ความคิดเห็นที่ 20 |
ฉา่กละครสิ่งที่น่าเบื่อที่สุดในสังคมเราปัจจุบันนี้ก็คือ "การพยายามทำตนเป็นพลเมืองดี" โดยการคอยจับผิดชาวบ้านเขาเวลาพูดภาษาไทยว่าออกเสียงอักขระไม่ชัดบ้าง (ก็พูดเร็ว มีคนชาติไหนบ้างที่พูดชัดทุกถ้อยคำ) แล้วก็คอยจับผิดภาษา chat หรือภาษาที่เด็กวัยรุ่นใช้กันระหว่างเพื่อนฝูง
เวลาพูดตำหนิคนโน้นคนนี้ว่าออกเสียงไม่ชัดหรือสะกดผิด ยิ่งพูดตำหนิออกวิทยุ ทีวี หรือแม้กระทั่งตั้งกระทู้ใน pantip ก็จะมีคนชื่นชมสรรเสริญกันมากมาย แท้จริงแล้วคนที่มีความคิดธรรมดาๆ ไม่หลักแหลมมากนักจะยกย่องว่า
"เป็นพลเมืองดี อนุรักษ์ภาษาไทย"
แต่มันกลายเป็นผลร้ายกับภาษาไทยไปเสียแล้ว เพราะตอนนี้คนอ่านข่าววิทยุกับทีวีทุกช่องพูดเร็วแต่พยายามพูดชัดจนผิดธรรมชาติ บางคนรัวเสียง "ร" จนปวดหัวทนฟังไม่ได้
ถ้าคิดให้ลึกๆในอีกมุมมองหนึ่งนะ การแย่งกันออกมาเป็นพลเมืองดีแบบนี้มันเป็นความคิดเก่าๆ ไม่แหวกแนว เป็นการทำตัวเยี่ยงแพะหรือแกะที่วิ่งตามกันไปเป็นฝูงๆ ไม่คิดอะไรใหม่ๆที่สร้างสรรค์เอาเสียเลย
ประเทศชาติต้องการคนคิดแหวกแนวแผลงๆแบบคนเขียนหนังสือเล่มนี้ ให้มากกว่านี้ เพราะสิ่งประดิษฐ์ดีๆหรืองานค้นคว้าที่เป็นเลิศ มักจะได้จากสมองของคนที่คิดอะไรแผลงๆไม่เหมือนใคร ไม่แห่ตามกันไปเหมือนฝูงแพะฝูงแกะ
คนเขี่ยนหนังสือเรื่องนี้คงรำคาญพวก "พลเมืองดี" ก็เลยเขียนหนังสือออกแนว satirical ล้อเลียนพวก "พลเมืองดี" ให้โมโหเจ็บๆคันเล่นๆ สนุกๆ เพื่อทดสอบระด้ับพื้นฐานทางด้านจิตใจ คนที่อ่านแล้วโมโห นั่นแหละคือคนสมองไม่พลิกแพลง ไม่มีอารมณ์ขัน แต่คนทีอ่านแล้วหัวเราะได้ นั่นแหละ คือคนที่มองโลกในหลายๆด้าน ด้วยความคิดที่ยืดหยุ่น หลักแหลมมากๆ และมองโลกในแง่ดีว่าภาษาไทยอีก 50 ปี มันอาจพัฒนาไปแบบนั้นได้จริงๆ
ขอชมเชยคนเขียนหนังสือเล่มนี้จากใจจริงว่าทำได้เก่งมากๆระดับอัฉริยะเลยหละ สมควรได้รับรางวัลซีไรต์ งานแนวคิดสร้างสรรค์
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
5 ก.ค. 53 21:12:17
|
|
|
|