ความคิดเห็นที่ 1 ด้วยปัจจุบันนี้ ลักษณะการเขียนภาษาไทยได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก ผมจึงขอคัดบทความพร้อมภาพประกอบ เพื่อยกให้เป็นตัวอย่างว่า คนไทยมีการเขียนภาษาไทย ซึ่งท่านได้สั่งสอนกันมาเป็นอย่างไร อาจจะไม่หมดทุกตัวก็ตาม แต่ก็ได้พยายามรวบรวมมาให้เพื่อนสมาชิกได้รับทราบกัน จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:37:35

ความคิดเห็นที่ 2 1. การเขียนไม้ผัด (ไม้หันอากาศ) กับนิคหิต (สระอำ) เขียนประสมกับพยัญชนะ จะไม่เขียนติดกันกับพยัญชนะ เช่น กักกัน กำยำ เขียนไม่ติด แยกห่างจากกัน จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:38:58

ความคิดเห็นที่ 3 2. ในพวกที่เขียนข้างหลัง เขียนติดกับพยัญชนะได้ แต่ลากข้าง “สระอา” ตัวเดียว  ส่วนวิสรรชนีย์ “อะ” ตัว “อ”  ตัว “ย”  ตัว “ว” เขียนติดไม่ได้  (หมายความว่า เขียนแยกกัน ยกเว้น สระอา ให้เขียนติดเลย) เช่น คำว่า “กา” และ “เกา” เขียนติดกัน ส่วน กะ กอ กัว เกีย เขียนแยกกัน จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:40:02

ความคิดเห็นที่ 4 คำว่า "กา" เขียนติดกัน จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:41:03

ความคิดเห็นที่ 5 3. ส่วนพยัญชนะประสมที่จะเขียนให้ติดกันนั้น เกือบจำทำไม่ได้เลย กล่าวคือ ทำได้แต่สองคู่ ได้แก่  “ศ”  ประสมกับ “ร” เช่นคำว่า ศร เขียนติดกันแต่ตัวบรรจง ทั้งมิได้บังคับตายตัวทีเดียว จะเขียนให้ขาดจากกันก็ไม่ผิด จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:41:29

ความคิดเห็นที่ 6 4. ยังมีตัว “พ” ประสม “ร” เขียนคู่แฝดติดกัน ดังภาพ และจะทำจำเพาะเมื่อเขียนตัวหวัด จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:41:54

ความคิดเห็นที่ 7 ต่อไปควรจะพูดถึงวิธีที่จะเขียนพยัญชนะประสมกับสระ ซึ่งมีแบบมาดังนี้ ก. แบบเขียนพยัญชนะให้ติดกับสระที่เขียนข้างบน ก๑. ถ้าพยัญชนะไม่มีหาง เขียนสระติดกับพยัญชนะได้ทันที ทุกที เช่น “มิดี หนี้สิน ยืนขึ้น” ซึ่งข้อสังเกตุนี้ท่านว่า ไม้โทเชาเขียนไว้ข้างๆ ตัวสระ มิได้เขียนข้างบน และฝนทอง ฟันหนู นิคหิต ที่เขียนลงบนพินทุ์อินั้น ก็มิได้เขียนลงข้างท้ายพินทุ์อิอย่างเดี๋ยวนี้ หากเขียนลงตรงกลาง ช่วยให้ต่อหางพยัญชนะได้สะดวกดังจะเห็นในข้อถัดไป จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:42:54

ความคิดเห็นที่ 8 การเขียน สระอี เส้นฝนทองไว้กลาง ด้านบน จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:43:52

ความคิดเห็นที่ 9 ก๒. ถ้าพยัญชนะมีหาง ให้เขียนตัวสระประสมติดกับพยัญชนะ ให้เขียนชัดว่าประสมกันก่อน แล้วจึงต่อหางพยัญชนะนั้นภายหลัง เช่น “เป็นฝี กองฟืน โมฬี” จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:44:16

ความคิดเห็นที่ 10 ก๓. มีพยัญชนะอยู่ตัวหนึ่ง คือ ตัว “ช” ที่ไม่ต้องต่อหางทีหลัง เพราะเวลาเขียนตัว “ช” นั้น เมื่อลากเส้นขึ้นไป จะถึงหยักตรงที่จะต่อหางก่อนตัวสระ เช่น “ชิน ชี้ ชื่อ” ดังนี้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:44:44

ความคิดเห็นที่ 11 ก๔. ตัว “ศ” และ “ส” ก็ไม่ต้องต่อหางทีหลัง โดยนัยเดียวกับ “ช” เช่น ศีรษะ ศึกษา แสงสี จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:45:07

ความคิดเห็นที่ 12 ข. แบบเขียนพยัญชนะให้ติดกับสระที่เขียนข้างหลัง (คือลากข้าง) ข๑. ถ้าพยัญชนะไม่มีหาง ให้เขียนลากข้างให้ติดกับพยัญชนะข้างหน้าทีเดียว เช่น “นกกา คาไฟ ไหเหล้า” จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:45:49

ความคิดเห็นที่ 13 ข๒. มีข้อแม้อยู่ว่าพยัญชนะตัวใดลากเส้นหลัง ขึ้นไปบรรจบกับลากข้างได้ ให้ลากต่อไปเป็นลากข้างทีเดียว และห้ามไม่ให้ลากเส้นหลังขึ้นไปจนสุดตัว แล้วย้อนกลับมาเขียนทีหลัง จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:46:28

ความคิดเห็นที่ 14 ข๓. มีพยัญชนะชนิดพิเศษอยู่ตัวหนึ่ง คือ “บ”  เมื่อเขียนต่อกับลากข้าง จะลากต่อไปอย่างพยัญชนะอื่นๆไม่ได้ ต้องเขียนขยักไว้ แล้วต่อยเขียนลากข้าง สืบเนื่องจากอักษรไทยย่อ “บ” และ “ท” เขียนคล้ายกัน ถ้าเติมลากข้างทำให้อ่านผิดได้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:47:06

ความคิดเห็นที่ 15 ข.๔ เมื่อตัว “บ” เขียนพิเศษกว่าพยัญชนะอื่นแล้ว ทำให้ ตัว “ษ” ก็เขียนในทำนองเดียวกัน เนื่องจากมีรูปร่างคล้ายกัน จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:47:28

ความคิดเห็นที่ 16 ข.๕ บางทีท่านก็นำวิธีนี้ไปใช้ให้ถึง ตัว “ผ” และ “พ” ด้วย เห็นว่าเกินเลยไป เพราะดูหนังสือเก่าจริงๆแล้ว หามีที่เขียนดังนี้ไม่ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:47:49

ความคิดเห็นที่ 17 ข.๖ ถ้าเป็นพยัญชนะมีหาง ให้เขียนลากข้างประสมติดกับพยัญชนะ ให้เห็นชัดเจนว่าประสมกันแน่แล้ว จึงค่อยต่อหาง จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:48:31

ความคิดเห็นที่ 18 การต่อหางในพยัญชนะ ต่างๆ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:49:15

ความคิดเห็นที่ 19 ข.๗. เว้นแต่พยัญชนะตัว “ศ” กับ “ส” ให้เขียนธรรมดา ไม่ต้องต่อหางทีหลัง จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:49:34

ความคิดเห็นที่ 20 ข.๘ มีตัว “ข” และ “ฃ” อยู่อีกสองตัว มีวิธีต่อหางผิดกับพยัญชนะอื่นๆ คือแทนที่จะต่อหางข้างบนเป็นรูปทัณฑฆาต ท่านให้สอดใส้ไว้ตรงกลางตัว จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:49:57

ความคิดเห็นที่ 21 กฎหมายตราสามดวง ยึดถือการเขียนอักษรแบบมาตรฐานทุกกระเบียดนิ้ว จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:53:36

ความคิดเห็นที่ 22 ยังจำภาพนี้ได้ไหมครับ ภาพเขียนสีน้ำมันของคณะทูต ซึ่งคุณ Gutai นำมาลงไว้ ลักษระการเขียนตามแผน ข.๘ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:55:26

ความคิดเห็นที่ 23 สมุดไทยดำ เส้นเหลือง ที่ขีดเส้นแดงไว้ ก็ยึดถือการเขียนอักษรต่อหางพยัญชนะแบบโบราณ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:57:07

ความคิดเห็นที่ 24 ตำราเรียนของไทยโบราณ ตามที่ขีดเส้นแดงไว้ เขียนบนสมุดข่อยพื้นขาว ตัวดำ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:58:22

ความคิดเห็นที่ 25 พระราชหัตถเลขาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ยังทรงถือลายพระอักษรแบบโบราณ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 22:59:34

ความคิดเห็นที่ 26 จารึกบนหินอ่อน วัดพระเชตุพนฯ ทรงคุณค่าและงดงามในลายมือ และองค์ความรู้ด้านต่างๆ ลักษณะการเขียนอักษรก็ยึดถือแบบเก่า จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:01:43

ความคิดเห็นที่ 27 ทำนองเดียวกัน จารึกหินอ่อนที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อคราวบูรณะวัด เมื่องานฉลองพระนคร ๑๐๐ ปี ก็ยังพบการเขียนแบบเก่าได้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:03:19

ความคิดเห็นที่ 28 จารึกตำรายา วัดพระเชตุพนฯ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:04:21

ความคิดเห็นที่ 29 สมุดไทยขาว คำว่า "ชาย" ต่อหางตามแบบแผน จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:05:17

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าจะโทษเรื่องสิ่งพิมพ์ หรือเทคโนโลยีด้านการพิมพ์ ก็ไม่ควรโทษเสีย เนื่องจากพบว่าในกระบวนการพิมพ์ ยังปรากฎการเขียนอักษรตามแบบแผนอยู่ เช่น หมาย หรือเงินกระดาษในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยุ่หัว  คำว่า "เฟื้องหนึ่ง" ยังคงพิมพ์ออกมาได้และยึดธรรมเนียมการเขียนอักษรประสม จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:08:06

ความคิดเห็นที่ 31 มาดูสิ่งพิมพ์ที่พิมพ์สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว สะพะจะนะพาสาไทย ของบาดหลวงปาเลอกัวซ์ ก็ยังสร้างตัวพิมพ์ออกมาได้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:09:54

ความคิดเห็นที่ 32 ธนบัตรที่สั่งพิมพ์จากต่างประเทศ ราคา ๑ บาทโดยยืมใช้ธนาคารต่างประเทศ นำมาให้ดูว่า คำว่า "ชาเตอร์" ยังยึดแบบแผนอยุ่ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:12:18

ความคิดเห็นที่ 33 อัฐ กระดาษในสมัยรัชกาลที่ ๕ "ราคา" เขียนติดกันได้ พิมพ์ออกมาก็ได้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:14:01

ความคิดเห็นที่ 34 หนังสือสยามจดหมายเหตุ พิมพ์โดยหมอบรัดเลย์ ฉบับแรก พ.ศ. ๒๓๘๗ พิมพ์ออกมาได้สวยงาม การเขียนภาษาไทยก็ยึดตามแบบแผน จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:16:39

ความคิดเห็นที่ 35 มาดูด้านแสตป์ กันบ้างครับ ซึ่งออกใช้ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๖ เป็นต้นมา ก็ยึดถือการเขียนตามแบบแผน เช่น "ค่า" "ตรา" "สยาม" จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:18:36

ความคิดเห็นที่ 36 ตราประทับประจำวัน จากสมุทรปราการ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:19:11

ความคิดเห็นที่ 37 อากรค่านา จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:19:58

ความคิดเห็นที่ 38 แต่ไปรษณีย์บัตร สมัยรัชกาลที่ ๕ ก็เริ่มพิมพ์ "ป" มีหางปนเข้ามาแล้ว จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:22:21

ความคิดเห็นที่ 39 แสตป์ค่าธรรมเนียมศาล "ฤชากร" พิมพ์ตามแบบแผน ข.๘ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:23:38

ความคิดเห็นที่ 40 เหรียญที่ระลึกเสด็จประภาสยุโรป ยังคงพบได้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:24:43

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าจะโทษ เครื่องพิมพ์ดีดว่าเป็นตัวการให้การรับรู้อักษรไทย เปลี่ยนไปเป็นการเรียงอักษรทีละตัวๆ ก็น่าจะมีส่วน แต่เครื่องพิมพ์ดีดรุ่นสอง สระ ก็ยังไว้ตรงกลาง จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:26:23

ความคิดเห็นที่ 42 ไปรษณีย์บัตรสมัยรัชกาลที่ ๖ ตัว "ป" ยังคงมีหางครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:27:18

ความคิดเห็นที่ 43 ไปรษณีย์บัตรสมัย ร.๗ มี "ป" ทั้งสองแบบ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:28:30

ความคิดเห็นที่ 44 แสตมป์ฉลองพระนครครบ ๑๕๐ ปี "สยาม" สระติดพยัญชนะ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:29:39

ความคิดเห็นที่ 45 ไปรษณีย์บัตร สมัยรัชกาลที่ ๘ ตัว "ป" ได้เปลี่ยนเป็นอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:31:22

ความคิดเห็นที่ 46 ทั้งนี้ได้นำหลักฐานลายมือ สิ่งพิมพ์สมัยต่างๆให้ชมกันแล้ว ปัจจุบันภาษาไทยอาจจะพัฒนาต่อไปครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:32:57

ความคิดเห็นที่ 47 เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป จากคุณ : คนพิการ เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 23:55:37

ความคิดเห็นที่ 48 อนาคตข้างหน้าจะมีตัวอีโมแถมครับ จากคุณ : masked v เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 00:03:51

ความคิดเห็นที่ 49 กำลังจะไปเลือกท่านอนแบบนารายณ์บรรทมสินธุ์สักหน่อย เหลือบไปเห็นประกายไฟสีม่วงวูบวาบตรง MY PANTIP  นึกว่าใครเรียกตัวให้ไปดับทุกข์ดับโศก  ที่แท้ก็โดนคุณครูหนุ่มรัตนะเรียกตัวให้มาเรียน ก กา ใหม่อีกครั้งหนึ่ง  ไอหยา...ข้าน้อยจะปรับปรุงภาษาไทยของตัวเองขอรับ เป็นความรู้ที่น่าสนใจมากเลย  ไว้มีโอกาสจะไปแกะความของศิลาจารึกที่วัดโพธิ์สักหน่อย  มิน่า เห็นอักษรที่สลักมีรูปทรงประหลาดเป็นบางจุด เดิมคิดว่าเป็นเพราะหินที่สลักนั้นมันแข็งไปเสียอีก รีบให้กีฟก่อนเป็นคนแรก  เพื่่่อขอพื้นที่ในการโฆษณาแอบแฝง  เมื่อกระทู้นี้โดนโหวต     แม้ตาจะปรือตอนพิมพ์ก็เถอะ แต่เรื่องฉวยโอกาสไม่ปล่อยผ่าน   อิอิ จากคุณ : Fortunism เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 00:41:45

ความคิดเห็นที่ 50 อยากถามคุณหนุ่มรัตนาครับ ผมอยากได้หนังสือที่รสบรวมภาพ เอกสารที่เป้นลายอาลักษณ์เยอะๆ หรือลายมืออื่นๆ พอจะมีแนะนำหรือเปล่าครับ จากคุณ : Paphmania เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 01:30:42

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆที่น่าชื่นชมค่ะ เพิ่งทราบเลยนะคะ แอบอาย เรียนทางสื่อสารมาโดยตรง แต่ไม่ทราบเรื่องภาษาไทยแบบดั้งเดิมเลย จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 07:48:54

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบพระคุณครับ เดี๋ยวไปหาดูบ้างดีกว่า อยากถามอีกว่า เรามักจะเห็นลายมือ ของ เจ้านาย หรือผู้มีการศึกษาสูง และทุกท่านมักจะลายมือสวย / หวัด แต่สวย ลายเส้นดี แต่ลายมือจากชาวบ้าน ที่พอจะอ่านออกเขียนได้ มักไม่ค่อยได้เห็น อยากรู้ว่าเป็นอย่างไร เพราะเห็นว่าคนสมัยก่อน มักจะลายมือสวย เค้าต้องคัด ฟ้อนท์ แบบอาลักษณ์ตั้งแต่ตอนเรียนหรือเปล่า เพราะลายมือมักจะเป็นรูปทรง คล้าย ๆ กันทุกคน ลูกผู้ชายลายมือนั้นคือยศ // ทำให้คนสมัยก่อนเขียนสวยกันทุกคนหรือเปล่า จากคุณ : ฮิปปี้ สิงห์มณี เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 09:47:27

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบพระคุณมากครับ จากคุณ : เจ้าคุณแม่ทัพ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 10:15:25

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณมากค่ะพี่หนุ่ม //ความคิดเห็นที่ 41 แอบคิดเหมือนกันว่าเป็นเพราะเครื่องพิมพ์ดีด จากคุณ : Noshka เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 10:21:06

ความคิดเห็นที่ 55 เจ๋งมากค่ะ ชอบกระทู้นี้มากค่ะ ขอบคุณ จขกท. นะึคะ จากคุณ : RJ1 เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 11:30:30

ความคิดเห็นที่ 56 ขอเสริมลิงค์นี้ให้อ่านกันด้วยนะครับ http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3332.0 ขอบพระคุณ คุณหนุ่มรัตนะ อีกครั้ง   กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ผมชอบมากที่สุดของพันทิปในรอบหลายเดือนเลยครับ จากคุณ : เจ้าคุณแม่ทัพ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 11:41:28

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ จากคุณ : ตั้งเพ็กเง็ก เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 14:57:55

ความคิดเห็นที่ 58 งดงามครับ โดยเฉพาะลายพระหัตถ์ ที่ลากหาง ว แหวน มาตรงสระอุ เป็นความสวยงามจริงๆ จากคุณ : nungning เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 17:27:43

ความคิดเห็นที่ 59 ข้อมูลเพียบ  ความรู้ล้วนๆ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ลมหัวด้วน เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 17:39:31

ความคิดเห็นที่ 60 เป็นวิธีการเขียนแบบภาษาเขียน/พิมพ์ให้อ่านเป็นทางการหรือเปล่าคะ เพราะในไปรษณียบัตร ลายมือก็เหมือนกับแบบสมัยนี้นะคะ ขอบคุณที่นำมาให้ดูค่ะ น่าฝึกเขียนไว้เหมือนกัน จากคุณ : superkoy เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 17:46:44

ความคิดเห็นที่ 61 เป็นกระทู้ที่มีคุณค่ายิ่ง แสดงอุตสาหะและวิริยะอันสูงยิ่งของคุณหนุ่มรัตนะ นักเรียนนักศึกษาที่รักภาษาไทยรวมถึงครูบาอาจารย์ควรจะบันทึกเก็บไว้ จะเป็นประโยชน์ในภายหน้าแน่นอนครับ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 18:56:37

ความคิดเห็นที่ 62 สามารถ download ฟอนต์อาลักษณ์แจกฟรีมาใช้กับคอมพิวเตอร์ของ ศ. ดร. ศรีศักดิ์ จามรมาน ที่มีบิดาชื่อ พระยานิติศาตร์ไพศาล อดีตเจ้ากรมอาลักษณ์ สมัยรัชกาลที่ 7 อ่านรายละเอียดได้ที่ www.charm.au.edu จะลงทะเบียนก่อน หรือตาม Link http://www.charm.au.edu/ThaiFont/dwnld.htm?Submit=Download ไฟล์ที่ download จะชื่อ SCThaiFont.zip ส่วนวิธีการติดตั้งต้อง Unzip ไฟล์ก่อนแล้วติดตั้ง font จะได้ฟอนต์สามตระกูลคือ Th Charmonman, Th Srisakdi, Th Charm of AU หาวิธีการติดตั้งได้จากบทความใน google.com ครับ หรือ ** โปรแกรมคอมพิวเตอร์ฟอนต์นี้ ใช้ได้กับ Microsoft Office, Adobe Photoshop CS, Adobe Illustrator CS. ** This Font Computer Program can be used with Microsoft Office, Adobe Photoshop CS, Adobe Illustrator CS. **** ดู วิธีการ Install ได้ที่ http://www.charm.au.edu/ThaiFont/Installation.htm 1. Choose Start > Settings > Control Panel 2. Double-click the Fonts folder. 3. Choose File > Install New Font. 4. Locate the fonts you want to install.     - In the Drives list, select the drive and the folder containing the fonts you want to install.     - In the Folders list, select a folder that contains the fonts you want to install.       (The fonts in the folder appear under List of Fonts). 5. Click Select ALL. 6. Click OK to install the fonts. แก้ไขเมื่อ 14 มิ.ย. 53 19:42:14 จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 19:25:39

ความคิดเห็นที่ 63 ขอเสริมคุณค่ากระทู้ของคุณหนุ่มด้วยลายพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ในบทพระราชนิพนธ์เรื่องพระร่วง เพื่อเตือนสติคนไทยครับ จากคุณ : Navarat.C เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 19:32:40

ความคิดเห็นที่ 64 กระทู้ยอดเยี่ยมอีกแล้วครับ จากคุณ : jin leng เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 20:20:49

ความคิดเห็นที่ 65 คนสมัยโบราณลายมือสวยมาก เด็ก ๆ เรายังถูกครูให้คัดลายมือตามแบบหัวเหลี่ยมอยู่เลย เดี๋ยวนี้กลายเป็น font โนะเนะไปหมด ถึงจะดูเป็นลายมือสวยน่ารัก จากคุณ : เป๋าตุง เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 20:34:54

ความคิดเห็นที่ 66 ผมชอบลายพระหัตถ์รัชกาลที่ ๖ จริงเลยฮะ สวยประทับใจมากๆ ขอบคุณกระทู้ดีๆครับ จากคุณ : เหมียวออก้า (orcahappy) เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 21:29:15

ความคิดเห็นที่ 67 ช่วยแปะภาพ จาก คห.62 ของคุณ ravio จะได้เห็นตัวอย่างฟอนต์ ทั้งสามแบบครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 22:17:27

ความคิดเห็นที่ 68 พระราชหัตถเลขา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยุ่หัว พระราชทานนาม "จิตรเจริญ" ซึ่งก็คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ประสูติแต่พระสัมพันธวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพรรณราย มอบให้คุณ Navarat.C และเพื่อนๆสมาชิก ได้ชม ถึงลายพระราชหัตถเลขา ซึ่งยังคงไว้ซึ่งแบบแผนการเขียนอักษรครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 22:28:36

ความคิดเห็นที่ 69 ขอเพิ่มเติมฟอนต์สวยงามและมีอีกหลากหลายประเภท ลองค้นหาดู จากคนไทยใจดีและคนต่างชาติ ที่มาช่วยกันผลิตและแจกฟอนต์ ให้ได้ใช้กันฟรี ๆ ขอคำขอบคุณตอบแทนก็เพียงพอ ตาม Link นี้ครับ คำว่า f0nt.com ต้องใช้เลขศูนย์ ไม่ใช่ตัว O (สระโอ) ของภาษาอังกฤษนะครับ การติดตั้งก็เหมือนตัวอย่างข้างบน ตาม link นี้เลยครับ หรือตามภาพตัวอย่าง http://www.f0nt.com/release/book_r-lux-2006/#idc-cover จากคุณ : ravio เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 23:02:42

ความคิดเห็นที่ 70 ขอบคุณมากๆครับกับความรู้ดีๆ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 09:12:49

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณครับ ขอบคุณสำหรับกระทู้นี้ รู้สึกดี จนไม่รู้จะเอ่ยยังไง จากคุณ : รอยยิ้มของคนดี เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 09:27:16

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะ  ... ดีมาก ๆ เลย .. ทำให้นึกถึงตอนเด็ก ๆ สมัยต้องเรียนหนังสือกับพระ .. ในโรงเรียนวัด .. หยุดวันเดียว คือวันอาทิตย์ จากคุณ : เจ้าหญิงโบราณล้านปี เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 11:51:54

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : pimon เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 14:09:38

ความคิดเห็นที่ 74 บางอย่างไม่เคยรู้มาก่อน ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ใส่พริกเม็ดเดียว เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 14:56:34

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบพระคุณมากๆครับผม จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 17:16:53

ความคิดเห็นที่ 76 คุณหนุ่มรัตนะ ครับ ขอบคุณยิ่งในความตั้งใจที่เพียรนำสาระ เนื้อหาและภาพประกอบอันมีคุณค่ายิ่งเหล่านี้มาเผยแผ่ มีข้อสังเกตบางประการครับ จากความเห็นที่ ๑๔ ซึ่งคุณหนุ่มรัตนะ กล่าวว่า "...สืบเนื่องจากอักษรไทยย่อ “บ” และ “ท” เขียนคล้ายกัน ถ้าเติมลากข้างทำให้อ่านผิดได้....." นั้น ปกติรูปลักษณ์ของ บ กับ ท ไม่คล้ายกันนัก แต่หาก บ เติมลากข้าง (สระ อา) เข้าไป จึงจะทำให้อาจจะมองดูคล้ายกัน (บา อาจมองคล้าย ท) ดังนั้น ไม่ทราบว่าข้อความของคุณหนุ่มรัตนะ ในความเห็นที่ ๑๔ น่าจะเป็นประมาณนี้ หรือไม่? "...สืบเนื่องจากอักษรไทยย่อ “บา” และ “ท” เมื่อเขียนแล้ว อาจคล้ายกัน ถ้าเติมลากข้างที่ บ โดยไม่ขยัก อาจทำให้อ่านผิดได้....." ประเด็นตามความเห็นที่ ๓๐ ๓๒ ๓๓ และอีกบางความเห็นที่ คุณหนุ่มรัตนะยกมานั้น อาจมิใช่การพิมพ์ที่เกิดจาก "ตัวเรียง" แต่อาจเป็นการพิมพ์ในลักษณะ เป็นการทำภาพด้วยลายมือเขียนมาก่อน แล้วจึงถ่ายมาเป็น แม่พิมพ์ แต่ตัวอย่างที่เห็นชัดว่าเป็นตัวเรียง คือ ความเห็นที่ ๓๔ ครับ... หากผมเข้าใจผิด กรุณาช่วยแจงให้ทราบด้วยนะครับ ขอขอบคุณอีกครั้งครับ แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 20:13:55 จากคุณ : mr.knot เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 20:10:53

ความคิดเห็นที่ 77 การเขียนแบบประสมนี้ ก็จะมีทั้ง อักษรลาว อักษรไทย และอักษรล้านนา  (ตัวเมือง ) ปัจจุบัน ตัวประสมนี้ตัวลาวและ ตัวเมือง ยังใช้อยู่  ... แต่ตัวไทย ไม่มีแล้ว จากคุณ : วังเหนือ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 20:39:40

ความคิดเห็นที่ 78 แบบอักษร ตามที่คุณหนุ่มรัตนะนำมาให้ชม ทำให้นึกถึง รัฐธรรมนูญฉบับจริงที่ในหลวงทรงลงพระปรมาภิไธย เป็นแบบอักษรไทย ที่ดูขลังมากครับ จากคุณ : Max2000 เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 21:11:28

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณมากเลยครับ คุณ  mr.knot เรื่องราวทุกอย่างมีที่มา และมีเหตุผลในตัวเองครับ คือมีเหตุผลดังนี้ครับ กฎเกณฑ์ที่ให้เขียนขยักตรงหาง "บ" แล้วค่อยลากตัว "อา" ลงเนื่องจากน่าจะติดมาจากหลักการเขียนอักษรไทยย่อ ครับ อักษรไทยย่อ คืออะไร...อักษรไทยย่อคือ การเขียนอักษรไทยที่นิยมเขียนกันช่วงอยุธยาตอนปลาย เป็นความนิยมเอาการเขียนอย่างขอม มาผสม คือมีการสะบัดหาง มีหยัก ในตัวอักษร ตามแผนผังนี้ครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 21:24:16

ความคิดเห็นที่ 80 อักษรไทยย่อ เราเขียนตัว "บ" ดังภาพ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 21:25:27

ความคิดเห็นที่ 81 อักษรไทยย่อ เราเขียนตัว "ท" ดังภาพ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 21:26:07

ความคิดเห็นที่ 82 ทีนี้ ถ้าเราเขียนตามหลักเกณฑ์ ข.๓ ในความเห็นที่ ๑๓ ก็จะได้ดังนี้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 21:27:47

ความคิดเห็นที่ 83 ซึ่งจะเห็นได้ว่าตัว "บ" มีขยักแล้วลากเส้นสระ ต่อ ก็ทำให้ตัวอักษรคล้ายตัว "ท" ท่านจึงให้ยักเขียนเสียใหม่ ดังนี้ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 21:30:13

ความคิดเห็นที่ 84 และเมื่อการเขียนอักษรไทยย่อ ติดเข้ามาในตัวบรรจงธรรมดา การเขียนขยักจึงติดตามเข้ามาครับ จะได้ชัดเจนและแตกต่างจากตัว "ท" จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 21:31:57

ความคิดเห็นที่ 85 มาชื่นชมด้วยคนครับ ...กระทู้ทรงคุณค่า จากคุณ : satitp เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 02:57:46

ความคิดเห็นที่ 86 เพิ่งจะรู้ แล้วไม่ทราบว่า  ญ  นี่มีเชิง ตั้งแต่เมื่อไรครับ จากคุณ : ดอกนางแย้ม เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 12:37:33

ความคิดเห็นที่ 87 น่านิยมจริงๆค่ะ จากคุณ : lalinphat เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 16:26:45

ความคิดเห็นที่ 88 เป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย นึกว่าเป็นการ "เล่นลายมือ"ให้สวยงามของคนสมัยก่อน ขอบคุณ จขกท.ค่ะ จากคุณ : aeroflex เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 18:38:53

ความคิดเห็นที่ 89 ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆครับ ขออภัยมาช้าไปหน่อย พอดี ล็อกอินเดิมไม่ค่อยได้เข้าครับ ส่วนอันนี้ Jade Dew ล็อกอินใหม่ ที่ใช้ประจำตอนนี้ครับ จากคุณ : น้ำค้างหยกเก้าบุปผา (Jade Dew) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 19:43:54

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณครับ ความรู้ใหม่มาก ๆ สำหรับผม จากคุณ : zaffer เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 22:11:09

ความคิดเห็นที่ 91 ยอดมากค่ะ ขอบคุณสำหรับความรู้ในกระทู้นี้ จากคุณ : mamiya เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 22:34:49

ความคิดเห็นที่ 92 น่าสนใจมากครับ ขอบคุณสำหรับความรู้นี้ครับ จากคุณ : น่ารักอย่างกะยักษ์วัดแจ้ง เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 22:51:01

ความคิดเห็นที่ 93 น่าสนใจมากครับ ขอบคุณสำหรับความรู้นี้ครับ จากคุณ : น่ารักอย่างกะยักษ์วัดแจ้ง เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 22:51:29

ความคิดเห็นที่ 94 งามมากครับ และความรู้มากมาย ขอบคุณคุณหนุ่มรัตนะ ที่อุตสาหะ นำมาฝากครับ นึกสงสัยๆ ว่า การต่อหาง/ต่อตัวอักษรในแบบดั้งเดิมนั้น มีที่มาหรือเกี่ยวข้องกับ สไตล์การเขียนของอักษรขอม หรืออักษรจากทางอินเดียหรือเปล่าหนอ จากคุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 08:12:47

ความคิดเห็นที่ 95 ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย  ขอบคุณจขกท. และขออนุญาตเผยแพร่นะครับ จากคุณ : Jewel of the Niles เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 09:34:43

ความคิดเห็นที่ 96 ความรู้ใหม่  ขอบคุณมากค่ะที่มาเผยแพร่ จากคุณ : หว่าหวาจัง เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 17:59:29

ความคิดเห็นที่ 97 ขอบคุณ คุณหนุ่มรัตนะ ที่กรุณามาขยายความเรื่อง อักษรไทยย่อ ให้เป็นที่กระจ่าง     ผมเก็บบันทึกกระทู้นี้ไว้ในแฟ้ม "ความรู้อันทรงคุณค่า" ของผมเรียบร้อยแล้วครับ จากคุณ : mr.knot เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 22:48:43

ความคิดเห็นที่ 98 ด้วยความขอบคุณครับ จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 09:43:57

ความคิดเห็นที่ 99 ดูจากตัวอักษรสมัยอยุธยาแล้ว ตัวเขียนเรายังใกล้เคียงกับตัวเขมรในปัจจุบันมาก แต่กาลเวลาผ่านไป เราพัฒนาตัวอักษรเราจนมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น จากคุณ : newuno เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 10:08:21

ความคิดเห็นที่ 100 ขอบคุณข้อมูลคับพี่ อ่านเพลินเลย ในคห# 30 มีภาษาอะไรบ้างอะคับ ผมเห็น 1 ไทย 2 จีน 3 ไม่ทราบคับ octava pars ticalis 4 อังกฤษ 5 ? 6 ? 7 พม่า 8 ตัวเมือง ล้านนา ขวา มคธ หรือเปล่าคับ ซ้าย เขมร แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 53 17:48:44 แก้ไขเมื่อ 20 มิ.ย. 53 17:47:46 จากคุณ : Tony Airlines เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 17:47:16

ความคิดเห็นที่ 101 อ่านแล้วมีความรู้สึกว่าตัวอักษรไทยที่เขียนแบบสมัยก่อนมีเสน่ห์ดีจังเลยค่ะ  สวยคลาสสิก  ขอบพระคุณมาก ๆ นะคะที่กรุณานำเสนอเรื่องดี ๆ แบบนี้มาให้อ่านค่ะ จากคุณ : biebie999 เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 20:14:41

ความคิดเห็นที่ 102 ขอบคุณเจ้าของทู้ที่นำเรื่องราวๆดีอีกแล้ว มาแบ่งปันกันค่ะ จากคุณ : หมวยดุสิต (Setakan) เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 20:35:38

ความคิดเห็นที่ 103 หมายราคาเฟื้อง มี 12 ภาษาคือ 1 ไทย   2 จีน   3 ลาติน   4 อังกฤษ 5 ฮินดู 6 มลายู 7 เขมร 8 พม่า 9 มอญ   10 ลาว   ซ้ายภาษามคธ ขวาภาษาสันสฤต พร้อมกับพระราชลัญจกรประทับอีก 5 ดวง คือ   1 รูปพระมหาจักร 2 รูปตราสำหรับประจำแผ่นดินปัจจุบัน 3 รูปตราข้างซ้ายขวาเป็นพวงดอกดวงหนึ่ง   4 เป็นพวงผลดวงหนึ่ง   5 ราคาเฟื้อง มีประทับตราอีก 1 ดอก จากคุณ : หนุ่มรัตนะ เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 22:30:55