ความคิดเห็นที่ 1   "บนโลกมีคนสองคน คือ คนที่ตายแล้ว กับคนที่กำลังจะตาย" (จาก มตโรทนชาดก ลองหาในgoogle) ปลายทางของชีวิตคือการที่ร่างกายเรากลายเป็นขี้เถ้า ถ้าเรามีสติ เราก็จะทำให้คนรอบข้างเราเกิดสติได้ด้วย คนที่พูดโกหก คือคนที่ไม่มีตัวตนอยู่บนโลกเลย การไม่เกรงใจ คือการสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น "ทองแท้ ไม่แพ้ไฟ" อย่าเป็นศัตรูกับใคร " 3 สิ่งในชีวิตเราที่ไม่สามารถเรียกร้องกลับคืนมาได้ คือ เวลา , คำพูด และ โอกาส " "อย่าหนีปัญหา อย่าหันหน้าหนีความจริง" จงเป็นคนกล้า กล้าที่จะเผชิญความจริง แม้มันจะทำให้เจ็บปวดแต่เมื่อคุณผ่านพ้นไปได้คุณก็จะสบายอีกครั้ง กลับกันถ้าคุณหนีความจริง หนีความเจ็บปวดเหล่านั้น คุณก็ต้องหนีไปเรื่อยๆ ไม่มีทางได้หยุดพัก เพราะว่าสิ่งที่คุณหนีจะตามทัน ผิดแล้วรับจะเป็นคนกล้า ผิดแล้วแก้ไขจะเป็นคนดี ผิดแล้วเรียนรู้จะเป็นคนฉลาด มิฉะนั้นจะขี้ขลาด เลว และโง่ต่อไป ผู้ไม่หวังย่อมอยู่เป็นสุข " ไม่มีใครเดือดร้อนเพราะอกหักหรือรักใครข้างเดียว มีแต่เดือดร้อนเพราะกิเลส " จากคุณ : UNKNOW เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 14:09:03 A:172.16.2.201 X:202.29.83.66 TicketID:256658

ความคิดเห็นที่ 2   คนเรา เจริญได้ เพราะความดี การไม่พูดไร้สาระ ทำให้น่าคบ ความอยาก ถ้าไม่หยุด มันจะอยากต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าคิดจะพูด ต้องไม่พูดจาทำร้ายใคร ****************** คนบ้าอย่าถือ...คนดื้ออย่าสอน คนจรอย่าคบ...คนประจบอย่ารัก คนทักอย่านิ่ง...คนจริงอย่าหน่าย คนอายอย่าล้อ...คนง้ออย่าโกรธ คนโฉดอย่าเข้าใกล้...คนตายอย่ากลัว คนชั่วอย่านำพา จากคุณ : UNKNOW เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 14:10:43 A:172.16.2.201 X:202.29.83.66 TicketID:256658

ความคิดเห็นที่ 3 มีคำกล่าวว่า "หนังสือชีวิต เขียนใหม่ไม่ได้ก็จริง แต่ขึ้นหน้าใหม่ได้" จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 14:17:22

ความคิดเห็นที่ 4 ทั้งหมดที่จขกท.ว่ามา  ก็คือ Positive Thinking หรือ สัมมาทิฐิ  อันเป็นสิ่งที่นับว่าประเสริฐ  ที่ชีวิตพึงบรรจุไว้พร้อมในจิตวิญญาณ เพื่อ ความก้าวหน้าที่ถูกทิศถูกทาง  จะได้ไม่เสียเวลากับ สิ่งไร้สาระหรือการเรียนซ้ำย่ำรอยเดิม หรือ  ความเปล่าประโยชน์กับแง่ลบหรือมุมมองที่บ่อนทำลาย...พัฒนาการของชีวิต สิ่งดีงามทั้งหลาย  สมควรปลูกฝังไว้ในใจเยาวชน เพื่อ เป็นขุมกำลัง ให้ถึงซึ่งความพร้อมต่อการรู้เท่าทัน.. วิถีโลกที่ล่อลวงชวนให้หลงทาง   เพราะ  ชีวิต ที่จริงแสนสั้นนัก มิดีกว่าฤๅ  ที่จักเลือกเดิน  เลือกทำ  ในทิศทางเชิงบวก มากกว่า เชิงลบ นั่นคือ  สัมมาทิฐิ หรือ Positive Thinking จากคุณ : dicky5 เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 17:39:40

ความคิดเห็นที่ 5 หรือถ้าจะให้ละเอียดกว่านี้ก็อาจกล่าวได้ว่า ชีวิต เริ่มต้นใหม่ได้ทุกวินาที โดยไม่ต้องรอพรุ่งนี้ให้เสียเวลา ^^ จากคุณ : jazz..a.a.minor เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 17:09:11

ความคิดเห็นที่ 6 ยอมรับและแก้ไข จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 08:14:53

ความคิดเห็นที่ 7   เพื่อน ๆ ถ้าเป็นเพื่อน จะทำอย่างไรกับชีวิตต่อไป เรากลับมาเมืองไทย แล้วก้อตรวจพบว่าตัวเองเป็นโรคร้าย หลังการผ่าตัด เราไม่สามารถใช้แขนทำงานได้เต็มที่ แต่ก่อนที่เราจะผ่าตัด เจ้านายให้เราเดินทางไปทำงานที่แคนนาดา แต่ต้องยกเลิกก้อด้วยเหตุผลดังกล่าว หลังจากนั้น เราพยายามหางานใหม่ทำในเมืองไทย แต่ทุกที่บอกเราว่าต้องการคนอายุน้อย ๆ ทำงาน ไม่จำเป็นต้องเอาคนที่มีประสบการณ์ หรือ เก่งในการทำงาน แต่ขอคนอายุน้อย ๆ ดีกว่า เพราะตัวเลือกเยอะ เมืองไทยไม่เน้นคนเก่ง แต่เน้นบุคคลิกที่ดูดี เราเสียใจมาก กลับมานั่งทำใจแล้วก้อรู้สึกงง ๆ หลังจากนั้นไปสัมภาษณ์อีกหลายที่ แต่ว่าไม่ได้ เพราะเค้าให้เหตุผลเหมือนเดิม คือ ขออายุน้อย ๆ ดีกว่า ประสบการณ์และเก่งไม่จำเป็นสำหรับเมืองไทย เราเสียใจอีกแล้ว ลืมบอกไปเราอายุ สี่สิบ ต้น ๆ ลืมบอกไปตอนที่เราทำงานที่ต่างประเทศ ที่นี่ไม่เน้นอายุ ถ้ามีแรงทำงานเค้าจ้าง แต่เค้าขอเน้นที่ประสบการณ์และความเก่งมาก ต้องมีความรับผิดชอบ ตั้งใจทำงาน และมีความคิดสร้างสรรค์ ฝรั่งคิดต่างจากคนไทยเหลือเกิน ดูซิ ตอนนี้เราก้อเลยต้องหางานทำเป็น nanny หรือ พี่เลี้ยงเด็กแต่ปัญหาคือการยอมรับกับสถานะที่กำลังเกิดขึ้นใหม่กับชีวิต คือ กำลังทำใจอยู่ ลืม บอกไปเราทำงานในโรงแรม 7 ดาว ของ ต่างประเทศ แต่เมืองไทยมีแค่ 5 ดาว นะ เพื่อน ๆ ตอนนี้เรารู้สึกผิดหวังกับชีวิตมาก ๆ อยากขอคำแนะนำจากเพื่อน ๆ ค่ะ จากคุณ : มาเบ เขียนเมื่อ : 24 มิ.ย. 53 15:01:45 A:210.203.186.178 X: TicketID:268597

ความคิดเห็นที่ 8 คุณมาเบ < คุณมีต้นทุนอยู่สูงทีเดียวครับ น่าเสียดายที่ไม่มีคนเปิดโอกาสให้ ผมว่าคุณน่าจะลองเปิดโอกาสให้กับตัวเอง ด้วยการทำสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ นั่นคือประสบการณ์ที่ติดตัวคุณมา ลองหามุมใช้ประโยชน์จากมันดูสิครับ หลายๆท่านใช้โอกาสตรงนี้สร้างบางสิ่งที่ดีกว่าอาชีพเดิมใ้ห้กับตัวเอง ผมเองไม่ทราบหรอกครับว่าคุณเก่งด้านไหนบ้าง แต่ผมว่าคุณมีคนรู้จักคุณมากมายทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่คุณเคยให้บริการ เพื่อนฝูง หรือเครือข่ายอันกว้างขวางที่คุณมีอยู่ ล้วนแต่เป็นระดับที่คัดสรรมาแล้วทั้งนั้น คุณอาจจะเป็นนักเขียนหนังสือ เป็นนักขาย หรือเป็นเจ้าของเฟรนชายส์ ที่ใหญ่อันดับต้นๆของโลกก็ได้ใครจะรู้ ถ้าคุณสามารถนำสิ่งที่มีอยู่ในตัวคุณมาประกอบเป็นภาพได้สำเร็จ ขอเป็นกำลังใจคุณมาเบนะครับ สู้ๆครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 14:22:57