ความคิดเห็นที่ 1 Just tell Farang that Thai academic position reflects academic work/achievement, ie, writing texts, conducting research either alone or with a team krub. จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 17:08:08

ความคิดเห็นที่ 2 บ้านเราตำแหน่ง ศ. รศ. ผศ. เป็นตำแหน่งทางวิชาการที่ใช้บ่งบอกความชำนาญการของบุคคลในแต่ละสาขาค่ะ ซึ่งการให้ตำแหน่งทางวิชาการดังกล่าวนั้นก็จะมีหลักเกณฑ์คร่าว ๆ คือ มีการวัดความชำนาญการหลาย ๆ ด้านรวมกันไป เช่น ความชำนาญทางการสอน ความชำนาญด้านเนื้อหาวิชาที่ส่งเพื่อขอผลงานทางวิชาการ เป็นต้น ซึ่งตรวจสอบจากหลักฐานทางเอกสาร เช่น บทความ วิจัย เอกสารประกอบการสอน เอกสารการสอน หนังสือ ตำรา (เอกสารแต่ละอย่างที่กล่าวมานี้ในด้านกฎเกณฑ์การขอตำแหน่งทางวิชาการมีความหมายไม่เหมือนกัน) ทั้งนี้ความเข้นข้นของการตรวจสอบเอกสารดังกล่าวจะเป็นไปตามลำดับว่าขอผลงานทางวิชาการในตำแหน่งใด ความลุ่มลึกของเนื้อหาวิชาการของแต่ละตำแหน่งไม่เท่ากัน ที่เข้มข้นที่สุด คือ ศาสตราจารย์ รองลงมาคือ รองศาสตราจารย์ และ สุดท้าย คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์  อันนี้กล่าวเฉพาะอาจารย์ในระดับอุดมศึกษานะคะ ถ้าเป็นระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานก็มีการขอทำผลงานทางวิชาการเพื่อขอตำแหน่งอีกแบบหนึ่ง เช่น การขออาจารย์ 3 เป็นต้น จากคุณ : วรินทร์รตา เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 17:10:31

ความคิดเห็นที่ 3   ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ไม่ได้เป็น "ผู้ช่วย" ของศาสตราจารย์ท่านใด รองศาสตราจารย์ ไม่ได้เป็น "รอง" จากศาสตราจารย์ท่านใด และไม่ควรสรุปด้วยว่า ผศ. หรือ รศ. เชี่ยวชาญน้อยกว่า ศ.   แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 53 17:49:12 จากคุณ : ชาวจีนศึกษา ณ TU เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 17:47:16

ความคิดเห็นที่ 4 ทำไมมีแต่ Vice  Chairman  ไม่มี   Good  Chairman มีแต่ Vice President  ไม่มี   Good  President เอก  แปลว่า  หนึ่ง,  ตรี   แปลว่า  สาม แต่  ร้อยตรี  มี ดาวเดียว,   ร้อยเอก มี สามดาว จากคุณ : นายช่างปลูกเรือน เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 18:11:12

ความคิดเห็นที่ 5 good chairman คืออะไรเหรอครับ ผมจะสื่อว่าเราใช้ชื่อตำแหน่งเลียนแบบสหรัฐ แต่ระบบการให้ตำแหน่งมันไม่เหมือนสหรัฐอะครับ (จึงทำให้ฝรั่งที่มาจากสหรัฐงง) ไม่ได้สื่อว่าต้องใช้ภาษาให้ถูกต้องซักหน่อย จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 19:00:09

ความคิดเห็นที่ 6 ขอแสดงความเห็นแบบคนไม่มีความรู้เรื่องนี้ว่า บางทีฝรั่งควรจะทำความเข้าใจระบบของประเทศอื่นๆบ้าง ไม่ใช่พอของที่อื่นแตกต่างจากตัวเองแล้ว ก็ทำเป็นงง เห็นที่เรียกว่า Asst.Prof ก็ใช้กันหลายประเทศนี่ครับ แม้กระทั่งในญี่ปุ่น จากคุณ : สัญญาณหางปลา เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 19:44:18

ความคิดเห็นที่ 7 ประเทศไทย ไม่มี ศ. มากพอ จึงทำให้ต้องมีการปรับระบบการให้ตำแหน่งทางวิชาการครับ ซึ่งผมว่า มันก็เหมาะกับสภาพของบ้านเราดีครับ จากคุณ : Dimensionless เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 21:20:59

ความคิดเห็นที่ 8 good chairman คืออะไรเหรอครับ... เล่นคำครับ vice เลว good ดี แต่ความหมายมันไม่ตรงเมื่อใช้กับคำ chairman ในทำนองว่า assistant แปลว่าช่วย แต่เมื่อรวมกับ professor ก็ไม่จำเป็นต้องหมายถึงเป็น อาจารย์ที่ช่วย professor ครับ จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 53 21:34:48

ความคิดเห็นที่ 9 เขาอำคุณเล่นหรือเปล่า อิๆ มันคือ Compound Noun ซึ่งต่างจาก Noun Phrase = (Adjective + Noun) แต่คำเหล่านี้ ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงการสะกด เพื่อแสดงลักษณะดังกล่าว เช่น กัน การใช้ - หรือเขียนติดกัน ซึ่งบางครั้ง เกิดจากการสร้างคำใหม่ New Compound โดยใช้ลักษณะ ของ NP แล้วจึงมีการเปล่ียนแปลงในภายหลังเช่น Electronic mail  > e-mail > email ปัจจุบัน ใครใส่ - ระหว่างคำนี้ ก็บอกอายุได้เลยครับ อิๆ หรืออย่าง ฺBlackbird vs Black bird Black bird คือนกที่มีสีดำ อาจจะหมายถึง นกอีกา Crow / Raven กาน้ำ Cormorant แต่ Blackbird หมายถึง Turdus merula Linnaeus, 1758 หรือ นกเดินดงสีดำ ซึ่งตัวผู้มีขนสีดำและมีแถบปีกสีขาว  หากแต่ตัวเมียมีสีขนน้ำตาลเข้ม ก็ยังคงเรียกว่า Blackbird เช่นกันครับ ดังนั้น Assistant Professor ซึ่งเป็น Compound Noun ที่มีความหมายจำเพาะ หมายถึงระดับคุณวุฒิทางวิชาการ ระดับหนึ่งครับ ซึ่งหากเพื่อนคุณคิดแบบนี้ Compound Noun ในโลกนี้มากมาย สื่อความหมายไม่ตรงกับรากศัพท์เยอะแยะครับ คิดว่าเขาคงพูดเหล้นเหล้นนะครับ จากคุณ : Paphmania เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 00:41:57

ความคิดเห็นที่ 10 เดี๋ยวนี้เค้าใช้ email แทน e-mail แล้วเหรอครับ  พึ่งรู้ -_-" ผม 24 นะ จากคุณ : oakemon เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 01:37:59

ความคิดเห็นที่ 11 คห 6 ถ้าเป็นประเทศญี่ปุ่น Asst.Prof แปลว่าเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์จริงๆ จะมีหน้าที่อยู่ในห้องแล็ปคอยช่วย Prof ในการใ้ห้คำปรึกษาอย่างง่ายแก่เด็กตรี โท และเอกของ Prof, ทำงานตามคำสั่งของ Prof. , ไม่มีวิชาสอน ไม่มีการบรรยายเป็นของตัวเอง แต่อาจได้ไปช่วยคุมแล็ปบ้าง (พูดง่ายๆ ก็คือยังไม่ได้เป็นอาจารย์เต็มตัว) ยังต้องทำแล็ปเอง เพื่อให้มี paper เยอะ และสามารถเป็น Assoc.Prof. ได้ในอนาคต ส่วน Assoc.Prof ก็คล้ายกับเป็น "รอง" อยู่เหมือนกัน เพราะว่า Assoc.Prof ส่วนใหญ่จะไม่มีห้องแล็ปเป็นของตัวเอง  ต้องพึ่งแล็ปและใช้เครื่องไม้เครื่องและอุปกรณ์ในห้องแล็ปของ Prof. จนกระทั่งมีผลงาน หรือ paper เยอะๆ ถึงจะยื่นขอเป็น prof. ได้แต่ Assoc.Prof. จะมีวิชาบรรยายเป็นของตัวเอง และเป็นที่ปรึกษานักศึกษาเด็ก ตรี โท และเอกได้ จากคุณ : ฟุตลอง เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 07:23:09

ความคิดเห็นที่ 12 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 53 09:02:49 จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 09:01:35

ความคิดเห็นที่ 13   คห 11 แสดงว่าการทำงานของนักวิชาการสายวิทยาศาสตร์กับสายสังคมศาสตร์-มนุษยศาสตร์นั้นต่างกันมากทีเดียว จากคุณ : ชาวจีนศึกษา ณ TU เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 11:00:00

ความคิดเห็นที่ 14 #11 ไม่คุณก็ผมต้องเข้าใจผิดละครับเนี่ย ...ถ้าเป็นประเทศญี่ปุ่น Asst.Prof แปลว่าเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์จริงๆ จะมีหน้าที่ อยู่ในห้องแล็ปคอยช่วย Prof ในการใ้ห้คำปรึกษาอย่างง่ายแก่เด็กตรี โท และเอกของ Prof, ทำงานตามคำสั่งของ Prof. , ไม่มีวิชาสอน ไม่มีการบรรยายเป็นของตัวเอง แต่อาจได้ไป ช่วยคุมแล็ปบ้าง (พูดง่ายๆ ก็คือยังไม่ได้เป็นอาจารย์เต็มตัว) ยังต้องทำแล็ปเอง เพื่อให้มี paper เยอะ และสามารถเป็น Assoc.Prof. ได้ในอนาคต... ตามที่คุณบรรยายมาข้างบนนี้ มันเป็นลักษณะของ ตำแหน่ง โจะชุ 助手 มากกว่าครับ ในนามบัตรของพวกนี้ ผมเห็นเขาใช้คำว่า Research Assistant นะครับ ภาษาไทยก็คงเป็น "ผู้ช่วยวิจัย" พวกโจะชุ หรือ research assistant นี่ เทียบกับของไทยก็คือ พวกครูปฏิบัติการนั่นเอง แต่ในสายโจะชุเอง ก็แบ่งเป็นสองพวก คือ พวกที่จะมุ่งเอาดีด้านเป็นผู้ปฏิบัติงานอย่างเดียว คือมุ่งเน้นเป็นครูปฏิบัติการไปตลอดชีวิต (การทำงาน) พวกนี้ก็จะเป็นโจะชุไปจนเกษียณครับ ส่วนอีกพวกหนึ่ง สามารถทำวิจัย เขียนเปเปอร์ รวบรวมผลงาน ขอตำแหน่งขึ้นไป สาย "อาจารย์" ได้ครับ ส่วนในสายอาจารย์นั้น นอกจากตำแหน่งพื้นฐาน คือ อาจารย์ Lecturer = 講師 โคชิ แล้ว ตำแหน่งทางวิชาการเขามีแค่สองระดับ คือ 助教授 โจะเคียวจุ กับ 教授 เคียวจุ เท่านั้น ไม่เหมือนของฝรั่ง หรือ ของไทย ที่มีสามระดับ อันว่า เคียวจุนี้ คือ ศาสตราจารย์แน่ ๆ เป็นเอกในสาขานั้น ๆ และมีห้องวิจัยเป็นของตัวเอง ส่วนโจะเคียวจุ ส่วนใหญ่จะทำงาน "ใต้" เคียวจุ อีกทีหนึ่ง อยู่ร่วมห้องวิจัยเดียวกัน จนกว่าเคียวจุจะเกษียณ ก็รับเซ้งห้องวิจัยนั้นไป หรือไม่ก็ตัวเองได้เลื่อนเป็นเคียวจุ ก็มักจะแยกห้องวิจัยออกไปครับ มีบ้างเหมือนกันที่ยังคงอยู่ร่วมกันในห้องวิจัยเดิม ทำให้มีศาสตราจารย์สองคนในห้องวิจัยเดียวกัน แต่ก็จะเป็นที่รู้กันอยู่ดีว่า ใครใหญ่กว่า อันว่า โจะเคียวจุ นี้ บางมหาวิทยาลัย ก็แปลเป็นอังกฤษว่า Associate Professor หรือ รองศาสตราจารย์ เ่ช่น ของ โตได (ม.โตเกียว) บางมหาวิทยาลัยแปลว่าเป็น Assistant Professor หรือ "ผู้ช่วย" ศาสตราจารย์ ซึ่งก็เป็น "ผู้ช่วย" ของศาสตราจารย์จริง ๆ นั่นแหละ แต่ไม่ว่าจะแปลเป็นอังกฤษด้วยคำไหน ในภาษาญี่ปุ่น พวกเขาก็ใช้คำว่า โจะเคียวจุ เหมือนกัน ศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันครับ คือ เป็น คนที่เตรียมพร้อมจะก้าวขึ้นไปเป็นศาสตราจารย์ต่อไป ก็มีลักษณะตาม ย่อหน้าหลังของคุณคคห. 11 ที่ว่า ...Assoc.Prof ส่วนใหญ่จะไม่มีห้องแล็ปเป็นของตัวเอง  ต้องพึ่งแล็ปและใช้เครื่องไม้เครื่องและ อุปกรณ์ในห้องแล็ปของ Prof. จนกระทั่งมีผลงาน หรือ paper เยอะๆ ถึงจะยื่นขอเป็น prof. ได้ แต่ Assoc.Prof. จะมีวิชาบรรยายเป็นของตัวเอง และเป็นที่ปรึกษานักศึกษาเด็ก ตรี โท และเอกได้ ... สรุป ที่ผมมาทักท้วงคือ ย่อหน้าแรก คุณกำลังกล่าวถึง โจะชุ ผู้ช่วยวิจัย ครับ ไม่ใช่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ย่อหน้าหลัง คุณกล่าวถึง โจะเคียวจุ หรือ รศ. (หรือ ผศ. แล้วแต่เขาจะแปล) ครับ จากคุณ : star_seeker เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:36:05

ความคิดเห็นที่ 15 ลืมตอบเจ้าของกระทู้... เกี่ยวกับประเด็นที่ถามมานั้น ข้างบนคงตอบไปหมดแล้วครับว่า ผู้ชวยศาสตราจารย์ (ในไทย) นี่ เขาเป็น "ผู้ช่วย" ของศาสตราจารย์ คนไหนจริง ๆ รึเปล่า แต่ผมจะมาตอบ ฝรั่งที่ถามคุณจขกท. ครับว่า "ยูถามอย่างนี้ ยูกำลังเล่นคำแบบกวงตีงแล้วอะ" แค่นี้แหละครับ อิอิอิ จากคุณ : star_seeker เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:41:13

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ star_seeker ข้อมูลจากวิกิพีเดียนะครับ http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_academic_ranks#Japan Principle full-time "permanent" faculty ranks are:    * Professor (equivalent to Associate Professor and (Full) Professor in North America), Kyōju (教授?)    * Associate Professor (equivalent to Assistant Professor in North America), Junkyōju (准教授?) Principle full-time "non-permanent" faculty ranks are:    * Assistant Professor/Lecturer (equivalent to Senior Research Associate or Lecturer in North America),Kohshi (講師)    * Assistant Professor/Research Associate (equivalent to Research Associate in North America), Jokyō (助教) จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 19:06:33

ความคิดเห็นที่ 17 คุณ nisas ในมหาวิทยาลัยที่เราเคยเรียนในญี่ปุ่นเป็นแบบที่คุณ star_seeker ว่าเอาไว้ มี sensei บางคน ที่ไม่ได้เป็น Prof. ก็มีห้องแลบของตัวเองด้วย สงสัยเราต้องไปถาม Prof. เราแล้วละ ว่าทำไมระบบในประเทศญี่ปุ่น ถึงไม่ follow ตามวิกิพีเดีย จากคุณ : Canossa เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 19:56:05

ความคิดเห็นที่ 18 #16 ข้อมูลจากวิกิฯ เช่นกันครับ แต่เป็นของญี่ปุ่น http://ja.wikipedia.org/wiki/%E6%95%99%E5%93%A1%E3%81%AE%E8%81%B7%E9%9A%8E กล่าวโดยสรุปก็คือ... ที่ผมร่ายยาวใน คคห. 14 เป็นเรื่องราวก่อน วันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2007 ครับ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2007 เกิดอะไรขึ้น? มีการออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับ ระบบตำแหน่งทางวิชาการ และมีการปรับปรุงบางส่วน ดังนี้ ตำแหน่ง 教授 (เคียวจุ) เหมือนเดิมทุกประการ ใช้ภาษาอังกฤษว่า Professor เท่านั้น (เพราะฉะนั้น วิกิฯ ภาษาอังกฤษใน 16 ผิด เพราะบอกว่า เทียบเท่า assoc. prof. ในบางกรณี) ตำแหน่ง 助教授 (โจะเคียวจุ) เดิม ให้ยกเลิก ปรับเป็น 准教授 (จุนเคียวจุ) ทั้งหมด ใ้ช้ภาษาอังกฤษว่า associate professor เท่านั้น (เพราะฉะนั้น วิกิฯ ใน 16 ก็ผิดอีก) -- ตรงนี้ เป็นจุดที่เด่นชัดในการปรับปรุง ของกฎหมายดังกล่าว ที่เริ่มใ้ช้เมื่อ 1 เมษายน 2007 (ปีเฮย์เซย์ที่ 19) ตำแหน่ง 講師 (โคชิ) ยังมีเหมือนเดิม ในทางบริหารบุคคล ถือว่า ตำแหน่งนี้ "เทียบเท่า" กับจุนเคียวจุทุกประการ แต่ในทางปฏิบัติ ยังคงด้อยว่า จุนเคียวจุอยู่หนึ่งขั้น ***ภาษาอังกฤษของตำแหน่งนี้ ใช้ทั้ง Lecturer, assoc. prof., assist. prof. ขึ้นอยู่กับ มหาวิทยาลัยนั้น ๆ เป็นผู้กำหนด ตำแหน่ง 助手 (โจะชุ) ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2007 (กฎหมายใหม่) จะแบ่งเป็น สองสาย อย่างชัดเจนออกจากกันคือ สายที่เรียกว่า 助手 (โจะชุ) เหมือนเดิม หน้าที่จะเป็นแค่ ผู้ช่วยวิจัย ใช้คำภาษาอังกฤษว่า research associate, research assistant, assistant, associate (ยังไม่ยืนยัน) ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย สายที่เรียกว่า 助教 (โจะเคียว) คำนี้ เป็นคำใหม่ และก็เป็นสาระสำคัญของกฎหมายใหม่ ที่แตกต่างจากระบบเดิม เหมือนกับคำว่า จุนเคียวจุ โจะเคียว เป็นตำแหน่งที่ทำงานทั้งงานสอนและงานวิจัย มีทั้งมหาวิทยาลัยที่เปลี่ยนจาก โจะชุ (เดิม) มาเป็น โจะเคียว กับมหาวิทยาลัยที่เปลี่ยนจากตำแหน่ง โคชิ มาเป็นโจะเคียว ตำแหน่งโจะเคียว (ตามกฎหมายใหม่) สามารถเลื่อนขั้นเป็น โคชิ (กฎหมายใหม่) ได้ หรือกรณีที่ มหาวิทยาลัยนั้น ๆ ไม่มีตำแหน่งโคชิ ในกรณีนี้ โจะเคียวจะเลื่อนขึ้นไปเป็น จุนเคียวจุ โดยตรงเลย ภาษาอังกฤษของโจะเคียว ใช้ทั้ง research associate และ asssistant professor ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยเช่นกัน จะเห็นได้ว่าระบบของญี่ปุ่นค่อนข้าง "ชวนงง" อยู่ครับ และให้อำนาจแก่มหาวิทยาลัย ในการกำหนดระบบของตัวเองพอสมควร อีกทั้งยังมีความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่าง ระบบในมหาวิทยาลัยที่เน้นสายวิทยาศาสตร์ กับมหาวิทยาลัยที่เน้นสายสังคม/มนุษยศาสตร์ มันก็เลยไม่ค่อยจะเหมือนกันทั้งประเทศ ที่กำหนดในกฎหมายก็แค่กำหนดขอบเขตกว้าง ๆ เท่านั้นเอง... แต่ที่สำคัญ ฝรั่งคงเข้าใจได้ยาก และถ้าให้ฝรั่งไปเขียนเกี่ยวกับระบบของญี่ปุ่น โดยใช้มุมมองของฝรั่งเองก็..... จะเป็นแบบ วิกิฯ ใน 16 นั่นแล (ขออภัย ข้อความข้างบนเขียนด้วยอคติส่วนตัว แหะ ๆ) ก็ตามนี้ครับ ขออภัยที่ตอนแรก ผมก็ตอบโดยใช้ความรู้เ่ก่า ๆ ของผม (ผมอยู่ญี่ปุ่น ในช่วงเวลาก่อนหน้า วันที่ 1 เมษา 2007 แ่น่ ๆ ล่ะ เลยชินกับระบบเก่า ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า มีตำแหน่ง โจะเคียว ขึ้นมาใหม่ และตำแหน่ง โจะเคียวจุ หายไปแล้ว) จากคุณ : star_seeker เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 20:53:44