ความคิดเห็นที่ 3 |
หลักการง่ายๆก็คือการคำนวณพลังหยินซึ่งเป็นพลังแผ่กระจายออกจากศูนย์กลาง (centrifugal force)กับพลังหยางซึ่งเป็นพลังบีบเข้าหาศูนย์กลาง (centripetal force)
ในการคำนวณดุลภาพหยินกับหยางในอาหารเรามักจะคำนวณจากอัตราส่วน sodium (หยิน) กับ potassium (หยาง)
ในบรรดาธัญพืชทั้งหมดข้าวกล้องเม็ดสั้นมีอัตราส่วน sodium (พลังหยิน) กับ potassium (พลังหยาง) 1:7 ซึ่งถือว่าเหมาะก้ับร่างกายมนุษย์มากที่สุด ม้ันจะแก้ความแปรปรวนของระบบการไหลเวียนของ qi (พล้ังลมปราณ) ได้อย่างรวดเร็ว
ตามคัมภีร์ของนักพรตเต๋าซึ่งเป็นพื้นฐานของการแพทย์จีนแผนโบราณเขาบอกว่า โรคภัยไข้เจ็บเกือบทุกอย่าง มักจะเกิดจาก ระบบการไหลเวียนของ qi แปรปรวน คนที่ไม่เคยฝึก Qi Gong (ฝึกพลังลมปราณ) หากรู้สัดส่วนการปรุงอาหารหรือการเลือกกินอาหารตามหลักวิชา Zen Macrobiotics อย่างเคร่งมากๆ สามารถมีกำล้ังภายในได้ถึงจะไม่เทียบเท่าคนฝึก Qi Gong แต่ก็มีได้พอนำมารักษาโรคได้โดยไม่ต้องใช้ยา วิธีการรักษาโรคแบบนี้มาจากแพทย์แผนปัจจุบ้ันชาวญึ่ปุ่นท่านหนึ่ง ซึ่งถึงท่านจะรู้วิชาแพทย์แผนปัจจุบัน แต่ท่านก็ไม่เคยใช้ยารักษาโรคคนไข้ แต่จะใช้ธรรมชาติบำบ้ัดตลอด จนคนในญี่ปุ่นขนานนามท่านว่า The No Medicine Doctor
เคยมีเรื่องเล่ากันในญี่ปุ่นว่าหญิงชราผู้หนึ่งที่ฝึกวิชา Zen Macrobiotics มาตั้งแต่เด็กๆ โดนกระจกที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆเป็นฝอยๆปลิวเข้าไปฝังในร่างเธอตอนระเบิดปรมณูหล่นลงมา เธอจมกองเลือดเลือดิอยู่แต่พยายามหนีไปจากตรงนั้นจนได้ และรอดตายจากกัมมันตภาพรังสีได้อย่างน่าประหลาด และอีกหลายเดือนต่อมาร่างเธอมีพลังมหัศจรรย์ผลักดันเศษกระจกพวกนั้นออกมาจนหมดได้เอง ฟังดูแล้วรู้สึกว่าจะคล้ายๆก้ับนิยายกำลังภายในที่นักวรยุทธ์ชั้นเลิศโดนอาวุธลับแล้วนั่งสมาธิเดินลมปราณจนอาวุธลับกระเด็นหลุดออกจากร่างได้...!!!??
แก้ไขเมื่อ 16 ก.ค. 53 02:47:39
จากคุณ |
:
fortuneteller
|
เขียนเมื่อ |
:
15 ก.ค. 53 23:58:44
|
|
|
|