ความคิดเห็นที่ 1   เรามีนิสัยแบบนี้เหมือนกัน..แต่ส่วนใหญ่เราซื้อหนังสือภาษาไทยนะ เราจะหยุดซื้อไปเองตอนไม่มีสตางค์ จริงๆนะ ถ้าคุณชอบซื้อหนังสือขนาดนี้แสดงว่ามีสตางค์ปุ๊บจะต้องให้ความสำคัญกับหนังสือเป็นอันดับต้นๆ ถ้าไม่อยากซื้อก็ต้องอ่านให้จบก่อนอย่างว่า หรือเอาเงินไปฝากไว้กับคนอื่น (อิอิ..) หรือไม่ก็เก็บไว้ในที่หายาก (เช่นเปิดบัญชีที่ไม่ทำบัตรเอทีเอ็ม) .. หรือจะแลกกันอ่านกับเพื่อนๆ พอหนังสือไม่ได้อยู่กับตัวแล้วอาจจะทำให้เราอยากจะอ่านมันให้จบมากขึ้นก็ได้ หรือไม่ก็ไม่เอากระเป๋าสตางค์ไปด้วยตอนไปดูหนังสือในร้าน.. ไม่รู้ว่าความเห็นเราจะช่วยอะไรได้บ้างไหมนี่.. จากคุณ : avatar เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 21:03:32 A:124.120.99.76 X: TicketID:277001

ความคิดเห็นที่ 2   ไม่มีกฏค่ะ ซื้อไป ซื้อไป แล้วอ่านไม่ทันสักพัก ก็เริ่มมีสติ เสียดายตังค์ ก็หยุดไป  อีกอย่างก็ห้ามใจอย่าเข้าร้านหนังสือสักพักค่ะ ถ้าเข้าก็จะได้อะไรสัก แต่หยุดไปสักพักก็เดี๋ยวก็เริ่มใหม่ ช่วงเกือบเสียดายตังค์ ก็ก่อนจ่ายตังค์นี่ ถามตัวเองให้แน่ใจก่อนว่า เอาไปนี่จะอ่าน จากคุณ : สารภีดง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 21:17:01

ความคิดเห็นที่ 3 อย่าหยิบเงินเข้าร้านหนังสือครับ พกไปแต่พอดี จากคุณ : 4minbody เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 22:03:33

ความคิดเห็นที่ 4 เราเคยบ้าหนังสือซื้อทีละมากๆเป็นประจำจนเกือบจะล่มจมหลายครั้ง บางทีซื้อมากองไว้เพราะกลัวมันจะหมดแล้วไม่พิมพ์อีก จนหาไม่ได้อีก แต่ก็ไม่มีเวลาอ่าน วางกองจนขี้ฝุ่นจับเขรอะ แต่เมื่อ 5 ปีที่แล้วเราเิริ่มใช้ google พลิกแพลงเก่งขึ้นเรื่อยๆจนเราหาหนังสือภาษาอังกฤษเกือบทุกอย่างที่เราต้องการได้หมด เราเลยอ่านแต่ ebooks ของฟรี แทบไม่เสียเงินซื้อหนังสือภาษาอังกฤษเลย...รู้สึุกในรอบ 5 ปีที่ว่านี้จะเสียเงินซื้อหนังสือภาษาอังกฤษไปแค่ 2 เล่มเอง ที่หา download ฟรีไม่ได้จริงๆ แม้กระทั่งเมื่อก่อนที่เราเคยซื้อหนังสือภาษาไทยค่อนข้างเยอะ แต่พออ่านๆไปแล้วรู้สึุกเบื่อๆ...เพราะยิ่งอ่านภาษาอังกฤษก็ยิ่ง "กระหาย" ว่ามันมีอะไรเร้นล้ับที่จะค้นคว้าได้มากกว่าอ่านหนังสือภาษาไทย  เลยเลิกซื้อหนังสือภาษาไทยไปเกือบหมด ยกเว้นยังอุดหนุนหนังสือคอมพิวเตอร์เป็นภาษาไทย เพราะมันสอนอะไรง่ายๆไม่ซับซ้อนเหมือนหนังสือคอมพิวเตอร์ภาษาอังกฤษ แต่ในช่วงหลังๆนี้เราทดลองเรียนคอมพิวเตอร์โดยการหาข้อมูลจาก google ได้เพราะฟลุ๊ก คือมีอยู่ช่วงหนึ่งเราซื้อ notebook มาแล้วดันไปปรับเปลี่ยน configurations มันมากเกินไป (ทดสอบทั้ง software ทั้งระบบ) จน bios มันเดี้ยงไป  boot ไม่ขึ้น เราตกใจมากๆเพราะมันเกิดขึ้นกลางดึก ไม่รู้จะวิ่งไปหาช่างที่ไหนให้ซ่อมได้ เราก็เลยค้นข้อมูลจาก google แบบมั่วๆเพื่อหาวิธี flash bios เครื่องรุ่นนั้น แล้วหาเจอ เลยซ่อมมันเองได้สำเร็จกลางดึกนั่นแหละ...จากนั้นเราเริ่มเรียนรู้วิธีการค้นข้่อมูลจาก google เจาะลึกมากๆจนตอนนี้เราเรียนเกือบทุกอย่างเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ได้จาก google ล้วนๆ จนกระทั่งเราเลิกซื้อหนังสือคอมพิวเตอร์เป็นภาษาไทยไปอีกด้วย แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 53 23:51:57 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 23:46:54

ความคิดเห็นที่ 5 เราก็เป็นคนบ้าซื้อมากค่ะ ไปห้างต้องเข้าร้านหนังสือถ้าไม่มีหนังสืออะไรที่สนใจ ก็ไม่ต้องเสียเงิน เดินออกร้านตัวเปล่า แต่ถ้ามีหนังสือที่สนใจ ถ้าเป็นหนังสือไทยเราคงจะรอไว้ซื้องานหนังสือเพราะลดเยอะกว่า 15 - 20% แล้วซื้อมาตอนนี้ก็อ่านไม่ทันอยู่ดี ส่วนหนังสือภาษาอังกฤษถ้าไปคิโนะก็ซื้อเลยค่ เพราะนานๆไปที ส่วน Asia Book ส่วนมากซื้อนิยายก็จะไปรอซื้อที่งานหนังสือ ตอนนี้เรามีหลายยยยยยยยยยยยยยยยยยยเล่มมากที่อ่านไม่ทัน (ตู้หนังสือสองตู้ สามชั้น หนังสือเต็มตู้ทุกช่อง) ก็พยายา่มอ่านทุกคืนไปเรื่อยๆ ป.ล. เราเหมือน จขกท. เลย ได้เห็นหนังสือที่ตัวเองชอบเยอะๆแ้ล้วมีความสุขยังไงไม่รู้ 55 (ทั้งๆีที่ดองไว้อย่างงั้น) จากคุณ : Luv~Berry เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 00:01:15

ความคิดเห็นที่ 6 ควบคุมไม่ได้ค่ะ ฮ่า ๆ ถ้าลองได้เข้าร้านหลังสือ ต้องมีติดมืออกมาอย่างน้อย 1 เล่ม (แต่ส่วนมากมักจะเกิน) วิธีแก้วิธีเดียวเลยคือ หลีกเลี่ยงการเข้าร้านหนังสือ และหลีกเลี่ยงการ Search Internet เพื่อหาซื้อหนังสือออนไลน์ด้วยค่ะ (แต่ทำยากจังง่ะ) จากคุณ : noinachan เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 08:41:45

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่เคยควบคุมได้เลย หนังสือที่อยู่ในกองดองเยอะมาก...ก ยิ่งนานวัน ยิ่งซื้อเยอะขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่าถ้าเราอ่านหนังสือด้วยความเร็วคงที่ (ประมาณ 10-15 เล่ม ต่อเดือน) ต่อให้พรุ่งนี้รัฐบาลประกาศให้งดจำหน่ายหนังสือ เราก็ไม่เดือดร้อน ยังมีหนังสือให้อ่านไปในความเร็วเดิมไปอีกเป็นหลายปีอ่ะ -*- แต่เราว่าซื้อดองไว้ก็ไม่เสียหายนะ เคยแบบเห็นแล้วไม่ซื้อแต่พออยากอ่าน ไปหาซื้อมาอ่าน ก็หาไม่ได้แล้ว เค้าไม่พิมพ์แล้วมันจะเซ็งมาก ยิ่งช่วงนี้นะมันมีพวกร้านมือสอง เก่าหน่อยแต่ 50% โอ๊ยซื้อกันสนุกมือ ช่วยแนะนำอะไรเจ้าของกระทู้ไม่ได้หรอก บอกได้แต่ว่าอย่ากลุ้มไปเลย ซื้อไปเหอะ ซักวันเราก็ได้อ่านอยู่ดี ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้แหล่ะฟระ(พูดกับตัวเอง) จากคุณ : smooth night เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 09:17:51

ความคิดเห็นที่ 8   ไม่สามารถควบคุมตัวเองในเรื่องนี้ได้เหมือนกัน และอาการหนักกว่าคุณเจ้าของกระทู้ กองดองเยอะจนเลิกนับไปแล้ว (ครั้งล่าสุดที่พยายามนับ มีหนังสือรอคิวอ่านประมาณ 200 กว่าเล่ม) อัตราการซื้อมากกว่าอัตราการอ่านหลายๆเท่า ทุกวันนี้บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไรหนังสือเป็นของไม่เน่าไม่เสีย ถึงวันนี้ยังอ่านไม่ทัน วันหน้าก็ได้อ่าน เป็นโรคจิตมีความสุขกับการสะสม ชื่นชมกองหนังสือที่อยากอ่าน ยังไม่อ่านก็ไม่เป็นไร ขอเอามาปัดฝุ่น เช็ดปก ห่อปก แพ็คถุงพลาสติกกันฝุ่น จัดเรียงเป็นหมวดหมู่ เล่มไหนเป็นกระดาษปรู๊ฟ (กระดาษเบาๆเก็บไปๆโดนแสงโดนลมกระดาษจะเหลืองกรอบ) นอกจากห่อพลาสติกกันฝุ่นกันลมแล้วยังต้องห่อกระดาษกันแสงด้วย (ความจริงเขามีถุงพลาสติกสีน้ำตาลเข้มๆขาย แต่มันแพงอ่ะ เก็บตังค์ไว้ซื้อหนังสือดีกว่า) ฝันไว้ว่า วันหนึ่งข้างหน้าเมื่อภาระหน้าที่เบาบางลง ความมั่นคงในชีวิตมีมากขึ้น จะได้เกษียณตัวเองอยู่บ้านอ่านหนังสือจิบน้ำผลไม้ เบื่อๆก็ออกท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง แล้วส่วนประกอบหนึ่งในความฝันก็คือหนังสือไงคะ (ตอนนี้หาเงินก่อน) ก็เลยได้บอกกับตัวเองเวลานั่งมองกองดองว่า เรากำลังสะสมส่วนหนึ่งของความฝัน 555++ ยิ่งเดี๋ยวนี้มีร้านหนังสือมือ 2 สภาพดี ซื้อได้ราคา 50% ความยับยั้งชั่งใจก็น้อยลงไปด้วย กองดองถล่มทลาย สำหรับกรณี ebook ที่คุณ fortuneteller แนะนำ เคยพยายามแล้ว แต่ไม่สามารถจริงๆ ปวดตามาก รู้สึกได้เลยว่าตั้งแต่อ่านกระทู้ในเนต อ่านนิยายตามเวปต่างๆ สายตาแย่ลงไปมากๆ อันนี้ยังไม่คิดเรื่องต้องอ่านเป็นภาษาอังกฤษนะเนี่ยะ ฮา.. จากคุณ : ส้ม เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:37:16 A:124.120.17.140 X: TicketID:142310

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่เห็นไปไรนิครับ ก็ความสุขเรา จากคุณ : Superguiman เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 17:08:06

ความคิดเห็นที่ 10 หักห้ามไม่ได้ถ้าอยากได้จริงๆ หรือว่าอยากเอาไปอ่านที่บ้านจริงๆ บางเล่มถ้าไม่หนามากก็จะอ่านในร้านหนังสือไปเลย เราชอบสั่งซื้อในเว็ปมากกว่า เพราะ เป็นสมาชิก แต่บางครั้งก็ไปซื้อที่ร้าน แล้วเวลาจะซื้อก็จะเลือกหนังสือที่สภาพดีที่สุด สันห้ามบุบ หน้าห้ามยับ กาวห้ามหลุด ถ้าไม่มีดีกว่านี้ก็จะหักห้ามใจยังไม่ซื้อ ไปหาซื้อที่อื่น พอซื้อมาก็เอามาดองไว้ที่ชั้น เวลาว่างๆก็จะหยิบทั้งหมดออกมาดู แบบว่า ภูมิใจ(?) ตูซื้อเยอะมาขนาดนี้แล้วรึเนี่ย ดีล่ะ ไม่ต้องกลัวไม่มีอะไรจะอ่าน เสร็จแล้วก็จะมาลูบๆคลำๆ สำรวจว่ามีเล่มไหนที่ปกที่ห่อขาดบ้าง ถ้าขาดไม่มากก็จะใช้สก็อตเทปตกแต่งแบบเนียนๆ ถ้าขาดเยอะ จะเอาปกเก่าออก แล้วเอาไปห่อใหม่ -*-เสียตังโดยใช่เหตุ แบบว่า หนังสือที่ปกขาดมันรู้สึก ยังไม่เพอร์เฟค ไม่คู่ควรแก่การเก็บรักษา เลยต้องไปห่อใหม่ ออกแนวโรคจิต -*- จากคุณ : อยากเลี้ยงน้องไซแต่ไม่มีตัง เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 01:56:34

ความคิดเห็นที่ 11 เคยเป็นเหมือนทุกๆท่านข้างบน จนวันหนึ่งโดนพลพรรคปลวกบุกทำลายหนังสือที่ซื้อมายังไม่ได้อ่านแทบทั้งหมด หลังจากนั้นก็เลยได้คิดว่า ไม่น่าเสียเงินเสียทองซื้อหาหนังสือมาตั้งเยอะแยะ แล้วก็สูญเปล่า ลดความอยากซื้อลงไปมากมาย คงเหลือซื้อแต่ที่ตั้งใจจะอ่านจริงๆ ตอนนี้ มีหนังสือที่ซื้อมาใหม่แล้วรอคิวอ่านอยู่เพียงประมาณ 3 ลังครับ จากคุณ : phahurat เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 09:00:48

ความคิดเห็นที่ 12 เลิกห้ามตัวเองมาหลายปีแล้วเหมือนกันค่ะ เพราะตอนแรก ระงับอกระงับใจว่าไม่ ไม่ ม่ายยยยยยย แต่สุดท้าย ไอ้ที่เหลือบมองไว้แล้วไม่ได้ซื้อ ก็ต้องย้อนกลับไปซื้อจนได้ บางคราวโชคร้าย หนังสือเล่มนั้นเกิดหมด หาไม่ได้ อันนี้ยิ่งหงุดหงิดหนักๆ ตอนนี้ เจอที่อยากอ่านก็ซื้อ ไม่แปลกค่ะ ที่กองหนังสือที่ดองเอาไว้จะสูงขึ้นเรื่อยๆ และชั้นวางหนังสือในห้อง จะแน่นปริ จากคุณ : ฝน (joruno_jostar) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 16:08:54

ความคิดเห็นที่ 13 ตอนนี้บ้าซื้อเช่นกันค่ะ สมัยเรียนซื้อนานที ทีละเล่ม 2 เล่ม แต่พอทำงานและเรียนป.โทจบ มีเวลาอ่าน ซื้อราวกับว่าอดอยากมาจากไหน ยิ่งช่วงหลังๆซื้อแล้วแม่อ่านด้วยยิ่งมันส์ในการซื้อ ซื้อทั้งจากงานหนังสือ สั่งทางเว็บ และทุกครั้งที่ได้เดินเข้าร้านหนังสือ จากคุณ : ถั่วฝักยาวสีขาว เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 22:10:48

ความคิดเห็นที่ 14 ห้ามยากครับ นอกจากตังค์หมด  อันนั้นจำเป็นจริงๆ ถ้ามีเล่มไหนอยากอ่าน ก็ซื้อครับ ตอนนี้หนังสือที่ยังไม่ได้อ่านมีเยอะมาก T_____T  แต่ก็มิได้ท้อถอย ซื้อต่อไป เคยโดนที่บ้านยกหนังสือในห้องไปขายตอนไม่อยู่ โมโหมาก กว่าจะหาได้แต่ละเล่มแทบตาย แต่ดันมาขายยกมัด  แยกเล่มขายน่ะได้หลายตังค์นะนั่น  T___T พูดแล้วเสียดาย จากคุณ : aka shuri เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 08:01:27

ความคิดเห็นที่ 15 สำหรับเราวิธีเดียวที่จะหยุดคือ เงินหมด เท่านั้น   บางทีก็มีเหตุผลเข้าข้างตัวเองว่า "ซื้อไปเถอะ วันหลังก็ต้องซื้ออยู่ดี  ซื้อวันนี้ก็ไม่ต่างกันหรอก" แก้ไม่หาย  เหมือนคนติดยา  ไม่ได้ซื้อมันจะอยาก  พอได้มาแล้วอารมณ์จะเคลิ้มๆ   แต่ช่วงหลัง ใช้วิธีจำกัดจำนวน  ว่าได้แค่1-2 เล่มเท่านั้น หรือไม่เดินเล่นในร้านหนังสือเด็ดขาด  อยากได้อะไร เดินไปดูแล้วจ่ายเงินออกเลย   ที่สำคัญซื้อแล้วกลับมาบ้านต้องอ่านทันที  ไม่งั้นจะดอง จากคุณ : tibby-bibty เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 10:56:07

ความคิดเห็นที่ 16   เช่นกันค่ะ โดยเฉพาะ ซื้อตามร้านมือสองเนี่ย มันรอไม่ได้จริงๆ เจอที่ชอบเป็นต้องซื้อ กลัวคราวหน้ามาไม่เจอ  แต่ถ้าหนังสือใหม่ก็ยังรอได้ค่ะ จากคุณ : sriwara@me เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 11:35:17