ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่า เยลู่โอบาม่า แห่งอาณาจักรต้าเหลียว จะยังรักษาความเข้มแข็งของอาณาจักรตนเอาไว้่ได้ครับ แต่จะใหญ่คับโลกแบบเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมานั้น อาจจะลำบากเสียแล้วในอนาคต จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 18:34:44

ความคิดเห็นที่ 2 ในโลกใบนี้ ไม่มีประเทศไหนที่เป็นผู้นำครับ ทุกประเทศเท่าเทียมกัน อเมริกามันบ้าไปเอง ประวัติศาสตร์สอนไว้ ประเทศไหนที่คิดจะครองโลก ปัจจุบันประเทศเหล่านั้นสูญสิ้นไม่เหลือซากไปแล้ว จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 21:23:24

ความคิดเห็นที่ 3 คห.2 อย่างน้อยอะไรๆ ที่เป็นเทรนด์ของโลก มักจะมาจากอเมริกันครับ - หนังที่ดี ต้องได้รับรางวัลการันตีมาจาก Oscar - เพลงที่ดี ต้องสามารถขึ้นไปอยู่บน Billboard - คุณคงไม่บอกว่ารถญี่ปุ่นดีกว่ารถอเมริกันหรอกนะ? - เกาหลีหรอ? ดังแค่แถวบ้านเราแค่นั้นละ ไม่เห็นตีตลาดยุโรปกับอเมริกาได้ซะที ( จีนกับญี่ปุ่นยังทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ ) มีอีกเยอะครับ แค่นี้ถึงยังไงอเมริกันก็เป็นผู้นำโลกอยู่ดี แม้จะไม่ได้วัดกันที่กำลังทหารหรืออาวุธก็ตาม จีนกับรัสเซียกำหนดทิศทางค่านิยมในโลกนี้ได้แบบอเมริกันไหมละ? แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 53 00:07:59 จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 23:27:02

ความคิดเห็นที่ 4 ....ผมว่ารถญี่ปุ่นดีกว่ารถอเมริกาครับ แต่ด้อยกว่าเยอรมัน อิอิ จากคุณ : LegalisM เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 02:15:48

ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ ทำไมคุณอุ้ย เอาโอบาม่า ไปเปรียบเทียบ กับตระกูลเยลู่ แห่งต้าเหลียวอะครับ งง :) จากคุณ : เหล่าฟาง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 10:07:26

ความคิดเห็นที่ 6 /\ /\ ถ้าให้เดา น่าจะเพราะคุณโอบามาแกเป็น ปธน.ผิวสีคนแรก แถมยังเป็นคนที่เกิดนอก(ด่าน)สหรัฐอเมริกาเสียด้วย  เปรียบไปก็เลยเหมือน แฟนของลูกสาวคนโตของก๊วยเจ๋งและอึ้งย้ง ที่เป็นคนนอกด่านนั่นเองครับ ตอบ จขกท มันขึ้นอยู่ว่า กองทัพประเทศอื่นจะสู้อเมริกาได้หรือเปล่า(ชาติหน้าเกิดใหม่ก็คงยาก ยกเว้นเยอรมันเจอเหมืองทอง หรือเหมืองน้ำมันในประเทศตัวเอง แถมยังต้องมีผู้นำรัฐบาลเป็นแบบเดียวกับฮิตเลอร์ถึงจะพอได้...๕๕๕๕) อีกประการก็คือเรื่องของ "เงิน" ครับ ถึงอเมริกาจะไม่รวยสุดในโลก แต่อเมริกาก็กุม "เงิน" ของโลกไว้อยู่ในมือครับ จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 10:24:10

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นแค่สี่ปียังไม่ได้เรื่องอะไรนักหรอก จะให้ดีต้องเลือกอีกสมัยหน้า 555 อย่าถามไกลไปถึงว่าเป็นผู้นำโลกเลย ตอนนี้แค่ take care เรื่องในประเทศก็จะอ้วกอยู่แล้ว จากคุณ : PatPDX เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 11:11:16

ความคิดเห็นที่ 8 ยอดผู้น้ำก็ทานกระแสโลกไม่ได้ การเติบโตของจีนจะแซงอเมกา ทั้งด้าน ศก และเทคโนโลยี  แต่จะอีกกี่สิบปีนั้นอีกเรื่อง จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 16:30:10

ความคิดเห็นที่ 9 อะไรของเขาดี นำมาปรับใช้ หรือบริโภคแต่พอได้รสได้ชาติก็ไม่เสียหายครับ แต่จะว่าประเทศไหนเป็นผู้นำโลกอันนี้รับไม่ค่อยได้ ศักดิ์ศรี สิทธิเสรีภาพของแต่ละชาติย่อมเท่าเทียมกันในฐานะ รัฐ ต่อ รัฐ ไม่มีใครจะมานำใครได้ ทุกอย่างควรเป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยน เกื้อกูลกันมากกว่า และถึงต่อให้ไทยปิดประเทศก็ยังเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่ลำบาก และไม่จำเป้นต้องไปง้ออะไรฝรั่งมันด้วยครับ อีกอย่างถ้าคนไทยเราเรียนประวัติศาสตร์(อย่างเอาใจใส่) เราจะรู้ว่าประเทศไทยเราถูกฝรั่งมันหลอก เอาเปรียบสารพัด แต่คนไทยก็ไม่เคยเข้าใจและรู้ทันอะไรเลยจนถึงปัจจุบันนี้ กลับยกย่องให้เกียติฝรั่งมันมากกว่าคนไทยด้วยกันอย่างน่าเศร้าใจ ที่น่าเศร้ากว่านั้น คือ มักมีคนไทยบางคนเชื่อในเรื่องอำนาจ และยอมรับในอำนาจนั้นอย่างไม่รู้ตัว อะไรๆฝรั่งมันก็ดีกว่าเราไปซะหมด เคยเห็นคนรู้จักที่พยายามเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนคำพูดคำจาให้เป็นฝรั่งซะน่าสมเพสแค่ไปอยู่เมืองนอกมาแค่ปีสองปี น่ารันทนใจสุดๆครับ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 53 16:52:44 จากคุณ : โจโฉ (joechou) เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 53 16:51:12

ความคิดเห็นที่ 10 ยุคอเมริกาครองโลก คือตั้งแต่กำแพงเบอร์ลินพังการล่มสลายของรัสเซีย อันจบยุคสงครามเย็น และขึ้นสู่อำนาจสูงสุดในยุค สงครามอิรักรอบแรก จนถึงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ครับ ส่วนที่ว่าสิทธิ ของแต่ละประเทศเท่าเทียมกัน เป็นเรื่องลเมอฝันกลางวันครับ ประเทศใหญ่มีอำนาจเหนือประเทศเล็ก ใครมีเงิน มีอาวุธมมีพรรคพวกมากกว่า ประเทศนั้นก็เสียงดังกว่า การบอกว่าทุกประเทศ มีสิทธิเท่าเทียมกัน ประเทศจะล่มโดยไม่รู้ตัว ข้อหาโง่และไมรู้จักตัวเอง ผมมองว่าโลกในยุคอเมริกาครองโลก เหมือนยุคชุนชิวครับ เชิดชูราชวงศ์โจว เพื่ออ้างอำนาจในการเป็นผู้นำในการปกครองแว่นแคว้นที่เหลือ เหมือนอเมริกาที่อ้างสิทธิและเสรีภาพเพื่อการเป็นผู้นำ ชี้นำประเทศมหาอำนาจอื่นๆ อเมริกาเสียความเป็นผู้นำไปเพราะ การประเมินกระแสโลกและการประเมิน พลังของตัวเองผิดพลาด การรวมกลุ่มของ EU การขึ้นสู่อำนาจของจีน การฟื้นตัวของรัสเซีย และการต่อต้านอเมริกา สิ่งเหล่านี้ ล้วนลดบทบาท และอำนาจอเมริกา ปัจจุบันโลกเข้าสู่ยุค อำนาจ หลายขั้ว ไทยซึ่งยังเคยชินกับแนวคิด รูปแบบโลกแบบสงครามเย็นจึง ยังปรับตัวไม่ทัน ต่อการเปลี่่ยนแปลงของกระแสโลก ผมกำลังกลัวว่าโลกกำลังจะปรับตัวเข้าสู่ยุคจั๊นกว๋อในอีกไม่นาน หวังว่าคงไม่นะ แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 14:33:10 จากคุณ : Pongkm (Pongkm) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 14:28:04

ความคิดเห็นที่ 11 แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 14:30:18 จากคุณ : Pongkm (Pongkm) เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 53 14:29:03

ความคิดเห็นที่ 12 คห. 10 ครับ คนเราอาจมีมุมมองต่างกัน ถึงได้มีการแสดงทัศนะที่ต่างกันครับ แต่ที่คุณว่าความคิดความเชื่อเรื่องสิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียมเป็นเรื่องละเมอฝันกลางวันนั้นผมค้านนะครับ โปรดอย่าได้ดูถูกความคิดนี้ไป คุณอาจมองในแง่ของสภาพความเป็นจริงที่เป็นอยู่ซึ่งอันนี้ผมไม่คัดค้านเพราะมันเป็นเช่นนั้นจริง อย่างคนรวยย่อมมีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่ดีกว่ามากกว่าคนจน แต่ถ้าคุณสนใจในเรื่องการพัฒนาสิ่งที่เป็นอยู่ให้ดีขึ้นก็จะเข้าใจได้ว่ามันไม่ได้เรื่องละเมอฝันกลางวัน อย่าเป็นคนที่แค่ศึกษามองดูความเป็นไปเฉยๆแต่ไม่หัดคิดอะไรในมุมกว้างๆเพื่อการพัฒนาสิครับ ลองนึกดู ถ้าคนจนถูกคนรวย/นายทุนเอารัดเอาเปรียบ(ในบางเรื่อง) แล้วเป็นคนที่กำหนดความเป็นไปทุกอย่างให้ทำตามโดยอ้างสิทธิความเป็นผู้นำ เราจะบอกว่าก็มันเป็นของมันเช่นนี้เอง ทนๆไป เท่านั้นก็จบเหรอครับ? หรือเราจะเลือกออกมาเรียกร้องสิทธิ ความยุติธรรม? ถ้าคุณเข้าใจเรื่องประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันที่มีแต่การกดขี่ข่มแหงกัน (ส่วนหนึ่งมาจากการยอมรับในอำนาจของคนที่คิดกว่าตัวด้อยกว่า ทำตามๆไปปลอดภัยที่สุด) หรือแนวคิดเรื่องกฎหมายมหาชนแล้ว จะรู้ว่าทุกอย่างมีวิวัฒนาการของมัน และการได้มาซึ่งสิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียมในปัจจุบัน ซึ่งถึงแม้มันไม่สมบูรณ์แบบ แต่มันก็ดีขึ้นเพราะแนวคิดอุดมคติแบบละเมอฝันกลางวันที่คุณว่าทั้งนั้นแหละครับ แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 53 19:58:45 จากคุณ : โจโฉ (joechou) เขียนเมื่อ : วันแม่แห่งชาติ 53 19:56:21

ความคิดเห็นที่ 13 คงได้ก็แค่รักษาความเป็นมหาอำนาจทางทหาร  เพราะที่สังเกตุ อเมริกาเป็นมหาอำนาจเต็มตัวก็ยุคโซเวียตล่มสลายยังไม่ถึงยี่สิบปีเลย อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย อดีตเคยเป็นมหาอำนาจมาเป็นร้อยๆปี แม้แตจีน มีประวัติศาสตร์ของอำนาจมาเป็นพันๆปีถูกลดทอนลงก็แค่โดนประเทศ ล่าอาณานิคมรุมทึ้ง แต่ก็ช่วงสั่นๆเมือเที่ยบกับประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ในอนาคตอันใกล้นี้ประเทศเหล่านี้จะขึ้นมาเป็นมหาอำนาจอย่างเดิม ในยุคนี้อเมริกาแค่รักษาอำนาจตัวเองให้ทรงตัวอยู่ไม่ถูดลดทอนลง ก็พอแล้ว ซึ่งแตกต่างจากจีน รัสเซีย หรือ EU ซึ่งไม่พ้นอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน มหาอำนาจเก่าทั้งนั้นเป็นผู้นำ ซึ่งพัฒนาประเทศตามมาติดๆ และแซงไปแล้วในบางด้าน จากคุณ : march_k เขียนเมื่อ : 13 ส.ค. 53 00:10:41

ความคิดเห็นที่ 14 สำหรับผมแนวคิด สังคมเสมอภาคมี มาไม่ต่ำกว่า 3000 ปีแล้ว พัฒนาเปลี่ยนชื่อเรียกไปเรื่อยๆ ผ่านทั้งช่วงที่ดีและไม่ดี ไอ้กฎหมายมหานชนของคุณมันก็แค่ เป็น แนวคิดปรัชญาเก่าๆ เอามารีมิกซ์ทำใหม่แค่นั้นเอง แต่ผมไม่เคยเห็นช่วงไหน ที่มันจะเสมอภาคกันจริงๆ สักที สังคมจะเสมอภาคได้ คนเราต้องละกิเลสที่อยากจะดี อยากจะเด่น กว่าผู้อื่นทิ้งไป กลายเป็นสังคมกึ่งศาสนา ที่ผู้ปกครองอยู่ภายใต้ระบอบ ความเชื่อ เสียสละเพื่อส่วนรวม ซึ่งทำได้ก็ไม่เกิน รุ่นสองรุ่นจากนั้น ก็จะกลับเข้าสู่ระบบเดิม และที่คุณบอกว่า ต้องเรียกร้อง ถ้าคุณจะเรียกร้องคุณก็ต้องมีำกำลัง มีอำนาจและพวกพ้องพอที่จะเอาชนะผู้กดขี่แล้วคุณจะต่างจากผู้กดขี่ ตรงไหนละครับ  เพราะผู้กดขี่ก็ใช้อำนาจและกำลังในการกดขี่ เมื่อรัฐกดขี่ประชาชน ประชาชนต่อสู้สร้างรัฐใหม่ และรัฐนั้นก็กลับมา กดขี่ประชาชนต่อเป็นวัฎจักรต่อเนื่อง นักวิชาการ อาจจะหลอกตัวเองว่าเราเข้าใกล้แล้ว เราดีกว่าเดิมแล้ว แต่ผมมองว่า มันก็ยังเหมือนเดิม ถ้าเราเอาสายตาไปไกลจริงๆ จะพบว่า สังคมดีๆที่เรียกว่าอารายะในปัจจุบัน เกิดจากการกินทรัพยากร ในสังคม แย่ๆที่เรียกว่าป่าเถื่อน เพื่อมาจุนเจือสังคมที่เรียกว่าอารยะ ถ้าสังคมอารยะเกิดปัญหา ก็พร้อมจะบดขยี้สังคมป่าเถื่อนเพื่อจุนเืจือสังคม ที่เรียกว่าอารายะต่อไป เข้าทำนองว่าเกลียดปลาไหล แต่กินน้ำแำกงนั่นแหละ จริงๆ สำหรับคนที่ยึดมั่นในอุดมคติมันก็ดี แต่ถ้ายึดมั่นจนหลงเข้าไปอยู่ใน โลกความฝันโดยไม่ดูสภาพความเป็นจริง สุดท้ายแล้วมันมีแต่ทำลายตัวเอง เหมือน ผู้นำแคว้นไหนสักแคว้นที่ เอ่ยอ้างแต่คุณธรรมจนแว่นแคว้นล่มจม หรือเหมือนกับ พวกเรียกร้องที่เอาแต่เรียกร้องโดยไม่ดูสภาพสังคม หรือสิ่ง แวดล้อมโดยรอบ สิ่งที่ผมคิดคือเราเยียวยาให้อยู่กันพอได้ก็พอ มันไม่มีทางที่คนจะเท่าเทียมกัน หรือ สุขสบายเท่ากัน คนเราลดการเบียดเบียนกันให้น้อยหน่อย เราอาจไม่ได้ทุกอย่างที่ต้องการ แต่เราก้ไม่ได้เสียทุกอย่าง ถ้าเรียกร้องมาก เกินไป สุดท้าย มันก็ต้องมีคนได้ มีคนเสีย สุดท้ายก็ต้องเข้าสู่สนามประลองกำลัง จนบางทีก็ลืมไปว่าสู้เพื่ออะไร ตัวอย่างทีเห็นก็เหมือนกับพวกผู้ก่อการร้ายอัคเคด้าไงครับเราถูกกดขี่ เราต้องต่อสู้ กับจักรวรรดิอเมริกาผู้ชั่วร้าย ต่อสู้จนในที่สุดก็ลืมไปแล้วว่า ต่อสู้เพื่ออะไร รู้แต่ว่าเราต้องสู้อยู่นั่นแหละ แต่ก็ยอมรับว่าบางทีผมอาจเป็นพวกมองโลกแง่ร้ายไปหน่อย แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 53 17:51:51 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 53 15:23:48 แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 53 14:46:03 จากคุณ : Pongkm (Pongkm) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 14:40:21

ความคิดเห็นที่ 15 .. หัวข้อกระทู้โต้วาทีของชมรมอเมริกันศึกษาที่ธรรมศาสตร์ใช่มั้ยครับ อิอิ .. . จากคุณ : +-+ jackiezzz +-+ เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 53 01:07:09