ความคิดเห็นที่ 1 ตอนเรียน ม.ต้นเราเรียนโรงเรียนที่เด็กค่อนข้างเรียบร้อย แต่พอเรียน ม.ปลายย้ายไปเรียนอีกโรงเรียนหนึ่ง เรียนแค่เทอมเดียวแล้วลาออกเพราะรู้ว่าเรียนไม่จบแน่ๆเนื่องจากเจอแต่เพื่อนเกเร (ระดับอันธพาลพกปืนไปโรงเรียนกันเป็นว่าเล่น) เรียนมั่งไม่เรียนมั่ง พากันหนีโรงเรียนบ่อยๆทีหนึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ซึ่งในกลุ่มนักเรียนหัวโจกที่ไม่ยอมเรียนหนังสือพวกนี้นานๆครั้งจะเข้าเรียน และพอเข้าเรียนก็จะคุยกันตลอดเวลาเรียนไม่เคยฟังครูสอนเลย คราวนี้เราจะเปรียบเทียบการสอนของครู 2 คนที่สอนเด็กกลุ่มเดียวกันนี้ รายแรกเป็นครูสอน English literature  คุณครูจะเดินเข้ามา แล้วเปิดหนังสือก้มหน้าก้มตาพูดเรื่องที่ต้องเรียน โดยจะอธิบายศัพท์เสียงยานคางเหมือนสวดมนต์ ขณะที่มองแต่หนังสือ แต่ไม่เคยมองหน้านักเรียน (เพราะในใจคิดว่าเด็กเกเรกวนเมืองพวกนี้ สอนยังไงพวกมันก็ไม่ฟังหรอก) และนักเรียนก็จะหลับกันเกือบทั้งห้อง บางคนถึงกับหลับแล้วกรนครอกๆๆ...ออกมาเสียงดังๆอย่างไม่เกรงใจใคร แต่พอครูสอนวาดเขียนเดินเข้ามา คุณครูคนนี้มีปฏิสัมพันธ์กับพวกเราอย่างน่าประหลาด คือทักทายปราศัย พูดจาแบบเป็นกันเอง ทำให้นักเรียนทุกคนสนใจและตั้งใจฟังครู และร่วมวงสนทนาด้วย แต่คุณครูคนนี้ก็ไม่ได้สอนเนื้อหาเรื่องวาดเขียนให้พวกเรามากนักหรอก แต่เมื่อเห็นเด็กกลุ่มนี้เกเรมากๆ (เพราะเป็นห้องบ๊วยๆท้ายๆ) คุณครูก็เลยค่อยๆตะล่อมสอนเรื่องหน้าที่พลเมืองและศีลธรรมในทางอ้อมได้อย่างน่าทึ่ง และสอนสนุกด้วย มีลูกเล่นแพรวพราวจนพวกเด็กเกเรอันธพาลตั้งใจฟังกัน จับกลุ่มอภิปรายกัน แสดงความคิดเห็นกันอย่างสร้างสรรค์ แล้วทุกคนก็ชอบอกชอบใจ สนุกสนานกันมากๆ จากประสบการณ์อันนี้ มันทำให้เราเชื่อว่าคุณครูที่มี positive outlook (มองโลกในแง่ดี) สามารถพลิกสถานการณ์อันเลวร้ายให้กลายเป็นดีได้อย่างน่ามหัศจรรย์ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 53 20:48:52 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 20:46:58

ความคิดเห็นที่ 2 ที่พูดมาเราก็เคยเจอในฐานะลูกศิษย์ อาจารย์ก็เคยทำในฐานะอาจารย์ ส่วนตัวก็ต้องเห็นใจอาจารย์ด้วยเพราะบางทีเด็กก็ดิ้อตามประสา (สมัยเรามีห้องหนึ่งทำอาจารย์ออกมาร้องไห้หน้าห้องเรียนเลยค่ะ น่าสงสารอาจารย์มากๆ) จากคุณ : cat_on_a_hot_tin_roof_ เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 53 23:05:28

ความคิดเห็นที่ 3 สมัยผมเรียนที่สหรัฐฯ มีอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์คนหนึ่งเวลาสอนก็จะยืนอ่านโน้ตที่จดในสมุดให้นักศึกษาฟังจนจบชั่วโมงด้วยน้ำเสียงโมโนโทน ไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับนักศึกษาเลยแม้แต่น้อย พอจบชั่วโมงก็เดินออกไป คราวนี้ปีนั้นทางมหาวิทยาลัยมีการแจกแบบสอบถามให้นักศึกษาวิจารณ์การสอนของอาจารย์ทุกคน อาจารย์สอนประวัติศาสตร์คนนั้นก็เจอแจ๊กพอทเลยซีครับ ถูกวิจารณ์ซะเละไม่มีชิ้นดี ดูเหมือนจะถูกมหาวิทยาลัยเลิกจ้างไปเลยมั้ง โทษฐานสอนเรียนได้ห่วยแตกมาก เพราะถ้าสอนแบบนั้นจะดีกว่าให้นักเรียนอ่านหนังสือประวัติศาสตร์เองตรงไหน จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 53 00:19:56

ความคิดเห็นที่ 4 อืม..เด็กไทยเปลี่ยนไปนะ  ได้มาตรฐานเหลวแบบเด็กตปท.บางกลุ่ม เข้าใจความรู้สึกของคนสอนค่ะ  เจอเด็กกลุ่มระดับนี้ก็เซ็งได้เหมือนกัน ในประเทศที่อิฉันอยู่นี่  ครูประถมครูมัธยมเข้าร.พ.โรคจิตไปเลยก็มีเยอะ   ระบบการศึกษาล้มเหลว  ไม่ได้อยู่ที่วิธีการสอนของครูอย่างเดียว   ขยะไม่ใช่มีเศษอาหารอย่างเดียว  ขยะประกอบด้วยสิ่งเน่าเสียสารพัดอย่าง จากคุณ : akebi1 เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 53 07:22:35

ความคิดเห็นที่ 5 เป็นกงเกวียนกำเกวียน นักเรียนพบสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี ก็เป็นเด็กเกเร ไม่ตั้งใจเรียน ครูที่ตั้งใจสอน มาเจอนักเรียนเกเร ก็เลยเบื่อ ไม่อยากสอน นักเรียนเห้นครูเป็นแบบนี้ ก็ยิ่งไม่อยากเรียน ฯลฯ ส่วนคุณที่ตั้งใจเรียน อาจจะไปหาครู บอกว่า ยังมีนักเรียนที่อยากเรียน ขอให้กำลังใจ คุณครูสอนเหมือนสมัยแรกได้ไหม ถ้าให้การบ้าน ผมจะทำมาส่ง แล้วเราก็ทำการบ้าน ค้นคว้าอย่างดี หรือมีปัญหาก็ไปหา ถามครู กับชวนเพื่อน เริ่มจาก คนเดียวก่อนให้มาสนใจเรียน เราติวให้เขา พอเขาสนุก เรียนตามทันที่ครูสอน เราก็บอกว่าเห็นไหม ถ้าต้งใจเรียนจะดีอย่างนี้ แล้วค่อยๆเพิ่มจำนวนคน ชวนคนมาเรียนให้มากขึ้น เพื่อนๆช่วยคุณอีกแรง เดี๋ยวกลุ่มโตเอง และเขาจะจัดการกับกลุ่มที่ไม่ตั้งใจเรียน (เพราะจริงๆแล้ว กลุ่มนี้ก็เฮี้ยวมาก่อน บู๊เป็นน่ะ) ข้อสำคัญคือ สะสมกลุ่มเราให้โตพอ ท้ายที่สุด คุณไปยืนสรุปหน้าชั้นว่า ถ้าวันหนึ่ง ห้องเรียนคุณมีแต่คนตั้งใจเรียน แล้วขอให้คุณครูแต่ละวิชาติวให้ นักเรียนห้องอื่นจะเห็นเป็นเทพไปเลย อาจมีการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ เท่ากับตัวคุณ และคนกลุ่มเล็กๆนี้ได้ทำความดีมาสู่เพื่อนร่วมโรงเรียน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ในสังคมวันหน้า มีปัญหาอะไรปรึกษาก็หลังไมค์มาได้ จากคุณ : Tigerprog เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 53 09:52:18

ความคิดเห็นที่ 6 นักเรียนบางส่วนไม่ตั้งใจเรียนเป็นเรื่องปกติ แต่ครูที่ไม่ตั้งใจสอน ถือว่าผิดปกติอย่างแรง จากคุณ : wanalee เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 53 13:45:34