ความคิดเห็นที่ 1 ทำไมไม่ถามอาจารย์ล่ะว่าไม่ผ่านเพราะอะไร เราเคยแปลเอกสารโครงการมากมาย หลักการและเหตุผลโครงการมันก็ดีอยู่หรอก แต่เนื้อหาโครงการเขียนวนไปวนมาอ่านไม่รู้เรื่อง ก็มี ส่วนใหญ่ที่เจออ่านไม่รู้เรื่องมักจะเป็นคนไทยเขียนภาษาไทยอ่านไม่รู้เรื่องเลยแปลเป็นอังกฤษไม่ได้ แต่ไม่เคยเจอฝรั่งเขียนโครงการภาษาอังกฤษอ่านไม่รู้เรื่องจนถึงกับแปลเป็นไทยไม่ได้ แล้วคุณเขียนเป็นภาษาอะไรล่ะ? แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 53 20:17:15 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 20:14:43

ความคิดเห็นที่ 2   ไทยค่ะ ก็คือวกไปวนมาจนเขียนไม่ถูกเหมือนกันเลยอยากให้เพื่อนๆพี่ๆในนี้ช่วยคิดน่ะคะ จากคุณ : luffy_su_su เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 20:26:30

ความคิดเห็นที่ 3 ช่วยคิดมันเป็นไปไม่ได้หรอกเ้พราะคนอื่นเขาไม่ได้ไปนั่งเรียนกับคุณเขาไม่รู้ว่าเป้าหมายคุณคืออะไร แต่ถ้าเห็นข้อความที่คุณเขียนมาทั้งหมดน่ะช่วยแก้ได้สบายเลย (แต่มันคงต้องใช้เวลาเป็นวันหรือหลายวัน คงไม่มีใครทำให้คุณฟรีๆหรอก) คือเราเคยแปลวิทยานิพนธ์บ่อยๆ เวลาเห็นนักศึกษาเขียนภาษาไทยอ่านไม่รู้เรื่องเพราะประโยคภาษาไทย "มีการใช้ meaning shift เยอะมากๆ คือพูดอย่างหนึ่งแต่หมายถึงอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งบ่อยครั้งเป็นการพูดโกหกหรือพูดเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ (โดยบางทีคนพูดไม่รู้ตัว)" พอเจอแบบนี้เข้า เราก็ใช้ตรรกะที่แม่นยำ เปลี่ยนข้อความที่เขียนมา (paraphrase ในใจ)  แล้วเรียบเรียงใหม่เป็นภาษาอังกฤษให้มันอ่านเข้าใจง่ายกว่าเดิม วิทยานิพนธ์มันก็ผ่านทุกครั้ง ยิ่งแก้แต่ภาษาไทย แล้วไม่ต้องแปลเป็นอังกฤษจะยิ่งสบายใหญ่เลย จริงๆแล้่วคนไทยหลายๆคนไม่รู้ว่าภาษาไทยเขียนให้คนอื่นอ่านเข้าใจน่ะ ทำได้ยากมากๆ ถ้าเขียนเรื่องซับซ้อนนะ เนื่องจากภาษาไทยมีโครงสร้างแปลกๆ ที่ในประโยคบ่อยครั้งที่มัีนไม่บอกว่า ใครเป็น "ประธาน" หรือใครทำกริยาตัวไหน หรือบางทีเขียนไปแล้วประโยคมันวนไปวนมา โดยไม่รู้ตัว ในการสื่อสารกันระหว่างหน่วยงานไทยหลายๆหน่วยงาน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าต้องเอาเอกสารไปแปลเป็นภาษาอื่น) คนที่ทำงานเอกสารหรือทำงานแปลหลายๆปีจะรู้ว่า "คนไทยกับคนไทยสื่อสารด้วยภาษาไทยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่องบ่อยๆ" คนไทยส่วนใหญ่ตั้งแต่เล็กจนโตพอได้ยินหรือได้อ่าน meaning shift ก็จะ "บิดสมอง" เข้าใจมันโดยอัตโนมัติ (โดยไม่พยายามทำตัวเป็นศรีธนญชัย คือไม่พยายามแกล้งเถรตรง) และจำประโยคพวกนั้นไปพูดไปเขียนโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราก็เคยหลวมตัวไปจำคนอื่นมาพูดมาเขียนแบบมี meaning shift และเขียนวกๆวนๆ แต่ช่วงหลังๆนี้ เราป้องกันระบบตรรกะเราชำรุด โดยการ "คิดเป็นภาษาอังกฤษหมด (แต่แปลงไปเป็นภาษาไทยได้อย่างรวดเร็ว)" จนชิน เลยเวลาเราเขียนภาษาไทย ไม่ค่อยเผลอเขียนข้อความที่มี meaning shift นั่นก็คือศรีธนญชัยเล่นงานเราไม่ได้ง่ายๆ...555+++... ลองไปศึกษาตัวอย่าง meaning shift ในภาษาไทย ได้ที่กระทู้ที่แปะ links ให้ข้างล่างนี้ แล้วลองไล่ดูเนื้อหาโครงการคุณดูใหม่ดีๆสิว่ามันมีประโยคแบบ "พูดอย่างแต่กลายเป็นหมายความอีกอย่างหนึ่ง (โดนศรีธนญชัยเล่นงานไปแล้วหลายรอบ เพราะเขียนไม่รัดกุม) หรือกลายเป็นพูดเรื่องโกหก หรือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า?"   ตาม links พวกนี้ไปอ่านดู แล้วจะทึ่งว่า "การเขียนภาษาไทยให้อ่านรู้เรื่องไม่ใช่ของหมูๆ...!!! http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9373090/K9373090.html http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/03/K7593415/K7593415.html http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9353525/K9353525.html แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 53 22:19:14 แก้ไขเมื่อ 15 ก.ค. 53 21:23:28 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 15 ก.ค. 53 21:18:42

ความคิดเห็นที่ 4 ให้คิดให้เลยคงไม่ได้หรอกครับ นอกจาก คนตอบ ไม่ได้ทราบปัญหาที่แท้จริงแล้ว ยังเป็นการไม่ถูกต้องด้วย เวลาเขียน อย่าวนไปมา ปกติผมจะเขียนจาก บทนำ - ปัญหา - วัตถุประสงค์ - ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้ ไล่เรียงตามนี้ จะได้ไม่วกวน  ซึ่งหลังบทนำอาจจะแทรก Literature Review ไปหน่อยก็ได้ จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 13:22:30

ความคิดเห็นที่ 5 อ้อ  ลองไป search หา บทความ หรืออ่านวิทยานิพนธ์ คนอื่นเป็นตัวอย่างเยอะๆ ครับ ปล. ผมก็ไม่ได้เซียนหรอก แต่เขียนบ่อย จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 13:23:59

ความคิดเห็นที่ 6 ลองดูเป็นตย. ควบคู่กับของโครงการอื่นๆ (search ได้ด้วย google) ๑. หลักการและเหตุผล ปัญหาความยากจนเป็นปัญหาเรื้อรังประการหนึ่งที่กัดกร่อนสังคมไทยมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในชุมชนชนบท ส่งผลให้การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวมไม่รุดหน้าเท่าที่ควร ซึ่งที่ผ่านมา ภาครัฐได้ดำเนินการเชิงนโยบายหลายประการเพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว ทั้งในเรื่องการส่งเสริมให้ชุมชนเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อให้คนยากจนได้รับโอกาสในการประกอบอาชีพและยกระดับรายได้ของตน เช่นนโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และโครงการธนาคารประชาชน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าโครงการดังกล่าวสามารถเอื้อประโยชน์แก่คนยากจนได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ ทั้งนี้ จากการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (๒๕๕๑) พบว่ามีคนยากจนเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนดังกล่าว โดยคนจนที่สามารถกู้เงินจากโครงการธนาคารประชาชนมีเพียงร้อยละ ๐.๐๕ ของคนจนทั้งหมด และยังมีเสียงสะท้อนจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ว่าโครงการต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความยากจนของภาครัฐเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนในระยะยาวได้ เนื่องจากขาดการมีส่วนร่วมของชุมชนในการกำหนดนโยบาย ทำให้ไม่สามารถตอบโจทย์ที่ชุมชนต้องการได้  นอกจากนี้ คนยากจนยังไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและขาดโอกาสในการเข้าถึงกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิในทรัพย์สิน และการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่นเพื่อให้ตระหนักถึงสิทธิทางกฎหมาย รวมถึงบทบาท และหน้าที่ของชุมชนในการแก้ไขปัญหา              ความยากจนและพัฒนาชุมชน ด้วยปัญหาความยากจนเป็นปัญหาในเชิงโครงสร้าง โดยเฉพาะโครงสร้างทางกฎหมาย                 ที่ทำให้คนยากจนยังไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้เท่าเทียมกับผู้ที่มีสถานะทางเศรษฐกิจที่ดีกว่า                  ดังนั้น การส่งเสริมสิทธิทางกฎหมายให้กับคนยากจน (legal empowerment) ซึ่งส่งเสริมการเข้าถึง                      ความเป็นธรรมพื้นฐานของคนยากจน โดยอาศัยกฎหมายเป็นเครื่องมือและมุ่งเน้นการเสริมสร้าง                      ความเข้มแข็งให้กับชุมชนท้องถิ่นเพื่อให้ตระหนักถึงสิทธิทางกฎหมาย รวมถึงบทบาท และหน้าที่                     ของชุมชนในการแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาชุมชน จึงนับเป็นตัวแปรที่สำคัญประการหนึ่ง                     ในการแก้ปัญหา ในการนี้ ...............จึง.............................. แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 53 14:39:48 จากคุณ : JM2p เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 53 14:36:50

ความคิดเห็นที่ 7   ขออนุญาตเสนอความคิดเห็นที่อาจจะพอเป็นแนวทางได้บ้างนะครับ เมื่อดูจากชื่อ "โครงการบริการวิชาชีพสู่ชุมชน" แล้ว ค่อนข้างชัดเจนว่าต้องการให้อะไรกับชุมชุน อาจจะเป็นการให้เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับชุมชน หรือให้เพื่อส่งเสริม สนับสนุน หรือต่อยอดให้ชุมชนเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น (กรณีที่ชุมชนเข้มแข็งอยู้แล้ว) ประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกคือเกิดอะไรขึ้นกับชุมชน มีสาเหตุหรือปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เกิดโครงการนี้ขึ้นมา (ซึ่งในสังคมทุกวันนี้สามารถค้นหาข้อเท็จจริงได้ไม่ยากนัก) ประเด็นดังกล่าวนี้ที่จะนำมาเขียนหลักการและเหตุผล ขอให้ศึกษาหลายๆ โครงการ โดยวิเคราะห์หรือถอดความอย่างละเอียดให้เข้าใจเพื่อให้ได้หลักคิดในการเขียน ขอขอบคุณความเห็นที่ 6 ซึ่งท่านได้ให้ตัวอย่างไว้ดีมาก จะเห็นว่ามีปัญหาอยู่สองประเด็นหลัก คือ 1) ความยากจน 2) ความรู้ความสามารถของชุมชนทางด้านกฎหมาย และทางเศรษฐกิจ จึงทำให้ชุมชนเสียเปรียบทางด้านกฎหมาย และชุมชนส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ จากเนื้อความตอนท้าย น่าจะเป็นเรื่องของการส่งเสริมให้ชุมชนมีความรู้ความสามรถด้านกฎหมาย สำหรับโครงการบริการวิชาชีพสู่ชุมชน น่าจะมีปัญหาคล้ายๆ กัน คุณสามารถนำมาเป็นแนวทางได้ กรณีตามตัวอย่างตามความเห็นที่ 6 ใช้การส่งเสริมความรู้ความสามารถทางด้านกฎหมายเพื่อแก้ปัญหา แต่กรณีโครงการของคุณ ใช้การบริการวิชาชีพแก้ปัญหาให้กับชุมชน ส่วนวิธีเขียนให้เป็นเชิงวิชาการ หรือให้น่าสนใจ ต้องหมั่นฝึกฝนบ่อยๆ ครับ คุณอาจจะส่งโครงการมาให้ผมดูบ้าง เพื่อเป็นการศึกษาร่วมกัน sun.sunthorn94@gmail.com จากคุณ : บอย เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 19:07:00 A:118.175.19.10 X: TicketID:278976