 |
ความคิดเห็นที่ 3 |
ลองตอบเท่าที่เข้าใจนะครับ เพราะตัวผมเป็นไม้เบื่อไม้เมากะวิชาสาย Linguistics จริงๆ ไม่รู้จะช่วยได้หรือเปล่า และไม่รู้เข้าใจถูกหรือเปล่าแฮะ
ทั้ง Phonetics และ Phonemics เป็นการศึกษาเกี่ยวกับเสียงครับ เป็นส่วนหนึ่งของสรวิทยา หรือ Phonology นั่นแล
Phonetics หรือสัทศาสตร์ เป็นการศึกษาเกี่ยวกับเสียงที่เป็นตัวเสียงจริงๆ ซึ่งก็แบ่งย่อยเป็นอีกสองสาขาย่อย คือ
- Articulatory Phonetics เป็นการศึกษาเกี่ยวกับกวัยวะที่ใช้ในการออกเสียง ว่าการออกเสียงแต่ละเสียงใช้อวัยวะส่วนใดบ้าง พวกฐานกรณ์ทั้งหลายอะครับ พูดง่ายๆ คือเป็นการศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการออกเสียง เริ่มตั้งแต่การผลิตลมที่ปอด ไปจนกระทั่งเสียงพูดเปล่งออกมาทางช่องปากและช่องจมูก
- Acoustic Phonetics เป็นการศึกษาเกี่ยวกับเสียงโดยใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ (ยากมากครับ) พูดง่ายๆ คือเป็นการศึกษาเสียงเมื่อเสียงพ้นออกมาทางช่องปากและช่องจมูกแล้ว
Phonemics หรือสรศาสตร์เป็นการศึกษาเกี่ยวกับหน่วยเสียง หรือ Phoneme ว่าในแต่ละภาษานั้น เราควรจัดเสียงนั้นๆ ว่าเป็นหน่วยเสียงหรือไม่ อย่างไร รวมถึงการจัดหมวดหมู่หน่วยเสียง
ส่วนเรื่องสัญลักษณะนี่ไม่แน่ใจนะครับ ว่าต่างกันยังไง เข้าใจว่า
[..] จะใช้แทนตัวเสียงจริงๆ /../ จะเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ใช้แทนหน่วยเสียงเท่านั้น
เช่น
เสียง /p/ ในภาษาอังกฤษนั้น เวลาออกเสียงจริงๆ จะมีลักษณะการออกเสียงได้ 3 แบบ คือ
แบบมีกลุ่มลม เราก็จะใช้สัญลักษณ์ [ph] แทนเสียง /p/ แบบมีกลุ่มลม แบบไม่มีกลุ่มลม เราใช้สัญลักษณ์ [p] แทนเสียง /p/ แบบไม่มีกลุ่มลม แบบเสียงอุบ เราใช้สัญลักษณธ [p-] แทนเสียง /p/ แบบเสียงอุบ
เพราะฉะนั้น หน่วยเสียง [ph], [p], และ [p-] ในภาษาอังกฤษจึงจัดเป็นหน่วยเสียงย่อยของหน่วยเสียง /p/
จะเห็นได้ว่า เมื่อเราเอาเสียง /p/ มาจำแนกให้เห็นถึงรายละเอียดการออกเสียงจริงๆ แล้ว เราจะใช้วงเล็บ [..] เพราะมันจะสามารถแสดงให้เห็นถึงรายละเอียดการออกเสียที่แท้จริงได้ชัดเจนกว่า (สามารถใส่สัญลักษณณ์ h หรือ - เพื่อระบุได้ชัดเลยว่า เป็นแบบมีกลุ่มลม ไม่มีกลุ่มลม หรือเสียงอุบ)
แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 53 22:55:21
จากคุณ |
:
เด็กชายหัวหอม
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเข้าพรรษา 53 22:45:09
|
|
|
|
 |