ความคิดเห็นที่ 1 มจ.ชาตรีเฉลิม ยุคล หรือ ท่านมุ้ย ได้เดินทางมาเก็บข้อมูล ที่บริเวณวัดข้างบ้านผมพอดีเลยครับ ผมรีบหยิบหนังสือที่ผมเขียน เข้าไปแนะนำกับท่านทันที พร้อมกับเสียงแตกฮือ ของกลุ่มอาจารย์ที่ตามท่านอยู่ "นี่ไงๆ ! คนเขียนหนังสือเล่มนั้น" เมื่อท่านพลิกดู คร่าวๆท่านก็ได้ให้เลขาของท่านบันทึกชื่อ เบอร์โทรผมไว้ พร้อมกับถามผมว่าพอมีเวลาพาท่านไปดูสถานที่ในรูปถ่ายของท่านหรือเปล่า ช่วงที่ผมกำลังสับสนแถมมึนๆงงๆ กับเหตุกาณ์นี้อยู่ บรรดานักข่าวที่ตามท่าน พร้อมกับนักศึกษาด้านประวัติศาสตร์ ที่ม.นเรศวร และ ม.ศิลปากร ก็รุมสอบถามผมกับหนังสือเล่มนี้กันใหญ่ อาจารย์บางท่านก็ซื้อไปเก็บไว้นานแล้ว ความมึนเข้ากลบสมองผมเข้าอีกรอบ ช่างภาพบางคนก็กำลังถ่ายภาพร้านกับภาพวาดผมอย่างเมามันส์ (ทั้งๆที่ไม่ค่อยมีอะไรจะให้ได้ดูกันเท่าไหร่) จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 18:21:08

ความคิดเห็นที่ 2 ผมบอกกับท่านว่า ขออนุญาตไปเตรียมตัวก่อนนะครับ พอเข้าไปในห้องทำงาน ผมกลับไม่รู้ว่าผมจะเอาอะไรไปบ้าง ยืนงง อยู่ซักพัก ก็ได้แต่หยิบกล้องถ่ายรูปมาตัวเดียว ทั้งๆที่ผมมีเป้เดินทางพร้อมกับสมุดและอุปกรณ์ต่างๆไว้เตรียมพร้อมตลอดอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หยิบมันไป.....เรียกว่า มึนครบเซ็ท จะมีก็แต่สิ่งที่พอรู้บ้าง อัดแน่นอยู่เต็มสมองน้อยๆก้อนนี้ เมื่อออกมาก็ขึ้นรถตู้ไปพร้อมกับท่านเพื่อตามเก็บข้อมูล ตามบันทึกการเดินทัพปราบฮ้อในอดีตสมัยรัชกาลที่ห้า บางแห่งต้องลุยทั้งหมาที่ดุเอาการ หรือลุยกับป่า กลางทุ่ง กลางแดด กับวัยหกสิบกว่าปีของท่าน ดูเหมือนอ่อนล้าบ้าง แต่วิญานแห่งการทำงานของท่านนั้นเต็มเปี่ยม หัวใจของท่านนั้นเกินร้อย ผมเองก็พยายามที่ทั้งเก็บข้อมูลและหาข้อมูล บวกให้ข้อมูลไปด้วยในเวลาเดียวกัน โดยไม่ทราบเลยจริงๆว่า ผมเอามะพร้าวห้าวไปขายสวนใหญ่เข้าให้แล้ว จนกระทั่งถึงบริเวณต่างๆ ตามเส้นทางเดินทัพในสมัยนั้น จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 18:23:12

ความคิดเห็นที่ 3 สอบถามจากทางผู้ใหญ่บ้านและครูเก่าแก่บริเวณนั้น พบว่าทุกบริเวณไม่เหลือสภาพเดิมอยู่เลย ไม่ว่าจะเป็นหนองไผ่ขวาง ที่ผู้ใหญ่บ้านเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนจะมีไผ่ขวางอยู่เต็มบริเวณไปหมดและการเดินทัพต้องผ่านบริเวณแห่งนี้ หลังจากนั้นก็เดินทางมาถึงบริเวณ หนองตับ ที่ตามบันทึกเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ แต่ปัจจุบันคงเหลือแต่พื้นดินและความแห้งแล้ง ผมนำท่านเดินลัดทุ่งนาไปยังหนองที่แห้ง ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านพร้อมกับผู้ใหญ่บ้าน คุณลุงผู้ใหญ่บ้านบอกว่า บริเวณนี้สมัยนั้นใครที่เดินทางต้องผ่านตรงนี้ จะอ้อมไปที่อื่นไม่ได้เพราะจะติดเขา เมื่อมีการปล้นวัวควายเมื่อก่อนมาดักบริเวณนี้ก็จะเจอแน่นอน บริเวณหนองที่แห้งแห่งนี้ ท่านได้นั่งพักผ่อนเพื่อคลายร้อนใต้ห้างนา พร้อมกับรับสั่งถึงความสำคัญของประวัติศาสตร์ของเมืองหน้าด่านแห่งนี้ ท่านรับสั่งถึงบันทึกประวัติศาสตร์บางหน้าจะเปลี่ยนไป และบรรดาคอประวัติศาสตร์ทั้งหลายต้องพบกับเรื่องราวใหม่ที่เข้าใจกันผิดมานาน ณ พิชัยแห่งนี้ บางเรื่องท่านไปรับสั่งว่า อย่าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาในตอนนี้ ถ้าไม่อยากโดนนักประวัติศาสตร์ด่า ว่าเมืองพิชัย คือ เมืองชัยนาทในอดีต ที่ได้ลงบันทึกไว้ในพงศาวดารหลายๆเล่ม หรือกับประวัติศาสตร์หลายๆหน้า(บอกไปแล้วอ่ะครับ ยอมโดนด่า ) จากนั้นท่านก็รับสั่งต่อถึงความสำคัญของเมืองพิชัยแห่งนี้ "เมืองพิชัยสำคัญมากนะในอดีต แต่ไม่มีใครกล่าวถึงหรือสนใจ โดยเฉพาะ คนพิชัย ที่ต้องคอยให้คนอื่นมาเล่าถึงความสำคัญของบ้านตัวเองให้ฟัง" ผมตอบท่านกลับไปว่า "ผมทำหนังสือขึ้นมาแล้วครับ แต่ผมแค่ธุรีเล็กๆ ไม่มีใครฟังผมเลย" " เธอต้องกล้าเถียง เขาถึงจะฟังเธอ " " ครับท่าน....... เมืองพิชัยสำคัญจริงๆครับ" "อ้าวจริงซิ! ไม่งั้นฉันจะมาทำแบบนี้เหรอ" ท่านรับสั่งกลับมาอย่างทันควัน ตลอดการเดินทางและร่วมงานกับท่าน ท่านเป็นคนที่สนุกสนานอยู่ตลอดเวลา คอยกระตุ้นและสร้างแรงจูงใจพร้อมแรงบันดาลใจใหม่ๆอยู่เสมอ นี่แหละครับที่ผมเองไม่อยากเแม้จะขยับตัวเพื่อกดชัดเตอร์กับมุมสวยๆบริเวณนี้ หรือจัดแจงเตรียมตัวเตรียมข้อมูลอะไรตอนนี้ นอกจากฟังอย่างเดียว ฟังและจำทุกคำพูดทุกท่าทาง ทุกการกระทำของท่าน ท่านเองก็ตบบ่าให้กำลังใจผมอยู่หลายครั้งเหมือนกัน นี่ละมั๊งครับ กำลังใจชั้นดีที่ผมจะเขียนหนังสือเล่มต่อไป เมื่อคุยเสร็จหายเหนื่อยเราก็เดินทางต่อไปยังอีกจุดหนึ่งที่มีการบันทึกไว้ คือเส้นทางเดินทางทางน้ำของการเดินทัพและการแวะพัก จนกระทั่งไปบริเวณน้ำอ่าง ซึ่งเป็นเส้นทางน้ำทางเดียวที่มาจากเมืองตอนบนที่ติดลานช้าง เพื่อติดต่อกับเมืองหน้าด่านแห่งนี้ เพื่อจะติดต่อเข้ามายังแม่น้ำสายหลัก(แม่น้ำน่าน)ได้ มื้อกลางวันท่านทานง่ายๆด้วยแซนวิสที่เตรียมมา สำหรับทีมงานกับรรดาอาจารย์ และผม ทานด้วยก๋วยเตี๋ยวกับข้าวราดแกง พวกเราทั้งหมดนั่งอยู่ใกล้ๆกัน ไม่มีการแบ่งชั้นว่าใครเป็นใคร ก่อนที่จะเดินทางเก็บข้อมูลกันต่อจนถึงเย็น ดูการตีเหล็กน้ำพี้และสอบถามถึงข่าวขบวนทัพจากผู้สูงวัยที่บ่อเหล็กน้ำพี้แห่งนี้ ก่อนกลับผมถ่ายรูปคู่กับท่าน พร้อมกับพูดกับท่านอีกสักพัก ส่งจนรถท่านออกเดินทางไปต่อ เป็นความภาคภูมิใจใหญ่ๆกับคนตัวเล็กๆที่มีความรู้ติดตัวมาเล็กน้อยอย่างผม ที่สามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับมืออาชีพระดับโลกอย่างท่านได้ แค่นี้...ผมก็รู้สึกดีมากๆ กับสิ่งที่ผมทำในอดีตเมื่อสองปีที่แล้ว และส่งผลดีกับผมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ผมขอขอบคุณท่านมากๆครับที่ให้โอกาสกับคนตัวเล็กๆอย่างผม แม้จะเพียงแค่วันเดียว แต่ก็เป็นวันเดียวที่ผมต้องจดจำไปตลอดชีวิตทีเดียวครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 18:27:50

ความคิดเห็นที่ 4 ภาพเด็กๆกำลังนำหนังสือไปศึกษา พร้อมภาพประกอบในหนังสือครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 19:09:03

ความคิดเห็นที่ 5 :) จากคุณ : gloomie เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 19:09:37

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพประกอบเมืองตามจินตนาการที่บันทึกไว้ครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 19:10:49

ความคิดเห็นที่ 7 คุณgloomie < สวัสดีครับ เข้ามายิ้มอย่างเดียวเลยนะครับ ^_^ (ยิ้มกลับ) จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 19:11:40

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วจะหาซื้อมาอ่านนะครับ จากคุณ : styx เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 20:20:03

ความคิดเห็นที่ 9 เข้ามาบอกว่าคุ้นกับคำโปรยหนังสือเล่มนี้ของท่านจขกท.อาจจะเคยอ่านหรือไม่เคยอ่านเนื้อใน ไม่แน่ใจ^^ แต่ที่แน่ๆ ยังไม่มีไว้ในครอบครอง แล้วจะไปหามาอ่านให้แน่ใจอีกครั้งค่ะ จากคุณ : newaugust เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 22:00:14

ความคิดเห็นที่ 10 คุณstyx < ขอบคุณนะครับ มีตัวอย่างในบล๊อกเข้าไปลองอ่านดูได้ครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 22:00:37

ความคิดเห็นที่ 11 คุณnewaugust < ยินดีครับคุณnewaugust จะรอคอมเม้นหลังอ่านจบนะครับ (รอๆๆๆ ^^) จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 22:06:59

ความคิดเห็นที่ 12 เมืองพิชัย คือ เมืองชัยนาทในอดีต ที่ได้ลงบันทึกไว้ในพงศาวดารหลายๆเล่ม . . . พอจะอธิบายหน่อยได้มั้ยครับ    ว่าเป็นมาอย่างไร    จึงสันนิษฐานเช่นนั้น จากคุณ : zodiac28 เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 22:29:20

ความคิดเห็นที่ 13 โหวตให้ครับ แม้จะแค่วินาทีเดียวมันก็คุ้มค่าแล้วครับกับสิ่งที่คุณได้ทำ! จากคุณ : kodindy เขียนเมื่อ : 14 มิ.ย. 53 23:03:11

ความคิดเห็นที่ 14 เชื่อมั่นและศรัทธา จากคุณ : เฮียจุ้ย เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 00:54:52

ความคิดเห็นที่ 15 คุณzodiac28 < ส่วนหนึ่งจากเส้นทางการเดินทัพ ทั้งจากลานนาและลานช้างที่เข้ามาครับ รวมถึงสถานที่จากการบันทึก ที่มีอยู่ตรงตามนั้นครับ คุณkodindy < ขอบคุณครับ คุณเฮียจุ้ย< ครับความเชื่อมั่นและศรัทธาในสิ่งที่กำลังทำอยู่ เป็นแรงใจชิ้นดีเลยครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 09:02:42

ความคิดเห็นที่ 16 เข้ามาขอบคุณสำหรับกิฟกำลังใจที่ทุกท่านให้มาด้วยครับ คุณNavarat.C, gloomie, วิษณุพิรุณ, พระนายไวย, ซัดกันจนแหลก, หนุ่มรัตนะ, kodindy ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 09:04:24

ความคิดเห็นที่ 17 หาหนังสือได้ที่ไหนบ้างครับ..... ...... ไดเมีโอกาสเดินทางไปอุตรดิดถ์บ่อย ๆ ..... สนใจในประวัติศาสตร์ของที่นี่ ..... แต่ที่นี่..แหล่งหาความรู้ทางประวัติศาสตร์ถูกดูแลอย่างตามมีตามเกิด...และมักจะถุกดัดแปลงไปตามกระแสวัฒนธรรมในปัจจุบัน....ซึ่งน่าเสียดายเป็นอย่างมาก...เช่นที่วัดมหาธาตุเมืองพิชัย...... ......  ในจังหวัดอุตรดิดถ์  นอกจากเมืองพิชัยแล้วยังมีเมืองโบราณที่น่าสนใจอีกหลายแห่งเช่นที่วัดพระฝาง..... เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ครับ..... จากคุณ : ทองรอด (THONGROD) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 13:54:53

ความคิดเห็นที่ 18 เจ๋งครับ โหวตให้ จากคุณ : เหมียวออก้า (orcahappy) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 14:27:42

ความคิดเห็นที่ 19 คุณทองรอด < สถานที่จัดจำหน่ายรบกวนคุณทองรอดเข้าดูในบล๊อกผมได้เลยครับ (my blog ด้านล่าง) คลิ๊กตรงแนะนำหนังสือ และเข้าไปหน้าสั่งซื้อน่ะครับ มีมีสถานที่จัดจำหน่ายอยู่ อุตรดิตถ์เป็นเมืองที่น่าสนใจมากๆครับในเรื่องของประวัติศาสตร์ ที่แตกต่างวัฒนธรรมของคนในพื้นที่ทั้งพระฝาง หรือลับแล และพิชัยเองที่เป็นหน้าด่านของแต่ละอาณาจักร ซึ่งผมกำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆนะครับ ปล.ชอบประโยคนี่มากๆเลยครับ "แหล่งหาความรู้ทางประวัติศาสตร์ถูกดูแลอย่างตามมีตามเกิด" เป็นแบบนั้นจริงๆครับ คุณเหมียวออก้า < ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 16:16:12

ความคิดเห็นที่ 20 อ่ะลืมทุกที ^^ กลับเข้ามาขอบคุณสำหรับกิฟกำลังใจเพิ่มเติมที่ให้มาครับ คุณ bolton fanclub, THONGROD, orcahappy, Sapphire one, ~สายลมแห่งความเดียวดาย~, ใส่พริกเม็ดเดียว, thezircon,orcahappy, ไผ่แผ่วพริ้ว ขอบคุณครับสำหรับกำลังใจดีๆ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 16:22:12

ความคิดเห็นที่ 21 หนอนหนังสืออย่างเราจะปล่อยให้รอดไปได้อย่างไร ต้องไปหาซื้อมาอ่านให้ได้ ปล. ว่าแล้วก็คิดถึงบ้านเกิดตัวเอง ตอนเด็ก ๆ ต้องทนดูผู้ใหญ่ขุดหลุมฝังศพมนุษย์โบราณ ในที่ดินของตนเองเอาวัตถุโบราณไปขาย (ก็เด็กน่ะ ไม่รู้จะมีปากมีเสียงยังไง หดหู่มาก) จากคุณ : Ave Maria เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 17:53:27

ความคิดเห็นที่ 22 พระยาพิชัยนี่แหละ เป็นเครื่องยืนยันของแท้ ว่าพระเจ้าตากโดนประหารจริงๆ โดยคณะรัฐประหาร จากคุณ : รักพ่อหนุ่มแรมโบ้ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 20:37:22

ความคิดเห็นที่ 23 คุณAve Maria  < น่าเสียดายจริงๆเลยครับ ผมว่าสถานที่ทางประวัติศาสตร์ไทยคงทุกแห่งที่เป็นแบบนี้กับการไม่เห็นคุณค่าของกาลเวลา ซื้อมาอ่านแล้วอย่าลืมมาเล่าให้ฟังมั่งนะครับ ^^ คุณ รักพ่อหนุ่มแรมโบ้  < ประวัติศาสตร์แต่ละหน้า เหตุและวิธีการเขียนขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ว่าใครเป็นผู้ถ่ายทอดนั่นเองครับ ขอบคุณสำหรับกิฟกำลังใจเพิ่มเติมครับ คุณเด็กใต้..ตัวดำ, bombcreate, Ave Maria, พี่คนใต้ใจดี ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 20:55:04

ความคิดเห็นที่ 24 ชื่นชม อีก1เสียง จากคุณ : cybrarian เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 23:55:59

ความคิดเห็นที่ 25 ชื่นชมคนทำงานด้วยใจ และใฝ่หาความรู้อย่างนี้ค่ะ รูปในหนังสือวาดเองหรือคะ  ฝีมือดีทีเดียวค่ะ แค่เห็นรูปที่เด็กๆ ได้ประโยชน์จากหนังสือ ก็นับว่า เป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่และยืนยาวได้แล้วเนาะ ชื่นชมค่ะ มีโอกาสจะหามาอ่านนะคะ จากคุณ : ต้นจั่น เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 01:40:27

ความคิดเห็นที่ 26 ให้กำลังใจ ผมเขียนประวัติศาสตร์และตระกูลเมืองเชียงคาน ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเมืองพิชัย  ลับแล ด้วย เป็นประวัติศาสต์ท้องถิ่น จากคุณ : โฟมน่ารัก เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 07:07:50

ความคิดเห็นที่ 27 คุณcybrarian < ขอบคุณนะครับได้ยินเสียงมาถึงนี่แนะ ^^ คุณต้นจั่น < ขอบคุณครับ  เห็นเด็กๆที่หันเข้าหาประวัติศาสร์ และสนใจที่จะเรียนรู้สอบถามด้วยความสนุก นี่ก็เป็นแรงใจชิ้นดีเลยครับ สำหรับรูปในหนังสือ ทั้งวาด+เสก๊ตซ์ประกอบเองหมดเลยครับ แปลจากตัวอักษรเป็นภาพวาด บางทีก็แปลจากภาพถ่ายเป็นตัวอักษร แปลสลับกันไปมา เพลินเลยครับ ขอบคุณครับ แรงใจจากกิฟ < คุณnopnop, เภตรวรดิตถ์, cybrarian ขอบคุณครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 07:16:20

ความคิดเห็นที่ 28 คุณโฟมน่ารัก < โหน่าสนใจจังเลยครับจะหาซื้อมาอ่านครับ  ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ ขอเป็นกำลังใจให้เช่นเดียวกันครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 07:20:31

ความคิดเห็นที่ 29 สงสัยกำลังหาข้อมูลตามที่แจ้งข่าวไว้ในกระทู้นี้แน่เลยครับ....  ^___^ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9306812/A9306812.html จากคุณ : ฟาฬ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 09:19:55

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าค้นกันจริงๆจะพบว่าอุตรดิตถเป็นถิ่นที่อยู่ของคนหลายกลุ่มหลายชาติพันธุ์ อันนี้ตามความเข้าใจนะครับ ลับแล ในเขตศรีพนมมาศ หัวจง แม่พูล โซนนี้คือกลุ่มคนที่อพยพมาจากเชียงแสน ภาษาพูดจะออกไปในแนวเดียวกับจังหวัดแพร่ หรือคำเมือง ลับแลในเขตทุ่งยั้ง เมืองนี้เป็นเมืองสำคัญมาตั้งแต่สุโขทัย รวมทั้งเมืองโบราณที่ค้นพบ ลักษณะกำแพงเมือง (ผมไม่แน่ใจว่าแบบไหน แต่ลักษณะการสร้างกี่ชั้น อะไรประมาณนี้ เหมือนกับทางสุโขทัย) เรียกกันว่าเวียงเจ้าเงาะ ภาษาพูดในแถบนี้จะเป็นภาษาสุโขทัย คือเสียงพูดจะเหน่อๆ เป็นเขตอิทธิพลของสุโขทัยมาแต่เดิม โซนท่าปลา ถ้าผมจำไม่ผิด แต่เดิมนั้น ท่าปลาขึ้นกับจังหวัดน่าน ในภายหลังจึงได้โอนให้มาขึ้นกับจังหวัดอุตรดิตถ์เพื่อสะดวกในการปกครอง พูดง่ายๆก็คือ อยู่ในเขตอิทธิพลของนครน่านมาก่อน โซน น้ำปาด ฟากท่า บ้านโคก เขตนี้เป็นเขตอิทธิพลของเมืองปาด ซึ่งปกครองโดยพญาปาด ภาษาพูดจะเหมือนคนลาวในแขวงไชยะบุลี (ไชยบุรี) ซึ่งจะไม่เหมือนภาษาพูดที่เราได้ยินในเวียงจันทร์ มันเหมือนภาษาอีสานปนๆกับภาษาเหนือ ผมก็อธิบายไม่ถูก เคยถามว่าแม่น้ำสายนี้ลึกเท่าไหร่ (แม่น้ำปาด) ชาวบ้านเขาตอบว่า "เปี่ยงค้อคว่าย" คือ เพียงคอควาย น้ำลึกเท่าระดับคอของควาย (ชาวบ้านที่เลี้ยงควายจะจูงวัวควายข้ามแม่น้ำ) เมืองพิชัย อันนี้ก็เป็นที่รู้กัน เมืองตรอนตรีสินธุ์ ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นเมืองบริวารของเมืองพิชัยอีกที เรื่องนี้มีบันทึกไว้เมื่อคราวที่รัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสเมืองอุตรดิตถ์ แต่ผมกลับคิดว่า เมืองพระฝาง แม้จะมีความ ดังหรือ hot มากกว่าหลายๆเมือง น่าจะไม่ใช่เมืองใหญ่ แต่คงเป็นชุมชนขนาดใหญ่มาแต่โบราณ เพียงแต่ที่ดังเพราะเจ้าพระฝางท่านตั้งตัวเป้นใหญ่ ทำให้คนทั่วไปรู้จักมากกว่า เพราะเท่าที่ดู เคยไป และผ่านไปทางนี้บ่อยๆตั้งแต่จำความได้ ไม่พบเมืองโบราณหรือของเก่าใดๆนอกจากบริเวณวัดเท่านั้น ยังมีที่ไหนอีกไหมหนอ ตอนนี้ยังนึกไม่ออก ปล. ผมก็เป็นคนท่าเหนือครับ จากคุณ : urbandoctor (urbandoctor) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 09:24:40

ความคิดเห็นที่ 31 คุณฟาฬ < ขอบคุณมากๆเลยครับ ที่เอาลิงค์มาแบ่งปัน ผมละชอบใจจริงๆ ที่กล่าวกล่าวไว้ถึงภาครัฐว่า"มีแต่ลมปากกับการประชุม..." ผมเองเอาเรื่องพิชัยไปพูดก่อนนี้ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ เทศบาล ก็ตามที่ท่านกล่าวเลยครับ"มีแต่ลมปากกับการประชุม..." ไม่ยอมทำอะไรจริงจังซะที จนชาวบ้านทำนารุกที่ขึ้นเรื่อยๆ เอาอิฐโยนทิ้งกองขยะบ้าง บางส่วนบูรณะกันเองไปตามมีตามเกิด ผิดไปหมดทั้งศิลปกรรม สถาปัตยกรรม กลายเป็นผสมผสานมั่วกันไปหมด(สร้างบูรณะกันตามของที่ได้รับบริจาค)เสียดายจริงๆครับ urbandoctor < ขอบคุณมากๆเลยครับสำหรับข้อมูลที่ให้มา อุตรดิตถ์เมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ถ้าดูแลกันดีๆนะครับจะเป็นเมืองที่มหัศจรรย์ กว่าผลไม้ที่ปลูกได้อยู่ไม่กี่ที่ ที่โปรโมทกันอยู่ตอนนี้มากเลย ผมจะรอข้อมูลเพิ่มนะครับคุณurbandoctor^^  ขอบคุณและยินดีที่ได้รู้จักครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 09:50:46

ความคิดเห็นที่ 32 ไชโย มีเพื่อนแล้ว 5555 จบศิลปกรรม สนใจประวัติศาสตร์ เขียนหนังสือ ขอชื่นชม นับได้ว่าเป็นความกล้าหาญอย่างใหญ่หลวง ที่เขียนหนังสือออกมา แล้วหนังสือไม่ได้เข้าสู่กลไก "สายส่ง" ตามร้านหนังสือทั่วไป (ถ้าพิมพ์เองด้วย ต้องขอชื่นชมอีกครั้ง) แต่ที่นครศรีธรรมราช บ้านผม หนังสือเล่มนี้ไม่มีนะครับ คงต้องสั่งซื้อ แต่ขอพิเศษตรง คุณ ALPHA FO ช่วยเซนต์ชื่อมาให้ด้วยนะครับ จากคุณ : พี่คนใต้ใจดี เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 11:13:40

ความคิดเห็นที่ 33 ทีนี้ขอบ่น ประวัติศาสตร์ ปัจจุบันนี้อยู่ในหน้าหนังสือเท่านั้น เรียนแค่เพียงรู้ เพื่อที่จะเอาไปสอบให้ผ่าน เพราะไม่เชื่อที่อาจารย์สอน ก็สอบตก เพราะไม่เชื่อในพงศาวดาร จดหมายเหตุ ฯลฯ ก็กลายเป็น "กลุ่มความคิดล้าหลัง" เพราะไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองเคยเรียน เคยสอน ก็เสียความเป็นนักวิชาการ เสียความเป็นนักประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ในปัจจุบันไม่ได้เรียนเพื่อที่พัฒนาองค์ความรู้เชิงกว้าง และเชิงลึก ที่สัมพันธ์กันหมด รัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ ศาสนา ศิลปกรรม วัฒนธรรม การบูรณะผิดแบบ การอนุรักษ์แบบขอไปที จึงมีเกลื่อน บ่นแค่นี้แล้วกันครับ จากคุณ : พี่คนใต้ใจดี เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 11:28:01

ความคิดเห็นที่ 34 คุณพี่คนใต้ใจดี < ไชโยยยยย...เหมือนกันครับ ยินดีครับคุณพี่คนใต้ใจดี  ขอบคุณครับ พอดีผมได้ผู้ใหญ่สนับสนุนความตั้งใจผมด้วยน่ะครับ (ท่านไม่ให้เอ่ยชื่อ แต่ถ้าบอกจะร้องอ๋อเลยครับ) เลยต้องทำตั้งแต่หาข้อมูล เขียน วาดภาพประกอบ กระบวนการจัดพิมพ์ จนถึงการวางจัดจำหน่าย มีพี่ที่จบประวัติศาสตร์จุฬา และเป็นอ.พิเศษ มาช่วยตรวจ+ให้ข้อมูลด้วย น่าเสียดาย รูปภาพและข้อความหลายส่วนถูกทางโรงพิมพ์ของอนุญาตตัดออก ตัวอักษรที่ผมเรียบเรียงจะไม้วิชาการ ไม่เคร่งเครียด เด็กอ่านได้ ผู้ใหญ่ก็อ่านได้ครับ สำหรับรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว จะนำขึ้นจัดตั้งกองทุน "พระยาพิชัยดาบหัก กรุงธนบุรี" ครับ รายละเอียดอยู่ในบล๊อกครับ ----------------------------------- บ่นด้วยคนนะครับ ^^ กลุ่มผู้ที่มีอำนาจสั่งการในพื้นที่ไม่ให้ความสนใจเรื่องประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่มีอยู่แต่ละที่นี้เท่ากับการทำถนน หรือการสร้างอะไรสารพัด ที่บางอย่างใช้การไม่ได้ หลายๆท่านบอกว่าก็สนใจดิ๊นี่ไง ! (เสร็จแล้ว ก็จัดซุ้มให้เอาของไปวาง แล้วก็ตัวใครตัวมัน) บอกนี่ไงทำแล้ว ผมว่า การสนใจจริืงๆแล้วพวกท่านเหล่านั้นต้องศึกษา พร้อมกับรักษาไปให้ถูกทาง มากกว่าที่จะทุบ รื้อ สร้างใหม่ หรือแค่พูดกันในห้องประชุมที่ ดูเหมือนจะดีเหลือเกิน แต่พอออกจากห้องประชุมมาทุกอย่างก็เหมือนเดิม บางคนจะทำแต่ผลงานแต่ไม่ยอมทำงาน จึงไม่เกิดการต่อยอด.... อ่ะ บ่นยาวเลย (บ่นเป็นเพื่อนน่ะครับ อิอิ) จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 12:03:15

ความคิดเห็นที่ 35 ขออนุญาตมาต่อ ค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้ครับ "ท่าปลา ชื่อเดิมเรียกว่า "ทับป่า" ขึ้นอยู่กับจังหวัดน่านในสมัยเมืองน่านยังมีเจ้าเมืองเป็นผู้ครองนครน่านเมื่อประมาณร้อยปีเศษ โดยรวมแขวงศีรษะเกษกับแขวงท่าปลาเข้าด้วยกันเป็นเขตน่าน ต่อมาในปี พ.ศ. 2466 จึงแยกมาขึ้นกับจังหวัดอุตรดิตถ์" ดังนั้น โซนท่าปลา จึงเป็นเขตอิทธิพลของนครน่าน (จะว่าล้านนาซะทีเดียวก็ไม่เชิง เพราะบางช่วงนครน่านก้ไม่ได้ขึ้นกับล้านนา) โซนทางลับแล และบางส่วนของอำเภอเมืองส่วนที่ติดกับแพร่ จะขึ้นกับล้านนา แล้วมาขึ้นกับอยุธยาในช่วงหลัง โซนทุ่งยั้ง ตรอน พิชัย ก็ขึ้นกับสุโขทัย ก่อนจะผ่องถ่ายมาเป็นอยุธยา น้ำปาด ฟากท่า บ้านโคก ขึ้นกับล้านช้าง ถ้าจำไม่ผิด เพิ่งจะมาขึ้นกับไทยในสมัยธนบุรี แต่จังหวัดเล็กๆ คนสนใจก็น้อย หนังสือที่จะมีให้อ่านก็น้อย ต้องขยันอ่าน ขยันหาข้อมูล แล้วเอาจากที่มีเล่มละเล็กละน้อย มาประมวลเอาเอง อาจจะถูกบ้างผิดบ้าง แต่น่าจะถูกมากกว่าผิด อยากให้ผู้เกี่ยวข้องลองศึกษาประวัติศาสตร์ตรงนี้ดู ต่อไปจะมีประโยชน์มาก เพราะตอนนี้ เข้าใจว่าใกล้จะเปิดด่านผ่านแดนถาวรที่ช่องภูดู่เต็มที่แล้ว ผมไปมาล่าสุดเดือนธันวาปีที่แล้ว กำลังก่อสร้างถนนตรงด่าน มีการจัดตั้งด่านศุลกากร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง คึกคักขึ้นกว่าเดิมมาก เห้นว่าจะพยายามลิ้งค์กับหลวงพระบาง เพราะถ้าทำได้ จะกลายเป็นเส้นทางทางบกที่ใกล้ที่สุดจากไทยไปหลวงพระบาง เป็นไปได้สูงจะลิ้งค์กันมาตั้งแต่พิษณุโลก สุโขทัย และหลวงพระบาง ผมมองเอาเองว่า อาจจะพยายามทำให้เหมือนกับที่เราเคยลิ้งคืกับนครวัดของเขมร ขออภัยเจ้าของกระทู้ ที่ออกนอนเรื่องครับ และต้องขออภัยด้วยถ้าข้อมูลส่วนใดไม่ถูกต้อง ถ้าเห็นว่าผิดไปจากที่รู้ เข้ามาแก้ไขหรือติเตียนได้ครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : urbandoctor (urbandoctor) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 16:50:55

ความคิดเห็นที่ 36 คุณurbandoctor < ไม่นอกเรื่องหรอกครับ ขอบคุณมากๆเลยครับสำหรับข้อมูลดีๆที่ให้มา ทางช่องภูดู่จะเปิดเป็นตลาดนัดชายแดนช่วงเสาร์ อาทิตย์ครับ วันธรรมดาถ้าจะข้ามแดนต้องขออนุญาตจากที่ว่าการอำเภอบ้านโคก ใช้ใบผ่านแดนแทนพลาสปอร์ต ไปเช้าเย็นกลับ ก่อนด่านปิดน่ะครับ ทางไทยตอนนี้้พร้อมหมดแล้วครับ แต่ทางลาวเส้นทางยังแย่อยู่มากเลยครับ ยิ่งตอนหน้าฝนนี้เดินทางยากทีเดียว ต้อง 4WD เท่านั้น เพราะโคลนลื่นมาก เป็นช่องเขาที่ค่อนข้างลำบากน่ะครับ ถ้าฝนไม่ตกฝุ่นละเอียดจะหนามาก เดินทางค่อนข้างลำบากเรื่องยานพาหนะ และทางลาวเองก็ยังไม่มีเงินลงทุนในตอนนี้น่ะครับ ล่าสุดผมไปมาเมื่อช่วงเดือน ก.พ. นี่เอง เอาภาพมาแบ่งกันดูครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 17:18:57

ความคิดเห็นที่ 37 เสร็จแล้วก็เอาใบผ่านทางมาให้ที่นี่ก่อนน่ะครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 17:19:52

ความคิดเห็นที่ 38 จากนั้นก็ขับรถเข้าไป ต้องผ่าน ตม.ลาว เสียค่าธรรมเนียมอีกคนละ 400 บาทน่ะครับ(โหด) แต่ที่ตม.ลาวไม่ให้ถ่ายรูปเลย เข้ามากๆ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 17:21:10

ความคิดเห็นที่ 39 นี่แหละครับฝุ่น บางแห่งล้อหลังรถตะกุย มาถึงกระจกหน้าเลย ต้องพักรถก่อนไม่งั้นตกเขาเอาง่ายๆครับ มองไม่เห็นทางเลย จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 17:22:34

ความคิดเห็นที่ 40 อ่านที่คุณ urbandoctor เขียนมาแล้ว บวกจากการที่ไปเที่ยว "แม่ฮ่องสอน" "เชียงราย" "เลย" และประเทศลาว ประกอบกับมีเพื่อนเป็นคน อุตรดิตถ์ ดูซีเกมส์ ที่ถ่ายทอดจากลาว ฟังจากสำเนียงการพูดแล้ว ภาษาที่ใช้พูด คล้ายภาษาใต้ "สำเนียงนคร" บ้านผมมากๆ โดยเฉพาะ "สำเนียงเลย" กับ "ลาวเวียง" เหมือนมากๆ ศัพย์บางคำก็เหมือนกัน แต่ไม่ทั้งหมด ไม่รู้ว่าใครรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่า วัดบางวัดในภาคใต้ ก็มีภาพจิตรกรรมฝาผนังรูป ลาวพุงดำ หรือสาวรามัญ สาวพม่า ดูดบุหรี่ขี้โยเหมือนภาคเหนือ ภาคอีสาน ก็ "งงๆ" เหมือนกันว่า เหมือนกันได้ไง ถ้าเบื้องต้นก็ อาจจะมีการเทครัว และนำเอาแรงงานช่างฝีมือมาด้วย ไว้ค่อยนำรูปมาแสดงในกระทู้อื่นครับ จะได้ไม่รบกวนหัวข้อให้ออกนอกทาง ป.ล. ของผมชักทุนตัวเองเลยครับ โดยเฉพาะเรื่อง WWII นี่ถึงขั้นดาร์วรถได้แล้ว 5555 จากคุณ : พี่คนใต้ใจดี เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:08:52

ความคิดเห็นที่ 41 อ่านที่คุณ urbandoctor เขียนมาแล้ว บวกจากการที่ไปเที่ยว "แม่ฮ่องสอน" "เชียงราย" "เลย" และประเทศลาว ประกอบกับมีเพื่อนเป็นคน อุตรดิตถ์ ดูซีเกมส์ ที่ถ่ายทอดจากลาว ฟังจากสำเนียงการพูดแล้ว ภาษาที่ใช้พูด คล้ายภาษาใต้ "สำเนียงนคร" บ้านผมมากๆ โดยเฉพาะ "สำเนียงเลย" กับ "ลาวเวียง" เหมือนมากๆ ศัพย์บางคำก็เหมือนกัน แต่ไม่ทั้งหมด ไม่รู้ว่าใครรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่า วัดบางวัดในภาคใต้ ก็มีภาพจิตรกรรมฝาผนังรูป ลาวพุงดำ หรือสาวรามัญ สาวพม่า ดูดบุหรี่ขี้โยเหมือนภาคเหนือ ภาคอีสาน ก็ "งงๆ" เหมือนกันว่า เหมือนกันได้ไง ถ้าเบื้องต้นก็ อาจจะมีการเทครัว และนำเอาแรงงานช่างฝีมือมาด้วย ไว้ค่อยนำรูปมาแสดงในกระทู้อื่นครับ จะได้ไม่รบกวนหัวข้อให้ออกนอกทาง ป.ล. ของผมชักทุนตัวเองเลยครับ โดยเฉพาะเรื่อง WWII นี่ถึงขั้นดาร์วรถได้แล้ว 5555 จากคุณ : พี่คนใต้ใจดี เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:09:05

ความคิดเห็นที่ 42 เรื่องที่คุณ คนใต้ใจดีพูดถึงนั้น ทางสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ก็ทรงเคยให้ความเห้นไว้เช่นเดียวกัน ว่าน่าจะเป็นการเทครัวมาจากถิ่นพายัพ เรียกทิศเหนือเหมือนกันว่า ทิศหัวนอน เรียกทิศใต้ว่า ทิศตีนนอน น่าจะเกิดจากการเทครัวดังว่า จากคุณ : urbandoctor (urbandoctor) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:35:04

ความคิดเห็นที่ 43 ดีใจ  และสนับสนุนให้คนบ้านเอง  เขียนประวัติศาสตร์ท้องถิ่นกันออกมาเยอะๆ ค่ะ จะได้เพิ่มข้อมูล และองค์ความรู้ให้หลากหลาย ประวัติศาสตร์ไทย  จะได้สนุก  น่าสนใจ และมีชีวิตชีวายิ่งขึ้นค่ะ จากคุณ : ต้นจั่น เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:36:13

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณพี่คนใต้ใจดี และคุณ urbandoctor ที่ช่วยนำข้อมูลเพิ่มเติมาให้ครับ คุณต้นจั่น < ครับประวัติศาสตร์จะได้ไม่อยู่แต่ในหน้าหนังสือ ให้ทำแค่ผลงานทางวิชาการกันอย่างเดียว ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 07:22:57 จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 07:22:36

ความคิดเห็นที่ 45 เป็นหนังสือที่น่าสนใจมากๆ และถือว่าเป็นความภาคภูมิใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ เราเองคงรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน เพราะหลายๆสถานที่ที่อาจลืมเลือนไปตามกาลเวลาสำหรับใครหลายคน แต่หากมีใครเห็นคุณค่าแม้เพียงเสี้ยวหนึ่ง แต่ก็ถือว่าเป็นแสงประกายที่สามารถทำให้คนที่ละเลยผ่านไป อาจเหลียวหลังกลับมาดูได้ ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ก่อให้เกิดประกายเล็กๆอันนี้ ปล.รูปสวยมากๆค่ะ จากคุณ : sawkitty เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 08:42:21

ความคิดเห็นที่ 46 คุณsawkitty < ขอบคุณครับคุณsawkitty ใช่ครับให้หันกลับมามองกันบ้าง ก่อนที่จะสูญหายไปกับกาลเวลา แล้วค่อยมาตามหา...ขอบคุณอีกครั้งครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 13:36:18

ความคิดเห็นที่ 47 เข้ามาขอบคุณสำหรับกิฟกำลังใจเพิ่มเติมครับ คุณไวน์มันแกว, Blue Sky in My Heart, กุ้งบก, sawkitty, วิมลัก, rain_breath, little kitty, Ugine ขอบคุณครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 18:45:24

ความคิดเห็นที่ 48 ขออนุญาตมาตอบคุณคนใต้ใจดี เพราะหาข้อมูลได้เพิ่มอีกครับ         พอสมเด็จพระราเมศวรได้ครองกรุงศรีอยุธยาก็เปลี่ยนราโชบายให้เป็นไมตรีดีกันกับเมืองเหนือตามเยี่ยงอย่างพระเจ้าอู่ทอง  เห็นจะรวมอาณาเขตทางแม่น้ำพิงค์ไปให้พระมหาธรรมราชาที่ ๒ บังคับบัญชาเหมือนอย่างเดิม  พระมหาธรรมราชาก็สมัครภักดีต่อสมเด็จพระราเมศวร  ประจวบกับมีเหตุเกิดขึ้นในประเทศล้านนา  ด้วยเมื่อพระยาสามฝั่งแกนขึ้นครองเมืองเชียงใหม่  เจ้ายี่กุมกามผู้เป็นพระเชษฐาครองเมืองเชียงราย  หมายจะชิงราชสมบัติ  ยกกองทัพลงมา  แต่สู้พวกเมืองเชียงใหม่ไม่ได้  จึงให้ลงมาขอกำลังพระมหาธรรมราชาที่ ๒ ไปช่วย  พระมหาธรรมราชาเห็นได้ที  จึงเชิญสมเด็จพระราเมศวรขึ้นไปตีเมืองเชียงใหม่  พระมหาธรรมราชารับเป็นทัพหน้า   ครั้งนั้นได้ครอบครัวพวกไทยลื้อเป็นเชลยลงมาเป็นอันมาก  โปรดให้ส่งออกไปตั้งภูมิลำเนาอยู่ตามหัวเมืองในแหลมมลายู  เป็นต้นวงศ์ของพวก "ชาวนคร" สืบต่อมา  จึงพูดเป็นสำเนียงลื้อ  และยังใช้ศัพท์ภาษาไทยลื้อปรากฏมาจนบัดนี้ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระนิพนธ์ถึงเรื่องนี้ไว้ดังนี้ สมเด็จพระราเมศวรตีเมืองเชียงใหม่ครั้งนั้น (พุทธศักราช 1927) จะตีได้เมืองเชียงใหม่ดังพระราชพงศาวดารว่าก็ตาม หรือตีได้เมืองเชียงราย ดังตำนานโยนกว่าก็ตาม ความจริงมีอยู่อย่างหนึ่งซึ่งเชื่อได้เป็นแน่ว่า ได้กวาดต้อนชาวเมืองมณฑลพายัพลงมาในครั้งนั้นเป็นอันมากและได้ส่งออกไปอยู่ภาคใต้ ตั้งภูมิลำเนาอยู่เมืองไชยาลงไปจนถึงเมืองนครศรีธรรมราชและพัทลุง หลักฐานในข้อนี้ ยังเห็นได้ด้วยราษฎรไทยในมณฑลนครศรีธรรมราชและเมืองใกล้เคียงที่เราเรียกกันว่า “ชาวละคร” ทุกวันนี้ ยังมีคำที่ตรงกันกับภาษาชาวมณฑลพายัพอยู่หลายคำ เช่น ทิศใต้ ทิศเหนือ ทั้งชาวพายัพและชาวละคร เรียกว่า ทิศหัวนอน และทิศปลายตีน ลูกสับปะรด เรียกว่า นานัด เสื่อ เรียกว่า สาด เหมือนกัน และที่แปลกกว่านั้น เมื่อไม่กี่ปีมานัก มีพวกลื้อเชียงคำลงมากรุงเทพฯ ได้พบพูดกับลื้อพวกนั้น สำเนียงพูดภาษาไทยเหมือนชาวละครไม่มีผิด และใช้คำว่า “ผม” ว่า “ฉาน” เป็นคำรับอย่างคำว่า “ขอรับ” เหมือนกับชาวละคร จึงเชื่อได้โดยไม่ต้องสงสัย ชาวละครนั้น เดิมลงไปจากมณฑลพายัพเป็นแน่ จากคุณ : urbandoctor (urbandoctor) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 18:50:39

ความคิดเห็นที่ 49 เข้ามารับความรู้เพิ่มด้วยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 19:04:21

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณ คุณurbandoctor มากครับ มีหลักฐานหลายอย่างที่ ตั้งคำถามไว้ แต่ยังไม่ได้ตามหาต้นตอ อย่างที่ นครฯ พัทลุง ก็มีการ "เล่นสะบ้าดูตัว" เหมือนชาวรามัญ ที่ให้สาวๆ มานั่ง "ปักลูกสะบ้า" การกินขนมจีน กินกันจริง กินกันจัง ขนมจีนเมืองนครฯ พอสืบไป สืบมา ขนมจีน น่าจะมาจาก "ขะหนอม จีน" ภาษามอญ แปลว่า "แป้งต้มสุก" แต่ที่น้อยใจอยู่นิด ก็ตรง "โค ขะ ละ สุ" นี่แหละ โค ราชเป็นชาติเชื้อ      คนคด ขะ ว่าเขมรพูดปด         ปากโป้ง ละ ครพวกพูดหมด       เป็นมุ สาเอย สุ  พรรณคนคดโค้ง      แลบลิ้นถึงหู ผมเอง เชื้อทางพ่อ จีนฮกเกี้ยน+สุพรรณ เชื้อทางแม่ จีนไหหลำ มีเขมรเจือมา (อย่างหลังไม่ชัวร์) บ้านอยู่ นครฯ กิน พูด คิด เดิน เหิน คนนครฯ ทุกอย่าง นี่ถ้าได้เมีย "โคราช" 5555 สนุกแน่ๆ แต่พอดีแฟนผม รามัญ สืบไปสืบมา อ๋อ สาย "พึ่งบุญ ณ อยุธยา" กองอาสามอญในกรมพระราชวังบวรฯ ในรัชสมัย ร. 1 เธอโม้ว่า วัด ตองปุ (วัดชนะสงคราม นั่นแหละ ญาติโยโหติกาฝ่ายเธอนั้นแหละเป็นคนสร้าง เพราะรบชนะสงคราม) แต่คนละสายกับ "ไม้เมืองเดิม" ไม้           = ก้าน เมืองเดิม   = พึ่งบุญ ณ อยุธยา ต่อมาน้องชาย "กิ่ง พึ่งบุญ ณ อยุธยา" มาแต่งต่อจนจบ รู้สึกใช้ชื่อ สมทุม บุญเกื้อ (ถ้าผิดพลาดขออภัย) เขียนมายืดยาว ไม่เกี่ยวกับกระทู้เลย เป็นคำถาม ที่ค้นหาคำตอบอยู่ จากคุณ : พี่คนใต้ใจดี เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 11:46:10

ความคิดเห็นที่ 51 ขออนุญาตค้านนิดนึงนะครับ ถ้า"พึ่งบุญ ณ อยุธยา" เห็นจะไม่ใช่กองอาสามอญนะครับ เพราะต้นราชสกุลคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไกรสร กรมหลวงรักษ์รณเรศ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และ เจ้าจอมมารดาน้อยแก้ว ภายหลัง ประพฤติกำเริบ ทำตนเทียมเจ้าในงานลอยกระทง เกลี้ยกล่อมเจ้านาย ขุนนางและซ่องสุมกองทหารรามัญไว้เป็นพวกพ้อง แต่ถูกสอบสวนว่าซ่องสุมผู้คนไว้มากเพื่อคิดกบฏหรือไม่ หม่อมไกรสรตอบปฏิเสธน้ำขุ่น ๆ ว่า "ไม่ได้คิดกบฏ" แต่เมื่อถามว่า หากเปลี่ยนแผ่นดินเมื่อไหร่ก็จะไม่ยอมเป็นข้าใคร ยังมีประเด็นความผิดอื่นอย่าง ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และทุจริต, หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ กระทำการเลียนแบบเจ้านาย, มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ ทำให้ทรงถูกถอดจากกรมหลวงรักษรณเรศร เป็นเพียงหม่อมไกรสร แล้วนำไปสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ที่วัดปทุมคงคา พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไกรสร กรมหลวงรักษ์รณเรศ เป็นต้นราชสกุล พึ่งบุญ ได้รับพระราชทานเป็นลำดับที่ 3 ในสมัยรัชกาลที่ 6 แต่แปลกกว่าราชสกุลอื่นตรงที่จะนำพระนามของต้นสกุลมาตั้งออกพระนาม ส่วนราชสกุล "พึ่งบุญ" กลับไม่ใช้พระนามของพระองค์เจ้าชาย "ไกรสร" ทั้งนี้เพราะบรรดาเจ้านายที่สืบเนื่องลงมาล้วนถูกประหารไปในคราวเดียวกัน เว้นแต่ มรว. และ มล. ซึ่งไม่ได้นับว่าเป็นเจ้า แต่เป็นผู้สืบเนื่องในพระราชวงศ์ ภายหลัง หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ ได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้ง พลเอก พลเรือเอก เจ้าพระยารามราฆพ ในคราวที่รัชกาลที่ 6 ทรงพระราชทานนามสกุล พระองค์ทรงดำริว่า บรรดาลูกหลานของหม่อมไกรสร ล้วนแต่ถูกตั้งข้อรังเกียจ เพราะเหตุดังกล่าวข้างต้น หากไม่ได้พระองค์ทรงชุบเลี้ยง หรือพึ่งบุญของพระองค์ การใช้ชีวิตคงจะยากลำบากไม่น้อย จึงพระราชทางนามสกุลแก่ราชสกุลนี้ว่า พึ่งบุญ ณ อยุธยา หากผิดพลาดตรงไหน ทักท้วงได้นะครับ จากคุณ : urbandoctor (urbandoctor) เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 18:04:53

ความคิดเห็นที่ 52 ไม่ได้เข้าพันทิปนานนนนน เพิ่งเห็นกระทู้แนะนำ แวะมาต่อแถวชื่นชมครับ จากคุณ : คุณพีทคุง (พิธันดร) เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 08:16:58

ความคิดเห็นที่ 53 อยากได้หนังสืออ่ะคับ ซื้อได้ที่ไหนมั่งคับ คนอุตรดิตถ์แต่ไม่ได้รู้เรื่องจังหวัดตัวเองเล๊ยยยย จากคุณ : กริช (กริชครับผม) เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 10:51:09

ความคิดเห็นที่ 54 โห ไม่คิดที่จะคัดค้านเลยครับ คุณurbandoctor เพราะคราวนี้ผมจะได้มีโอกาส "ขึ้นเสียง เถียงกับแฟน" ได้สักที 5555 เดี๋ยวจะพาเจ้าตัว มาดูกระทู้นี้ ขอบคุณมากๆ ครับ คุณurbandoctor ป.ล. ถ้าเธอจะหาข้อมูล มาเถียงกับ คุณurbandoctor ถ้า คุณurbandoctor ข้อมูลแน่น ช่วยเถียงแทนผมด้วยนะครับ 5555 ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : พี่คนใต้ใจดี เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 19:01:29

ความคิดเห็นที่ 55 มาแสดงความดีใจด้วยค่ะ จากคุณ : teansri เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 19:39:09

ความคิดเห็นที่ 56 คุณurbandoctor< ขอบคุณสำหรับข้อมูลและกำลังใจดีๆครับ คุณพีทคุง < คุณพีทเข้ามาต่อแถวที่ 52  เดี๋ยวจะไปซื้อหวย 5555 คุณกริช (กริชครับผม)< คุณกริชเข้าดูสถานที่จำหน่ายในบล๊อกผมเลยครับ ด้านซ้ายมือ ถ้าอยู่อุตรดิตถ์ ก็ที่ศรีพงษ์กรุ๊ปครับ ที่พิษณุโลกในท๊อปแลนด์ บิ๊กซี โลตัส เสียงทิพย์ ลองดูรายละเอียดในบล๊อกอีกที่นะครับ พี่คนใต้ใจดี <ค่อยๆคุยกันนะครับ โบราณบอกว่าภรรยาต้องมาก่อน อิอิอิ คุณteansri  < ขอบคุณคุณเทียนสีด้วยครับ บทความในบล๊อกคุณเยี่ยมากเลยครับ กิฟกำลังใจดีๆที่ใเพิ่มห้มา< คุณพิณพลอย, Max2000, สมอ้อ, หนูน้อยฟ้าใส, akkarachai, I'm a SkyWalkEr,หนุ่มรัตนะ, Healing Staff, วิมลัก, Navarat.C, Ave Maria, vemagold, ศุกร์เล็งลัคนา, salamis, little kitty, Mary's Garden ขอบคุณครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 20:59:12

ความคิดเห็นที่ 57 เข้ามาให้กำลังใจและแสดงความยินดีครับ จากคุณ : sundown เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 12:18:52

ความคิดเห็นที่ 58 คุณsundown < เข้ามารับกำลังใจบวกกับกระจายให้คนรอบข้าง และขอบคุณครับ^^ ขอบคุณกิฟกำลังใจเพิ่มเติมด้วยครับคุณ, akkarachai, I'm a SkyWalkEr, zekarn, พี่คนใต้ใจดี ขอบคุณครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 17:42:44

ความคิดเห็นที่ 59 จะหาซื้อหนังสือมาอ่านนะคะ จากคุณ : กุลธิดา (kdunagin) เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 08:08:25

ความคิดเห็นที่ 60 คุณกุลธิดา < อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างบอกด้วยนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : ALPHA FO เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 12:54:04