ความคิดเห็นที่ 1 หลัง ๒  ก.หลง  มักใช้เข้าคู่กับคำ บ้า  เป็น  บ้าหลัง จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 09:50:45

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณ นายช่างปลูกเรือน นะครับสำหรับคำตอบ แต่อ่านแล้วยังไม่ค่อยแน่ใจว่า ที่ต้องการสื่อ คือ คำว่า หลัง มีความหมายที่ 2 เป็นคำกริยา แปลว่า หลง ใช่หรือไม่ครับ หรือว่าผมยังเข้าใจผิดอยู่ครับ จากคุณ : เกี๊ยวกรอบหน้ามอ เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 17:00:41

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นบ้าเป็นหลัง  ก็คือ เอาจริงเอาจังเกินไป คำว่า หลัง ที่ พจนานุกรม แปลว่า หลง , ก็ไม่ทราบว่า เป็น หลงใหล, หลงลืม หรือ หลงทาง,  ยังไม่พบคำนี้ ในภาษาไท อื่น ๆ ภาษาพูด มีมานับ พันปี, ตัวหนังสือ ไทย อย่างมากไม่เกิน หนึ่งพันปี , พจนานุกรมไทย มีมาสัก ๑๐๐ ปี และ อยากจะบอกว่า  วลี หรือ หมู่คำ  นั้น  บางที เราไม่สามารถแปลออกมาทีละตัว แล้วตรงกับความหมาย ในพจนานุกรม ที่เกิดมาทีหลัง แปลไม่ออก อาจเป็นเพราะ เป็น คำที่เลิกใช้กันมานานแล้ว จนไม่มีใครรู้ความหมาย แต่คำนั้นยังติดอยู่ใน วลี หรือสร้อยคำ หรือ ไม่ก็ คำนั้น ไม่มีความหมายอะไรเลย   ผู้พูดใส่เข้ามาเฉย ๆ แต่เป็นที่นิยมใช้กันต่อ ๆ มา เหมือน เป็นวักเป็นเวร/เป็นวรรคเป็นเวร  ถ้าแปลทีละตัว   ก็ไม่ได้ความหมายว่า  ไม่รู้จักจบจักสิ้น การให้ความหมายของ วลี แบบนี้ ก็ต้องอาศัย คำหรือข้อความแวดล้อม อื่น มาประกอบด้วย (เป็นไปได้ว่า อาจให้ความหมายไม่ถูกต้อง) จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 19:30:04

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณนะครับ คุณยกตัวอย่างคำว่า เป็นวรรคเป็นเวร ทำให้ผมเข้าใจมากขึ้นเลยว่าเอามาแปลที่ละตัวไม่ได้ และทำให้ผมนึกขึ้นมาได้อีกกลุ่มคำได้เช่น เป็นตุเป็นตะ แต่ว่า ผมมีข้อสงสัยอีกนิดนึงครับ อย่างคำว่าเป็นวรรคเป็นเวร หรือ เป็นตุเป็นตะ สองกลุ่มคำนี้ใช้การสร้างกลุ่มคำโดยช้ำคำซ้อน คือใช้ ว เหมือนกันทั้งหน้าหลังคือ วรรค กับ เวร , หรือ ใช้ ต คือ ตุ กับ ตะ แต่ บ้า กับ หลัง ใน เป็นบ้าเป็นหลัง มันไม่เข้ากับที่อธิบายข้างต้น  แต่ถ้าคิดในด้านความหมายของคำว่า  "หลัง"  คำนี้น่าจะแปลว่า หลงใหล นะครับ (ตามความคิดผมเอง) จึงมีความสัมพันธ์กับ แล้วก็เอามาใช้เป็นกลุ่มคำหนึ่งกลุ่มคำได้ ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่ามีกลุ่มคำลักษณะนี้ที่เป็นคำอื่นอยู่มั้ย(ตอนนี้ยังคิดไม่ออกครับ) ที่ไม่ใช่กรณีเหมือน เป็นวรรคเป็นเวร หรือ เป็นตุเป็นตะ ถ้าคุณนายช่างปลูกเรือน หรือ เพื่อน ๆ ผ่านมาเห็นแล้วแนะนำได้ช่วยแนะนำด้วยครับ จากคุณ : เกี๊ยวกรอบหน้ามอ เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 07:02:54

ความคิดเห็นที่ 5   พอดีผมมีหนังสือ "สำนวนไทย" ของ ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์) อยู่ในมือพอดี ท่านอธิบาย สำนวน "เป็นบ้าเป็นหลัง" ว่า... "เป็นบ้าเป็นหลัง" เป็นสำนวนหมายความว่า เป็นบ้า สติไม่ปรกติ "เป็นหลัง" หมายถึงว่า ฟั่นเฟือนเอาหน้าไปเป็นหลัง หลังเป็นหน้า เช่นในเสภาขุนช้างขุนแผน ตอน ขุนแผนพาวันทองหนี ขุนช้างไปกราบทูลฟ้องพระพันวษา พูดเลอะเลือน มีกลอนว่า "พระองค์ทรงขัดพระทัยนัก ใครซักสำมะโนครัวเจ้า*เล่าหวา ขุนช้างตกใจได้สติมา กราบทูลยังประหม่าอย่าวุ่นวาย เอาหน้าเป็นหลังหลังเป็นหน้า เจ้าวันทองขี่ม้าเข้าป่าหาย.." "เป็นบ้าเป็นหลัง" หมายถึงว่า เป็นบ้าฟั่นเฟือนพูดเอาหลังเป็นหน้า หน้าเป็นหลัง แต่พูดรวบเข้ามาให้สั้นว่า "เป็นบ้าเป็นหลัง" ลางทีพูดรวบเข้ามาอีกว่า "เป็นบ้าหลัง" ก็เข้าใจกันดี "ทรงพระสรวลว่ากูจะต้องการ คนปากไม้ทำชานที่ทรุดพัง คนปากแหว่งเช่นนี้ไม่ประสงค์ เจ้า*ใหลหลงพามาเหมือนบ้าหลัง" (ศรีธนญไชยเชียงเมี่ยง) ข้างต้นจากหนังสือ "สำนวนไทย"ครับ ซึ่งยังมีกล่าวถึงลักษณะสำนวนดังกล่าวอีกมากมาย เช่น เป็นกอบเป็นกำ / เป็นน้ำเป็นนวล / เป็นปากเป็นเสียง / เป็นฟืนเป็นไฟ / เป็นฝั่งเป็นฝา / เป็นปี่เป็นขลุ่ย รวมถึง เป็นวรรคเป็นเวร ด้วย "เป็นวรรคเป็นเวร" เป็นสำนวนหมายความว่า เป็นระยะๆ ขยักขย่อนเรื่อยไป "วรรค" คือ ตอน "เวร" คือ คราว "เป็นวรรคเป็นเวร" ก็คือ เป็นตอนๆเป็นคราวๆ ถึงตอนหรือถึงคราวก็ปรากฏขึ้น เช่นพูดว่า "ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร" หมายความว่า ร้องไห้มากบ้างน้อยบ้างเรื่อยไปไม่หยุด "พูดเป็นวรรคเป็นเวร" หมายความว่า พูดอะไรต่ออะไรต่างๆนานา (สำนวนไทย โดย ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์)) * คำว่า เจ้า ผมขออนุญาตใส่แทนคำสรรพนามบุรุษที่ คำหนึ่ง ที่เวปพันธุ์ทิพย์เขาไม่ให้โพสเพราะถือเป็นคำหยาบครับ จากคุณ : leeming047 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 53 15:14:41 A:61.7.135.253 X: TicketID:275957