ความคิดเห็นที่ 1 อ้าคำถามคุณน่าสนใจมากๆ 1. ประเด็นแรกคือคุณรีบเรียนเกินไปหรือเปล่า คนเราแต่ละคนเรียนภาษาช้าเร็วไม่เท่ากันนะ ตอนเราอายุ 17 ภาษาอังกฤษเราไม่กระดิกหูเลย ในขณะที่นักเรียนเตรียมอุดมศึกษาที่อายุสูสีเรา ซึ่งสอบได้ทุน King's Scholarship ไปเรียนต่างประเทศ ในช่วงไล่เลี่ยกับเรา เขาไปอยู่ต่างแดนแค่ 6 เืดือนก็สอบข้อสอบภาษาอังกฤษยากระดับ TOEIC ผ่านสบายๆ แต่เราผู้ที่ภาษาอังกฤษไม่กระดิกหูเลย อยู่ต่างแดนไปอีก 6 ปี จนพูดกับฝรั่งรู้เรื่องสบายๆแต่ก็ยังสอบข้อสอบระดับนี้ไม่ผ่านเลย เพราะเราเกลียดภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็กๆและเราก็ไม่มีพรสวรรค์ทางด้านภาษาเอาเสียเลย ไอ้ที่พูดกับฝรั่งรู้เรื่องได้น่ะ เรารู้ศัพท์แค่ไม่กี่คำเอง แล้ว grammar เราก็ไม่รู้ ม้ันทำให้อ่านภาษาอังกฤษยากๆก็ไม่รู้เรื่อง ยิ่งให้เขียนละก้อยิ่งไปไม่รอดใหญ่เลยหละ...!!! 2. ที่คุณพูดว่า "ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเราทำงานกับทีมงานต่างชาติทั้งที่มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และก็ไม่ได้มีอังกฤษเป็นภาษาหลักเนี่ยเราก็สื่อสารรู้เรื่อง พูดเข้าใจ ไม่ต้องมีล่ามอะไรเลย แต่ทำไมทำสอบ เรากลับทำรีดดิ้งได้คะแนน้อย" ตอบ ถ้าคุณพูดภาษาอังกฤษผิดในที่ทำงานก็ไม่มีใครกล้ามาทักท้วงคุณหรอกเพราะม้ันเสียมารยาท คุณพูดผิดๆก็ยังสื่อสารรู้เรื่องนี่นา แต่ตอนสอบมันอีกเรื่องหนึ่งเพราะคุณผิดมากก็ไม่ได้คะแนน แล้วอีกอย่างหนึ่งจะบอกให้ว่า เราเคยไปเป็นล่ามในที่ประชุมในบริษัทหลายๆแห่ง เวลาต้องเอา files จากคอมพิวเตอร์ฉายผ่าน projector ขึ้นจอหารือกันระหว่าง คนไทยกับคนต่างชาติในเรื่องยากๆเช่นการเงินหรือระบบคอมพิวเตอร์ ภาษาอังกฤษที่คนไทยเขียนซึ่งฉายขึ้นจอ พอเรามองดูเราจะมองเห็นข้อผิดพลาดของคนเรียนภาษาที่ 2 อยู่เกือบทุกๆหน้า หรือเกือบทุกๆ paragraph แต่พวกเขาก็ยังสื่อสารกันรู้เรื่อง ดูจากศัพท์ที่พวกเขาเขียนมา คนไทยพวกนี้นะ อ่านหนังสือพิมพ์ Bangkok Post รู้เรื่องมากพอสมควร แต่ถ้าไปสอบ TOEIC รับรองว่า "สอบตกกันเกือบหมด" เพราะถึงสื่อสารรู้เรื่อง แต่ข้อผิดพลาดพวกนั้น มันโดนหักคะแนนหมดเวลาสอบ แล้วยิ่งไปสอบข้อสอบยากๆแบบ CPE ของ University of Cambridge ละโอกาสผ่านแทบจะไม่มีเลย เนื่องจากข้อสอบนี้ยากที่สุดในบรรดาข้อสอบภาษาอังกฤษทั้งหมดที่มีให้คนเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 สมัครสอบได้แบบ private candidate (เพื่อเอาไปใช้เรียนต่อหรือสมัครงาน) เนื่องจากคนออกข้อสอบมีความเชี่ยวชาญมากๆ ในการเขียนข้อสอบเพื่อ "หลอกล่อให้ผู้สอบใช้ภาษาอังกฤษผิดๆแบบคนเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 (ซึ่งแก้ได้ยากมากๆ) ออกมาโดยไม่รู้ตัว" คือจริงๆแล้วถึง TOEIC มันจะไม่ยากมากนักก็ตาม แต่คนที่จะสอบผ่านได้ ม้ันไม่ใช่แค่พูดกับต่างชาติสื่อสารรู้เรื่องเท่านั้น แต่มันต้องใช้ภาษาอย่างถูกต้องอีกด้วย ซึ่งการใช้ให้ถูกต้องมันไม่ใช่เรียนกันแค่อาหารจานด่วนแล้วจะได้กันง่ายๆ ตามที่เราบอกแล้วว่า เราเริ่มเรียนภาษาอังกฤษจาก "ศูนย์" เราไปอยู่ต่างแดน 6 ปีเราก็ยังสอบ TOEIC ไม่ผ่าน ส่วนเพื่อนเรานั้นยิ่งประหลาดใหญ่เลย เพื่อนเราคนหนึ่งอยู่ประเทศอังกฤษมานาน 30 ปี จบปริญญาตรีจากอังกฤษ มีแฟนเป็นคนอังกฤษ เพื่อนเราคนนี้พูดภาษาอังกฤษได้ชัดมากๆ พูดไม่ผิด grammar เลย แต่เพื่อนคนนี้ไปสอบ CPE ของ University of Cambridge ถึง 3 ครั้ง แล้วสอบตกทั้ง 3 ครั้งเลย...!!! เราว่าเขาเสียคะแนนพวกนี้ 1. essay เพื่อนเราพูดอังกฤษเก่งแต่มันไม่เคยหัดเขียน essay 2. use of English ข้อสอบมันออกมาแบบให้ประโยคมา แล้วให้เขียนใหม่ให้มีความหมายเหมือนเดิม แต่ต้อง 1 ขึ้นต้นประโยคอีกรูปแบบตามที่เขาให้มา หรือ 2 เอาคำศัพย์ที่เขาให้มาไปใช้สร้างประโยคใหม่ สอบแบบนี้ฆ่ากันชัดๆเลย เพราะกรณี 1 ถ้าไม่รู้ collocations ก็ตายแบบเขียดเพราะพอพลิก sentence structure ก็งงเขียนไม่ถูก กรณี 2 ถ้าไม่รู้ idiomatic expressions (ที่คนออกสอบต้องการ) ก็ตายเน่าอีก 3. listening comprehension ตอนฟัง answer sheet คว่ำอยู่ (ห้ามพลิกดู) และห้ามจับปากกา ฟังละครเรื่องยาวๆจบ ค่อยพลิก answer sheet กับจับปากกาได้ ...ตายห่ะใครจะไปจำได้ฟะว่ามันพูดว่าอะไร แล้วก็ไม่รู้ล่วงหน้าด้วยว่า "เขาจะถามอะไร" 4. reading comprehension ขนาดเพื่อนเราเรียนจบปริญญาตรีมหาลัยอังกฤษ มันอ่านข้อสอบมันยังงงตอบผิดเลย...เพราะมันต้องใช้ตรรกะที่แม่นยำพอสมควร...!! สงสัยเพื่อนเราคงได้คะแนนเต็มตอนสอบ conversation ที่ต้องสนทนาค่อนข้างนานกับฝรั่ง แต่กระนั้น papers อื่นๆมันคงทำผิดโดนหักคะแนนบานเบอะ จนสอบตกไป 3 รอบ จนมันขยาดไม่กล้าไปสอบอักแล้ว แต่คุณไม่ต้องกล้ัวหรอก TOEIC มันง่ายกว่า CPE ตั้งเยอะ แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างที่คุณคิดหรอก ที่ว่าจะอ่านหนังสือเพียงแค่ไม่กี่เดือน แล้วจะไปต้อนหมูเข้าเล้าได้ง่ายๆ...!!! แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 53 01:24:44 แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 53 01:14:13 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 00:56:49

ความคิดเห็นที่ 2 คุณfortunetelle     ขอบคุณมากค่ะที่มาช่วยตอบกระทู้ อย่างไรรบกวนตอบอีกครั้งนะคะ มีคำถามมากมายเลยค่ะ รบกวนด้วยนะคะ จริงๆไม่ได้รีบเรียนอ่าค่ะ คือไม่ได้ว่าจะสอบแล้วมาอ่านอัดๆหรือลงคอร์สติวแบบชาวบ้านเค้า คือว่าที่บ้านส่งเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่อยู่ ป.6 แล้วค่ะ เรียนพิเศษมาตลอด ขีวิตวนเวียนแต่กับ British Council และก็โดนถีบส่งไปต่า่งประเทศให้ได้ออกจากกะลาบ้าง ส่วนการมาสอบ TOEIC คือมาอ่านหนังสือเอาเองค่ะ เพราะว่าเห็นมีหนังสือติวขายอยู่มากมาย ในอินเตอร์เนตก็มีเลยไม่เคยลงคอร์สติวโทอิคเลยค่ะ สอบครั้งแรกปลายปี 2006 อ่านไปก่อนสอบแค่อาทิตย์นึง อ่านไม่จบเล่ม ดันทำได้เกือบๆ 700 ตอนหลังจะสมัครสายการบินอีกแห่งเขาต้องการคะแนนสูงๆกว่านั้น ก็ไปลองสอบใหม่ ก็ได้มาเกือบๆ 800 นั่นอ่าค่ะ แต่พอเค้ารีดีไซน์ข้อสอบใหม่ ตั้งแต่นั้นคะแนนร่วงมาอยู่ 600 ปริ่มๆเองค่ะ T^T หนูทำไม่ทัน เคยทำไม่ทันร่วมๆ 30 ข้อ ส่วนการเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็กนะคะ การวัดผลในห้องเรียน การสอบตั้งแต่อยู่โรงเรียน จนจบมหาวิทยาลัย ก็ได้ A มาตลอด  ง่อยๆก็ไม่เคยต่ำกว่า B แต่ทำไมพอมาสอบ TOEIC คะแนนมันถึงเป็นแบบนี้ละคะ หรือว่าเพราะการเรียนในโรงเรียนนั้นครูก็ไม่ได้มีความแตกฉานและแม่นยำในแกรมม่าเช่นกันเลยไม่ได้ถูกแก้ไขคะ การให้คะแนนก็เลยมีข้อจำกัดที่ความสามารถของครูผู้สอน (นรกจะกินหนูมั้ยคะที่พูดแบบนี้ แต่ยังไงก็สำนึกในบุญคุณของอาจารย์ทุกท่านนะคะ) แล้วแบบนี้แก้ตรงไหนละคะ แกรมม่าใช่มั้ยคะ คือต้องเป๊ะๆแกรมม่า ถึงจะขุดคะแนนรีดดิ้งให้มันพอจะดีขึ้นมาได้ คือตอนนี้พาร์ทที่มีปัญหาคือรีดดิ้งค่ะ พอจะแนะนำวิธีการอ่านให้จับคำตอบได้ง่ายๆบ้างมั้ยคะ บอกตามตรงเลยค่ะ ว่าทำรีดดิ้งไป 10 ข้อแรกก็ยังไหว ผ่านไปถึงข้อ 20 ชักแบบ เมื่อไหร่จะหมดสักทีว้อยยย พอมาถึงข้อที่ 30 กว่า อาการบ้าคลั่งอยากจะเอาหัวไปโหม่งกำแพงเล่นแล้วค่ะ จะอ่านเยอะไปไหน เจอแบบอ่าน 1 หน้า แต่ตอบแค่ 2-3 ข้อ แล้วมันเจอแบบนี้เยอะค่ะ ท้อใจเลยทีเดียว T^T ตอนแรกดีใจที่เอาพาร์ทเออร์เรอร์ออก แต่ตอนนี้แบบ เอาเออร์เรอร์กลับมาเถอะบังพอจะทำได้มากกว่าให้มาอ่านๆเลย อีกอย่างค่ะคือว่าภาษาอังกฤษถ้าเราไม่ได้ใช้ทุกๆวัน หรือบ่อยๆเหมือนตอนเรียนเนี่ย ระดับแกรมม่า หรือการอ่านมันจะด้อยลงมั้ยคะ แบบว่าตอนแรกที่เปิดซองมาว่าคะแนนได้ 600 ปริ่มๆอย่างช๊อคเลยค่ะ ไม่เคยคิดว่าจะได้ต่ำขนาดนี้ บอกตามตรงว่าอีโก้มากๆ คิดว่าโหยต้องได้เกือบ 800 แน่ๆ เพราะคะแนนไอเอลสท์เคยทำได้ 6.5 แต่พอเปิดซองมาเจอ 600 ปริ่มๆนี่ช๊อคไปเลย ระยะที่สอบไอเอลสท์ กับ โทอิค ห่างกัน 2 ปีค่ะ ขออภัยที่ถามเยอะนะคะ มันเป็นอะไรที่ค้างคาในหัวมากๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตกันเนี่ย T^T แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 53 01:31:50 จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 01:23:36

ความคิดเห็นที่ 3 จริงๆ พาร์ท  รีดดิ้ง    กะแล้วว่าต้อง ใช้เวลาไม่ทันแน่ๆ กอฟท์เคยไปสอบมา 1 ครั้งเมื่อเดือน 3 ได้มัง  ถ้าจำไม่ผิด  ได้มาเกือบ 800  เหมือนกันครับ จากที่คุยกับเพื่อนๆ ที่ทำไม่ทัน เป็นเพราะไม่แม่นแแกรมม่า  ในส่วนของพาร์ทรีดดิ้ง นะ  เลยเสียเวลาครับ แนะนำให้ทวนแกรมม่าให้แม่นๆ  จะใช้เวลาส่วนนี้น้อยลงครับ ตอนที่สอบ ก็ทำไม่ทัน ข้อหลังๆ เหมือนกันครับ  แต่ส่วนตัวพอมานั่งคิดเป็นเพราะแกรมม่าไม่แม่นเหมือนกันครับ   เลยใช้เวลาในการนึกนานกว่าปกติครับ อันนี้วิเคราะห์จากตัวเองนะครับ แต่อารมร์ เหมือน จขกท เสียเซลฟ์ เหมือนกันนะ  เพราะเคยสอบโทเฟล แต่ก็นานแล้วตั้งแต่ก่อนจบ ป.ตรี  แล้วได้เยอะมากกกกกกก  เยอะตกใจมากตอนนั้น  แต่พอเรียนจบเลยลองสอบใหม่   ตอนนั้นมั่นใจว่าโทอิคต้องแตะ 900 เหมือนกัน เพราะมั่นใจมากๆ  แต่ก็ได้มาแค่เกือบ 800  แต่ก็ถือว่าไม่ได้เตรียมตัวไปสอบครับ   สมองว่างๆ ไปสอบครับ สู้ๆ นะ ตอนนี้เพื่อนกอฟท์หลายคนกำลังสอบใหม่กันอยู่เหมือนกัน  แต่กอฟท์ยังขี้เกียจอยู่เลยครับ 555 เหมือนไม่ได้ช่วยอะไร 555 แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 53 02:24:52 แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 53 02:21:30 จากคุณ : BIZZARE เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 02:19:25

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าคุณทำข้อสอบ reading comprehension ไม่ทันก็แสดงว่าคุณยังอ่านจับใจความได้ไม่เร็วพอ เราเคยลองทำข้อสอบ CPE ดูเล่นๆสมัยเราเพิ่งอ่านภาษาอังกฤษรู้เรื่องใหม่ๆ เราพบว่าทั้งๆที่เรารู้คำศัพท์หมดทั้ง passage แต่เราก็ยังเลือกคำตอบไม่ถูก แล้วงงอยู่ตั้งนาน เพราะจริงๆแล้วคำศัพท์ที่เราคิดว่าเรารู้บางทีมันมี subtle nuances of meaning อยู่ ที่เราไม่รู้ และมันมี collocations แปลกๆแอบแฝงอยู่ (คือมันแปลเป็นกลุ่มคำ ไม่ได้แปลเป็นประโยค) และบางทีมันมีประเด็นของ grammar มาเกี่ยวข้องที่มันต้องรู้เพื่อตัดสินว่าข้อไหนถูก แต่ก็ต้องลงเอยตัดสินกันด้วยทักษะเรื่อง reductio ad absurdum นั่นก็คือ "ขจัด" ข้อที่ใช้การไม่ได้ไปเรื่อยๆจนเลือกได้ถูกต้องในที่สุดว่าคำตอบข้อไหนถูก ซึ่งถ้าไม่ได้ฝึุกบ่อยๆสมองมันจะคิดช้า ถ้ารีบๆทำจะเลือกคำตอบผิดข้อ แต่ถ้าอ่านทวนหลายๆรอบก็จะทำข้อสอบไม่ท้ัน การที่คุณเคยได้คะแนนมากตอนข้อสอบมันเป็นแบบเก่า คงเป็นไปได้ว่าคุณเก่งในส่วนที่เขาเอาออกไปนั่นแหละ หรือไม่ก็แนวที่คุณเตรียมตัวมามันเหมาะกับการทำข้อสอบแบบเก่ามากกว่า กรณีที่คุณมั่นใจว่าคุณมีพื้นความรู้ที่ดี ก็ควรลองเอาข้อสอบแนวใหม่มาฝึกทำบ่อยๆ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ถึงฝึกภาษาอังกฤษไปจนเก่งรู้ศัพท์ รู้ grammar อ่านไว แต่จะเลือกคำตอบได้ถูกต้องมากแข่งกันระหว่างผู้สอบทั้งหมด ถ้าไปเจอข้อสอบที่คนออกข้อสอบวางยาไว้ (คือบังคับให้ใช้ logical reasoning ที่แม่นยำมากๆ) ต่อให้เก่งภาษาอังกฤษมากเท่าๆกัน มันก็คงทำถูกต้องไม่มากข้อเท่ากันหรอก คนที่เก่ง reductio ad absurdum มากกว่าก็จะต้องเป็นผู้ชนะไป แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 53 10:29:33 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:25:00

ความคิดเห็นที่ 5 You cannot do well because you cannot answer the questions in time. The only remedy is to practise doing exam questions day in, day out using alarm clock to make sure that you work within the time limit. Even though my English was very good (Toefl score 640+ which is more or less TOIEC 900+), when I sat for GRE more than 25 years ago I spent time doing GRE practice exercise every day for TWO MONTHS before taking the real exam. (I spent only ONE MONTH, preparing for Toefl as it was much easier). The result was very satisfactory. You said you practised for only ONE WEEK. This is grossly inadequate! จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:42:37

ความคิดเห็นที่ 6 มาแล้วคร้าบบบบ อยากจะเข้ามาอ่านใจแทบขาดแต่เนตมันเดี้ยงๆเข้าเว็บไม่ได้ แงงงงงง คุณกอล์ฟ     ฮือออออ ทำไม่ทัน แกรมม่าก็มึน สงสัยจ๊ะต้องท่องแกรมม่าไปเยอะๆ คุณfortuneteller     ขอบคุณนะคะที่ช่วยมาไขข้อข้องใจให้อีกครั้ง งั้นจ๊ะจะต้องฝึกอ่านให้เยอะขึ้น และก็ต้องแม่นแกรมม่า รวมถึงจะต้องทำความเข้าใจในเรื่อง subtle nuances of meaning แล้วละค่ะ เพราะบอกตามตรง ตรงจุดนี้เนี่ยค่อนข้างจะไม่แม่น คุณK.Senior     ตอนนี้จ๊ะมีเวลาอีก 30 วันก่อนจะสอบใหม่ วางแผนว่าตอนซ้อมทำ จะไม่มั่วให้ทันเวลาแล้ว คือเวลาซ้อมเนี่ยทำทันเพราะดันมั่ว แต่เวลาสอบจริงเป็นคนไม่มั่วแบบมานั่งคิดๆ ก็เน่าทำไม่ทันเป็น 10 - 30 ข้อ - -" เดี๋ยวจะเอาใหม่ค่ะ จะทำแบบที่แนะนำตั้งนาฬิกาจับเวลาเลย จะไม่โกง ไม่มั่วให้ทันเวลา จะได้รู้คะแนนที่แท้จริงค่ะ ขอบคุณทุกๆคอมเมนท์นะคะ ที่สละเวลามาตอบ 30 วัน หวังว่าจะทันนะคะ งืดดด จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 11:02:22

ความคิดเห็นที่ 7 ทำไมเรารู้สึกว่า Redesigned ง่ายกว่าไม่รู้อ่ะ มันเหมือนใช้ sense ในการใช้ภาษาทำมากกว่าแบบเก่าเยอะ แบบเก่าต้องแม่น grammar กว่านะ เพราะมี error detection แต่ redesigned เหมือนเอาความคุ้นเคยในการใช้ภาษามาทำมากกว่าอ่ะ ยังไงลองไม่ต้องอ่านอะไรเข้าไปดูค่ะ เอาความเคยชินเข้าไปสอบซักครั้ง แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 53 17:30:43 จากคุณ : ขนมอาลัว เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 17:29:27

ความคิดเห็นที่ 8 ใช้สัญชาตญาณดิบเลยใช่มั้ยคะ จากคุณ : AnCk-Su-NaMuN เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 00:32:24