ความคิดเห็นที่ 2 |
An endless string of bitter remarks มีวิธีแปลอย่างไร?
ก่อนอื่น นี่เป็นวลี ไม่ใช่ประโยค
วลีนี้อธิบายอะไร? พูดง่ายๆคือเป็นถ้อยคำชนิดไหน? คุณต้องจับตรงนี้ก่อนว่าคำหลักของวลีนี้คืออะไร
an เป็น article ซึ่งเขาใช้นำหน้าคำนาม เพื่อบอกว่ามันมีอยู่ชิ้นเดียว เป็นเอกพจน์ว่างั้นเถอะ แล้วคำนามที่มันนำอยู่ตรงไหน? endless เป็นคำนามไหม? ไม่ช่ายยยย มันเป็นคุณศัพท์ซึ่งก็ใช้นำหน้าขยายคำนามเหมือนกัน ดังนั้นทั้ง a และ endless ก็ขยายคำนามตัวเดียวกันร่วมกัน แล้วตัวต่อไปล่ะ string คืออะไร? ไอ้นี่แหละคำนามที่เจ้าสองตัวแรกมันร่วมด้วยช่วยกันขยายละ ดังนั้น an endless string ก็หมายความว่า เส้นสายที่ไม่รู้จบอันหนึ่ง คือต้องแปลจากหลังมาหน้าตามวิธีการเรียงคำในภาษาอังกฤษ และโครงสร้างนี้เป็นวลีชนิดที่เรียกว่า นามวลี หรือ noun phrase นั่นเอง
ตามทันอยู่นะครับ? เอาละ ต่อไปก็มาจัดการกับไอ้ส่วนหางแถวที่ตามมา คือ of bitter remarks คุณสังเกตดูก็จะเห็นว่า of มันเป็นคำบุพบท ซึ่งเจ้าคำบุพบทนี้มันทำหน้าที่เป็นตัวต่อตัวเชื่อมวลีหรือคำที่อยู่ข้างหน้าเข้ากับวลีหรือคำที่ตามหลังเป็นการอธิบายให้ข้อมูลเพิ่่มเติม ดังนั้นก็มาดูว่าในที่นี้เจ้า of มันกำลังลากอะไรมา? อ๋อ bitter remarks นั่นเอง ซึ่งเมื่อดูโครงสร้างก็จะเห็นว่า bitter เป็นคุณศัพท์นำขยายคำนามคือ remarks ดังนั้นวลีนี้จึงเป็นนามวลีอีกอันหนึ่ง ซึ่งก็หมายความในที่นี้ว่า คำพูดที่ขมขื่น และมันถูกลากมาพ่วงกับนามวลีอ้นแรกด้วยเจ้า of นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ความหมายของเจ้าสองนามวลีที่พ่วงด้วย of จึงหมายความว่า เส้นสายที่ไม่รู้จบอันหนึ่งของคำพูดที่ขมขื่น
รู้ความหมายแล้วนะครับ? จบหรือยัง? หามิได้ ยังไม่จบ การแปลนั้นมีอยู่สองส่วน ส่วนแรกคือการอ่านทำความเข้าใจกับต้นฉบับให้ถ่องแท้เสียก่อน ตอนนี้คาดว่าคุณคงเข้าใจแล้วว่ามันหมายความว่าไง แต่ว่ามันเป็นการแปลหรือยัง? ยังหรอก การแปลจะต้องจบลงด้วยการถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาปลายทางที่มีความหมายตรงกันกับต้นฉบับ ไม่ผิด ไม่ขาด ไม่เกิน แล้วก็ยังต้องสละสลวย ไพเราะ ได้อารมณ์ กระชับในที่ซึ่งควรกระชับ วิจิตในที่่ซึ่งควรวิจิต ถูกบริบท ถูกกาลเทศะ ดังนั้น ความหมายที่เราตีความจนแตกกระจุยไปแล้วนั้นจะต้องผ่านกระบวนการถ่ายทอดเป็นภาษาไทยที่เหมาะสมก่อน จึงจะเรียกว่า การแปล ได้เต็มปาก ที่บอกว่า เส้นสายที่ไม่รู้จบอันหนึ่งของคำพูดที่ขมขื่น นั้นได้ความก็จริง แต่ยังไม่ไพเราะ เขาเรียกกันว่า มีกลิ่นนมเนยคลุ้งเชียว เพราะยังกระโดกกระเดกเป็นภาษาฝรั่งอยู่
ทีนี้จะถ่ายทอดว่าอย่างไรดีล่ะจึงจะถูกต้อง?
คำว่า ดี คำว่า ถูก ขอให้เข้าใจว่าเป็นปรากฎการณ์เชิงอัตวิสัย คือเป็นเรื่องการตีความจำเพาะตัวของบุคคลนั้นๆ ผมว่าดี คุณอาจว่าไม่ดี ผมว่าไพเราะ คุณอาจว่าไม่ไพเราะ ดังนั้นในขั้นตอนนี้ ผมถือว่าคุณกับผมเท่ากัน คนอ่านเป็นคนวิพากษ์วิจารณ์และตัดสินครับ ยกตัวอย่าง ผมอาจจะแปลว่า เส้นสายอ้นหนึ่งแห่งคำพูดอันขมขื่นที่ไม่รู้จบ คุณอาจจะแปลว่า คำพูดขมขื่นที่หลั่งไหลเป็นสายไม่รู้จบ ซึ่งก็คงไม่มีใครถูกใครผิด แต่ว่าใครจะได้ดอกไม้ได้ก้อนอิฐเป็นเรื่องของคนอ่านครับ
จะเห็นว่า การแปลนั้นต้องเก่งทั้งสองภาษาต้นทางและปลายทาง ในที่นี้คืออังกฤษและไทย เก่งภาษาอังกฤษอ่านได้รู้เรื่องหมดแต่ถ่ายทอดไม่เป็นก็ตกม้าตายเอาดื้อๆ มีมาเยอะ
โอย อธิบายเรื่อง an endless string of bitter remarks วลีเดียว มันเหนื่อยปานนี้เจียวหนอ การอธิบายแบบนี้ ภาษาคนฝึกทหารเขาเรียก การเปิดจังหวะ คือทำทีละขั้นตอน ของจริงๆน่ะ ไม่มีใครเขามานั่งทำหรอก ม้นทำต่อเนื่องกันอัตโนมัติอย่างที่เรียกว่า ปิดจังหวะ ขืนมามัวเปิดจังหวะอยู่ไม่ทันกิน
โห เผลออธิบายน้ำลายแตกฟอง เผลอแผลบเดียวตีหนึ่งกว่าแล้ว ซวยละสิตู ต้องรีบตื่นตีห้าไปส่งเด็กไปโรงเรียน งั้นไปละ
อย่างนี้เรียก an endless string of rambling explanation กระมัง
จากคุณ |
:
แอ๊ด ปากเกร็ด
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ก.ค. 53 01:28:33
|
|
|
|