ความคิดเห็นที่ 1 จาก longman formal a very stupid thing to do, especially one that is likely to have serious results: Somerville bitterly regretted his folly at becoming involved. ตามความเห็นส่วนตัวเลยนะครับ สังเกตคำว่า formal หมายถึงเป็นคำทางการ สุภาพ หมายถึงสิ่งผิดพลาดที่ทำซึ่งก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างใหญ่ ประโยคนี้ผมว่าหมายถึง คุณจะได้เรียนรู้กับความผิดพลาด หรือได้ทำสิ่งที่อาจจะโง่เง่าอีกหลายปีในการเรียนภาษาอังกฤษ แล้วก็จะได้เรียนรู้ในระดับสูงขึ้นไป หรืออาจจะแปลว่า ได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่ถามมาในกระทู้ก่อนเป็นสิ่งที่ผิดพลาด ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยดูตามคำแนะนำให้ไปเปิดดิกชันนารีภาษาอังกฤษเป็นภาษาอังกฤษครับ เช่น longman, oxford etc ซึ่งสำหรับผม ใครๆ ก็เคยผิดพลาด งี่เง่า ไม่มีใครเก่งแต่เกิด ถ้าได้เรียนไปเรื่อยก็เก่งได้ แต่ที่แน่ๆ คุณ K. Senior ปรารถนาดีต่อคุณแน่นอน You shall learn that too. ลองมองโลกในแง่ดีครับ จะเรียนรู้ได้มาก ลองหาสาระที่อยู่ในความเห็นหนึ่งกระทู้ที่แล้วนะครับ เปิดใจคุณจะพบของดีๆ ส่วนที่ผมแปล ถ้าผิดพลาดก็รอท่านอื่นครับ ผมไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษเท่าไรครับ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 53 23:05:47 จากคุณ : guerilla gorilla เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 23:02:04

ความคิดเห็นที่ 2 If you continue your way of learning English, you will not progress  that much. Then a few years from now on, you will realise that it is foolish to learn English by trying to find English words to fit Thai words. Go ahead, do your own way and prove me wrong that in a few years you will become an expert in English by doing what you are doing now. จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 23:08:26

ความคิดเห็นที่ 3 สงสัยว่าจะตั้งกระทู้ผิด สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เพราะไม่ชอบพิมพ์มาก ขอขอบคุณคุณ guerilla gorilla, ไม่เคยมองโลกในแน่แง่ร้าย มีแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต (หรือว่ายังไม่เคยเจอสิ่งร้ายๆ) แต่ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจ จริงๆ ถ้าได้อ่าน ประโยคนี้ -- คิดว่ายังไม่กระจ่าง ขอรับคำแนะนำอีก -- น่าจะทราบว่าต้องการรับความคิดเห็นเพิ่มเติมในสังคมออนไลน์ที่เค้าฮิตกัน เป็นคนไทย อยู่เมืองไทย ขอรับความคิดเห็นเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่กำลังศึกษาอยู่อยากมากไม่ใช่แค่เข้ามาถามๆ ในที่นี้ ถามทุกคนในสังคมจริง ภาษาไทยยังไม่กระจ่าง จะให้อ่านภาษาอังกฤษอย่างไรก็ไม่เข้าใจ จากคุณ : Give Gave Given "100 Point" เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 23:40:00

ความคิดเห็นที่ 4 "Then a few years from now on, you will realise that it is foolish to learn English by trying to find English words to fit Thai words." เห็นด้วยกับ K. Senior ครับที่เราไม่สามารถใช้คำอังกฤษแปลเป็นไทย หรือ แปลไทยเป็นอังกฤษได้แบบตรงๆตัว เพราะคนที่คิดและใช้ภาษาอยู่คนละ ซีกโลกและไม่รู้จักกัน  หลักไวยากรณ์แตกต่างกัน แม้กระทั่งคนที่ใช้ภาษา อังกฤษทุกวันนี้ คนละประเทศก็ยังใช้ไม่เหมือนกัน สำเนียงก็แตกต่างกัน ถ้าคนไทยพูดแบบนี้  คนอังกฤษจะพูดอย่างไร และในทางกลับกัน จากคุณ : นิแรน เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 00:13:02

ความคิดเห็นที่ 5 ........foolish........ จากคุณ : Give Gave Given "100 Point" เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 09:35:44

ความคิดเห็นที่ 6 ........foolish........ จากคุณ : Give Gave Given "100 Point" เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 09:36:17

ความคิดเห็นที่ 7 แก้กันทีละเปลาะ เปลาะแรก จากกระทู้เดิม dependant & resident คุณถามว่าจะเลือกใช้คำไหนกับ บุคคลต่อไปนี้ 1. สำหรับผู้ที่พักอาศัยอยู่กับเราที่บ้าน >> ผู้พักอาศัยในนิวาสถานจำพวกบ้านหลัง คอนโด อพาร์ทเมนท์ หรือหมู่บ้านจัดสรรหรือเมืองหรือประเทศหรือแม้แต่โลกทั้งใบหรือสุริยจักรวาลก็ยังได้ พวกนี้เรียก resident ครับ There are four residents in my house; 3 Cherry Tree Lane. I am a resident of the third planet from the sun in the Sol solar system, the Milky Way galaxy. 2. สำหรับผู้ที่พักอยู่โรงแรม >> ผู้ที่พักโรงแรม เป็นคนไปๆมาๆ ไม่ได้อยู่ถาวร คนไทยก็เรียกแขก ฝรั่งเขาเรียก guest ตรงกันเป๊ะ อีทีนี้ อาจมีข้อยกเว้นบ้าง เศรษฐีบางคนเล่นเช่าโรงแรมอยู่กันเป็นปี สามารถใช้เป็นที่อยู่ติดต่อได้ อย่างนี้คงพอสงเคราะห์เป็น resident ได้กระมัง แต่ทั่วๆไป เขาใช้ guest ครับ แล้ว dependant ล่ะ คืออะไร? อย่างที่หลายคนบอก มันมาจาก depend แปลว่า พึ่งพา ดังนั้นมันย่อมไม่เกี่ยวอะไรเลยกับการพักอาศัยในที่ใดๆไม่ว่าชั่วคราวหรือถาวร คำว่า dependant อาจเขียนอีกอย่างว่า dependent อ่านออกเสียงเหมือนกัน แต่ต้องระวังการใช้ที่แตกต่างกันระหว่างอังกฤษแบบอังกฤษกับอังกฤษแบบอเมริกัน ถ้าหากใช้เป็นคุณศัพท์ หมายถึง ซึ่งต้องพึ่งพา เช่น The baby birds are dependent on their parents for food. อย่างนี้เขียนเหมือนกันอ่านเหมือนกันทั้งสองฝั่ง ถ้าหากใช้เป็นคำนาม หมายถึง บุคคลที่ยังต้องพึ่งพาบุคคลอื่นให้ส่งเสียเลี้ยงดูอยู่ อย่างนี้ฝรั่งอังกฤษเขียน dependant ฝรั่งอเมริกันเขียน dependent จะเหมือนหรือต่างอย่างไรว่าไปแล้ว ที่แน่ๆก็คือ dependant/dependent ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการพักอาศัย นะครับ เปลาะที่สอง ข้อข้องใจเรื่อง folly ของคุณ ในกระทู้เดิม คุณมาถามความหมายของคำศัพท์ จริงๆแล้วความหมายของคำศัพท์สามารถหาได้ด้วยตัวเองแบบออนไลน์นี่แหละ ทั้งอังกฤษ-ไทย และ อังกฤษ-อังกฤษ ถ้าคุณเข้ามาที่เว็บบอร์ดนี้ได้ คุณก็สามารถค้นออนไลน์ได้อย่างแน่นอน คุณ K จึงแนะนำให้คุณไปค้น อย่างไรก็ตาม ประเด็นของเรื่องอยู่ที่่ว่าในเมื่อจะต้องออกแรงค้น จะค้นอย่างไรจึงจะประหยัดแรงประหยัดเวลาและได้ผลที่สุด สิ่งที่คุณ K เสนอแนะ(และผมก็สนับสนุน) ก็คือออกแรงค้นพจนานุกรม อังกฤษ-อังกฤษไปเลย ได้ข่าวสารละเอียดเป็นประโยชน์กว่ากันมาก เผลอๆก็จะมีตัวอย่างการใช้งานให้ดูด้วย ที่คุณ surrogate ค้นมาให้คุณดูนั้นเป็นข้อมูลจากพจนานุกรม อังกฤษ-ไทย ซึ่งก็ใช้งานได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะว่าพจนานุกรม อังกฤษ-ไทย จะเทียบความหมายคำต่อคำ เป็นสิ่งที่ตายตัวอย่างยิ่งในแง่การถ่ายทอดความหมาย เพราะว่าคำภาษาอังกฤษความหมายไม่ตายตัวเหมือนภาษาไทย มันอาจเปลี่ยนความหมายได้มากมายขึั้นกับบริบทและตำแหน่งการใช้งานในประโยคเมื่อเชื่อมต่อสัมพันธ์กับคำอื่นๆอย่างที่เรียกว่า collocations ยกตัวอย่างคำว่า come ง่ายๆนี่แหละ เด็ก ป.4 ก็รู้ว่าแปลว่า "มา" แต่ถ้าไปเปิดพจนานุกรม อังกฤษ-อังกฤษ เข้าจริงๆ จะเห็นว่ามันมีความหมายได้ตั้ง 16 อย่าง และเมื่อไหร่จะใช้ความหมายไหน? ก็ต้องผ่านการรู้การเห็นการใช้ในรูปแบบต่างๆจึงจะเข้าใจ ซึ่งพจนานุกรม อังกฤษ-ไทย เท่าที่เคยเห็นไม่ได้ให้รายละเอียดเหล่านี้ ดังนั้น ในตอนที่คุณเริ่มค้นคว้าศึกษานี้ หากใช้วิธีที่ถูก ก็จะได้ประโยชน์ในระยะยาว ใหม่ๆอาจจะยาก แต่ถ้าใช้จนเคยก็จะชินไปเอง ระหว่างวิธีที่ง่ายในตอนนี้แต่เป็นทางที่ตันในที่สุดกับวิธีที่ยากในตอนแรกแต่อำนวยประโยชน์ให้สูงสุดในตอนปลาย เราควรจะเลือกทางไหน? ถ้าให้ผมแนะนำ ผมก็ต้องแนะนำวิธีที่ให้ประโยชน์ในระยะยาว คุณ K ก็เช่นกัน ท่านมองว่าการเลือกวิธีง่ายในตอนนี้และเป็นทางตันในตอนปลายถือเป็น folly มันลำบากตรงที่ผลของ folly นั้นจะไม่ทันตาเห็น จะไปเห็นเอาเมื่ออีกหลายๆปีข้างหน้า หวังว่า คำอธิบายของผมคงไม่ใช่ folly จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 10:35:52

ความคิดเห็นที่ 8 จขกท. ใจเย็นๆ เน้อ ห้องนี้ห้องเรียนภาษาอังกฤษย่อมเขียนภาษาอังกฤษได้ตามสบาย คนอ่านก็ได้ประโยชน์ ก็เข้าห้องเรียนภาษาอังกฤษ มาอ่านภาษาอังกฤษ ได้ความรู้เพิ่มเติม ท่านทั้งหลายในห้องนี้ไม่ได้ต้องการให้อ่านไม่รู้เรื่องหรอก เพราะไม่รู้เรื่องก็ถามได้ อย่างที่คุณกำลังถามอยู่ เพียงแต่ต้องเปลี่ยนมุมมองเสียหน่อย ใน คห. 2 กระทู้นี้ของคุณ K.Senior ก็ได้ถูกแปลเป็นภาษาไทยใน คห. 7 โดยคุณแอ๊ด เรียบร้อยแล้ว ซึ่งครบถ้วนบริบูรณ์ทีเดียว ลองคิดในมุมกลับครับ ว่าคนอื่นอาจจะไม่เข้าใจที่คุณเขียนเหมือนที่คุณไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายเขียนสั้นๆ อย่างไรก็แล้วแต่ ผมคิดว่าดีแล้วที่คุณมาถามอีกที ผมเข้ามาเดานะ ดังต่อไปนี้ ใน คห. 1 กระทู้ที่แล้วแนะนำเรื่องให้ไปหาความหมายในดิกชันนารีภาษาอังกฤษ โดยไม่ได้แปลให้คุณด้วย ก็คือไม่ได้ตอบคำถามคุณตรงๆ นั่นแหละ แต่แนะนำทางสว่างกว่าให้ ส่วน คห. 2 ให้ความหมายภาษาไทย จากดิกชันนารีอังกฤษ-ไทย แล้ว คห. 3 คุณก็สนใจแต่ความหมายที่แปลเป็นไทย พอ คห. 4 ท่านอาจจะเห็นว่าคุณอาจยังไม่พร้อมเปิดดิกชันนารี E-E ก็มาเขียนว่าคุณน่าจะเรียนรู้ว่ามันเป็นความผิดพลาดเมื่อเรียนไปเรื่อยๆ อาจจะประมาณสองถึงสามปี ว่าวิธีที่คุณใช้อยู่นั้นยังไม่่มีประสิทธิภาพ พอมากระทู้นี้คุณเลยมาถามว่าหมายความว่าอย่างไร เพราะคุณอาจจะไปเปิดดิกชันนารีภาษาไทย แล้วเห็นว่ามันแปลว่า ความโง่ ความเขลา (ซึ่งอาจจะไม่ตรงเสียทีเดียว ลองอ่าน longman จะเห็นว่าเป็นคำสุภาพนะ ผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน) เลยอารมณ์ขึ้นนิดหน่อย ก็เลยมาถาม ที่ผมว่าดีแล้วที่ถาม เพราะคุณจะได้รู้ ได้เปลี่ยนความคิด อาจจะอยากเปิด Eng-Eng Dictionary ขึ้นมา ถ้าคุณยังไม่แน่นอังกฤษมากอ่าน คห. 2 ไม่เข้าใจ ลองอ่าน คห. 7 ดูสิ อยากลองใช้ E-E dict ขึ้นมาบ้างหรือยัง อย่าง คห. 5-6 ของคุณหลายคนก็อาจจะงงนะ วาหมายถึงอะไร ลองมองมุมนี้บ้าง เราไม่สามารถเข้าใจคนอื่นได้หมดหรอก เลือกรับแต่สิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง ถ้าผมเขียนงงๆ ไปบ้างก็อย่าว่ากันนะครับ เห็นไหมว่าการสื่อสารด้วยการเขียนมันไม่ง่ายนะ ด้วยความหวังดี จากคุณ : guerilla gorilla เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 13:04:20

ความคิดเห็นที่ 9 ขอขอบคุณ คุณแอ๊ด ปากเกร็ด "dependant & resident" ตามที่อธิบายมา เหมือนกันกับพี่ๆ เพื่อนๆ ในสังคมจริง ที่เก่งๆ ภาษาอังกฤษแนะนำมาแบบนี้เช่นกัน ________________________________________________ ขอขอบคุณคุณ guerilla gorilla ตามที่คุณแนะนำมาในความคิดเห็นที่ 1 รับทราบแล้ว แต่คงไม่จำเป็นต้องรับความหวังดี หวังผลพิสูจน์อะไรต่อจากความคิดเห็นที่ 2 เพราะต้องการรับแค่คำแนะนำหลากหลายจากทุกคนเท่านั้น (ไม่ใช่เฉพาะกรณีนี้เท่านั้นด้วย ทุกกระทู้ที่ตั้งขึ้นผ่านมาทั้งหมด) ความคิดเห็นที่ 5 และ 6 ไม่คิดอะไร ไม่มีอะไร สัญลักษณ์ตุ๊กตานั้น เค้าหมายถึง "พูดจัง" ดึงมาจากความคิดเห็นที่ 2 และ 4 ที่เปลี่ยนจาก folly เป็น foolish น่าสนใจดีซะด้วยซ้ำ ........foolish........ ________________________________________________ ที่เขียนว่า ได้รับคำแนะนำตามนี้แล้ว resident (n) = ผู้อาศัย, คนที่เช่าโรงแรมอยู่ เป็นมารยาทในการขอบคุณคุณ surrogate ส่วนความรู้ที่จะได้รับ ใช่ว่าจะแค่นี้แล้วจบ (อยู่ที่สามัญสำนึกในการศึกษาค้นคว้าที่จะเรียนรู้มากกว่า) ตามที่เคยคุยไว้ว่า ถามทุกคนในสังคมจริง ต้องการรับความคิดเห็นเพิ่มเติมในสังคมออนไลน์ที่เค้าฮิตกัน (ขี้เกียจพิมพ์คำอธิบายไปมากกว่านี้แล้ว.... แต่ไม่ขี้เกียจศึกษาหาความรู้.... พอเข้าใจมั้ยเอ่ย?) ________________________________________________ *เสริม ของเล่นที่ทางพันทิปมีไว้คือ "กิ๊ฟ" นั้น ส่วนตัวแปลความหมายเป็นการขอบคุณ เท่านั้นและเฉพาะในห้องสมุด ส่วนห้องอื่น คือชอบการนำเสนอสาระต่างๆ จึงมอบให้ เคารพสิทธิส่วนบุคคลที่แจก "กิ๊ฟ" ไว้ตามคิดความคิดเห็นนั้นๆ ว่าจะแปลความหมายอย่างไร ต่างๆ นานา ก็ว่ากันไป สนุกๆ แต่น่าจะมีของเล่นมอบให้กับ login ที่เป็นมือถือบ้าง ส่วนตัวก็จะให้ เสมอ ________________________________________________ ส่วนเรื่อง "folly, foolish" จากความคิดเห็นที่เขียนไว้ว่า.... You shall learn about your folly in a few years' time. 555 If you continue your way of learning English, you will not progress  that much. Then a few years from now on, you will realise that it is foolish to learn English by trying to find English words to fit Thai words. Go ahead, do your own way and prove me wrong that in a few years you will become an expert in English by doing what you are doing now. "Then a few years from now on, you will realise that it is foolish to learn English by trying to find English words to fit Thai words." พี่ๆ เพื่อนๆ ที่อ่าน แนะนำว่าไม่ต้องสนใจ ให้ปล่อยผ่าน เพราะไม่มีความสำคัญแต่อย่างไร ไร้ซึ้งสาระที่เกี่ยวข้องกับการตั้งกระทู้ขอรับคำแนะนำ ________________________________________________ จบแล้วนะ ขี้เกียจพิมพ์อธิบาย ไร้สาระ ขอรับแค่คำแนะนำเท่านั้น (เนื้อๆ น้ำไม่ต้อง เพราะวันหนึ่งดื่มน้ำครบ 8 แก้วแล้ว) จากคุณ : มือใหม่ในสังคมออนไลน์พันทิป (Give Gave Given "100 Point") เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 17:56:00

ความคิดเห็นที่ 10 ขออภัยที่เข้ามาแนะนำในคห 4 ซึ่งมีแต่น้ำทัั้งนั้น  คราวหน้าถ้าผมลืมตัว หลงเข้ามาให้คำแนะนำคุณอีก ก็ขอให้ผ่านไปได้เลยครับ พอดีผมความจำไม่ค่อยดี ไม่ค่อยจำชื่อคน....ไร้สาระ ไปดีกว่า... จากคุณ : นิแรน เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 21:57:58

ความคิดเห็นที่ 11 พยายามทำความเข้าใจกับที่คุณ จขกท. เขียนอยู่นาน (ทั้งกระทู้นี้และกระทู้อื่นๆ) สรุปว่าคุณ จขกท. ต้องการแค่คำตอบที่ตรงประเด็นเท่านั้น คำแนะนำอื่นๆ หรือความหวังดีของคนอื่นจะไม่รับเลยใช่มั้ยคะ เข้าใจว่าคุณ จขกท. แยกสังคมออนไลน์ กับสังคมในชีวิตจริงออกจากกันชัดเจน ในสังคมออนไลน์นี่ไม่ต้องรักษาน้ำใจกันเลยหรือคะ ถ้าเป็นสังคมจริง มีคนให้คำแนะนำ คุณจะตอบอย่างไม่ถนอมน้ำใจอย่างนี้ด้วยรึเปล่าคะ   ถ้่าเข้าใจคุณ จขกท ผิดไปก็ขอโทษด้วย แต่การสื่อสารทางตัวหนังสือ ยิ่งไม่ได้ยินน้ำเสียง ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเข้าใจผิดอยู่มากค่ะ จากคุณ : lalabel เขียนเมื่อ : วันรพี 53 08:23:24

ความคิดเห็นที่ 12   ต่อไป ใครที่คิดจะตอบ จขกท.นี้ กรุณาตอบแค่เนื้อเท่านั้น คำแนะนำตรงๆ น้ำไม่ต้อง ปล. ขอโทษที่มาตอบไร้สาระครับ จากคุณ : LILBAZZO เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 22:54:38