ความคิดเห็นที่ 1 Did you know that an eagle knows when a storm is approaching long before it breaks? คุณรู้ไหมว่านกอินทรีย์มีประสาทรับรู้ว่าพายุจะเข้ามาเมื่อไหร่ The eagle will fly to some high spot and wait for the winds to come. When the storm hits, it sets its wings so that the wind will pick it up and lift it above the storm. While the storm rages below, the eagle is soaring above it. นกอินทรีย์จะบินขึ้นไปในที่สูงและรอเวลาที่พายุจะเข้า เมื่อพายุเข้ามาแล้ว นกอินทรีย์จะขยับปีกเตรียมพร้อมในท่าที่จะถูกพายุพยุงขึ้นไปข้างบน ซึ่งในขณะที่พายุอยู่ข้างล่าง เจ้านกอินทรีย์ก็บินอยู่ข้างบนนั่นเอง The eagle does not escape the storm. It simply uses the storm to lift it higher. It rises on the winds that bring the storm. นกอินทรีย์ไม่ได้พยายามบินหนีพายุ แต่จะใช้พายุเพื่อพยุงให้มันลอยสูงขึ้นในอากาศ ซึ่งหมายความว่ามันบินโดยใช้ลมที่นำพายุมานั่นเอง When the storm of life come upon us - and all of us will experience them - we can rise above them by setting our minds and our belief toward God. The storms do not have to overcome us. We can allow God's power to lift us above them. เมื่อพายุแห่งชีวิตมุ่งมายังเรา และเรากำลังจะได้ประสบเหตุการณ์เช่นนั้น เราสามารถที่จะใช้ประโยชน์จากพายุนั้นได้โดยการเตรียมพร้อมจิตใจและความเชื่อในพระเจ้า พายุจะไม่สามารถทำอันตรายเราได้ แต่เราจะใช้พลังของพระเจ้านำเราให้อยู่เหนือพายุเหล่านั้น God enables us to ride the winds of the storm that bring sickness, tragedy, failure and disappointment in our lives. We can soar above the storm. พระเจ้าจะช่วยให้เราใช้ประโยชน์จากลมที่นำพายุนั้นมาพร้อมกับความป่วยไข้ ความเศร้า ความพลาดพลั้ง ความผิดหวังในชีวิต ท้ายที่สุดเราจะสามารถบินอยู่เหนือพายุเหล่านั้นได้ Remember, it is not the burdens of life that weigh us down, it is how we handle them. จงจำเอาไว้ ปัญหาในชีวิตไม่ได้ทำให้เราพ่ายแพ้ แต่อยู่ที่เราจัดการกับปัญหานั้นอย่างไรต่างหาก จากคุณ : เฟอร์นันโด เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 15:28:42

ความคิดเห็นที่ 2 ดูจากที่ผมแปล ผมไม่ได้แปลตรงๆ เด๊ะ แต่พยายามถือวิสาสะแปลให้ดูสละสลวยอีกทีนึงครับ เป็นอีกความเห็นหนึ่ง จากคุณ : เฟอร์นันโด เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 15:30:01

ความคิดเห็นที่ 3 จขกท. แปลได้ครบถ้วนกระบวนความดีค่ะ ในความคิดของเรานะคะ เอาเป็นว่ามาลองดูเวอร์ชั่นบ้าๆ บวม ๆของเราเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันค่ะ ลองมั่วดูบ้าง ^^ __________________________________________ Eagles In A Storm (นกอินทรีย์ในพายุ) คงไว้ไม่เปลี่ยน เพราะคิดชื่อเรื่อง เก๋ๆ ไม่ออก ณ เวลาที่พิมพ์อยู่ ฮ่าๆๆ Did you know that an eagle knows when a storm is approaching long before it breaks? หนูๆ รู้มั๊ยว่านกอินทรีย์มีสัมผัสรับรู้ว่าจะมีพายุเข้ามาใกล้เมื่อไหร่ ______________________________________ The eagle will fly to some high spot and wait for the winds to come. When the storm hits, it sets its wings so that the wind will pick it up and lift it above the storm. While the storm rages below, the eagle is soaring above it. เจ้านกอินทรีย์จะบินถลาลมไปยังจุดสูงเพื่อรอเวลาที่พายุจะก่อตัวขึ้น เมื่อลมพายุเข้ามาใกล้ เจ้านกอินทรีย์ก็จะกางปีกของมันออกไป เพื่อจะทำให้ตัวมันบินอยู่เหนือลมพายุที่กำลังโหมกระหน่ำอยู่ด้านล่างได้ _______________________________________ The eagle does not escape the storm. It simply uses the storm to lift it higher. It rises on the winds that bring the storm. เจ้านกอินทรีย์ผู้ทระนง (อันนี้เว่อร์ล่ะ ใส่ไปเฉยๆ) ไม่ได้บินหนีลมพายุหนำซ้ำมันใช้แรงจากลมพายุดันตัวมันเองให้ลอยสูงขึ้นต่างหากเล่า! _______________________________________ When the storm of life come upon us - and all of us will experience them - we can rise above them by setting our minds and our belief toward God. The storms do not have to overcome us. We can allow God's power to lift us above them. เมื่อมรสุมชีวิตก่อตัวขึ้นในชีวิตคนเรา ซึ่งแน่นอนล่ะว่าทุกคนจะต้องเคยประสบกับสิ่งนี้กันทั้งนั้น ...เราสามารถอยู่เหนือเรื่องเลวร้ายเหล่านั้นได้เพียงส่งจิตและศรัทธาไปยังอ้อมกอดพระเจ้า พายุร้ายนั้นก็จะไม่สามารถทำอะไรเราได้ เนื่องจากอำนาจแห่งพระผู้เป็นเจ้าที่จะคอยปัดเป่าและช่วยเหลือเราให้อยู่เหนือมันได้นั่นเอง _____________________________________ God enables us to ride the winds of the storm that bring sickness, tragedy, failure and disappointment in our lives. We can soar above the storm. เพราะพระผู้เป็นเจ้าจะช่วยให้เราอยู่เหนือมรสุมแห่งความเจ็บไข้/ความทุกข์ ความโศรกเศร้าเสียใจและล้มเหลวและความผิดหวังในชีวิตได้ ______________________________________ Remember, it is not the burdens of life that weigh us down, it is how we handle them. ขอให้น้องๆ หนูๆ พึงจดจำไว้ว่า มรสุมชีวิตหาได้เป็นภาระอันหนักอึ้งแก่ชีวิตไม่ หากแต่เป็นปราการทดสอบว่าเราจะจัดการกับมันได้อย่างไรต่างหาก เอวัง วังเวง ^^ แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 53 16:37:33 จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 16:26:49

ความคิดเห็นที่ 4 แปลแข็งไปหน่อยครับ ให้ซัก 7/10 จากคุณ : Superguiman เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 21:00:47

ความคิดเห็นที่ 5 6/10 -แปลประเด็นหลักถูกต้องดีแล้ว -การใช้คำต้องปรับปรุงเยอะ อ่านแล้วยังไม่ลื่นเท่าไหร่ -พวกสรรพนามที่ยกมาแปล บางทีฟังแปลก ๆ  ลดการใช้สรรพนามเลียนแบบอังกฤษเช่น มันอย่างนั้น มันอย่างโน้นนี้ จริง ๆ ใช้ได้แต่ให้ถูกบริบทและสมควรกับเนื้อหา -การแปลเป็นภาษาไทยก็ควรที่จะคงรูปแบบภาษาไทยเอาไว้ด้วย เรื่องไวยากรณ์ หรือการใช้เครื่องหมาย(คือเห็นว่ามีการใช้จุลภาคพร่ำเพื่อ และ จุด ปิดประโยค อยากให้ใช้อย่างถูกต้องน่ะค่ะ  แต่บางทีคนเขียนอาจจะต้องการแยกความชัดเจนตอนแปลก็ได้ อันนี้ไม่ทราบเหมือนกัน) -เวลาแปลก็เพิ่มการเกลาภาษาให้สวยขึ้นด้วยพอเราแปลเริ่มคล่องแล้ว  ไม่จำเป็นต้องแปลตรงตัวเป๊ะ ๆ นัก เพราะบางประโยคฝรั่งมีวัฒนธรรมการพูดแบบนั้น แต่ของไทยจะพูดอีกแบบ แต่ความหมายเหมือนกัน ก็ลองดูดี ๆ ค่ะ ประมาณนี้อ่ะค่ะ  เป็นความเห็นส่วนตัวนะคะ แล้วก็ชอบที่คุณฝึกแปลน่ะค่ะ พยายามบ่อย ๆ เยอะ ๆ ก็จะดีขึ้นเอง เป็นกำลังใจให้นะคะ จากคุณ : Motdktw เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 53 06:51:47

ความคิดเห็นที่ 6 ที่คุณแปลไว้ It rises on the winds that bring the storm. มันจะเพิ่มขึ้นในลมนั้นซึ่งนำพายุมา ในที่นี้ rise ไม่ได้แปลว่าเพิ่มครับ  แปลว่าเอ่อ ยังไีงดีล่ะ  ขี่ลม ก็จะดูแข็งๆ ก็แปลว่าบินโดยใช้ลมเป็นพาหนะ ก็คือใช้ลมช่วยพยุงในการบินขึ้นไป จากคุณ : เฟอร์นันโด เขียนเมื่อ : 22 มิ.ย. 53 10:20:31

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณทุกท่านมากค่ะๆ ได้คำแนะนำดีๆเพื่อๆปรับปรุงการแปลของตัวเองได้เยอะมากเลย ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ และทุกคำชี้แนะค่ะ ^^ จากคุณ : วันนี้วันพระ เขียนเมื่อ : 23 มิ.ย. 53 07:35:04