ความคิดเห็นที่ 1 Essential Grammar in Use เล่มสีแดง เล่มเดียวเองคะ   ไม่พอครับ ต้องต่อด้วยเล่มสีน้ำเงิน Grammar in Use ระดับ Intermediate ลงทุนอีกหน่อยครับ เล่มนี้ดีมากๆ จากนั้นไปโหลด VOA มาอ่าน มาฟัง ครับ จากกระทู้นี้ครับ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9577492/K9577492.html ขั้นสุดท้ายก่อนสัก 1-2 สัปดาห์ หัดทำข้อสอบโดยหาแบบฝึกหัดได้จากเวปที่โหลด VOA ครับ ค้นโดยใช้คำว่า Toiec มีให้เลือกมากมาย มีบททดสอบด้วยครับ จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 14 ส.ค. 53 21:52:58

ความคิดเห็นที่ 2 เราว่าหนังสือเตรียมสอบไม่จำเป็นเลย แค่เสพย์สื่อภาษาอังกฤษเยอะๆในชีวิตประจำวันก็พอแล้ว สมัยเราเด็กๆเราอ่อนภาษาอังกฤษมากๆจนเรียนไม่รู้เรื่องเลยหละ แต่เผอิญเราบ้าเพลงสากลมากๆเราฟังมันแล้วก็หัดร้องตามไป บ้าหนังฝรั่งดูมันเยอะมากๆ พอเราหัดพูดได้เราก็อ่านหนังสือเยอะมากๆ แล้วเราไม่เคยเรียน grammar เลย แต่ทำข้อสอบ grammar ได้คะแนนดี เพราะอาศัยการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเยอะๆจนรู้คำตอบได้เองแบบเป็นธรรมชาตินี่แหละ เราไปสอบ CPE (Certificate of Proficiency in English) ของ University of Cambridge ซึ่งยากกว่า toefl, toeic กับ ielts รวมกันตั้งหลายเท่า แต่เราก็สอบ CPE ผ่านได้โดยไม่ได้อ่่านหนังสือเตรียมสอบเลยแม้แต่สักเล่มเดียว... จริงๆแล้วเราเพิ่งมาเรียน grammar เมื่อไม่นานนี้เอง หลังจากทำงานด้านภาษาอังกฤษ (แปลหนังสือราชการจากไทยเป็นอังกฤษ) มาหลายปีแล้ว เรามาเรียน grammar เอาตอนอายุมากแล้ว(หลังจากสอบข้อสอบ CPE ยากๆผ่านไปแล้วด้วยดิ) ที่เรียน grammar ก็แค่เพื่อเอาไว้เถียงกับพวกเซียนภาษาอังกฤษแถวๆนี้เท่านั้นเอง...แต่เรียนๆไปเราก็ชักจะเบื่อเสียแล้วเพราะหมู่นี้เราไม่ค่อยได้ตอบกระทู้ภาษาอังกฤษแข่งกับเซียนเท่าไหร่ เรามัวแต่ไปเร้นกายอยู่ในถ้ำเพื่อฝึกวรยุทธ์แขนงอื่นนอกเหนือไปจากภาษาอังกฤษ ลองไปอ่านเรื่องราวที่เราเคยพูดคุยกับพวกเพื่อนๆเราที่สอบข้อสอบภาษาอังกฤษได้คะแนนดีๆได้โดยไม่ได้อ่านหนังสือเตรียมสอบเลย ได้ที่กระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K9580333/K9580333.html จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 09:49:59

ความคิดเห็นที่ 3 จขกท ต้องเข้าใจก่อนนะครับ คุณ fortuneteller อยู่อังกฤษหลายสิบปี ไม่ต้องเรียนแกรมมาร์อาศัยพูด ฟัง อ่านบ่อยๆ ก็ทำพวกข้อสอบได้ แต่คุณอยู่เมืองไทย มันไม่เหมือนกัน ยิ่งอ่อนๆ อยู่ด้วย พื้นฐานแกรมมาร์ไม่แน่น อ่านอะไรก็ไม่รู้เรื่องหรอกครับ เพราะแยกแยะประโยคหาความหมายไม่เป็น ไม่ว่าจะเปิดดิกรู้ศัพท์หมดก็ตาม ไม่งั้นจะมีคนมาถามความหมายในนี้มากมายได้อย่างไร ถ้ามันง่ายเสียอย่างนั้น แค่ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือเอง จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 13:06:13

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ เรายอมรับว่าที่คุณพูดน่ะมีส่วนถูกหลายเปอร์เซ็นต์จริงๆด้วยสิ นั่นก็คือ "คนที่เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 โดยไม่รู้ grammar เลย ฟัง พูด อ่าน เขียนอังกฤษเละไม่เป็นภาษาคน" แต่เราเคยเจอคนไทยที่เรียนภาษาอังกฤษในเมืองไทย แล้วเสพย์สื่อภาษาอังกฤษมากๆ จน ฟัง พูด อ่าน เขียนภาษาอังกฤษได้ในเกณฑ์ีดีพอที่จะสอบ toefl ผ่านได้จริงๆ...เมื่อกี้เราพยายามเล่าเรื่องมหัศจรรย์เกี่ยวกับคนพวกนี้ให้ฟัง แต่เห็นทีข้อความมันจะยาวเกินไป ก็เลยต้องหยุดพิมพ์ เอาไว้ว่างๆเราจะรวบรวมกรณีศึกษาที่เราเจอ มาเล่าให้ฟัง คือสิ่งที่เราพยายามจะพูดนั่นก็คือ grammar เรียนโดยตรงจากการอ่านตำรา grammar แล้วทำแบบฝึกหัดเยอะๆก็ได้ แต่มันก็มีวิธีเรียน grammar โดยไม่ได้แตะต้องหนังสือ grammar เลยก็ได้ เราค้นพบว่ามันเป็น senses ชนิดพิเศษในเรื่อง language acquisition นั่นเอง ที่เหลือเชื่อ แต่ก็เป็นจริงได้ แก้ไขเมื่อ 15 ส.ค. 53 14:42:55 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 14:39:49

ความคิดเห็นที่ 5   ขอบคุณ คุณ K.Senior...คุณfortuneteller...มากๆนะคะที่มาให้คำแนะนำดีๆ จขกท.จะพยายามดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือภาษาอังกกฤษเยอะๆๆ ปล.คุณK.Seniorค่ะ วันนี้จขกท.ไปดูเล่มสีฟ้ามาแล้วคะ เงินเดือนออกเมื่อไหร่ไปซื้อมาแน่นอน อิอิ และขอบคุณสำหรับไฟล์ที่ให้โหลดมากๆคะ ^^ จากคุณ : Momofisho เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 20:10:59

ความคิดเห็นที่ 6 เคยเขียนแนะนำไว้ที่นี่ค่ะ http://www.kru-mon.com/?p=177 แต่เล่มนี้เพื่อการสอบอย่างเดียวนะคะ ก่อนจะอ่านเล่มนี้ต้องฟิตภาษาก่อนด้วยค่ะ อ่านหนังสือกับดูหนังภาษาอังกฤษเยอะๆ ช่วยได้ค่ะ ส่วนหนังสือพื้นฐานภาษา คิดว่าควรจะลองไปร้านหนังสือใหญ่ๆ เช่น ศูนย์หนังสือจุฬา หรือ kinokuniya แล้วลองนั่งเปิดดูทีละเล่มค่ะ ว่าอันไหนเราอ่านรู้เรื่องที่สุด อันไหนเราน่าจะอ่านได้ไม่เบื่อมากที่สุด เพราะของแบบนี้ลางเนื้อชอบลางยาค่ะ พื้นฐานก็ไม่เหมือนกันด้วย ลองหาดูนะคะ จากคุณ : Vinter เขียนเมื่อ : 15 ส.ค. 53 23:18:38

ความคิดเห็นที่ 7 จริงๆแล้วถ้า จขกท ยังอ่อนภาษาอังกฤษอยู่ ไม่ควรไปคิดเรื่องการหาหนังสือเตรียมสอบตอนนี้ แต่ควรมุ่งเรียนทักษะพื้นฐานก่อนคือฝึก ฟัง พูด อ่าน เขียน ตามลำดับขั้นตอนจากง่ายไปหายาก อาจไปเรียนตามโรงเรียนสอนภาษาเช่น เรียนฟังกับพูดที่ AUA ซึ่งมีสถิติที่ผู้เรียนประสบความสำเร็จค่อนข้างสูงกว่าโรงเรียนสอนภาษาอื่นๆที่โฆษณาชวนเชื่อปาวๆ เมื่อเรียน AUA ครบทุกระดับแล้ว ก็น่าที่จะรู้ grammar ขั้นพื้นฐานพอที่จะอ่านหนังสือ (คือการเรียนฟังกับพูด ถึงไม่ได้ทำแบบฝึกหัด grammar มากนัก แต่มันทำให้เรียน grammar พื้นฐานไปได้โดยธรรมชาติ จนน่าจะนำไปสู่การอ่านได้) ก็ค่อยๆอ่านหนังสือให้หลากหลายชนิดมากที่สุด (ซึ่งในช่วงนี้ก็ต้องเสพย์สื่อภาษาอังกฤษทุกอย่างคือดูหนังฟังเพลงฝรั่งมากๆ) พอทักษะการอ่านดีขึ้น ก็หาบทเรียน grammar ในระดับสูงขึ้นมาหน่อยมาศึกษา และหาบทเรียน writing มาศึกษา (หาของฟรี online มีเยอะแยะเลย) จากนั้นลองใช้ google หาสื่อการสอนที่ใช้เตรียมสอบ วิธีหาก็คือเข้า google แล้วพิมพ์คำว่า toefl preparation book หรือ toefl preparation material พอเจอชื่อสื่อการสอน (เน้นว่าเอาแต่สื่อที่ผู้เชี่ยวชาญฝรั่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น) ก็ลองไปเปิดๆอ่านดูในร้านหนังสือ ดูว่าอ่านรู้เรื่องหรือเปล่า (แต่ถ้ารู้วิธี download ของฟรี ก็ไม่ต้องไปทดลองยืนอ่านในร้านหน้ังสือให้เสียเวลา) คือต้องทดสอบตัวเองก่อนว่า สามารถเรียนจากสื่อที่เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ ใช้ dictionaries อังกฤษ-อังกฤษล้วนๆ (โดยไม่ใช้ภาษาไทยเลย) จะทำได้หรือเปล่า? ถ้าทำได้คุณก็พร้อมแล้วที่จะลงสนามสอบ แต่ถ้ายังต้องเรียนโดยอาศัยสื่อภาษาไทยอยู่ โอกาสสอบผ่านคงเป็นไปได้ยาก คือข้อผิดพลาดของคนเตรียมสอบหลายๆคนก็คือ อยู่ดีๆไปหาหนังสือเตรียมสอบมาอ่านเลยในขณะที่พื้นฐานภาษาอังกฤษแทบไม่มีเลย พออ่านๆไป ก็ยิ่งงง พอสอบไม่ผ่านหลายๆทีจะท้อใจ และเสียเงินไปเปล่าๆ จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 08:50:52

ความคิดเห็นที่ 8 เรื่องเรียนภาษาอังกฤษในเมืองไทย โดยไม่ต้องไปอยู่เมืองนอกนานๆเหมือนเราเนี่ย จริงๆแล้วมันทำได้นะ ไม่ถึงกับ impossible หรอก เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว มีคน 3 คนมาเรียนภาษาอังกฤษกัีบเรา พวกเขาฟังกับพูดอังกฤษได้พอรู้เรื่องอยู่แล้ว  ซึ่งพอเราถามว่าเรียนอังกฤษมาจากไหน พวกเขาก็ตอบว่า ดูหนังฝรั่งเยอะมากๆเป็นร้อยๆเรื่องเลยหละ ...เลยเวลาเราเอาข้อความภาษาอังกฤษให้หัดอ่าน (เพื่อเตรียมตัวหัดเขียน) นะ ถ้าพวกเขาไม่เข้าใจเราอธิบายเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆพวกเขาก็เข้าใจได้นะ เราเลยแทบไม่ได้ออกแรงสอนภาษาอังกฤษให้พวกเขาเลย เราได้แต่สอนวิธีใช้ software กับ Internet เพื่อเป็นเครื่องทุ่ีนแรงหาบทเรียนภาษาอังกฤษดีๆจากเวปไปเรียนเองซะเลย... เรากล้ายืนยันว่าคนเสพย์สื่อภาษาอังกฤษคือดูหนังฟังเพลงฝรั่งเยอะมากๆ สักระยะหนึ่ง ถ้าไปเรียน grammar กับ reading comprehension และ writing ทีหลัง จะเรียนได้ไวกว่าคนที่เริ่มเรียนแต่ grammar ล้วนๆ แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 53 13:14:51 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 13:12:28

ความคิดเห็นที่ 9 ไวยากรณ์กับการท่องศัพท์เป็นตัวช่วยให้เรียนได้เร็วขึ้นค่ะ หลักๆยังอยู่ที่การทำไปใช้  ถ้าเราดูหนัง หรืออ่านบ่อยๆ มันก็คือการเรียนแบบธรรมชาติเหมือนๆกับที่เราเรียนภาษาไทย เราไม่ต้องเรียนไวยากรณ์ภาษาไทยก็สื่อสารกับผู้อื่นรู้เรื่อง  การเรียนแบบธรรมชาติ สำคัญมากถึงมากที่สุดเมื่อเราเรียนระดับสูง อย่างที่ข้างบนบอก ต้องเป็นเล่มฟ้าค่ะ ถึงจะพอ ทำครั้งแรกอาจจะทำผิดเยอะ ลองค่อยๆทำทั้งเล่ม แล้วกลับมาทำซ้ำอีกครั้ง ถ้าไม่อยากเสียเวลาให้ทำแบบฝึกหัดท้ายเล่มเพื่อหาว่าเราอ่อนไวยากรณ์จุดใด แล้วค่อยกลับไปซ้ำในจุดนั้น จากคุณ : ขวัญ (khumchalong) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 53 13:45:40