ความคิดเห็นที่ 1 นี่ไง ตัวอย่างที่ดีมาแล้ว จากข้อมูลที่คุณให้มา ระดับภาษาของคุณใช้ได้ทั้ง ฟัง อ่าน แสดงว่าคุณตุน input ไว้ในคลังสมองมากพอควรแล้ว ด้าน output คุณพูดได้คล่องแล้ว ก็เหลือแต่การเขียน ทำอย่างไรจึงจะเอา input ที่ตุนไว้นั้นมาใช้ในการเขียนได้คล่อง? จะเขียนได้คล่องก็ต้องเขียนบ่อยๆ สิครับ ไม่มีทางอื่น เขียนมันทุกวันเลย เข้ามาตอบกระทู้เป็นภาษาอังกฤษในห้องนี้แหละ ผิดถูกไม่มีใครเขาว่าหรอกเพราะห้องนี้เป็นห้องของการเรียนรู้และการฝึก ผมก็พลาดบ่อยๆ ไป ทั้งจากความเข้าใจผิด พิมพ์ผิดแล้วไม่ได้ตรวจทานให้ดีก่อนส่งข้อความ ฯลฯ ไม่ต้องอายครับถ้าตอบกระทู้เป็นภาษาอังกฤษแล้วพลาด เซียนๆ แถวนี้ก็พลาดบ่อยไป เรื่องธรรมดาครับ ไม่ต้องไปเรียนที่ไหนให้เสียเงินเสียเวลาในการเดินทางหรอกครับ เอาเวลาเหล่านั้นมาตอบกระทู้เป็นภาษาอังกฤษทุกวัน ไม่เก่งให้มันรู้ไป! จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 06:55:59

ความคิดเห็นที่ 2 มหาลัยต่างแดนหลายแห่งสอน writing ได้ดีเพราะมีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เยอะ แต่เท่าที่เห็นคนจบเอกอังกฤษจากมหาลัยไทยนะ ไม่เคยเจอคนจบปริญญาตรีเอกอังกฤษมาแล้วเขียนอังกฤษเก่งมากๆทัีนทีที่รับปริญญาเลย คนที่จบมหาลัยไทยแล้วเขียนอังกฤษเก่งมากๆ ไม่ได้เก่งเพราะมหาลัยไทยสอนให้เขียนเก่งได้ทันที แต่คนพวกนั้น "หาตำรา writing จากต่างประเทศมาศึกษาอย่างหนัก และทำงานด้านภาษามาเป็นเวลาหลายปี" อย่างพวกเด็กอักษรศาสตร์จากมหาลัยปิดดังๆที่เขียนภาษาอังกฤษเก่งๆ หลายๆคนที่เราเคยทำงานด้วย บางคนแปลไทยเป็นอังกฤษ แล้วเขียนอังกฤษออกมาได้ระดับเทพ (ค่าตัวแพงมากๆ) กว่าจะเก่งมากๆขนาดนั้้นนะ ส่วนใหญ่ จบมาแล้ว และลงมือทำงานด้านภาษา (ในขณะที่อ่านตำราจากต่างประเทศ) อีกตั้ง 10 กว่าปี กว่าจะเก่งได้ในระดับนั้น...ให้สังเกตุเซียนแถวๆนี้ที่เขียนอังกฤษเก่งมากๆโดยไม่เคยไปเมืองนอกสิ ลองหลอกถามอายุพวกเขาสิ หลายๆคนอายุอานามปาเข้าไปตั้งเท่าไหร่กว่าจะเขียนอังกฤษเก่งขนาดนั้น...!!!?? นั่นก็หมายจากความรู้ที่คุณมีอยู่ คุณไป หาตำรา writing จากต่างประเทศมาศึกษาเอง คุณก็เขียนเก่งได้โดยไม่ต้องไปเรียนปริญญาตรีเอกอังกฤษแต่อย่างใด หลักการที่สำคัญก็คือ "มหาลัยไทยช่วยเรื่อง writing ได้ไม่มากนัก แต่ตำราภาษาอังกฤษจากต่างประเทศ ซึ่งเขียนโดยผู้เชี่ยวชาญฝรั่ง ช่วยให้เก่งเรื่อง writing ได้เหมือนยาวิเศษจริงๆ" แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 09:22:10 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 09:20:43

ความคิดเห็นที่ 3 มีตำราเล่มไหนแนะนำบ้างป่ะครับ คุณ fortuneteller.... อยากเก่งเหมือนพวกคุณๆมั่ง อยากกระตุ้นตัวเองบ้างเหมือนกัน จากคุณ : At Your Service เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 12:04:09

ความคิดเห็นที่ 4 "..ลองหลอกถามอายุพวกเขาสิ.." >> ยี่สิบต้นๆ จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 12:35:58

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบ คคห 3 คำี่ีรามีเยอะแยะตาแป๊ะเป็นลม แต่ตอนเริ่มเรียนใหม่ๆไม่ต้องไปเสียเงินซื้อ หาของฟรีบนเวปมีเยอะแยะไป ลองใช้ keywords พวกนี้หาจาก google ดูดิเช่น writing academic writing esl writing improve your writing writing exercises for esl students writing english writing essay writing letter reading towards writing discourse analysis sentence structure sentence diagramming writing workshop grammar and writing โอ้ยยังมีอีกเยอะ แต่นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างการ search บทเรียน writing แบบง่ายๆนะ ถ้าจะเอา writing ในระดับสูงกว่านั้น หรือต้องการหาของฟรีในรูปแบบอื่นๆ อีกหลายๆรูปแบบ มันก็จะต้องใช้เทคนิคการ search ที่ซับซ้อนมากกว่านี้อีกหลายๆเท่า ลองไปคิดค้นวิธี search พลิกแพลงดูเอาเองบ้างดิ เรียนกันไม่ไหวเยอะเหลือเกิน ของฟรีทั้งน๊านเลย บางทีเราเล่น download video clips เหมือนพวกบันทึุกการสอนภาษาอังกฤษในมหาลัียต่างประเทศมาเรียนเลยหละ (ซึ่งแบบนี้ต้องออกแรง และใช้ฝีมือหน่อย) ส่วนใหญ่เราก็เรียนจากของฟรีพวกเนี้ยแหละ จริงๆแล้วเราก็ขี้เกียจเรียนจะตายชักไป...555+++... แต่ก็ต้องจำใจเรียนเพื่อคงไว้ซึ่งความสามารถในการแข่งขันในตลาดงาน เพื่อแข่งกับพวกลูกคนรวยๆที่มีเงินไปเรียนเมืองนอก ม่ายงั้นเราก็จะแย่ลงทุกวัน ทุกวัน ส่วนใหญ่เราจะใช้ทักษะคอมพิวเตอร์กับอินเตอร์เน็ต (ที่เราชำนาญ และค่อนข้างมีสมองพลิกแพลงด้านนี้มากหน่อย) มาเป็นเครื่องมือในเรียนภาษาอังกฤษแข่งกับคนที่มีพรสวรรค์ทางด้านภาษา เพราะตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจอยู่ ก็ต้องฮึดสู้ต่อไปเรื่อยๆ คือทุกวันนี้เราก็พอที่จะหางานด้านภาษาอังกฤษทำได้อยู่เรื่อยๆโดยที่เวลาสมัครงานเราไม่เคยเอาปริญญาทางด้านภาษาไปสมัครเลย...เพราะไม่มี...555+++...และเราก็หัวดื้อ ดันทุกรังขวางโลก ไม่ยอมไปเรียนต่อเอาวุฒิทางด้านภาษาสูงๆมาเป็นใบเบิกทางซะด้วย เพราะเล่นเรียนนอกระบบด้วยตัวเอง มันท้าทายดีอ้ะ...เวลาสมัครงานด้านภาษาอังกฤษเราก็เอาผลงานไปสมัคร หรือไปพูดกล่อมให้เขาเชื่อว่าเรามีความสามารถพอที่จะทำงานได้...คือถ้าสู้ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล...นั่นหละ...อิๆๆ... แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 14:53:44 แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 14:43:47 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 14:39:08

ความคิดเห็นที่ 6 อืม ขอบคุณค่ะ ตอนนี้อยู่บ้านนอกอย่างแรง ไม่ค่อยได้เข้ามาในโลกไซเบอร์เท่าไหร่ ที่ทำได้เลยพยายามเขียนไดอารี่เป็นภาษาอังกฤษ แต่ไม่กล้าพอที่จะเขียนไรลงweb (แอบอายทักษะตัวเอง 55) คือไม่ได้กวนนะคะ แต่กำลังสงสัยว่าถ้าเราเรียน writing จากหนังสือนี่มันจะได้ผลมั้ย คือเห็นว่าถ้าเราเขียนๆ แต่ไม่มีคนคอยตรวจหรือไร มันก็เหมือนกับว่าเราก็ผิดซ้ำๆเดิมอ่ะค่ะ (ไม่เคยอ่านหนังสือ writing จริงจังเคยแต่อ่านที่เป็นสอบ ielts) เรื่องการทำงานด้านภาษาคิดว่าคงไม่สามารถทำได้อ่ะค่ะ เนื่องจากใจที่ไม่ได้รักภาษาแล้วมีความชอบส่วนตัวอย่างอื่น เพียงแต่งานที่ต้องการทำจะเป็นแนวใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารซะส่วนมาก อย่างไรก็ตาม ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ เดี๋ยวจะลองโหลดหนังสือดู จากคุณ : บ้านมะนาว เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 19:48:30

ความคิดเห็นที่ 7 >> คือเห็นว่าถ้าเราเขียนๆ แต่ไม่มีคนคอยตรวจหรือไร มันก็เหมือนกับว่าเราก็ผิดซ้ำๆเดิมอ่ะค่ะ << ก็คนในนี้ไงครับที่คอยช่วยตรวจให้ พี่ ป้า น้า อา ในห้องนี้ที่เก่งและใจดี มีเป็นกะตั้ก จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 20:31:48

ความคิดเห็นที่ 8 ตอบ คคห6 การเรียนเขียนเราไม่ได้อยู่ดีๆเขียนมันไปเรื่อยสะเปะสะปะแบบหลงทาง แต่เราเรียนอ่านก่อนโดยอ่านจากง่ายไปหายาก แล้วหัดเอาข้อความที่อ่านเจอไปเขียนเลียนแบบ แต่พลิกแพลงไปตามตัวอย่างประโยคที่ค้นเจอใน dictionaries อังกฤษ-อังกฤษ และค้นเจอจาก google โดยถ้ามีข้อสงสัยเรื่อง grammar  ก็เปิดตำรา  grammar เรียนเป็นเรื่องๆไป ในการทำงานที่ต้องเขียนอังกฤษยากๆ เช่น แปลไทยเป็นอังกฤษ เราให้ google ตรวจภาษาอังกฤษให้ คือเขียนอะไรไปแล้วถ้าไม่แน่ใจว่ามีใครเขียนแบบนี้หรือเปล่า เราก็ search ดูว่ามีฝรั่งที่ไหนเขียนแบบเราบ้างหรือเปล่า? ถ้าไม่มี บางทีเราไปเจอข้อความที่ฝรั่งเขียนไว้คล้ายๆเราแต่เขียนดีกว่าเรา เราก็เอาของเขามาดัดแปลง การเรียนเขียนก็เหมือนการเรียนพูด นั่นก็คือ "เราเลียนแบบเจ้าของภาษา" คนที่เรียนเขียนควรเก่ง conversation พอสมควรเป็นลำดับต้นๆ เพราะถ้าฟังกับพูดยังไม่คล่องเวลาเขียนมันจะคิดเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้ ทำให้เรียนได้ค่อนข้างยาก ถ้ายังไม่เก่ง conversation ก็ลองไปเรียนที่ aua ก่อนก็ได้ เราเคยเจอคนเรียนจาก aua มาประมาณ 5 คน พูดเก่ง สำเนียงชัีด และพูดไม่ผิด grammar เลย ถ้าพูดได้ขนาดนั้นนะ ก็จะอ่านภาษาอังกฤษระดับง่ายๆถึงระดับปานกลางได้ และก็จะอ่านตำรา writing จากต่างแดนได้ ก็ค่อยๆหาบทเรียนจากต่างประเทศ (ตามที่เราแนะนำวิธี search ใน คคห5 ) มาค่อยๆเรียนไปเรื่ีอยๆ ก็จะเขียนเก่งได้ในที่สุด แต่ต้องออกแรงมากๆนะ แก้ไขเมื่อ 18 มิ.ย. 53 11:05:58 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 11:03:01

ความคิดเห็นที่ 9 หมายเหตุ เมื่อสม้ัยยังไม่มีอินเตอร์เน็ตเราจำเป็นต้องเรียนเขียนภาษาอังกฤษ เราเคยมีความรู้สึกว่า เราเสียเปรียบคนที่เรียนเอกภาษาอังกฤษในมหาลัยต่างประเทศวุฒิสูงๆ แต่พอมีอินเตอร์เน็ตแล้วเรากลายเป็นค้นพบว่า คนที่เก่งคอมพิวเตอร์กับอินเตอร์เน็ตมากๆสามารถเรียนภาษาอังกฤษทาบรัศมีัหรือเรียนให้เก่งกว่าคนที่เรียนเอกภาษาอังกฤษในมหาลัยต่างประเทศวุฒิสูงๆได้อย่างสบายๆ เพราะคนเรียนเอกอังกฤษในมหาลัยต่างประเทศใช้ตำราอะไรเรียนใช้สื่อแบบไหนเรียน เก่งคอมพิวเตอร์กับอินเตอร์เน็ตซะอย่างก็หามาเรียนได้ครบถ้วนหมด แพ้ชนะกันแค่มีปริญญาเป็นใบเบิกทางเท่านั้น แต่ก็ไม่แน่เสมอไป เพราะบางทีเวลาหางานเช่นหางานแปล เราส่งตัวอย่างการแปลไปแข่งขันกันก็มี ใครเขียนดีกว่าก็ได้งานไปทำ จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 11:18:39

ความคิดเห็นที่ 10   Many people believe that if we want knowledge, we have to seek it from a school or university. They believe that knowledge must come from an expert who is a teacher.As a matter of fact, knowledge exists everywhere depending on whoever is interested in collecting it for his own benefit. Change knowledge into thoughts and apply these thoughts in self-development for your progress later. Bee Kaniyo. beefs1@gmail.com จากคุณ : Bee Kaniyo. เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 14:33:12 A:192.168.2.112 X:58.9.126.10 TicketID:270988