 |
ความคิดเห็นที่ 2 |
ในส่วนของการทำความเข้าใจเนื้อเรื่อง แนะนำว่าให้ไปซื้อฉบับแปลของ อ.สายสุวรรณ มาอ่าน เพราะเป็นคำแปลฉบับที่ดีมากๆ The Hound of the Baskervilles อ.สายสุวรรณตั้งชื่อภาษาไทยไว้ว่า "หมาผลาญตระกูล"
ส่วนเรื่อง grammar นั้นเราว่าตอนแรกๆเอารู้แค่พออ่านรู้เรื่องอย่าเพิ่งไปเจาะลึก เพราะจะทำให้เรียนช้า เราไม่รู้ว่า จขกท มีขีดความสามารถด้าน conversation ระดับไหน แต่เราอยากจะบอกว่าสมัยเราเป็นเด็กๆเราแทบไม่รู้ grammar เลย แต่เรียนฟังกับพูดอย่างเดียว แล้วสงสัยเรื่อง grammar ตรงไหนก็หาบทเรียนอ่านเป็นเรื่องๆไป แต่ก่อนที่เราจะอ่าน textbooks เรื่อง grammar นั้น เราพอฟังกับพูดเรื่องชีวิตประจำวันได้ไปเรียบร้อยแล้ว (โดยพูดไม่ผิดเพี้ยนมากนัก) และมีทักษะการอ่านที่ดีพอสมควร เราจึงสามารถอ่านหนังสือ grammar จากต่างแดนที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆซึ่งผู้เชี่ยวชาญฝรั่งเจ้าของภาษาผลิตมันขึ้นมา
พอพูดถึงวิธีการเรียนของเรา ที่เรียนฟังกับพูดก่อนแล้วจึงค่อยมาเรียน grammar นั้น หลายๆคนอาจทักท้วงว่า เราทำได้เพราะว่าเราไปพำนักอาศัยในประเทศอังกฤษและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่พูดภาษาอังกฤษ เราถึงเรียนฟังกับพูดได้คล้ายๆผู้หญิงบาร์ในย่านนักท่องเที่ยวที่ไม่เึคยเรียน grammar แต่ฟังกับพูดอังกฤษได้คล่อง แต่เราอยากจะแย้งว่า ตอนนี้เทคโนโลยีมันเปลี่ยนไป คุณอยู่เมืองไทยคุณก็ทำได้แบบเรา ทำยังไง เราจะอธิบายให้ฟัง
จริงๆแล้วเราทำงานแปลเอกสาร ไม่ได้สอนภาษาอังกฤษ แต่อยู่ดีๆมีนักเรียน 3 คนมาเรียนภาษาอังกฤษกับเรา เราก็รับสอน เพราะเราสะสมสื่อการสอนเอาไว้มากมาย กะจะลองเอามาใช้ดู สิ่งที่น่าทึ่งที่เราค้นพบก็คือว่า นักเรียนเราทั้ง 3 คน พูดอังกฤษได้คล่องอยู่แล้วไม่ตะกุกตะกักเลย และพูดถูกต้องเป็นธรรมชาติไม่ผิด grammar ในระดับง่ายๆอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่รู้ศัพท์ยากๆ และไม่รู้ writing มากนัก เราก็เลยพยายามสอนศัพท์ยากๆ และพยายามจะสอน writing แต่ในกระบวนการสอนนั้นเราอธิบายเป็นภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่นักเรียนก็รู้เรื่อง เราเลยกำลังจะเอา video clips บันทึกการสอน grammar กับ writing เป็นภาษาอังกฤษ ที่ผู้เชี่ยวชาญฝรั่งทำไว้ มาสอนนักเรียน ซึ่งมันก็จะเดินหน้าไปเรื่อยๆ จนไปถึงจุดที่ว่านักเรียนจะไม่ต้องมาตั้งคำถามเรื่อง grammar เลย เนื่องจากทักษะความเข้าใจภาษาอังกฤษของพวกเขาดีพอที่จะเรียนจากสื่อภาษาอังกฤษล้วนๆ
ซึ่งจริงๆแล้วเราไม่ได้สอนภาษาอังกฤษให้นักเรียนเลยแม้แต่นิดเดียว นั่นก็คือว่า
เราไม่ได้บรรยายความรู้ของเราให้นักเรียนงงเป็นไก่ตาแตก แล้วอุทานออกมาว่า "อะโหมันรู้มากจริงๆ เมื่อไหร่เราจะรู้มากเท่ามันฟะ?" แต่เราจำลองสถานการณ์ว่าตัวเราเองกำลังเรียนภาษาอังกฤษเอง โดยการใช้คอมพิวเตอร์กับอินเตอร์เน็ตล้วนๆ ในการค้นข้อมูลเพื่อการเรียนรู้เอง โดยให้นักเรียนคอยจับตาดู keyboard, mouse และจอคอมพิวเตอร์เราดีๆ ว่าเราทำไงถึงเรียนรู้ได้เอง
เขียนมายาวคราวนี้มาถึง climax แล้วนะ ถามว่า นักเรียนเราพูดอังกฤษได้อยู่แล้วก่อนมาเรียนกัีบเรา ก็เลยทำให้ฟังคำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษได้ และทำให้เรียนจากสื่อที่เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆได้ ซึ่งรวมทั้งเรียน grammar จากคำบรรยายของฝรั่งเจ้าของภาษาใน video clips ได้ พวกเขาทำอย่างไรก่อนที่จะไปสู่จุดนั้น
คำตอบมันง่ายแบบเหลือเชื่อ นั้นก็คือ นักเรียนทุกคนดูหนังฝรั่งมาก ดูแบบเป็นชีวิตจิตใจ จนกระทั่งฟังแล้วซึมเข้าไปในสมอง จนกลายเป็นฟังรู้เรื่อง แล้วพูดเป็นอังกฤษออกมาได้คล่อง เราจึงอยากแนะนำให้ จขกท ลองไปหา DVD หนังฝรั่งที่เป็นหนังโรงดังๆ มาดูบนคอมพิวเตอร์ ทีแรกเปิดแบบ subtitle ภาษาไทยให้รู้เรื่องก่อน แล้วเปิดแบบ subtitle ภาษาอังกฤษ แล้วเปิดแบบเสีัยงอังกฤษไม่มี subtitle แต่ควรเลือกหนังดังๆที่ใช้คนแปลฝีมือดีๆหน่อย อย่าไปเลือกแผ่นผีที่แปลซับนรกมาล่ะ ถ้าคุณดูหนังฝรั่งแบบนี้ไปเป็นร้อยๆเรื่อง คุณน่าจะซึมซับ grammar ไปได้โดยธรรมชาติ และมีทักษะในการอ่านภาษาอังกฤษในระดับ intermediate ได้ จากนั้น คุณก็ไปหาบทเรียน grammar และ writing ตามเวปต่างประเทศ หรือหา textbooks เรื่อง grammar และ writing จากต่างประเทศที่ผู้เชี่ยวชาญฝรั่งเขียนไว้มาศึกษา คุณจะได้ทุกอย่างครบถ้วนในที่สุด ซึ่งเราว่าจะเป็นการพัฒนาทักษะต่างๆไปได้รวดเร็วกว่าการที่คุณก็ยังฟังหรือพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยจะรู้เรื่อง แล้วก็พยายามอ่านเรื่องอะไรยากๆ แล้วก็ตั้งข้อสงสัยเรื่อง grammar ที่คุณไม่สามารถค้นข้อมูลได้ด้วยตัวเอง เพราะคุณยังอ่านภาษาอังกฤษไม่เก่งพอที่จะใช้สื่อการสอนเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆจากต่างประเทศ นั่นเอง
แก้ไขเมื่อ 22 มิ.ย. 53 11:44:57
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
22 มิ.ย. 53 11:39:32
|
|
|
|
 |