 |
ความคิดเห็นที่ 1 |
ลาออกจากงานมาเรียนปริญญาตรีด้านภาษาอีกใบ ไม่มีหลักประกันอันใดว่าปริญญาตรีด้านภาษาจะทำให้เก่งจนเด่นชัดถึงกับก้าวหน้าด้านอาชีพการงานได้มากกว่าเดิม เผลอๆเรียนจบปริญญาตรีใบที่ 2 แล้วอายุเยอะหางานลำบากอีกต่างหาก
ทางที่ดีไปเรียนแค่ conversation ที่ aua โดยไม่ลาออกจากงานจะดีกว่า ในรอบ 20 กว่าปีที่ผ่านมาเราเจอคนไทยประมาณ 5 คนที่ไม่เคยไปเรียนเมืองนอก แค่เรียน aua มาแล้วพูดอังกฤษคล่อง สำเนียงดี พูดไม่ผิด grammar ซึ่งน่าทึ่งมากๆ แต่ไม่ใช่เรียน 2-3 เดือนนะ พวกเขาเรียนเกือบครบทุกระดับ ใช้เวลาค่อนข้างนาน ถ้าคุณไปเรียนที่ aua ได้ถึงระดับนั้นนะ คุณก็จะอ่านภาษาอังกฤษระดับง่ายๆเกือบๆจะถึงระดับปานกลางรู้เรื่อง จากนั้นคุณก็ต่อยอดเรียน reading comprehension กับ writing ยากๆได้ โดยเรียนจากบทเรียนของฟรีบนเวปต่างประเทศที่มีสื่อหลากหลาย ตั้งแต่ texts, mp3 และ video clips
แต่ในทางกลับกันในรอบ 20 ปีกว่าปีที่ผ่านมา คนไทยที่เราพบหลายๆคนที่เก่งอัีงกฤษมากๆขนาดใช้ภาษาอังกฤษประกอบอาชีพหาเงินได้มากแบบเก่งกาจจริงๆ ที่เรียนในเมืองไทย ไม่ได้เรียนต่างประเทศ ส่วนใหญ่เก่งอังกฤษมาตั้งแต่เรียนประถมและมัธยมอยู่แล้วทั้่งนั้น
คนที่จะมาเรียนอัีงกฤษฟิตจัดตอนโตแล้ว ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่ถ้าไม่ใช่อัฉริยะทางด้านภาษาละก้อ บางทีึคุณมาเริ่มอายุ 29 ปี ถ้าไม่มีครูระดับเทพมาติวเข้มให้คุณจริงๆ (ซึ่งต้องใช้เงินมหาศาล) กว่าคุณจะเก่งแบบอินทรีย์แก่กล้าผงาดได้จริงๆ คุณคงคลำผิดคลำถูกไปจนอายุเกิน 40 เข้าไปแล้ว...เพราะภาษาอังกฤษม้ันยากถึงกับบางทีเรียนมา 10 ปีแต่เขียนผิดเละเลยก็มี มันไม่เหมือนเรียนภาษาจีนซึ่งมีโครงสร้างคล้ายๆภาษาไทย ที่คนเรียนภาษาจีนแค่ท่องแต่ศัพท์หนักๆสัก 4-5 ปี (ไม่ต้องเรียน grammar มากเหมือนภาษาอังกฤษ) ก็เขียนภาษาจีนได้ไม่ีผิดเพี้ยนเหมือนคนไทยเรียนภาษาอังกฤษตั้ง 10 ปี แล้วก็ยังเขียนผิดเพี้ยนมากมาย
ดังนั้น เพื่อความไม่เสี่ยงควรเก็บงานประจำไว้ และไปเรียน aua ตามด้วยเรียนรู้ส่วนที่เหลือด้วยตนเองจากเวปต่างประเทศ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ตามขั้นตอนที่เราแนะนำ ชีวิตจะปลอดภัยไม่ีเครียดมากนัก
| จากคุณ |
:
fortuneteller   
|
| เขียนเมื่อ |
:
16 มิ.ย. 53 15:38:04
|
|
|
|
|
