด้วยสายตาเหยียดๆ กลายเป็นว่า คนบ้านนอกกับฝรั่งพูดภาษาเดียวกัน แต่คนกรุงนั่นแหละที่ท่องคาถา คนส่วนใหญ่ไม่สำคัญ ปล้นและแย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างไปจากคนชนบทอย่างที่เคยเป็นมา คนเมืองหลอกตัวเองไปวันๆ ว่าชนะ แต่ลึกๆ แล้วกลัวค่ะ กลัวจะต้องสูญเสียสิ่งที่เคยมีเคยได้ ถ้าเราไม่เปลี่ยนทัศนคติที่คิดว่า เราเก่ง เราถูกต้อง เราเข้มแข็ง เราเหนือกว่า วันแห่งการสูญเสียจะมาถึงเร็วกว่าที่คิด ต้องเลิกคิดว่า ชนบทเป็นเมืองขึ้นของกรุงเทพฯ   นักล่าอาณานิคมก็คิดอย่างนี้ แล้วลงเอยอย่างไร เพราะสิ่งที่คนเมืองไม่มีคือ spirit เราละอายต่อคนเสื้อแดงนัก อยากขอโทษที่เคยเข้าใจผิด และยินดีชดใช้ในสิ่งที่คนเมืองพวกเดียวกับเราทำกับพวกเขา จากคุณ : เอเธนา เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 14:22:28

ความคิดเห็นที่ 5 ความหมายของคำว่าชนบท หรือบ้านนอกปัจจุบัน  ทำไมเรานึกถึงแต่ภาคอีสานเป็นหลักก็ไม่รู้ เพราะเป็นอย่างงั้นจริงๆ (1 ใน 3 ของประเทศ) หรือเพราะสื่อมวลชนพาไป (เช่น สื่อเปิดดนตรีหมอลำประกอบสารคดีบ้านจำลุง ระยอง) จากคุณ : สมภพ เจ้าเก่า เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 14:24:06

ความคิดเห็นที่ 6 คุณคิดว่าได้ สส มากๆเข้าไปในสภาแล้วจะชนะหรือ..ตัวอย่างก็เห็นมาแล้ว ว่าประเทศมีการปฏิวัติไปกี่หน ถ้าไม่ถูกใจ และเชื่อว่าก็จะมีอีกในอนาคต จากคุณ : nutpa (nutpa) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 15:40:32

ความคิดเห็นที่ 7 #6คุณnutpa ๑.วิธีมองภาพเหตุการณ์ของคุณมองท่อนสั้นๆ ไม่มีทางเข้าใจภาพทั้งหมด ที่มันต่อเนื่องเป็นเหตุเป็นผลของกระแสเวลา ๒. วิธีคิดของคุณไม่มองไปถึงกระบวนการและเป้าหมายในอนาคต คุณเชื่อว่าอดีตมันตราสังข์คุณไปแล้ว ๓.แนะนำให้คุณรวบรวมความรู้ข้อมูลให้ครบรอบด้าน แนะนำให้คุณมีวิธีคิดเสียใหม่ มิฉนั้นคุณจะเป็นผู้พ่ายแพ้ทั้งชีวิต จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:08:18

ความคิดเห็นที่ 8 ความพ่ายแพ้ของเสื้อแดงไม่ได้มาจากควมเป็นสังคมเมือง  หรือชนบท แต่มันมาจากการก่อความเสียหายต่อส่วนรวมและความเดือดร้อนที่เขาทำต่อสังคมต่างหาก จากคุณ : opalvet เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:18:22

ความคิดเห็นที่ 9 ****** ความพ่ายแพ้ของคนเสื้อแดง******** การที่รัฐบาลใช้กำลังและความรุนแรงจัดการคนเสื้อแดง   เพื่อหยุดม๊อบ ตามความคิดเห็นของดิฉัน    รัฐบาลแพ้ค่ะ ...  ทำไมแพ้  แพ้เพราะตัวท่าน ผู้นำ   เลือกใช้ความรุนแรงกับประชาชน   หยุดม๊อบได้   แต่หยุดความคิด ของคนคิดต่างได้หรือ?   เรื่องจบแค่นี้หรือ?   ทำไมยังคงไว้ซึ่ง พรก. ? ************************************************ มองอีกด้านหนึ่ง เป็นความพ่ายแพ้ของ"ชนบท"ต่อ"เมือง" วิเคราะห์ผ่านวิชาการด้านวัฒนธรรม/พฤติกรรมองค์การ *********************************************** พักหลังดิฉันหมดศรัธา ...  เหล่านักวิชาการแขนงต่าง ๆ ...ตัวท่านนักวิชาการ..  พากันแก้ผ้าล้อนจ้อนเห็นตัวตนอันแท้จริง   มานักต่อนัก  ..... เหตุการณ์ครั้งนี้...  ดิฉันว่ามันซับซ้อนเกินจะมาวิเคาระห์สรุปกันสั้น  ๆ ได้ ในตอนนี้  มีอะไรที่ซ่อนเงื่อน...  รอให้มันผ่านไปสักสิบปี  ความจริงจะปรากฎ      ตัวดิฉันเองเป็นคนกรุงเทพ  ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของรัฐบาล และเชื่อว่ายังมีคนกรุงเทพฯ  อีกจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วย  แล้วจะตึความเหมารวมว่า  ความพ่ายแพ้ ของคนชนบท ต่อ  เมือง  ไม่น่าจะได้ค่ะ  ... เหตุการณ์มันเกิดที่กรุงเทพ  เท่านั้นเอง...   คนกรุงเข้าร่วมม๊อบเยอะแยะ... ส่วนเรื่องแกนนำ...   ใครไม่เคยฟังการปราศรัย   หรือคอยติดตามม๊อบ จะวิจารณ์ยังไงก็ได้ ....  สรุปนะคะ   คนเสื้อแดงแพ้กระบอกปืนค่ะ.... จากคุณ : ซาเจิ้น (ซาเจิ้น) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:22:43

ความคิดเห็นที่ 10 ผมคิดว่าการศึกในเมืองในครั้งนี้ เสื้อแดงไม่ได้พ่ายแพ้หรอกครับ ประเทศชาติโดยรวมต่างหากที่พ่ายแพ้ ศึกครั้งนี้ยังไม่จบ เพียงรอวันปะทุใหญ่ซึ่งจะเป็นวันดีเดย์อย่างแท้จริง กลับมาที่ประเด็นคนชนบทกับคนกรุงเทพ ผมตอบในฐานะคนชนบท คนบ้านนอกนะ ที่บ้านนอกน่ะเดี๋ยวนี้ความเจริญทางวัตถุเข้าถึงเกือบหมดแล้ว ระบบสาธารณูปโภค ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต ไปถึงเกือบหมดแล้ว คุณไปดูข้อมูลของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตว่าจำนวนครัวเรือนที่มีไฟฟ้าใช้ในปัจจุบันเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมดในประเทศไทย เมื่อไฟฟ้าเข้าถึง ทีนี้โทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงก็ง่ายแล้ว เกาะเสาไฟไป ประเด็นทางสังคมและคุณภาพชีวิต คนบ้านนอกมีสังคมที่ดีกว่าคนกรุงเทพ ในละแวกบ้านรู้จักกันหมด ใครแปลกหน้าเข้ามารู้ได้ทันที และช่วยกันระแวงภัย ผิดกับคนกรุงเทพ โถ บ้านติดกันยังไม่รู้จักกันเลยก็มี ตัวใครตัวมันซะเป็นส่วนใหญ่ ด้านคุณภาพชีวิต คนบ้านนอกเหนือกว่าหลายขุม เรื่องที่คนกรุงเทพหมดทางสู้โดยสิ้นเชิงคือคุณภาพอากาศ เรื่องรถติดหนึบอยู่บนท้องถนน เสียเวลาไปเปล่าๆ นั่นก็ใช่ เรื่องอาหารก็เหมือนกัน จริงอยู่ คนกรุงเทพอาจมีอาหารให้เลือกเยอะแยะเพราะเป็นศูนย์รวม แต่อาหารพวกนั้นผ่านการแช่เย็นมาแล้ว รสชาติมันคนละเรื่องกันกับอาหารสดจริงๆ เพื่อนภรรยาผมเคยมาเที่ยวที่บ้าน ผมทำ ปลาช่อนลุยสวน ให้กิน ปลาช่อนนั่นก็จับเอาจากบ่อน้ำรอบบ้านนั่นแหละ เมื่อตะกี้มันยังอยู่ในบ่อเลย ตอนนี้อยู่บนจานอาหารซะแล้ว เจ้าเพื่อนนั่นมันเป็นนักกินซะด้วย กินเข้าไปคำแรก เฮ้ย นี่มันปลาธรรมชาตินี่หว่า รสชาติผิดกันเยอะจนรู้ได้ทันทีครับ ปลากะพงและกุ้งก็ทำนองเดียวกัน คนละเรื่องเลย จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:42:16

ความคิดเห็นที่ 11 ชนบทเทียบได้กับช้าง เมืองเทียบได้กับหมาน้อยๆธรรมดา...แต่มีราคาแพง เคยได้ยินนิทานอินเดียเรื่องตาบอด(๘คน)คลำช้าง ต่างคนคนต่างคลำหรือไม่ครับ? แต่ละคนไม่มีใครรู้จักช้างทั้งตัวในภาพรวม จึงยืนเถียงกันใหญ่ ช้างจึงมี๘ลักษณะย่อย ตามจุดที่คนตาบอดคนนั้นยืนคลำอยู่ ไม่มีใครรู้จักช้างในภาพใหญ่ที่เป็นตัวจริง ไม่รู้ว่าตาบอดคนไหน แก้ผ้าล่อนจ้อนคลำช้าง... จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:08:40

ความคิดเห็นที่ 12 ผมไม่แน่ใจว่าจะมีแค่ "เมือง" กับ "ชนบท" ครับ เห็นด้วยกับคุณซาเจิ้น "ในตอนนี้ มีอะไรที่ซ่อนเงื่อน... รอให้มันผ่านไปสักสิบปี ความจริงจะปรากฎ" จากคุณ : ใ (วัชรานนท์) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:14:43

ความคิดเห็นที่ 13   เสื้อแดงแพ้เพราะปืน สื่อ อำนาจอยู่อีกฝั่งต่างหาก จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:27:03 A:58.8.10.238 X: TicketID:098315

ความคิดเห็นที่ 14 นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของอีเมล์ ที่เพื่อนส่งมา...เวอร์ชั่นหนึ่งของการคลำช้าง แยกราชประสงค์แห่งอาถรรพ์การสาปแช่ง”สีแดง” - ท้าว มหาพรหม - ท้าวอัมรินทราธิราชหรือพระอินทร์ - พระ นารายณ์ประทับยืนบนพญาอนันตนาคราช - องค์พระพิฆเนศวร - พระ ลักษมี - องค์พระนารายณ์ทรงสุบรรณ - องค์ พระตรีมูรติ การประทับพระตรีมูรติ สร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และก็มีการสืบทอดมาอันเชิญมาตั้งอยู่ในวังเพชรบูรณ์ตรง ถ.ราชดำริ พระตรีมูรติที่ฝรั่งเคยเช่าไป คนให้เช่าไปยังต้องไปตามเช่ากลับมาให้ท่านปกปักรักษาที่ตรงนั้น สี่แยก ราชประสงค์เป็นที่มีการสาปแช่งว่าห้ามผู้ใดเข้ามาใช้สถานที่นี้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นอาจจะถึงตาย ที่ตรงนั้นเคยเป็นทางแยกและเป็นคลองตรงจุดทางแยก ซึ่งส่วนใหญ่จะมีวิญญาณชั่วร้ายอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะ มนุษย์ไม่อาจอยู่ตรงกลางสี่แยกนั้นได้นอกจากมนุษย์ที่สิ้นลมแล้ว แยกราช ประสงค์ถือว่าเป็นอันตรายมาก ๆ เรียกกันว่าเป็นที่ที่มีฮวงจุ้ย “ใบพัด” เหมือน กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อมีคนเยอะ ๆ ใบพัดก็จะหมุน ซึ่งตรงนั้นมีเทพเจ้ามากมาย ส่งผลให้เทพทุกองค์ต่างแสดงอำนาจ จาก ประวัติศาสตร์ตอนสร้าง กทม. ลงเสาหลักเมือง กทม. มีการใส่คนจริงยังไม่ตายไปก้นหลุมด้วย พอลงเสาจะกลบหลุมมีงู 4 ตัว เลื้อยลงไปและถูกฝังไปพร้อมกับคน เป็นเครื่องบอกลางอาถรรพ์ของกรุงเทพว่า ครบรอบต้องบูชายันต์ กทม. ครั้งใหม่อีกด้วยเลือดของผู้มีอำนาจ นอกจากนี้ สี่แยกราชประสงค์เป็นลางไม่ดีอยู่ใกล้โรงพยาบาลตำรวจที่มีคนตายทุกวัน ตั้งแต่ตั้งโรงพยาบาลมามีคนตายไปแล้วหลายพันหลายหมื่นคน เป็นสี่แยกอาถรรพ์แต่บรรพกาล อีกทั้งยังเรียกกันว่าเป็นที่ “ประตู ผี” ซึ่งเป็น อาถรรพ์แล้วภูติก็ชอบสีแดงด้วย บางส่วนของสี่แยกราช ประสงค์เคยเป็นพระราชวังที่ประทับของ ร.4 ซึ่งพื้นที่ตรงนั้น ถือเป็นที่เฮี้ยนและก็มีการสาปแช่งไว้มากมาย สมัยก่อนการประหารนักโทษนั้น เขาใช้วิธีการให้ทักโทษนั่งคุกเข่า และนั่งเรียง ๆ กัน ให้นักโทษนุ่งโจงกระเบนสีแดงแล้วเพชฌฆาตจะฟันคอขาดทีละคน ที่สี่แยกราช ประสงค์นั่นเหมาะจะเป็นที่บูชายันต์คนเสื้อแดงให้กับภูตผีและเหล่าเทวดาที่ เคียดแค้น ที่ถูกคนเสื้อแดงลบหลู่ ทั้งรบกวน มีลางเตือนบอกจากคนเสื้อแดงที่ขากลับอุบัติเหตุตายสังเวยไปแล้วกว่า 10 คน แต่ไม่มีใครฉุกคิดกันเลย ส่วนจะต้องบูชายันต์ด้วยคนสีแดงทั้งหมดเท่าใด นั้น ขึ้นกับโชคชะตาที่มาถึงจุดที่ประเทศไทยจะต้องล้างสิ่งไม่ดีทั้งปวงโดยการการ บูชายันต์ภูติ เทพเจ้า และเหล่าเทวดาแยกราชประสงค์ด้วยคนจริงสีแดง เป็น ลิขิตที่ไม่อาจแก้ไขได้ ข่าวว่าอาจมี ส.ส.สีแดงต้องบูชายันต์ด้วย แม้แกน นำจะรู้อาถรรพ์ข้อนี้แล้วรีบประกาศเปลี่ยนสีเสื้อแต่มันไม่ทันแล้ว มันแก้เคล็ดไม่ได้ เพราะพวกเขาคือสัญลักษณ์แห่งสีแดงที่ถูกสาปแช่ง และต้องถูกทางการบูชายันต์เหมือนครั้งการสร้างกรุงเทพ ฯ นั่นเอง การบูชายันต์นั้นมี 2 ช่องทางในตอนนี้คือ 1. การ ประกาศเปลี่ยนสีเสื้อของแกนนำไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงของ แต่เป็นการวางแผนสังหารยิงหัวผู้ชุมนุมด้วยกันเองเพื่อการบูชายันต์เทพ โดยกองโจรก่อการร้ายของแกนนำเอง ผู้ชุมนุมจะมีโอกาสถูกยิงหัวจากกองโจรได้ตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่นเหมือนคราว 10 เม.ย. 53 เป็นการบูชายันต์เทพไม่ให้ภัยร้ายถึงตัวแกนนำเอง 2. การ บูชายันต์โดยผู้มีอำนาจ อันนี้เปรียบเสมือนการประหารชีวิตนักโทษโจงกระเบนแดงสมัยโบราณและการบูชา ยันต์ลงเสาหลักเมืองนั่นเอง เป็นการเกิดตามดวงเมืองที่คนเสื้อแดงที่ชุมนุมเหล่านี้ต้องสังเวยชีวิต แม้เปลี่ยนสีเสื้อก็ไม่รอด เพราะเทพได้สาปแช่งไปก่อนหน้าแล้ว โชคชะตาคนจะตายยมทูตจะมารอรับ แม้คนอื่นเตือนก็จะทำให้หูตามืดบอด มันเป็นดวงถึงฆาตของคนที่อยู่ตรงนั้น ไม่อาจหนีชะตาได้ มันเป็นโชคชะตาให้มาตายพร้อม ๆ กัน อาถรรพ์สี่แยกราช ประสงค์ก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ กล่าวขนานกันแต่โบราณ ผลของการสาปแช่งจากเทพ ฯ นั้น ทุกคนที่เคยไปร่วมชุมนุมที่นั้นหรือผู้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือ ต่อไปนี้ชีวิตเขาและครอบครัว จะได้รับผลร้ายต่าง ๆ นา ๆ จะมีอุบัติเหตุ เจ็บป่วย เสียทรัพย์ ฯลฯ ส่วนใหญ่ผลร้ายที่ตามมาจะเกิดกับร่างกายเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะเทพทั้ง 7 จะ รุมกันสาปแช่ง จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:37:22

ความคิดเห็นที่ 15 รูปปั้นของเทพเจ้าองค์หนึ่งที่แยกราชประสงค์ จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:46:01

ความคิดเห็นที่ 16 #13....เก่งครับ มองภาพความขัดแย้งเป็น๒ฝ่าย .......อำนาจอยู่อีกฝั่งต่างหาก จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:53:00

ความคิดเห็นที่ 17 คุณขามเรียงเขียนไว้ในกระทู้เปิดหัวว่า "จุดอ่อนที่วัฒนธรรมชนบท คือ ไม่มีทักษะประสบการณ์ทางการจัดตั้งองค์การ ทั้งชั่วคราว/ถาวร องค์การไม่เป็นทางการ/เป็นทางการ ในทุกประเภทกิจกรรม จึงพ่ายแพ้" ข้อนี้ผมไม่เห็นด้วย   ผมทำงานพัฒนาชนบทและใช้ชีวิตคลุกคลีกับผู้คนในพื้นที่ห่างไกลมานานกว่ายี่สิบปี   ขอยืนยันว่าคนชนบทมีวัฒนธรรมในการรวมตัวกันจัดตั้งองค์กรทั้งขั่วคราวและถาวรอย่างเหนียวแน่น   ทั้งนี้ด้วยเหตุปัจจัยที่ว่าพวกเขาเหล่านั้นรู้ว่าในฐานะปัจเจกบุคคล   พวกเขาขาดอำนาจและปราศจากพลังในอันที่จะขับเคลื่อนชีวิตความเป็นอยู่ให้ดียิ่งขึ้น ในการชุมนุมครั้งนีก็เหมือนกันที่คนที่มาจากแต่ละจังหวัดแต่ละภูมิภาคมีการรวมกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น เสียแต่พลังที่เกิดจากการรวมกลุ่มนั้นยังไม่อาจต่อตีกับอำนาจที่ครอบงำรัฐไทยมานานได้ต่างหาก   นั่นคือสาเหตุที่พ่ายแพ้ จากคุณ : Tanis เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:58:45

ความคิดเห็นที่ 18 คุณชามเรียง คห.11 เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ เรื่องตาบอดคลำช้าง ผมนี่แหละไอ้เด็กบ้านนอก แต่เป็นเด็กบ้านนอกระดับอินเตอร์ หลายต่อหลายคนในห้องนี้ก็เป็นแบบผม เข้าประชุมระดับนานาชาติมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ในชีวิตจริงแล้วนั้น ผมเป็นคนสองจังหวัด เกิดและเรียนที่บ้านนอกจนถึงมัธยมต้น ตั้งแต่มัธยมปลายมาอยู่กรุงเทพ เรียนจบแล้วทำงานในกรุงเทพจนเกษียณ หลังเกษียณผมกลับไปอยู่บ้านเดิมที่บ้านนอกจนทุกวันนี้ ดีกว่ากันเยอะเลย ผมผ่านมาแล้วทั้งสองแบบจึงพูดได้เต็มปาก คุณไม่รู้เลยหรือว่ามีคนจำนวนมากที่อยากไปอยู่บ้านนอก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เหนื่อยกับชีวิตในเมืองกรุงมานานแล้ว จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ให้สบายเสียที จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 18:39:55

ความคิดเห็นที่ 19 #17คุณTanis ขอบคุณครับที่ใช้ท่าทีนี้ถกปัญหากัน ผมเป็นเด็กท้องนา เด็กที่พ่อแม่ยากจน เป็นเด็กชนบทมาก่อน เมื่อโตแล้วเรียนมหาวิทยาลัยและแต่งงาน มีลูกเป็นเด็กกรุงเทพ(ต่างกับเรา) ผมมีโอกาสยืนอยู่ในชีวิตมุมต่างๆทางอาชีพ ในทุกภาคส่วน ทั้งทางชนบทและเมือง ผมมีโอกาสไปบรรยายให้ชาวชนบทหลายจังหวัดในภาคอีสาน ผมมีความเห็นว่า องค์กรและเครือข่ายในชนบทมีจริงแต่น้อย ไม่เข้มแข็งจริง จึงต้องไปพึ่งใบบุญคนเก่งบางคนที่เขาให้โอกาส แต่มีบาปที่ร่ำรวยหลงอำนาจ แต่ฉ้อฉลภายหลังที่ได้เป็นใหญ่ จนมาบัดนี้เขายังไม่ยอมรับว่าตนเองมีความผิด มีคนในนี้เล่าว่า รู้ว่าเขาโกงแต่ก็ยังเลือกเขา อย่างนี้มันก็แย่แล้วครับคนไทย อำนาจเก่าที่เขาประคองประเทศมาให้จึงต้องโค่นล้มทิ้ง แล้วพวกเรายังหลงรักเขาเดินตามเขาอยู่อีก เพราะเขามีเงินจ่ายน่ะเอง ผู้ใหญ่หลายคนถอนตัวก่อนเขาทำพรรคพัง อย่างดร.คณิต ณ.นครเป็นต้น ไปถามท่านดูสิเพราะอะไร สร้างพรรค(องค์กร)กันเองให้เข้มแข็ง มีธรรมะนานาประการสิครับ เอามาแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ อย่าแตกกัน  ลำพังพรรคการเมืองก็แตกกันอยู่เรื่อยๆ อย่างนี้ไม่เรียกว่าองค์กรประชาชนเข้มแข็งหรอกครับ มีองค์กรการเงินที่เข้มแข็ง มีองค์กรพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง มีมหาวิทยาลัยที่เข้มแข็ง ทั้ง๓รวมเป็นเครือข่ายทั่วประเทศ มีกลุ่มผู้นำเจ๋งๆ มีแววเป็นชนชั้นนำ สร้างขึ้นมาอย่าให้ขาดสาย ดูสายจีน สายคนใต้ สายเหนือ สายอีสาน และสายภาคกลาง เลือกเข้ามา ไม่นานจริงๆ จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 18:55:34

ความคิดเห็นที่ 20 คุณหนุ่มไทยไร้นาม ผมก็เดินทางมาแล้ว๒๒ประเทศ บางประเทศ๒-๓ครั้ง ประชุมนานาชาติ ก็ผ่านมาแล้วครับ เราต้องมาคุยกันปากต่อปากดีกว่า จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 18:58:52

ความคิดเห็นที่ 21 "มีคนในนี้เล่าว่า รู้ว่าเขาโกงแต่ก็ยังเลือกเขา อย่างนี้มันก็แย่แล้วครับคนไทย  อำนาจเก่าที่เขาประคองประเทศมาให้จึงต้องโค่นล้มทิ้ง" ประโยคหลัง "อำนาจเก่า" นี่ คุณขามเรียงหมายถึงอะไรเหรอ? แต่ไม่ว่า "อำนาจเก่า" จะเป็นอะไรก็ตาม การโค่นล้มด้วยรัฐประหารนั้น เป็นสิ่งที่ผิดกติกา เป็นความหวังดีที่ประสงค์ร้าย และประเทศเราก็ก้าวเข้าสู่โหมดการแบ่งเขาแบ่งเรานับแต่นั้น เราไม่เคยเลือกพรรคของทักษิณ รู้ว่าโกง แต่กว่าที่เราจะรู้ เราใช้เวลานานแค่ไหน แม้แต่ราษฎรอาวุโส และศาลรัฐธรรมนูญยังเคยรับรองความดีของคนๆ นี้มาแล้ว  นับประสาอะไรกับคนชนบท เขากำลังอยู่ในช่วงฮันนีมูน ไปหักหาญน้ำใจกันอย่างนี้มันเกินไป ทำไมไม่ให้เวลาพวกเขาได้เรียนรู้เอง เราเลือก ปชป. มาตลอด เสียภาษี 100 บาทให้พรรคนี้ด้วย ผิดหวังอย่างแรงที่เลือกมารร้ายขึ้นมาครองเมือง  การโกงก็ไม่เคยน้อยลงเลย เราขอชดใช้ให้คนชนบทว่า จะไม่เลือกพรรคนี้อีก และจะฟังเสียงคนชนบทให้มากขึ้น ไม่อยากแย่งชิงอะไรจากเขาอีก  เพราะเมื่อกระสุนแทรกร่างเขา เรารู้สึกเจ็บปวดบอกไม่ถูก คนบางคนอาจลืมกำพืดของตัวเองได้ แต่ถึงขนาดลืมความเป็นมนุษย์ เห็นพวกเดียวกันบาดเจ็บล้มตายไม่รู้สึกรู้สา แถมยังซ้ำเติมนี่ แย่จังนะ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 20:28:47 แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 20:14:48 จากคุณ : เอเธนา เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 20:10:58

ความคิดเห็นที่ 22 อุณหภูมิของกระทู้นี้เริ่มสูงขึ้น ไม่สมกับที่เป็น academic matter เอาละ ผมจะไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วยแล้ว ไม่อ่านต่อด้วย หันหลังให้เลย จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 20:13:18

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ ขามเรียง ใน คห.19  คุณเขียนว่า องค์กรและเครือข่ายในชนบทมีจริงแต่น้อย ไม่เข้มแข็งจริง จึงต้องไปพึ่งใบบุญคนเก่งบางคนที่เขาให้โอกาส ข้อนี้ผมเห็นด้วยในข้อที่ว่าต้องไปพึ่งใบบุญคนเก่งบางคนที่เขาให้โอกาส ผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง เมื่อ 3 ปีที่แล้วผมช่วยทำถนนเส้นหนึ่งให้กับชาวบ้านในเขตจังหวักแม่ฮ่องสอน   เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่าง 2 หมู่บ้าน  แต่เดิมเป็นทางเดินพอเดินได้เรียงเดี่ยว   คุณขามเรียงเป็นลูกชาวนาคงพอจะจำภาพได้ว่าเส้นทางเดินแบบนั้นเป็นอย่างไร   แล้วชาวบ้านใช้งบ SML ขุดขยายถนนให้กว้างพอมอเตอร์ไซค์วิ่งได้   โดยจ้างแรงงานตัวเอง   ผมไปขยายให้มันใหญ่ให้รถยนต์วิ่งผ่านได้ ผมถามพวกเขาตรงๆ ว่าทำไมต้องรอให้มีงบ SML จึงออกมาร่วมมือกันขุด   ทำไมไม่ขุดเสียเองก่อนหน้านั้น   เขาหัวเราะใส่หน้าผมและบอกว่า   ความร่วมใจนั้นมี   แต่ตราบเท่าที่ทุกหลังคาเรือนยังต้องปากกัดตีนถีบหาให้พอกินได้ครบสามมื้อ   ความร่วมมือก็ยังไม่เกิด   พวกเขารู้ว่าถนนที่ดีขึ้นจะทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น   แต่ความจำเป็นเร่งด่วนคือต้องมีกินก่อน ด้วยเหตุนี้ภาพที่เขามองคนโกงที่หยิบยื่นโอกาสให้เขาจึงผิดเพี้ยนแตกต่างไปจากภาพที่คนเมืองซึ่งมีฐานะดีกว่ามอง   ผมคิดว่าไม่ใช่ความผิดของคนบ้านนอกพวกนั้นหรอกครับที่ไม่สามารถรวมตัวกันทำอะไรในระดับที่มีอำนาจต่อรองให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางนโยบายในวงกว้างได้   แต่เป็นเพราะพื้นฐานทางเศรษฐกิจของเขาไม่อำนวยให้ทำได้ต่างหาก เหตุที่เขารับเงินและเดินตาม   ก็เพื่อจะได้มีโอกาสต่อสู้ให้ได้สิ่งที่ดีกว่าสำหรับตัวพวกเขาเอง   ถ้าไม่รับเงิน   คนพวกนั้นก็ต้องตะเดียกตะกายทำมาหากินให้มีชีวิตรอด   ต้องรับเงิน   จึงจะสามารถปลดภาระการหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องและมารวมตัวเพื่อต่อสู้ได้ ตรรกะของการต่อสู้มันบัดซบอย่างนี้เอง จากคุณ : Tanis เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:36:00

ความคิดเห็นที่ 24 อะไรคุณหนุ่มไทย ...นีอุณหภูมิเท่านี้เอง สาวๆเธอยังไม่บ่นเลย! ********************************** #21 คุณเอเธนา...อำนาจเก่า ก็คือผู้ใหญ่ที่คุณทักษิณไปพูดถึงอย่างก้าวร้าวในที่สาธารณะถึง๒ครั้งเท่าที่ผมได้ดูทีวี ผมวิเคราะห์ไม่เหมือนใคร อาจผิดก็ได้ การใช้วาจาก้าวร้าวกับผู้ใหญ่แบบนั้น เป็นฟางเส้นสุดท้าย ทำให้ทหารโดยผบทบ.สนธิร้อนก้นโดยตำแหน่ง ที่ต้องออกมาปฏิวัติ ประกอบกับการกระทำอีกหลายๆอย่างที่คนระดับนายกฯไม่พึงปฏิบัติ จริงๆแล้ว บ้านเรามันมีคอร์รัปชั่นฝังรากมานานแล้ว แต่ไม่โจ๋งครึ่มถึงขนาดนั้น  ในรัฐบาลนี้ก็มีครับ กระทรวงสาธารณะสุขก๊เกิดอีก กระทรวงอื่นก็มี ผมนี่เจอด้วยตัวเอง๒-๓ปีซ้อน แม้นายกอภิสิทธิท่านได้บริหารตรงนี้ไปได้ แต่ขณะนี้คะแนนเสียงก็ปริ่มน้ำเต็มที่แล้ว กระแสแห่งกาลเวลาและสายน้ำทางวัฒนธรรมชาติพันธุ์เอเซียมันพัฒนาเปลี่ยนแปลงช้า ในเชิงคุณภาพ ไม่ทันชาติอื่นที่เขาปรับตัวเก่งกว่า และมันก็อยู่ในกระแสเลือดของเรา ของผมของคุณด้วย หากเราอยู่ในเวทีและเป็นตัวแสดงเหล่านี้ เราอาจทำเลวกว่าก็ได้ครับ จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:53:02

ความคิดเห็นที่ 25 ขอเห็นต่างค่ะ ดิฉันคิดว่า รัฐบาลนี้แพ้หลุดลุ่ยค่ะ แพ้มาตั้งแต่ยอมให้เสื้อแดงทำอะไรได้ตามอำเภอใจแล้ว และมีทีท่าว่าจะแพ้ต่อไปอีก หากเสื้อแดงลุกขึ้นมารวมกลุ่มประท้วง โดยอ้างเรื่องชนชั้นอีกครั้ง เพราะตอนนี้ ดูเหมือนว่ากำลังจะมีความพยายามทำให้การเผาบ้านเผาเมืองเป็นเรื่องของความขัดแย้งธรรมดา ที่ต้องหันมาปรองดองกัน แทนที่จะนำตัวคนผิดมาลงโทษ ดิฉันว่า พวกเรากำลังหลงประเด็นเรื่องคนเสื้อแดงค่ะ จากคุณ : wanalee เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:57:20

ความคิดเห็นที่ 26   #25 ผมคิดต่างจากคุณนะ นี่เป็นความเห็นส่วนตัวของผม การแก้ปัญหานี้ต้องไม่มองเป็นเสื้อแดงหรือเสื้อเหลือง ชนชั้นบนหรือชนชั้นล่าง คนเมืองหรือคนชนบท พวกเขาหรือพวกเรา คนที่หิวก็หาทางให้เขาได้อิ่มเสีย คนที่เครียดแค้นก็ปลอบโยนเขาด้วยความรัก คนที่เหนื่อยอ่อนก็หาทางให้เขาได้พักผ่อน คนที่เบื่อหน่อยก็หาทางทำให้เขายิ้มแย้ม หลักการจัดการรัฐผมมองเป็นสามอย่าง -ให้ความปลอดภัยแก่พวกเขา -ทำให้ท้องพวกเขาอิ่ม -ให้ความบรรเทิง ศิลปะ และธรรมะแก่ทุกคน จากคุณ : ความมืดกลืนกิน เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 22:14:43 A:113.53.107.151 X: TicketID:251205

ความคิดเห็นที่ 27 #23คุณTanis ครับ ผมเห็นภาพถนนแบบนั้นในอดีต ส่วนถนนอย่างดีที่ผมเกี่ยวข้องเมื่อ๓ปีก่อน เขาไปรับแบบที่จ้างบริษัทที่ปรึกษาสำรวจออกแบบ ในสนามกอล์ฟช่วงเช้าของเวลาราชการ ช่วงบ่ายลงหวดกอล์ฟ ถนนเหล่านี้ คนบ่นกันมาก ป้ายบอกทางไม่มีความชัดเจน....ขับไปไม่ถูกเลย เลิกทำนาทำไร่ มากำกับนักการเมือง/ข้าราชการ/นักธุรกิจ เสียให้หมดในองค์กรอิสระน่าจะมีความมั่นคงในชีวิตกว่า...ผมกล่าวไปเล่นๆน่ะครับ จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 22:23:42

ความคิดเห็นที่ 28   #27 ผมว่ารวมตัวแบบจิตศรัทธาทำกันเองจะง่ายกว่านะ สมัยก่อนสร้างวัด สร้างสาธารณะสมบัติใช้ทั้งกำลังทรัพย์และกำลังกายก็ทำกันได้ตั้งมากมายให้คนเดียวนี้ได้อัศจรรย์ในจิตใจเสียสละของคนยุคก่อนๆ ผมว่าคนยุคนี้เราก็เสียสละเพื่อสังคมได้ไม่หย่อนถ้าจะทำกันจริง ๆ นะครับ รัฐที่เข้มแข็ง มาจากที่ประชาชนมีสามัคคีธรรม จากคุณ : ความมืดกลืนกิน เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 22:52:13 A:113.53.107.151 X: TicketID:251205

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าคนเสื้อแดงแพ้ ก็คงแพ้เพราะกระบอกปืน... ...ของตัวเอง หรือถ้าไม่ใช่ของตัวเอง ก็เพราะไปหลงใหลได้ปลื้มตามแกนนำบนเวทีว่าการมีกองกำลังของพวกตัวเองมาช่วยนั้น ทำให้ "ได้เปรียบ" นี่ไม่ใช่สงคราม แต่เป็นการชุมนุมทางการเมือง ใครควักอาวุธออกมาก็ "แพ้" ทันทีครับ แต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องล้วนมีจุดบกพร่องอยู่ ต้องยอมรับจุดนี้ก่อน ทบทวนความผิดพลาด และแก้ไขครับ มัวสาดน้ำใส่กัน เอ็งสิผิด ข้าไม่ผิด แบบนี้ไม่ไปถึงไหนแน่ครับ สำหรับการชุมนุมในอนาคตที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าพวกไหน ถ้ามีคนเอาอาวุธเข้ามา หรือคุยว่ามีกองกำลังติดอาวุธสนับสนุน สิ่งที่ผู้ชุมนุมควรทำคือ แจ้งตำรวจ และร่วมกันขับไล่ผู้นิยมความรุนแรงออกไปจากกลุ่มผู้ชุมนุม รวมทั้งแจ้งเบาะแสให้ทางการเข้าจับกุมครับ จากคุณ : CrazyHOrse เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:03:04

ความคิดเห็นที่ 30 #28คุณความมืดครับ ความศรัทธาของประชาชนกับหลวงพ่อและการทำบุญสร้างวัดสร้างโบสถ์ แม้ในปัจจุบันยังปรากฏให้ผมทึ่ง  ระดมได้มากมายแม้ในอีสาน ที่ว่ายากจนมีช่องว่าง เห็นด้วย ตามที่คุณให้ความเห็นมา พอมาเรื่องแบ่งเป็นรัฐบาลกับประชาชน มันเลยกลายเป็นการต่อสู้กันไปเสียนี่ จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:06:22

ความคิดเห็นที่ 31 จตุพร ขู่ฟอดๆอีกแล้ว...ทำเก่งไป! มาดูเสื้อแดงตัวแท้กันดีกว่า ผงาดอยู่ตามตึกใหญ่ไม่รู้ กี่ร้อยตัว จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:20:26

ความคิดเห็นที่ 32 ... จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:21:39

ความคิดเห็นที่ 33 จะคนเมือง  หรือชนบท  ก็คนไทยทั้งนั้น จะแก้ปัญหาความยากจนต้องแก้ด้วยปัญญา  ไม่ใช่ด้วยเงินไปล่อ คนจนส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ภาคอีสาน  รองลงมาภาคเหนือ ที่น่าแปลกคนภาคกลาง+ภาคใต้+ภาคตะวันออก ยังน้อยกว่าภาคเหนือ นั้นเพราะส่วนใหญ่เขาพึ่งตัวเอง แบบเศรษฐกิจพอเพียง ไม่รอนักการเมือง เปลี่ยนทัศนคติซะก่อนที่จะตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองมากกว่านี้ คิดให้ดีเสื้อแดงแพ้เพราะอะไร  ใช่เพราะ สส ตัวดีของพวกเขาหรือป่าว ที่ไม่สอนไม่ให้รู้  แต่ใช้เงิน ใช้นโยบายล่อ จากคุณ : พลทหารหน้าใหม่ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:29:12

ความคิดเห็นที่ 34 ผมเห็นด้วยกับคุณขามเรียงในเรื่องที่ว่าคนชนบทมีจุดอ่อนในเรื่องวินัยในการอยู่กันจำนวนมาก แต่นี่ไม่ใช่สาเหตุหลักของความพ่ายแพ้ ในเมื่อข้อเรียกร้องมีไม่มูลความจริง มันก็แพ้ตั้งแต่แรกแล้ว - แกนนำเป็นคนไม่มีต้นทุนทางสังคม สามารถโกหกได้โดยไม่คำนึงถึงชื่อเสียงวงศ์ตระกูล - หลักการก็ไม่ชัดเจน ต้องหลบซ่อนจุดประสงค์ที่แท้จริงในการนำแม้วกลับไทย แล้วอ้างเรื่องอื่นที่ไม่จริง - ใช้ความรุนแรง ซึงก็เหมือนที่รู้กัน คงไม่ต้องกล่าวซ้ำ แต่โอเคครับ พื้นฐานปัญหาของชนบท เป็นปัจจัยเอื้ออำนวยให้มีนักการเมืองโกงเข้ามาใช้โอกาสนี้ ความยากจน โอกาสในการรับรู้ข่าวสาร ฯลฯ อีกมิติหนึ่ง ไม่ใช่แค่เมืองกับชนบทคือ - คนที่ชอบคิดตื้น ฉาบฉวย มองสั้น พวกนี้มีแนวโน้มชอบทักษิณ - คนมี่มองภาพรวม การอยู่ร่วมกันในสังคม ต้องมีความซื่อสัตย์ ก็จะไม่ชอบทักษิณ แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 12:54:10 จากคุณ : ภูผาฟ้าทะเล เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 12:49:15

ความคิดเห็นที่ 35 แพ้? This is the beginning and the end mortal. จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 18:42:49

ความคิดเห็นที่ 36 เท่่าที่อ่านหลายความเห็น  พบว่า มีการมองแบบต่างๆเท่าที่จับเค้าได้ มองเชิงโครงสร้าง มองทางชนชั้น มองที่ปรากฏการณ์ มองเมืองกับชนบท มองการทำให้เป็นนิติรัฐ มองใกล้มองไกล บางที  ณ จุดนี้ของแถบห้วงเวลาแล้วไซ้ร มหากาพย์แห่งการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย  อาจยังไม่จบ หรือจบ  ก็เป็นแค่ตอนหนึ่งของหนังเรื่องยาว บทเรียนของทุกฝ่าย  .... ความรุนแรง  คือ ประตูด่านแรกของความปราชัย ...ปริบทยุคสมัยโดยแท้ ความอดทน บทฐานของอำนาจหน้าที่  คือ  แอกแห่งการผุดบังเกิดต่อชัยชนะอันชอบธรรม เพราะ  การยื้อได้กับความไร้ระเบียบ  ก็คือ  การจัดระเบียบตัวเองด้วยความอดกลั้น อันรอบคอบ เลือด  บาดแผลและชีวิต   คือ  ต้นทุนทางสังคมแห่งความมนุษย์ที่อาจต้องจ่าย เพราะ   ความป่วยสะสม  เป็นดุจ อยุติธรรมฝัีงลึกที่มิอาจเยียวยาด้วยยา แต่...ด้วยคมมีดผ่าตัด ที่ดีที่สุด   ก็คือ   สูญเสียให้น้อยที่สุด   โดยพลังของปัญญาผ่านความอดกลั้น  จากการชักคะเย่อกับ ความไร้ระเบียบและความรุนแรง  ที่ไม่ควรเพิ่มขึ้นบนวิถีการปลดปล่อยโซ่ตรวนความขัดแย้ง เสื้อแดงอาจถือว่า  แพ้  บนสนามทางใจของ  เหล่าผู้ใช้ชีวิตในเมือง เพราะ  โดนทุบหม้อข้าวอย่างถ้วนทั่ว ผลสะเทือน  ช่างซึมลึกและยาวนาน และแม้กระทั่ง  หวนกลับไปสู่ลูกหลานของตน  ที่มาทำมาหากิน ณ ทุ่งสังหารป่าคอนกรีตนี้ แต่ในด้านหนึ่ง   มันคือ  การสวิงกลับของอยุติธรรมทางโครงสร้างที่พวกเขาได้รับมายาวนาน เพราะ  ณ ศูนย์กลางความเจริญที่โหมวอดนั้น มันอาจฟ้องต่อชาวโลกว่า  พวกเขาตื่นแล้วอย่างถ้วนทั่วต่อการเบียดบังนั้น จากคุณ : dicky5 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 18:55:03

ความคิดเห็นที่ 37 ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างเมือง กับ ชนบท หรอกครับ เป็นการต่อสู้ระหว่างคนกลุ่มน้อยที่ต้องการดึงอำนาจไว้กับตัวเอง ในขณะที่กระแสส่วนใหญ่ ต้องการประชาธิปไตยที่อำนาจอยู่กับการเลือกตั้ง ที่คนที่ได้อำนาจ ต้องได้เสียงส่วนใหญ่ การเมืองบ้านเราถึงได้บิดๆเบี้ยวๆ   การเลือกตั้งก็แค่ปาหี่  พอผลเลือกตั้งไม่ตรงที่ตัวเองต้องการ ก็ล้มด้วยทหาร ทำรัฐประหาร  พอรัฐประหารโดนต่อต้าน ก็ร่าง รธน ที่สร้างองค์กรอิสระที่ไม่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ แต่ให้อำนาจองค์กรพวกนี้มากมายในการล้มรัฐบาลที่ไม่ใช่พวกตัวเองอีก สรุปคือมันเป็นเรื่องของมาเฟียนั่นเอง  ไม่ใช่เมืองกับชนบทหรอกครับ ไม่ต้องวิเคราะห์เชิงรัฐศาสตร์ให้ดูดัดจริตเกินไปหรอก จากคุณ : ทรงพล (Bgate) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 00:17:47

ความคิดเห็นที่ 38 ขอขอบคุณทุกท่านที่สนใจร่วมให้ความเห็นกัน ทั้งคุณและผมต่างก็เป็นตาบอดคลำช้าง แม้จะมีใครบอกว่าตูไม่บอดโว้ย ก็แล้วแต่ มีกระทู้ถัดไปติดกัน ของavataar http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9356789/K9356789.html ผมเห็นว่ามีส่วนสัมพันธ์กัน เชิญคลิกเข้าไปอ่านครับ ผมเองจึงขอนำส่วนของผมมาต่อไว้ตรงนี้ด้วย คงมีประโยชน์ ******************************** เคยเรียนเคมี จะอธิบายด้วยปรัชญาเคมีตื้นๆ ไฮโดรเจน๒ อะตอม รวมตัวกับอ็อกซิเจน๑อะตอม ได้น้ำ เรื่องของน้ำอธิบายได้มากมาย มีคุณค่าต่อชีวิต ไฮโดรเจน๒อะตอมรวมตัวกับซัลเฟอร์๑อะตอม ได้แก๊สไข่เน่า ที่เป็นแก๊สพิษ เป็นอันตรายต่อชีวิต เสรี/กีฬาชนรวมตัวกับวินัยชน ----> ฟุตบอลชน ฟุตบอลชน+ธุรกิจสร้างสรรค์ ---- > เศรษฐกิจกีฬายุโรป กรีฑา/อาวุธชน รวมตัวกับวินัยชน ----> สงครามชน สงครามชน+อำนาจ/ชนคลั่งชาติ ----> เศรษฐกิจพินาศ ดัง นั้นเศรษฐกิจกีฬาจึงเป็นอะไรที่มากกว่าจำนวนนักฟุตบอล และบุคลากรแวดล้อมมารวมกัน คนคือชน ชนคือคน เราจะชนกันแบบใด? "การเลือกส่วนผสมธาตุสติปัญญาการเรียนรู้ และการประเมินตนเพื่อพัฒนาในตัวคน เป็นตัวกำหนดชะตากรรมของชนเผ่าเหล่านั้น (ระบบโครงสร้างการศึกษา)" แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 53 03:20:38 จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 03:19:11

ความคิดเห็นที่ 39 ไม่แพ้หรอกครับจะสีไหน แต่เจอลูกปืน แพ้ทุกคน เพราะเจ้าของลูกปืนเขาไม่แดง ต่อให้แดงถูกแค่ไหน เมืองไทยยังคง "ค่าของคน อยู๋ที่เด็กของใคร" จากคุณ : carpenterman เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 09:24:59

ความคิดเห็นที่ 40 สรุปต้องมีระเบิดพลีชีพ ในเมืองไทยแน่นอน จากคุณ : sut0802 เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 11:57:26

ความคิดเห็นที่ 41 กรุณาอย่าเข้าใจผิดครับ... ผู้ที่มาชุมนุมเขาไม่ได้มาเรียกร้องขอเงิน ไม่ได้มาเรียกร้องเรื่องความยากจน เขามาเรียกร้องเพราะ สิทธิของเขาในการเลือกผู้แทน ได้ถูกปล้นไปอย่างอยุติธรรมต่างหาก !!! ( หรือท่านจะบอกว่า การรัฐประหาร 19 ก.ย. , การยุบพรรค ตัดสิทธิ์ย้อนหลัง และการเลื่อนคดียุบพรรคมาให้ตรงกันเพื่อหาทางลงให้ม็อบยึดสนามบินเป็นเรื่องปกติ ก็ควรข้าม rep นี้ไปครับ ) เขามาเรียกร้องเพื่อ ความเท่าเทียมกันทางการเมือง มิใช่ทรัพย์สินครับ... จริงอยู่ที่ว่า... มีความเหลื่อมล้ำระหว่างฐานะของคนเมืองกับคนต่างจังหวัดจริงๆ แต่พวกเขาได้พานพบมานานหลายรุ่นต่อรุ่นแล้ว... จะภัยแล้ง จะน้ำท่วม จะไม่มีน้ำไฟ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับพวกเขาเลย จะอย่างไรก็ต้อง ยินยอม ไม่ก็ จำยอม เสมอๆ แต่... เมื่อถึงวันหนึ่ง สิ่งเหล่านี้มันก็ต้องพัฒนาครับ... เมื่อพวกเขาค้นพบว่า สิทธิทางการเมืองของพวกเขา สามารถ " สนอง " อะไรให้บ้าง... การสามารถเลือกผู้แทนที่ตรงกับจริตของตัวเองมันมีผลดีอย่างไร ( เป็นเรื่องที่หลายๆคนยากจะยอมรับ แต่นายก 2 สมัยที่ชื่อว่า " u know who " ก็ทำผลงานไว้มากมายจริงๆ ) และเมื่อผู้นำของเขา ถูกอำนาจ " ปืน " ล้มลงไป มันก็กระทบต่อวิถีชีวิตปากท้องของเขาจริงๆ ความคิดที่บอกว่าจะให้คนชนบทกลับไปอยู่แบบพึ่งตนเอง ใช้ควายไถนา ผมขอพูดตรงๆเลยว่า เป็นอะไรที่คิดแบบชุ่ยๆ และส้นเท้ามาก... ด้วยเหตุนี้ในความคิดของพวกเขา จึงไม่ได้มองแค่ว่า " ต้องการความอยู่ดีกินดี " แต่สิทธิทางการเมือง และความเท่าเทียมในการเลือกตัวแทนนี่แหละ ที่จะเป็น " หลักประกัน " ถึงความอยู่ดีกินดีได้ในอนาคต จะคำพูดสวยหรูจากท่านผู้นำ ว่าจะมีรัฐสวัสดิการ มีการกระจายรายได้ ฯลฯ มันไม่มีค่าอะไรเลยครับ... ตราบใดที่พวกเขายังไม่ได้รับความเท่าเทียมใน " หลักประกัน " หนึ่งเดียวของเขากลับคืนมา... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 12:09:50

ความคิดเห็นที่ 42 ....แต่สิทธิทางการเมือง และความเท่าเทียมในการเลือกตัวแทนนี่แหละ ที่จะเป็น " หลักประกัน " ถึงความอยู่ดีกินดีได้ในอนาคต #41คุณSaVor การใช้วาทกรรมข้างบนนี้ มันดูดีน่าชื่นชมมาก หากแต่คุณแยกพฤติกรรมของหัวหน้าแดงอย่างนายทักษิณเอาไว้ต่างหาก มันก็เลยไม่เข้าท่าครับ (มันเป็นสไตล์นักไฮปาร์ค/นักโต้วาที เท่านั้นเอง) และกองทัพเขาคงไม่เข้ามาแทรกแซง ถ้านายทักษิณประพฤติตัวเป็นนายกที่ดีตลอดไป พฤติกรรมอย่างคนๆนี้แม้แต่นานาชาติเขายังไม่ยินดีให้ลี้ภัย ต้องเร่ร่อนไปอาศัยประเทศที่ต้อนรับแต่มาเฟีย คุณไม่ยอมศึกษาทำความเข้าใจเลย การชุมนุมถูกจัดขึ้นโดยรูปแบบกลยุทธ์หลากหลายหน่วยสนับสนุนกัน การชุมนุมครั้งนี้ยังจัดให้กองกำลังติดอาวุธมาร่วมการเรียกร้อง คุณทำไมยังแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ขอถามหน่อยเถอะ---->หรือคุณเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังประชาสัมพันธ์ของเขา ?   กลับไปประเมินการต่อสู้เสียใหม่เถิดครับ เป็นเครื่องมือของเขาอยู่ทำไม? ชวนเอาประชาชนผู้บริสุทธิ์มาเป็นโล่ห์มนุษย์ ยุคนี้เป็นยุค โลกาภิวัตน์ คนต่างชาติเดินเต็มไปหมดทั่วเมืองไทย โลกทั้งโลก หรือนานาชาติเขาไม่โง่ ฟังจำเพาะวาทกรรมตัดตอนแบบนี้ ผู้สื่อข่าวต่างชาติหลายคนเข้าใจเหตุการณ์ดีมาก เขาไม่ฟังคุณพูดแบบนี้หรอก และนักข่าวสงครามอิสระอย่างMichael Yon คนอเมริกันเป็นพยาน ไปคุยหาความจริงกับเขาสิครับ และเมื่อคืนนี้เอง ทักษิณก็ถูกสำนักข่าวตปท.ต้อนเอา จนแต้มไปคาช่วงการสัมภาษณ์ คุณไม่ติดตามเลยหรือครับ ปัญหาใหญ่ของคนไทย"รับรู้ความจริงแบบแยกส่วน" ปัญหาตาบอด-ช้าง-และนักเล่นกลเส้นผมบังภูเขา ที่ไทยมุงชอบ จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 13:48:04

ความคิดเห็นที่ 43 ....กดซ้ำครับ ขออภัย แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 53 13:52:07 จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 13:48:41

ความคิดเห็นที่ 44 และกองทัพเขาคงไม่เข้ามาแทรกแซง ถ้านายทักษิณประพฤติตัวเป็นนายกที่ดีตลอดไป ---------------------------------------------- คุณพิมพ์อะไรออกมาเนี่ยครับ... ความคิดคุณวิปริตหรือเปล่า... กองทัพมีหน้าที่มาตัดสินพฤติกรรมของผู้บริหารประเทศ มีที่ไหนเขาทำครับ ??? ผมเห็นมีแต่ไอ้ที่สารขัณฑ์แลนด์ที่เดียว... ข้ออ้างของคุณมันก็ไม่ต่างจากพวกรับใช้เผด็จการนั่นแหละ " ทักษิณไม่โปร่งใส กองทัพจึงต้องรัฐประหาร " แล้วถามจริงเหอะครับ... รัฐประหารเสร็จแล้วมันได้ " ความโปร่งใส " มาจริงๆเหรอ... หรือมันก็แค่ " ไม่ชอบทักษิณ " แต่ไม่กล้าดำเนินคดีตามกระบวนการ ก็เลยต้องมาหาทางเกาะท็อปบูต ??? ผมว่าคุณไปศึกษาประวัติศาสตร์ของไอ้ประเทศนี้ดีๆดีกว่า ทุกครั้งที่มีรัฐประหาร ตั้งกะ หลวงธำรง เป็นต้นมา มันก็ไอ้ข้ออ้างเดียวกับที่ทำกับรัฐบาลทักษิณนั่นแหละ... อีกเรื่องหนึ่ง ถ้าชาวบ้านจะสู้เพื่อทักษิณจริงๆ แล้วมันจะผิดตรงไหนครับ ? ( ซึ่งความจริงผมคิดว่าการต่อสู้มันเลยทักษิณไปนานแล้ว หมายถึง ถ้าทักษิณตาย หรือหยุดเคลื่อนไหว มวลชนก็ไม่มีวันหยุด ) ในเมื่อทักษิณถูกกระทำโดยหลักการที่ไม่ถูกต้อง เขาไม่มีความชอบธรรมในการเรียกร้องให้คนที่ถูกกระทำโดยอำนาจเถื่อนนอกระบบหรือ ??? แล้วผมว่าชาวต่างชาติเขาเข้าใจดีครับ... ผมดูข่าวทั้ง CNN , BBC นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เขาก็บอกว่านี่คือ " Class War " แน่นอนมันอาจเพี้ยนไปบ้าง เพราะชนชั้นที่ว่าไม่ได้ถูกแบ่งตามฐานะทางเศรษฐกิจ แต่เป็นชนชั้นทางการเมือง แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือ มันมีการ " แบ่งแยก " ระหว่างกลุ่มคนอยู่จริงๆ ไอ้ประเทศนี้มันไม่ได้สวยงามอย่างฉากหน้าหรอกครับ... สุดท้ายผมว่าคุณพูดได้ถูกต้องนะครับ... ปัญหาใหญ่ของคนไทยคือ " รับรู้ความจริงแบบแยกส่วน " ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง รัฐประหารเป็นประเพณีของประเทศ รัฐบาลไหนทำตัวดีๆ ทหารก็ไม่มายุ่งหรอก... คนไทยยังไม่พร้อมสำหรับประชาธิปไตย ฯลฯ และตราบใดที่ยังมีคนเชื่อถือในความจริงแยกส่วนเหล่านี้ เหล่าอำนาจนอกระบบก็จะอยู่ยงคอยบั่นทอนทำลายประชาธิปไตยไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีวันหนีไปไหนล่ะครับ... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 14:34:11

ความคิดเห็นที่ 45 พอดีกดโพสต์แล้วมันได้ 2 rep เลยมา edit อ้อ... ผมพึ่งสังเกตว่าที่ คุณขามเรียง ตอบผมนั้นตรงกับประเด็นที่ผมเขียนไว้ในวงเล็บ rep แรกเลยครับ... " ( หรือท่านจะบอกว่า การรัฐประหาร 19 ก.ย. , การยุบพรรค ตัดสิทธิ์ย้อนหลัง และการเลื่อนคดียุบพรรคมาให้ตรงกันเพื่อหาทางลงให้ม็อบยึดสนามบินเป็นเรื่องปกติ ก็ควรข้าม rep นี้ไปครับ ) " แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 53 14:42:24 แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 53 14:36:48 จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 14:34:30

ความคิดเห็นที่ 46 และตราบใดที่ยังมีคนเชื่อถือในความจริงแยกส่วน เหล่านี้ เหล่าอำนาจนอกระบบก็จะอยู่ยงคอยบั่นทอนทำลายประชาธิปไตยไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีวันหนีไปไหนล่ะครับ...(เหล่าอำนาจนอกระบบ คือทักษิณและสมุนนี้แน่นอน กับอีกฝ่ายหนึ่ง ไม่อย่างนั้นไม่รบกันให้หญ้าแพรกแหลกลาญหรอก) จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 15:30:17

ความคิดเห็นที่ 47 แหม่... ผมเห็นคุณเขียนกระทู้ตั้งยืดยาว นึกว่าจะมีตรรกะอะไรดีๆซัีกหน่อย... เดี๋ยวผมจะชี้อะไรให้ดูครับ... ทักษิณกับพรรคพวกนั้นประชาชน " เลือกมา " ได้รับมอบอำนาจจากประชาชน ส่วนอำนาจนอกระบบนั้น ประชาชนไม่มีสิทธิ์เลือก ไม่เคยถามความต้องการของประชาชน พอถึงเวลาไม่พอใจก็รถถังอย่างเดียว ( แต่ก็มีประชาชนบางคน พยายามจะอุ้มชู ไปเป็นที่รองเท้าอำนาจนอกระบบนั้นเหมือนกันนะครับ ) พอจะเห็นความแตกต่างหรือยังครับ... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 18:16:11

ความคิดเห็นที่ 48 จะเป็นที่น่าเสียดายมาก หากพวกคุณไม่ได้ดูรายการทีวี ช่องทีวีไทยเวลา20.30น. จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 20:34:56

ความคิดเห็นที่ 50   สำหรับประเทศไทย.. แต่ไหนแต่ไรมา หลังปี ๒๔๗๕  ประชาชนสามารถเลือกรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีมาบริหารประเทศได้โดยการเลือกตั้ง แต่กระนั้นแล้ว..ประชาชนไม่เคยเลือกผู้มีอำนาจที่แท้จริงได้แม้แต่ครั้งเดียว การล่าอาณานิคมของปลาใหญ่ยังคงมีอยู่เสมอ ประเทศเล็กๆเสมือนเป็นปลาเล็กต้องจำยอมด้วย อาวุธทางเศรษฐกิจและครอบงำการปกครอง สมมุติเล่นๆที่อีกสิบปีอาจเป็นไปได้.. ในวันนั้น หากเสื้อแดงชนะ ฤาจะแค่เปลี่ยนอำมาตตนใหม่ เป็นปลาใหญ่ตัวใหม่ ที่มาจากอาณาจักรบนหัวของเราเองก็ได้ ณ วันนั้น... สีต่างๆ อาจเข้าใจแล้วว่า เสื้อแดงในวันนี้ กำลังสู้กับ "อะไร" และเพื่อ "อะไร" อาจสลับที่ยืนกันก็เป็นได้... สีต่างๆครับ วันนี้คุณเรียนรู้การต่อสู้ของคนเสื้อแดงเอาไว้บ้างก็ดีนะครับ.. ปล.ใครเข้าใจบ้างว่าผมบ่นอะไรเนี้ย - -' แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 00:26:54 จากคุณ : CD-HEAR เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 00:24:53

ความคิดเห็นที่ 51   คห.42 ไปทำความเข้าใจโครงสร้างประเทศไทย ก่อนจะดีกว่า บางครั้งการวิเคราะห์ชั้นดีของคุณ ณ ปัจจุบัน มันอาจถูก ยังไม่ใช่ "ของจริง" ครับ เท่าที่อ่านการวิเคราะห์ความเห็น พื้นเพเป็นคนที่ไหนไม่รู้ แต่ทัศนคตินั้น เห็นได้ชัดว่า ก็คือคนในสังคมเมืองอย่างแท้จริงทีเดียว ถ้าจะพูดให้ชัดล่ะก็ วันนี้คือการต่อสู้กันระหว่างจิตวิญญาณของฝ่ายที่เห็นว่า "ผู้อื่นเป็นคนเหมือนกัน" กับ "คนที่เห็นคนอื่นไม่ใช่คน" ครับ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 00:43:16 จากคุณ : CD-HEAR เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 00:33:58

ความคิดเห็นที่ 52 อ่านมาเพลินๆ พอถึงคำว่า กองทัพถึงเข้ามาแทรกแซง เพราะทักษิณเลว ก็เอวังไว้ตรงนี้ (สร้างความชอบธรรมให้กองทัพเต็มที่ อยู่ดีๆก็มาจุ้นกับการบริหารบ้านเมืองได้ด้วย) ไอ้แบบนี้ จะหลอกตัวเองยังไง แอ๊บขาวยังไง แต่ยังไงก็คือเผด็จการครับ จากคุณ : ศุกร์เล็งลัคนา เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 08:56:31

ความคิดเห็นที่ 53   ลบได้ไหม กระทู้นี้ จากคุณ : icutou เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 09:10:08 A:125.27.22.151 X: TicketID:138818

ความคิดเห็นที่ 54 เห็นพล่ามมามากมาย แต่ยังไม่เข้าใจหลักการแบ่งแยกอำนาจแบบพื้นฐานที่สุดเลยครับ  ตลกดี แถวบ้านผม สองทุ่มหมาก็หอน ไม่มีคนแล้ว กลับจากทำนาทำไร่เข้านอนกันเร็ว มีผมนั่งเล่นเนต ดูเคเบิล อยู่คนเดียว แต่คนแถวบ้านผม ยังแยกออกว่านายกโกงควรจะโดนเด้งโดยวิธีไหน (การตรวจสอบนักการเมืองตามวิธีการปกติ) คนเลือกอดีตนายกเพราะมีนโยบายที่แกเห็นว่าสนองความต้องการแกได้ แกก็เลือก ทั้งๆทีแ่กก็ไม่เคยเรียนรัฐศาสตร์นะ  เพราะรักเพราะชอบถึงเลือกเขา  แต่คนโรแมนติคบางกลุ่มดันด่าพวกเขาว่าโง่เง่าที่เลือกอดีตนายก เห็นแก่เงิน บลาๆๆ แบบนี้กระแดะจะมีประชาธิปไตยทำไม ก็ไม่ต้องให้พวกเขามีสิทธิเลือกตั้งเลย จบ ไม่ต้องเรื่องมาก ป้าผมที่ไม่เคยเข้า กทม มาหลายสิบปี (ตั้งแต่ 14 ตุลา ที่บังเอิญต้องไปนอน รพ ไม่ได้ไปร่วมชุมนุมนะ แกไม่รู้เรื่องพวกนี้)  ทำนาจนหน้าเป็นฝ้า มือไม้แตกกร้าน  แกมาบอกผมว่า ''ไม่น่าเชื่อว่ายังมีรัฐประหาร (จริงๆแกเรียกว่าทหารปฏิวัติ)  มันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย จนถึงยุคนี้แล้ว'' สงสัยจะเป็นอย่างที่คุณเอเธนาว่า  คนบ้านนอกกับฝรั่งในประเทศที่เข้าใจหลักการประชาธิปไตย ดันเข้าใจตรงกัน เห็นอะไรเหมือนๆกันได้ อย่างน้อยก็ส่ายหน้าให้กับการรัฐประหาร จากคุณ : ศุกร์เล็งลัคนา เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 09:16:24

ความคิดเห็นที่ 55 #51 ขอต้อนหมูเข้าเล้าเล่นสักประเดี๋ยว... ****************************** ผมเห็นความหละหลวมทางตรรกะเหตุผล และเรื่องจิตวิญญาณอะไรของคุณนั่นเป็นอย่างมาก คุณเขียนและสรุปอย่างหลักลอย ผมขอถามนิดหนึ่ง 1.คุณเข้าใจโครงสร้างประเทศไทยเพียงไร มีกี่ด้าน สัมพันธ์กันอย่างไร? (มาถึงตอนนี้ คุณอาจเริ่มงงแล้ว...โอ!มันมีหลายด้านด้วยหรือ?) 2.คนในสังคมเมืองกับคนในสังคมชนบท มีความแตกต่างและมีความสัมพันธ์กันอย่างไร 3.คุณเคยมีกิจกรรม ประสบการณ์ตรงด้านการบริจาค ด้านอาสาสมัครในชนบท ในสลัม ในสถานสงเคราะห์คนด้อยโอกาส อย่างไรบ้าง? 4.หากไม่เคยทำอะไรเลย ได้แต่พูดได้แต่เขียนกระทู้ วิจารณ์ผู้อื่นไปตามอารมณ์ กรุณาสารภาพ ผมจะได้ตั้งทฤษฎีให้กับ"คนประเภทนี้มีอยู่ในสังคมไทย" ขอให้เขียนตอบผมตามความจริงนะครับ เพราะเราต่างไม่รู้จักตัวจริงว่าเราคือใครทั้งคู่ เป็นเรื่องของจิตวิญญาณ๒ดวงมาคุยกัน ผ่านระบบเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเท่านั้นเอง จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 09:37:55

ความคิดเห็นที่ 56 รัฐศาสตร์ย่อมอยู่ภายใต้ปริบทสังคมวิทยา สังคมเป็นอย่างไร ประชาชนเป็นอย่างไร ผู้ปกครองก็เป็นอย่างนั้น คุณกับผมเมื่ออยู่ในตำแหน่งนั้น จะคิดจะตัดสินใจอย่างไร? ปัญหาขี้โกงนั้น ถูกหน่วยงานนอกประเทศเขาติดอันดับให้ทุกปี สำนึกกันบ้างสิครับ ข่าววันนี้ก็มีหลักสูตรให้เด็กไทยเรียนกันแล้ว "โตไปไม่โกง" คิดอะไรให้มันกว้างไกลบ้าง?โลกาภิวัตน์แล้ว จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 09:57:37

ความคิดเห็นที่ 57   คุณ ขามเรียง ผมถึงได้บอกไงครับว่า "วันนี้คือการต่อสู้กันระหว่างจิตวิญญาณของฝ่ายที่เห็นว่า "ผู้อื่นเป็นคนเหมือนกัน" กับ "คนที่เห็นคนอื่นไม่ใช่คน" ที่คุณคิดว่าคนอื่นเริ่ม งง น่ะ ไม่ งง หรอกครับ ก่อนที่จะโพส "บางอย่าง" ที่คุณคิดว่าเป็นความเข้าใจหละหลวมนั้น ได้ทำการบ้านมาอย่างดี หลายปีดีดักครับ บางทีความหละหลวมเป็นความจงใจที่ "จำเป็น" ซึ่งแทบเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมไทย ของเรื่องที่ "พูดไม่ได้ ระบายไม่ออก" ขยับได้บ้างแบบหละหลวมอย่างนี้ล่ะครับ   ข้อสองถึงสี่นั้น ผมขอตอบตามที่ได้ให้เกียรติคุณไว้ก็คือ "บางครั้งการวิเคราะห์ชั้นดีของคุณ ณ ปัจจุบัน มันอาจถูก ยังไม่ใช่ "ของจริง" ในโครงสร้างครับ" บทความเชิงสัญลักษณ์ คุณมองมันออกแค่ความ "หละหลวม" มันก็น่าน้อยใจนะครับ จากคุณ : CD-HEAR เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 10:02:48

ความคิดเห็นที่ 58 อย่าน้อยใจสิครับ ผมเข้าใจคุณ"เรื่องที่พูดไม่ได้ ระบายไม่ออก" ผมก็พูดไม่ออก แต่หากคุณไปอยู่จุดนั้น ผมว่าคุณกับผมอาจจะเห็นส่วนดีงามอย่างคาดไม่ถึงด้วย เราอยู่ในสังคมไทย ต้องไม่เอาทฤษฎีฝรั่งจ๋า (อ่านกระทู้#56ที่ให้ศุกร์เล็งลัคนาคิด สิครับ) นั่นแหละประเทศไทย"ทฤษฎีขนมชั้น"ที่ผมเทียบขึ้นมา มันเละไปทุกชั้นติดมือเลย คุณกับผมก็เป็นส่วนในขนมชั้น อย่าอวดวิจารณ์แต่คนอื่น มันต้องประเมินตนเองได้ด้วย แล้วพัฒนาให้ดีขึ้น) ผมน่ะ จะบอกให้ กิจกรรมในสมัยเรียนนั้น รุ่นพี่มันเรียกขานผม"ไอ้คอมมูนิสต์" มาในกระทู้นี้พวกคุณบอกผมไปเป็นรองเท้าให้อำนาจ ตกลงผมเป็นใคร? ทำงานด้านสีแดงให้ ในระดับบริหารพรรคสีแดงมาแล้ว แต่สีแดงมีจุดอ่อนมากมาย เอาแต่วิจารณืข้างบน ไม่ดูแป้งเละๆในตัวเองเลย เพียงผมไม่มีผลประโยชน์ได้เสียกับฝ่ายใด ในนี้พวกที่มาตอบกระทู้ของผม 1มีผลประโยชน์ จึงเข้าข้างเขา 2.อยากเข้ามาแหย่เล่น อายุยังน้อย 3.สงสารคนจน(ดีครับ) แต่ชีวิตจริงและทฤษฎีอ่อนด้อย รู้อะไรเป็นท่อนๆ ไม่เคยมีจุดยืนหลายๆด้าน คิดเป็นอย่างเดียว ไม่เคยทำอะไรด้านประสบการณ์ หรือสัมผัสจริงลึกๆ จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 10:37:56

ความคิดเห็นที่ 59 ขอแถมอีกประเภทนะครับ 4.คนขวัญอ่อน ในกระทู้#53... กลัวแม้กระทั่งเสรีภาพที่จะแสดงความคิดโต้แย้งกัน จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 10:47:58

ความคิดเห็นที่ 60   แล้วถ้าหาก "คนเป็นล้านคน เลือกแล้ว" และ "คนเป็นล้านคนก็เลือกแล้วเช่นกัน" เราจะทำอย่างไรกันดีครับ... วันนั้น เราจะจัดการอย่างไรกับอีกฝ่ายครับ ด้วยความเคารพ.. จากคุณ : CD-HEAR เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 10:49:33

ความคิดเห็นที่ 61 คุณไม่ตอบคำถามผม แต่กลับมาถามผม มองปัญหาเป็นท่อนๆแบบนั้น ปล่อยไปตามคะแนนที่เลือก เป็นเสียงข้างมาก มองเห็นความเละของขนมชั้น สิครับ ตรงนั้นเกือบไม่เป็นปัญหา ทักษิณมีโอกาสเป็นนายกต่อแน่นอน แต่แกเริ่มถูกรังสีอำนาจ"กูแน่"เข้าครอบงำ ฝ่ายมารในตัวแกก็เลยออกนำฝ่ายเทพ ก็ทั้งรวยทั้งมีพวกทหารตำรวจ ข้าราชการอื่นและรวมถึงถือกฏหมายอยู่ในมือเองด้วย แกเริ่มไม่อ่อนน้อมถ่อมตน แกไปพูดในที่สาธารณะ พูดถึงอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญมายุ่งกับแก ผมได้ยินแกพูดถึง๒ครั้งทางทีวี ที่ไม่ได้ยินนั้นคงมีมาก่อนหลายครั้ง ผมรู้เรื่องนี้มาจากข้าราชการระดับสูง หากคุณเป็นขนมชั้นบนๆ คุณจะทนได้หรือ? หากอ่อนน้อมถ่อมตนไป พัฒนาประเทศไป (โกงไปพร้อมกันให้หมดแผ่นดิน) ไม่ปากเสียในที่แจ้ง ระดับนายกไม่ควรอย่างยิ่ง กระทั่งกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายของกองทัพ ตรงนี้ผมวิเคราะห์ไม่เหมือนคนอื่น ผมวิเคราะห์ว่าไม่มีใครปฏิวัติหรอก เพราะทักษิณแกก็แบ่งให้กินกันอิ่มอยู่แล้ว คุณกับผมไปเป็นใหญ่ก็ต้องได้ส่วนแบ่ง จะรับหรือไม่?เป็นอีกเรื่อง ก็บอกแล้วทฤษฎี"สังคมขนมชั้น" จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 11:25:21

ความคิดเห็นที่ 62   ผมตอบคำถามคุณไปแล้วครับ เท่าที่ฟังดูแล้ว คุณยังอยู่ตรงนั้นอยู่เลยนะครับ ผมว่า "ประชาชน" ก้าวไปกว่าคุณมากแล้วล่ะครับ ความเละของขนมชั้น มันเลยตรงนั้นไปนานแล้วล่ะครับ ส่วนดีงามที่คุณเห็น ผมก็รักก็เห็น ทุกคนก็เห็น แต่อนาคตเมื่อเปลี่ยนฤดูกาล คนจำนวนมากอาจ "ไม่เอาแล้ว" แล้วจะทำอย่างไรกัน ผมก็บอกไปแล้วว่า "ประชาชนเลือกไปแล้ว" จะบอกว่าเลือกเพราะโง่ หรือไม่รู้เท่า หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เขาเลือกไปแล้วครับ มันถอยหลังกันไม่ได้แล้ว มันมาถึงเหตุการณ์ที่ว่า คนเป็นล้านเลือกคนละข้างกัน แล้วจะอยู่กันได้อย่างไร ต้องไล่อีกฝ่ายออกไปหรือไม่ ต่อไปในอนาคต คนที่ถูกไล่เพิ่มจำนวนมากกว่าอีกฝ่ายที่ไปไล่เขา แล้วจะเป็นอย่างไร การแยกประเทศโดยพฤตินัย แต่ไม่ใช่นิติรัฐ ก็เกิดขึ้นง่ายๆ ไม่นานเกินรอครับ ปล. ผมแก้ข้อความบ่อย เพราะพิมพ์ผิดเยอะ ขออภัย ด้วยความเคารพ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 12:33:41 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 12:28:03 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 12:24:01 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 12:21:52 จากคุณ : CD-HEAR เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:19:56

ความคิดเห็นที่ 63 ทักษิณถูกศาลตัดสินไปกี่คดีแล้วไม่รู้ ถ้าจะบอกว่ากลั่นแกล้ง ก็ชี้แจงในรายละเอียดตามเนื้อผ้าไปก็ได้ แต่ทักษิณ+ทนาย+เสื้อแดง ไม่เคยชี้แจงได้นอกจากบอกว่าถูกแกล้งถูกใส่ร้าย ซึ่งเป็นคำพูดที่พูดได้ง่าย ศาลหรือองค์กรอิสระต่างๆ จะตัดสินอะไร ก็ต้องมีเหตุผล ชี้แจงโดยละเอียด นั่นคงทำให้ผู้ต้องหาจนแต้มพูดไม่ออกแล้ว ถ้าพูดได้พูดไปแล้ว จากคุณ : ภูผาฟ้าทะเล เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:47:09

ความคิดเห็นที่ 64 การชุมนุม ถ้าเอาเนื้อมาพูด เช่นเดือดร้อนเรื่องอะไร คนจนจนยังไง คนไทยคงต้องช่วยกันครับ แต่ถ้ามากุเรื่องอำมาตย์-ไพร่ ไร้สาระ มันเห็นได้ชัดว่ามีจุดประสงค์อะไร ช่วยนักการเมืองจอมโกง ไม่ต้องพูดว่าเมืองกับชนบทก็ได้ครับ เอาเป็นว่าโกงจริงหรือไม่ ถ้าโกงก็ต้องถูกดำเนินคดี ถูกต้องแล้ว ไม่ได้มีใครริดรอนสิทธิทางการเมืองของใครเลย จากคุณ : ภูผาฟ้าทะเล เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:50:06

ความคิดเห็นที่ 65 นิติรํฐ ก็ต้องใช้รัฐศาสตร์อย่างมีศิลปครับ อย่างน้อยๆผู้นำต้องไม่ปากเสียแบบเดิม ที่นี่ประเทศไทย อดีตมันผ่านไปแล้ว จิตวิญญาณแห่งกาลเวลาเขาก็หมุนเวียนไปต่อเนื่องไม่ย้อนกลับได้ ขอให้อดีตมันเป็นบทเรียนสอนคนไทยทั้งหมด วางแผนกลยุทธ์ไว้ก่อน(Road Maps)ล่วงหน้า2-3แผน เหตุการณ์บ้านเมืองอย่างนี้อย่างนั้น  เราจะปฏิบัติอย่างนี้อย่างนั้น อย่ารอให้มันเกิด แล้วค่อยคิดทำ อย่างนี้ไม่สำเร็จ ขออย่ารันทดหมดหวัง เรามาออกแบบอนาคตให้ลูกหลานกันเถอะครับ จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:55:09

ความคิดเห็นที่ 66   ทักษินมาเกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้เหรอครับ ? จากคุณ : CD-HEAR เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:56:27

ความคิดเห็นที่ 67   คุณขามเรียง ผมคิดว่าจริงๆแล้วคุณรู้ทุกอย่างทั้งหมด แต่คุณก็เลือกแล้วเช่นกัน ผมก็เลือกไปแล้ว แต่เราก็อยู่ด้วยกันได้ใช่ไหมครับ เรามาออกแบบอนาคตให้ลูกหลานร่วมกันเถอะครับ ..ยินดีครับ จากคุณ : CD-HEAR เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:58:11

ความคิดเห็นที่ 68 ไพร่ยังมีอยู่อักหรือสมัยนี้ ถ้าผมจะจ้างคนงานทำงาน ตกลงราคา กับสภาพงานกันแล้ว ถ้าเค้าไม่รับ ผมก็ต้องหาคนใหม่ มีใครบังคับกันได้ ทุกอย่างเป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจสังคม มีฝรั่งขี้นกคนหนึ่งออกมาบอกว่านองเขยเค้าได้ค่าแรงวันละสองร้อย ถ้าค่าแรงเท่านี้เดินไฟฟ้าเป็น ขึ้นโครงหลังคาเป็น มาหาผมได้เลยครับ กลัวแต่ว่าพวกขี้เหล้า ขี้เกียจ จะจนไม่จนต้องดูตัวเองด้วย ในต่างจังหวัดมีเยอะครับพวกชอบกินเหล้าทุกวัน มันจะไม่จนได้อย่างไร คนจนจริงๆ ที่ดินแห้งแล้ง โรงเรียนไม่มี ถ้ามาประท้วง อย่างนี้น่าเห็นใจน่าฟัง จากคุณ : ภูผาฟ้าทะเล เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:58:43

ความคิดเห็นที่ 69 5555  ผมไม่เข้าใจว่าคุณบอกว่าตัวเองเข้าใจสังคม เห็นปัญหาทางชนชั้น ออกค่ายบริจาคงู้นงี้   แต่แทนที่คุณจะพัฒนาวิธีคิดว่า เห็นไหม ปัญหาขนมชั้นไม่ใช่เรื่องดีเลย จะทำยังไงดีนะ ดันเป็นคนดักดานติดอยู่ในกับดักที่ว่า อะไรนะ ''แบบไทยๆ''  ไิ้อ้แบบไทยๆที่คุณว่านี่แหละ มันถึงพินาศแบบนี้ ผมแปลกใจว่า เป็นนายก บริหารประเทศ ยังจะต้องเกรงใจใครอีก ตลกดี แถมยังบอกผิดที่ไม่อ่อนน้อมถ่อมตัว (ถ้าใช้่ศัพท์ในละครพีเรียดก็จะแบบ กำเริบเสิบสาน เผยอไม่เจียมตน)  อ่านยังไงๆคุณก็พยายามสื่อว่า ให้ยอมรับ ให้กดหัว ถูกผิดไงไม่รู้แต่อย่าไปขัดขา ว่าไงว่าตามกัน เพราะนี่คือแบบไทยๆนะค้าบบ อย่าตามตูดตามก้นฝรั่ง ไอ้คำนี้ก็ได้ยินจนผมแทบขย้อนออกมาแล้ว ได้ยินบ่อยเหลือเกิน  แปลอีกทีคือจะบอกว่า จงเป็นทาส จงเป็นทาส  จงยอมรับในความเป็นทาส เขาเลิกทาสกันแล้ว ก็อย่าไปตามเขา แบบไทยๆนี่แหละดีสุดๆ ประเสริฐแล้วในพิภพ ฉะนั้น การที่คุณจะบอกว่าตัวเองทำกิจกรรมเพื่อสังคม ถึงกับจะสื่อนัยๆว่าอาจจะซ้ายเก่าเชียวนะ มันก็ไร้ค่าพอๆกับกลุ่มนักศึกษาที่ไปออกค่าย กลับมาก็จบกัน เล่น FB สนุกสนาน ด่าเสื้อแดงเป็นเทรนด์ใหม่  เหม็นสาบคนจนโง้นงี้ ดูถูกว่ารับเงินทอง ทำไมไม่กลับไปไถนา บลาๆๆๆ ทำไมไม่อยู่เฉยๆ เดี๋ยวพอถึงฤดูกาลออกค่ายเฮฮา พวกฉันก็ไปสร้างโรงเรียน แจกผ้าห่ม ถุงขนมให้พวกแกเอง ดังนั้น ประเทศนี้คนอ้างทำเพื่อสังคมพอแล้วครับ มีทวงบุญคุณกันพร้อมสรรพ ก่อนจะไปถึงจุดนั้น ต้องเรียนรู้วิธีคิดในการมองมนุษย์ให้มันเหมือนๆกัน หัดเคารพกติกาของคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่มองเห็นความชอบธรรมของเผด็จการแล้วอ้างส่งๆว่าแบบไทยๆดีที่สุึดแล้วในจักรวาล ส่วนพวกหลับหูหลับตาแอ๊บแบ๊วว่าไพร่มีจริงหรอยุคนี้ แล้วก็ตีความบ้าๆบอๆไปถึงเรื่องเศรษฐกิจสังคมอะไรไปโน่น ก็หาข้อพิสูจน์ง่ายๆครับ ลองไปชกหน้า กระทืบ หรือเหยียบตาปลาคนใหญ่คนโต มีบุญวาสนาซักคนในเมืองไทย  (มีอยู่เยอะ เลือกเอาีซักคนที่ชอบ) สร้างรอยฟกช้ำนิดๆหน่อยๆให้ท่านๆเหล่านั้น เหมือนหยอกท่านเ่ล่น เดี๋ยวเวลาคุณไปอยู่เมืองผีั ครอบครัวคุณอาจจะโดนหางเลขไปด้วย หาความยุติธรรมไม่ได้แล้ว แม้กระทั่งคุณหายไปจากโลกนี้ ก็ไม่มีคนรู้เห็น เดี๋ยวคุณก็รู้เองว่าไพร่มีจริงมั้ย แล้วกลับมาเถียงนะครับว่าเรื่องแบบนี้ไม่มี๊ ไม่มีในสังคมแบบ ''ไทยๆ'' ของเน่ามันผุดลอยขึ้นมานานแล้ว จะแอ๊บมองไม่เห็น อ้างโน่นอ้างนี่ มองภาพสวยหรูว่าไม่มีการกดขี่ ก็เรื่องของคุณ ป.ล ผมก็เกรียนเด็กคนนึง แสดงความเห็นโง่ๆตามสติปัญญา  พล่ามอะไรก็อย่าสนใจเลยครับ เห้นคนอื่นพิมพ์ก็อยากพิมพ์มั่ง อิอิ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 14:00:07 แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 13:59:13 จากคุณ : ศุกร์เล็งลัคนา เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 13:56:48

ความคิดเห็นที่ 70   คห.69 ผมให้กิฟคุณครับ (ผมให้ในระบบไม่เป็น) จากคุณ : CD-HEAR เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 14:13:37

ความคิดเห็นที่ 71 #69 หากคุณพูดจาเกรียนได้เท่านี้ เรียนหนังสือกัน ผมว่าคุณอยู่ท้ายแถวนะ คุณCD-HEAR น่าจะได้คะแนนดีกว่าคุณมาก คุณไม่รู้เรื่องจริงๆ ขอให้กลับไปอ่าน#65ให้เข้าใจ และ คุณเคยเข้าใจ เคยทำเรื่องแผนที่กลยุทธ์หรือไม่?ผมแนะให้ไปทำแล้ว คุณน่าจะไปลุยแบบลูกพี่คุณนะ จะได้ไปตากอากาศค่ายนเรศวร แล้วไปนอนคลองเปรมต่อ คุณ ผมยังไม่เห็นแสดงอะไร เอาแต่เกรียนในนี้ มีความสุขได้ ก็ทำไปเถอะ มีคนให้กิฟคุณอีกด้วย คลิกง่ายนิดเดียว .... จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 15:49:49

ความคิดเห็นที่ 72 ผู้นำปากเสีย ประชาชนเป็นผู้ตัดสินเองครับ ว่าจะเลือกหรือไม่เลือก ไม่ใช่เอารถถังออกมาไล่ คนที่มีความคิดสนับสนุนเรื่องแบบนี้อยู่ ผมอยากรู้จริงๆว่า ยังมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหลืออยู่แค่ไหนกัน ??? จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 16:41:32

ความคิดเห็นที่ 73 มาแจกกิฟต์อย่างเดียว หลายประเด็นจัด - ขอไล่ประเด็นก่อน จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 17:13:09

ความคิดเห็นที่ 74 ศุกร์เล็งลัคนานี่เค้ารู้ตัวเอง เค้าลง ปล. ไว้แล้วเลยไม่ขอพูดถึง แต่คุณ SaVor เข้าใจผิดครับ ผู้นำปากเสีย ประชาชนคงไม่รังเกียจเท่าผู้นำคอรัปชั่น ส่วนที่คนเกลียดเกิดจากการโกงเป็นหลัก ผมว่าตอนนี้ถ้าจะมองไปข้างหน้า ทิ้งเรื่องทักษิณไปได้ไหม เพราะไม่มีวันได้กลับบ้านในสภาพผู้นำอีกแล้ว หรือยังไงคนจนขอเกาะขาทักษิณเท่านั้น ทำอย่างอื่นไม่ได้หรือเปล่าครับ เลิกคิดถึงทักษิณแล้วเสนอแนวทางการแก้ปัญหาชนบทอย่างเป็นรูปธรรม ผมอยากเห็นฝีมือและความจริงใจแบบนี้มากกว่า แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 17:19:03 จากคุณ : ภูผาฟ้าทะเล เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 17:17:55

ความคิดเห็นที่ 75 #72 อ่านของ อ ไชยยันต์ ใน กรุงเทพธุรกิจวันนี้ก็ได้ครับ คนสนับสนุนคงคิดประมาณนั้นแหละ จากคุณ : house (panote_saechiew) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 17:20:39

ความคิดเห็นที่ 76 rep 74 เหรอครับ... แล้วตกลงคนโกง ( ถูกกล่าวหา ) นี่ ไม่มีวิธีแก้ปัญหาตามระบบ ต้องเอารถถังออกมาอย่างเดียว แล้วอย่างนี้จะให้พวกผมเชื่อถือในกระบวนการภายใต้กระบอกปืนเหรอ... คุณล้อเล่นรึเปล่าครับ... แล้วผมก็คิดว่าประชาชนไม่รังเกียจเขาหรอกครับ เพราะเลือกตั้งกี่ทีๆ เขาก็ชนะมาตลอดทุกครั้ง แล้วคุณกลับไปอ่าน rep 41 ของผมใหม่ครับ... ปัญหาตรงนี้มันไม่ได้เกิดมาจากความแตกต่างทางฐานะโดยตรง แต่มันเกิดเพราะ ไอ้ประเทศเฮงซวยนี่ มันดันมีอำนาจมืดนอกระบบ ทำให้ไม่เป็นประชาธิปไตยเต็มร้อยต่างหาก สิทธิในการเลือกผู้แทนยังโดนลิดรอนไปต่อหน้าต่อตา แล้วจะมาพูดเรื่องปัญหาความต่างระหว่างชาวเมืองกับชนบท คุณฝันไปเถอะครับ... ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำในฐานะมันมีอยู่จริงครับ... แต่หลายอย่างก็ล้วนมีที่มาจากความไม่เท่าเทียมกันทางการเมือง ตราบใดที่ยังมอบหลักประกันตรงนี้ให้ประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมไม่ได้ ผมคิดว่า ต่อให้คนดีเทพประทานที่ไหน... มันก็แก้ปัญหานี้ไม่สำเร็จหรอก... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 17:40:29

ความคิดเห็นที่ 77   วันนี้เสื้อแดงแพ้หรือไม่ ผมไม่สนใจนะ แต่หลังจากนี้ อำนาจนอกระบบจะรับมือกับพลังของ "ความจริง" ไปได้สักกี่น้ำ จากคุณ : CD-HEAR เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 17:44:49

ความคิดเห็นที่ 78 ตามที่ผมขีดเส้นใต้เอาไว้ This is the beginning and the end MORTAL. จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 22:44:46

ความคิดเห็นที่ 79 ครุฑเขามีสีกายแดงอยู่ก่อนแล้วก็ยังอุตส่าห์ไปหาภาพมาเทียบเคียงได้ เนาะ ไม่ลองเอาภาพยมทูตภาคที่มีกายสีแดงมาเทียบบ้างล่ะครับ จากคุณ : satitp เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 03:21:35

ความคิดเห็นที่ 80 มองให้รอบด้าน  นั้นยาก ยิ่งมองรอบด้านอย่างมีพลวัตร  ยิ่งยาก การพูด  การเขียน  เป็นการโฟกัส  เพื่ออธิบาย ซึ่งมีธรรมชาติของการ ทำให้เป็นจุด  สถิตย์ และทำให้สูญเสีย ภาพจริงที่เคลื่อนไหว การเปลี่ยนแปลงทางสังคม  เป็นสิ่งมีชีวิตในระดับมหภาค อันตัวเรา  แค่เป็นส่วนหนึ่งของห้วงเวลาทางประวัติศาสตร์ ความจริงที่ผ่านเลยมานั้น   มันเป็นเช่นนั้น เช่นที่เป็น... รากสังคมไทย   ต้องไม่ลืมว่า  ระบบอุปถัมภ์เป็นแกนกลาง แต่คนรุ่นใหม่  ต้องการปชต.อย่างที่คิด  เชื่อและเรียนรู้เชิงอุดมคติจากกระแสตะวันตก อย่างไรก็ตาม  อัตลักษณ์ทางการเมือง  มิได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน  แต่ค่อยเป็นค่อยไปแบบสะสมตัว จากจุดปัจจุบัน    อำนาจนอกระบบปชต.(อย่างที่ถือกัน) เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง น่าขยะแขยง แต่ที่มันได้หวลคืนหรือถูกใช้ครั้งล่า  ก็เพราะ  ความเหลิงต่ออิสรภาพของทุนสามานย์ หรือ  การสุดโต่งต่อปฏิบัตินิยม แบบ ธุรกิจการเมือง ที่พยายามยกระดับ  การสะสมทุนเพื่อกลุ่มทุนใหม่ขนาดกลืนกินประเทศ ด้านหนึ่ง  ก็คือ การไปเบียดบังกลุ่มอำนาจเดิมอย่างฉกาจ ไม่ต้องการพิพากษาใครผิด   แต่มันคือส่วนผสมของสิ่งที่ต้องเปลี่ยน ด้านหนึ่งถือโลกทัศน์แบบสัจจนิยม   ด้านหนึ่งเดินตามอุดมการณ์เชิงอุดมคติ อย่างไรก็ตาม  สังคมไทยอย่างที่กล่าวคือ  ระบบอุปถัมภ์ที่ถือโครงข่ายเพื่อนพ้องน้องพี่และหนี้บุญคุณ แถมด้วยค่านิยมแบบเกรงใจ   ตรงนี้จึงทำให้เรื่องต่างๆยากขึ้น  เพราะ เกิดการปะทะสังสรร ระหว่าง  ปากกับใจไม่ตรงกัน  การเก็บกด  และการถือความจริงลับหลัง แต่ก็มีข้อดี  ตรงที่ชอบอลุ่มอหล่วย   ประนีประนอม  ในขณะที่ ทำอะไรแบบเลี่ยงปัญหา เหล่านี้  อย่างที่ใครบางคนพูด  สังคมไทยเป็นสังคมแบบหลวม คือ  ไม่จริงจังต่อระบบ  เชื่อมั่นในบุคคลมากกว่า  และลืมง่าย  ไม่เก็บเกี่ยวบทเรียนนัก จากคุณ : dicky5 เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:13:11

ความคิดเห็นที่ 81 ทุนใหม่นั้นได้รับมอบอำนาจ ( Mandate ) มาจากประชาชน ทุนใหม่ที่กล่าวถึงนั้น ก็ยังมิได้ทำผิดกฎเกณฑ์อันเป็นส่วนประกอบของนิติรัฐ ( หรืออย่างน้อย ก็ยังไม่ได้การตรวจสอบตามกระบวนการที่ " ถูกต้อง " ) ดังนั้นคำกล่าวที่ว่า... " เพราะทุนใหม่เหลิงอำนาจ จึงต้องใช้อำนาจนอกระบบมาจัดการ " จึงเป็นเพียงข้ออ้างสำหรับหาความชอบธรรมให้บรรดาเผด็จการนิยมทั้งหลายนั้น ใช้อำนาจมาทำลายเจตจำนงค์ของประชาชนเท่านั้น... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:00:51

ความคิดเห็นที่ 82 มีประเด็นที่น่าสนใจหลายๆอย่างในกระทู้นี้จริงๆ ผมคงเซฟไว้ศึกษาเพราะกลัวไฟแดงละลายกระทู้อยู่นะ เรื่องการหักหาญน้ำใจอันนี้น่าคิด และยิ่งคำกล่าวของ อาจารย์ฝรั่งที่พูดบอกก็ให้สิทธิ์เขาครองไปไม่ว่าเขาจะโกงก็ตามถ้าเขามีเสียงส่วนมาก ก็น่าสนใจ บางที ถ้าเราเลือกเอาวิธีการถกเถียง พูดคุย แม้สุดท้าย บ้านเมืองจะถูกทักษิณเขาทำล่มจมอย่างไร มันก็จะเห็นเป็นบทพิสูจน์ ราคาความเสียหายนั้นจะมากอย่างไรมันก็จะเป็นภูมิปัญญาของคนไทยที่จะคงอยู่ตลอดไป ไม่ใช่สังคมที่เต็มไปด้วยข้อสันนิฐานพูดกันเอง เออออกันเอง อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ อาจใช้เวลาเป็นสิบปีกว่าประเทศจะลุกได้ แต่นั้นก็จะเป็นการคลุกฝุ่นยาวๆกันครั้งเดียว เทียบกับปัจจุบัน ล้มลุกคลุกคลานแต่มันก็ยังแทบไม่มีการเรียนรู้อะไร  เพราะเราไปตัดตอนมันก่อน โดยหักหาญกับระบบเสียงข้างมาก ณ ปัจจุบัน การแก้ ผลของการละเลยเสียงข้างน้อย ละเลยการถกเถียงด้วยเหตุผล ด้วยวิธีการปฏิวัติไปหักหาญเสียงข้างมาก แทนที่จะได้ใส่เหตุผล หรือความสำคัญของเสียงข้างน้อย มันก็แค่ใส่ความเป็นศัตรูกันลงไป สรุป ประเทศชาติก็ยังไม่ได้เรียนรู้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ในส่วนความล้มเหลวของเสื้อแดงในวันนี้ มันก็เป็นความล้มเหลวเดียวกับการปฏิวัติรัฐประหารนั่นเอง คือถึงทฤษฏีจะถูก แต่ภาคปฏิบัติดันไปละเมิดข้อเรียกร้องการหยุดสองมาตรฐาน การใช้วิธีบังคับข่มขู่ และการไปละเมิดสิทธิของผู้อื่น เสื้อแดงสายนปชก็ต้องล้มเหลว ตัวพันธมิตรเองก็ล้มเหลวเพราะการที่ตัวเองเรียกร้องการไม่เอาสองมาตรฐาน ไม่เอาการละเมิดสิทธิ์ แต่ก็ดันไปละเมิดข้อเรียกร้องของตัวเอง เหลืองก็แตกออกเป็นขาวเป็นหลากสี บทสรุปของฝั่งนปชก็คงคล้ายกันคือต้องแยกตัวเองออก เก็บไว้เฉพาะสิ่งที่ตนเรียกหาจริงๆ คือความเท่าเทียม และต้องไม่ละเมิดความเท่าเทียมที่ตัวเองเรียกร้องด้วย และต้องเรียนรู้ แยกแยะ สิ่งที่ตนทำผิด กับอุดมคติ ซึ่งผมก็เห็นว่าอุดมคติที่มีรากฐานการเรียกร้องสิทธิ ความเท่าเทียม ถ้าเดินไปมันก็ยังพอจะบรรจบกับฝั่งที่ต้านตัวทักษิณมาตั้งแต่ต้นกันได้ จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:39:37

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณค่ะ คุณ Darth Prin "เสียงส่วนมาก" เรื่องง่ายๆ ที่หลายๆ คนแกล้งทำไม่เข้าใจ จากคุณ : เอเธนา เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 00:20:56

ความคิดเห็นที่ 84 #82 คุณDarth Prin. ผมขอคารวะความคิด สั้นอย่างมีคุณภาพ ได้ใจความชัดเจน สรุปแบบไม่เลือกฝ่าย มีส่วนร่วมทำให้กระทู้มีคุณภาพในด้านวิชาการ ************************************** จากกระทู้ที่ทุกท่านมีส่วนร่วม  ผมได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกประการหนึ่ง...เป็นกรณีศึกษาด้านพฤติกรรมศาสตร์ ในเรื่องของการตัดสินใจของมนุษย์ ต่อเหตุการณ์/กิจกรรมของสังคมและเรื่องส่วนตัว การตัดสินใจที่ยึดเอาเชิงปริมาณ เชิงวัตถุวิสัยเป็นเกณฑ์ ...Sensational Decision-Making การตัดสินใจที่ยึดเอาเชิงคุณภาพ เชิงภาวะวิสัยเป็นเกณฑ์…Intuitive Decision-Making ทั้ง๒แนวต่างมีเหตุผล มีเหตุปัจจัยรองรับบนมาตรฐาน ซึ่งมีข้อเด่นและด้อยต่างกัน ในความเป็นจริงเราสามารถใช้ระบบการตัดสินใจทั้ง๒รูปแบบร่วมกันได้ การตัดสินใจคือการบริหาร การตัดสินใจนำไปสู่การปฏิบัติ/การกระทำ ซึ่ง เป็นที่มาของความขัดแย้งกัน หรือความร่วมมือกันในหมู่มนุษย์ สุดท้าย ผมขออภัยต่อหลายๆท่าน ที่ได้กล่าวอะไรบางประโยคผิดพลาดออกไป แล้วไม่เป็นที่สบอารมณ์ท่านครับ... หวังว่าการเรียนรู้ การประเมินตน การพัฒนาจะทำให้ สังคมขนมชั้นแบบไทยยังก้าวเดินต่อไปได้ แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 10:58:06 จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 10:52:26

ความคิดเห็นที่ 85 ... จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 10:56:31

ความคิดเห็นที่ 86 อะไรกันคะ คุณขามเรียง "การตัดสินใจที่ยึดเอาเชิงปริมาณ เชิงวัตถุวิสัยเป็นเกณฑ์ ...Sensational Decision-Making การตัดสินใจที่ยึดเอาเชิงคุณภาพ เชิงภาวะวิสัยเป็นเกณฑ์ Intuitive Decision-Making" 1. เชิงปริมาณ   เชิงวัตถุวิสัย = Sensational... คือ ความรู้สึก  อ้าว! การตัดสินใจด้วยความรู้สึกจะมีพื้นฐานอยู่ที่วัตถุวิสัย(Objectivity)ได้อย่างไร เราว่าใช้ศัพท์ผิดฝาผิดตัว เพราะความรู้สึกเป็นลักษณะหนึ่งของอัตวิสัย(Subjectivity) ซึ่งอยู่ขั้วตรงข้ามกับวัตถุวิสัยอยู่แล้วค่ะ การตัดสินใจแบบวัตถุวิสัยนั้นมีขึ้นเพื่อกำจัดอคติโดยใช้ตัวเลขเพราะทุกๆ คนเห็นตัวเลขตรงกัน เช่น 2+3=5 เสมอ ตรงนี้เราไม่เห็นว่าจะเป็น Sensation เสมอไป เว้นแต่พวกโหวต AF ถ้าจะมองปริมาณในแง่ลบ ก็ต้องเปลี่ยนเป็น เชิงปริมาณ เชิงอัตวิสัย = Sensational... 2. เชิงคุณภาพ  เชิงภาวะวิสัย  =  Intuitive... คือ ปัญญาญาณ, การหยั่งรู้ โดยความหมายแล้วอยู่เหนือระดับกว่า Sensation ภาวะวิสัยกับวัตถุวิสัยคือคำเดียวกันค่ะ คือ Objectivity มุ่งกำจัด bias เราว่า ถ้าลองเป็นการตัดสินใจที่มีภาวะวิสัย ลงท้ายก็ต้องไปหาตัวเลขอยู่ดี คุณภาพอยู่ตรงไหนเอ่ย เวลาประเมินผลงานของลูกน้อง เจ้านายต้องทำ Meditation ทุกครั้งเลยหรือคะ แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 13:04:50 จากคุณ : เอเธนา เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 12:55:45

ความคิดเห็นที่ 87 #86คุณเอเธนา... ขอบคุณมากครับ, ขอโทษครับ ที่ผมพูดถึงภาวะวิสัยนั้นผิดอย่างจัง มันคืออัตวิสัยตามที่คุณแย้ง และวัตถุวิสัยก็ตามนั้น...หน้าแตก!! sensation ในทีนี้คือการใช้ประสาทตาสัมผัสกับหลักฐาน อักษรและตัวเลขที่แสดงไว้ในหน้ากระดาษ ซึ่งมันแน่นอนบิดพริ้วไม่ได้ กฏระเบียบ กฏหมายที่ตราไว้ เป็นเกณฑ์ตัดสินใจครับ คนในอาชีพข้าราชการและวงการยุติธรรมมักใช้เป็นหลักในการทำงานครับ ต่างจาก Feeling Decision-Making ที่ใช้ความรู้สึก อารมณ์ ชอบไม่ชอบ ที่เปลี่ยนไปตามอารมณ์  คนในวงการศิลปะเก่งๆใช้Rational-Thinkingใช้ร่วมกับแบบIntuitive(มี6thSenseหรือความรู้/ประะสบการณ์ลึกซึ้ง) .... ปุถุชนทั่วไป มักมีการตัดสินใจหลายรูปแบบเปลี่ยนได้ หรือผสมผสานกัน ขึ้นกับภาวะสถานะการณ์ด้วยครับ คนที่อยู่ในภาวะโลภโกรธหลงรักใคร่ครอบงำ จะใช้แบบนี้ล้วนๆ การประเมินลูกน้อง/ประเมินผู้บริหาร การประเมินนางงาม การประเมินยิมนาสติค ผมว่าการตั้งเกณฑ์ มาจากหัวข้อเชิงคุณภาพก่อน แล้วมากำหนดคะแนน(ปริมาณ)อีกที เป็นการผสมผสานกัน หากจะไปนั่งสมาธิก่อน มันน่าจะดีเหมือนกันนะ เผลอๆนิพพานไปได้เลย ไม่ต้องมานั่งทะเลาะกับใครในโลกอีก จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 15:35:55

ความคิดเห็นที่ 88 กดคลิกซ้ำครับ........Guru Meditation แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 15:39:51 จากคุณ : ขามเรียง เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 15:36:34