ความคิดเห็นที่ 1 คุณต้องไปเรียนแพทยศาสตรบัณฑิต (Doctor of Medicine) ใหม่ 6 ปี แล้วต้องไปต่อด้านตจวิทยา (Dermatology) รวมฝึกงานอีกไม่รู้กี่ปี ถ้าคนที่คุณกล่าวถึง จบแค่พยาบาลศาสตรบัณฑิต (Bachelor of Nursing Science) ผมมั่นใจว่า เขาไม่ได้เป็นหมอที่พรเกษมหรอกครับ เพราะหมอที่พรเกษม ทุกคนจบแพทยศาสตรบัณฑิต จริง ๆ เขาอาจจะเป็นแค่ผู้ช่วยหมอเท่านั้น (ซึ่งเงินเดือนไม่น่าถึง 300,000 บาท) ใบ Certificate ที่คุณกล่าวถึงอาจจะมีอยู่จริง แต่ผมกล้าพูดเลย ถ้าคนไข้รู้ว่าหมอเหล่านี้ ไม่ได้จบแพทยศาสตรบัณฑิตมาโดยตรง ไม่มีใครอยากไปหาหรอกครับ แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 53 13:30:43 จากคุณ : Rifle D. เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 13:20:33

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณมากค่ะ ไปนั่งเสริชมาก็พอทราบคร่าวๆอย่างนั้นแล้วค่ะ ทีนี้อยากถามต่ออีกนิดว่า แล้วการเรียนแพทย์สำหรับคนที่ไม่ได้เรียนสายวิทย์มาก่อนเราต้องไปเรียนอะไรเพิ่มเติมบ้างหรอคะ แล้วผลการเรียนที่จบมาตอน ม.6 ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เลิกคิดไปเลยดีมั้ยคะ ไม่น่าเรียนไหว... จากคุณ : หนูฟั่นเฟือน เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 13:42:32

ความคิดเห็นที่ 3 ผมไม่ทราบระบบ Admission ในปัจจุบันเหมือนกันครับ แต่รู้สึกว่าถ้าไม่ได้จบสายวิทย์มา จะไม่สามารถ เรียนแพทย์ได้ จากคุณ : Rifle D. เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 14:11:42

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : หนูฟั่นเฟือน เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 15:23:04

ความคิดเห็นที่ 5 ที่ วุฒิ-ศักย์ คลีนิกตอนประกาศรับสมัครหมอผิวหนัง ยังลงว่ารายได้อยู่ที่ 100,000-300,000 บาท จากคุณ : เสร่อแมนน์ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 15:40:18

ความคิดเห็นที่ 6   ต้องกลับไปเรียน ม. 4 สายวิทย์-คณิต ครับ เอาเป็นว่าเรียนในสิ่งที่ตนอยากเรียนและถนัดเถอะครับ อย่าไปฟังคนอื่นมากเกินไป จากคุณ : ชาวจีนศึกษา ณ TU เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 15:54:03

ความคิดเห็นที่ 7 คนสมัยนี้ไม่ค่อยจะรู้ว่า "ความงามมาจากปัจจัยภายใน" หน้าเป็นสิวก็คิดว่าไปรีดสิวหรือต้องใช้การแพทย์ล้ำยุค เลยหมอรักษาสิวรวยเละ แท้จริงแล้วการเอาอะไรไปบำบัดรักษาที่ผิวหนังมันไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นตอเลย จริงๆแล้วสิวหรือผิวหนังไม่สวยรักษาด้วยธรรมชาติบำบัดได้ง่ายๆ โดยการรู้ว่า ต้นเหตุหลักแห่งสิวคือ 1. ลำไส้ใหญ่สกปรก 2. ระบบฮอร์โมนแปรปรวน อาศัยความรู้ง่ายๆแบบนี้เราก็รักษาสิวให้ใครก็ได้สบายๆ แต่เราไม่มีทางได้เงินเพราะคนส่วนใหญ่หลงไหลเทคโนโลยีชั้นสูง คิดไม่ถึงว่าเรื่องง่ายๆแบบนี้ก็เป็นไปได้ แต่เรารักษาสิวด้วยวิธีการอันง่ายๆแล้วได้ผล sure  เพียงแค่แค่สอนวิธีทำและกินอาหารปลอดสารพิษแบบ Zen Macrobiotics วิธีล้างลำไส้ให้สะอาด วิธีฝึกลมปราณให้หายใจถูกต้องจน relax  ได้ ร่างกายพักผ่อนได้ชาร์จพลังได้ โดยอาศัยหลักการที่ว่าลำไส้ใหญ่กับปอดทำงานประสานงานกัน...และพลังของมันมีความสัมพันธ์กับสภาพผิวหนัง และวิธีฝึกโยคะ สมาธิ และพลังลมปราณเพื่อควบคุมระบบ sex hormones เท่านี้ก็สิวหายหมด หน้าเกลี้ยงสวยงามได้ ท้าพนันได้ว่าถ้าเราทำไม่ได้จะไม่คิดเงิน แล้วจะแถมเงินให้ด้วย...555+++... จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 18:39:02

ความคิดเห็นที่ 8 เราว่าสอบได้นะ แพทย์มันรับตรงอะ (กสพท.) มีวุฒิม.หกไปยื่นก็คงสอบได้ละ เพราะไม่ได้ระบุเกณฑ์นี่ ว่าต้องจบสายวิทย์(หรือมี ผมก็ไม่เคยเห็นอะ) แค่ว่าคงต้องเรียนพิเศษมามากหน่อย เพราะตอนนี้มันสอบระบบอะไรไม่รู้ ฆ่ากันชัดๆ = =" เอาเป็นว่า ลองถามๆฝ่ายรับสมัครของกสพท.ดูละกัน ส่วนจะซิ่วมาเรียนนั้น เราไม่แนะนำอย่างแรง เพราะป.ตรีมาต่อแพทย์ก็เยอะ จบๆไปก่อนค่อยมาเรียนก็ได้ อีกหกปี จบมาก็ 28 ได้แพทยศาสตร์บัณฑิต ก็เปิดคลีนิก(เอง)รักษาสิว เสริมความงามได้แระ ไปเรียนCirtificateความงาม(แบบแพทยสภาไม่รับรองอะ)เอาละกัน ส่วนเฉพาะทางผิวหนังนั้น จะเรียนลึกมาก ถ้าเรียนแค่รักษาสิว จะรู้สึกว่า เรียนลึกได้อีก ไม่รู้จะลึกเพื่ออะไร แต่ถ้าจะทำงานคลินิกตามที่ว่า ก็คงต้องเรียนแหละ เป็นข้อมูลคร่าวๆอะนะ หวังว่าคงช่วยได้บ้าง ^^ จากคุณ : Gunch99 เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 53 22:36:17

ความคิดเห็นที่ 9 การเป็นแพทย์ ไม่ใช่อยู่ที่มองเห็นว่า รายได้ดี ถ้าอยากได้เดือนละสองสามแสน ใช้เวลาไปเรียนอย่างอื่นดีกว่าครับ กว่าจะเป็นแพทย์ผิวหนัง ที่เป็นที่ยอมรับและผ่านการฝึกมาอย่างดีตามระบบ คุณต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 12-14 ปี Sales ผมจบ ป 4 รายได้ไม่ต่ำกว่า แสนห้าต่อเดือน ฉนั้นถ้าคิดตามหลักเศรษศาสตร์แล้ว อาจจะไม่คุ้มที่จะลงทุนไปเริ่มเรียนใหม่ จากคุณ : นักการตลก (Dr. Will) เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 07:16:04

ความคิดเห็นที่ 10 คุณลูกเรียนภาษาอยู่ คุณพ่อคุณแม่เห็นลูกคนอื่นเขาทำงานคลีนิกโรคผิวหนังแล้วรายได้ดี เลยอยากให้คุณลูกไปเรียนอย่างนั้นบ้าง รายละเอียดคนอื่นเขาแจงไปแล้ว คงไม่ต้องชี้แจงอีก ถ้าจบ ม.ปลาย สายศิลป์มาเลิกคิดเรื่องเรียนแพทย์ไปได้เลย ที่มาเม้นท์นี่คือจะถามคุณลูกว่า แล้วคุณอยากไปเรียนหรือเปล่าล่ะ? แล้วความถนัดของคุณคืออะไร? จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 12:01:33

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณทุกความเห็นมากค่ะ ตอบคห.10 ความถนัดคือด้านภาษาค่ะ แต่เพราะว่าพ่อเค้าพูดมาแค่คร่าวๆ ตอนแรกนึกว่าเป็นหลักสูตรพิเศษสั้นๆ ไม่ได้ทราบรายละเอียด และหนูเองก็เป็นพวกรักสวยรักงามก็เลยสนใจนิดนึง แต่ก็คิดไว้แล้วหละว่ามันคงไม่ง่ายขนาดนั้นที่จะได้เงินเดือนสามแสน ไม่รู้ว่าต้องมาเรียนแพทย์ก่อน 6 ปี ถึงไปต่อด้านนี้ได้ ตอนนี้ไปคุยกับพ่อแล้วสั้นๆว่ามันเป็นไปไม่ได้ เค้าก็หาว่าไม่เชื่อ แต่หนูก็ไม่สนใจแล้วค่ะ เลิกคิด ส่วนคห.ที่บอกว่าไม่ต้องเรียนสายวิทย์ เท่าที่ไปหาข้อมูลมานะคะ เค้าไม่ได้ระบุชัดเจน แต่บอกว่าต้องมีหน่วยกิตกลุ่มสาระวิชาวิทยาศาสตร์ไม่ต่ำกว่า 22 หน่วยกิต ซึ่งเรียนศิลป์มาก็ไม่ครบอย่างแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องซิ่วเราไม่เคยคิดอยู่แล้วค่ะ ตอนแรกที่มาถามอย่างที่บอกคือคิดว่าเป็นหลักสูตรพิเศษ เลยอยากเรียนสองอย่างหนะค่ะ ขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง จากคุณ : หนูฟั่นเฟือน เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 53 13:09:19

ความคิดเห็นที่ 12   หมอผิวหนัง ร้อยละ 90 คือแพทย์พาณิชย์ หนังหน้าคนดี ๆ ก็เอากรดมาลอก เอาไฟฟ้ามาจี้ เอาหินมากรอ แล้วปากก็บอกคนไข้ "สวย ๆๆๆ" ในใจก็คิด "ฟาย วิ่งชนปังตอเองนะมรึง" ล่อคนไข้ซะเละ หมอรวย & เชิ่ด ประมาณว่าคุณธรรมสูงส่ง ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ (แน่จริงมรึงก็ฟรีสิ) เท่าที่เจอมาร้อยละ 50 หมอสาขานี้แหลเก่งที่สุด พูดและขายของเก่งมาก หลายคนพูดจนคนไข้หลับได้ จรรยาแพทย์ต่ำเพราะหิวเงินและรักสบาย หลายคนไม่ได้จบเฉพาะทางเสียด้วยซ้ำ จบแพทย์ 6 ปีใช้ทุนแล้วเปิดคลีนิกลอกหนังหน้า สูบเงินบรรดาโจ๋หน้าสิวกับผีเกาหลีขึ้นสมอง ที่มาผลาญเงินพ่อแม่อีกที บางตัวไปอบรมคอร์สสั้น 3 เดือน บอกได้เฉพาะทางแล้ว ทุเรศสิ้นดี จากคุณ : สุรางค์ศรี เขียนเมื่อ : วันภาษาไทยแห่งชาติ 53 17:25:37 A:203.172.120.227 X: TicketID:137537

ความคิดเห็นที่ 13 อย่าเรียนแพทย์เพราะคิดว่ารายได้ดีเลยครับ งานหนักและเหนื่อยมาก อยู่เวรครั้งละยี่สิบสี่ชั่วโมง ยิ่งเดี๋ยวนี้มีพรบ ให้ฟ้องกันง่ายกว่าเดิมด้วย ถ้าอยากรวยไปเรียนอย่างอื่นก็ได้ครับ จากคุณ : หนุ่มหนิงโป เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 11:14:54