ความคิดเห็นที่ 5 |
ตั้งกระทู้ ตั้งข้อสังเกต แบบนี้ ก็เท่ากับไม่เห็นแก่ ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย เลยนะครับ
การที่ในภาษาไทยเราทีคำ พ้องความหมาย อย่างที่เรียกว่า คำไวพจน์ นี้ ก็เพื่อแสดงสุนทรียลักษณ์ และอัจฉริยภาพของกวีครับ ที่สามารถนำคำเหล่านี้ มาเรียงร้อยในบทประพันธ์ ไม่ใช่การคิดไม่ออกว่าจะใส่คำอะไรลงไป ในกลอนตัว ถ้าเป็นเช่นนั้น ท่านเรียก "กลอนพาไป" แล้วคำที่ใช้ก็ไม่ได้งดงามสละสลวยเท่าใดนัก
คำที่มากมาย เขียนต่างรูปกัน แต่ความหมายเหมือน หรือใกล้เคียงกันนั้น โดยมากก็เป็นคำที่มาจากภาษาอื่นๆ เช่น บาลี สันสกฤต เขมร ฯลฯ ที่คนไทยเรานำมาใช้ ในบริบทและตำแหน่งที่ต่างกัน เป็นประโยชน์และข้อได้เปรียบของเราที่สามารถเลือกนำมาใช้ในบทประพันธ์หรือ การสื่อสารต่างๆของเรา เพื่อให้คำประพันธ์มีความงดงามทั้งในแง่เสียง และความหมายด้วย
ส่วนคำเดียวกัน ออกเสียงเหมือนกัน แต่ความหมายต่างกัน หรือคำที่เขียนเหมือนกัน ออกเสียงต่างกันที่เรียกว่า "คำพ้องรูป" หรือคำที่เขียนต่างกัน แต่ออกเสียงเหมือนกัน ที่เรียกว่า "คำพ้องเสียง" ในภาษาอังกฤษ ก็ยังมี ภาษาอื่นๆก็มี ไฉนมาดูถูกแต่ภาษาไทยเราเอง
ผมว่าเราควรมองในแง่ดี ของบรรพบุรุษไทย ที่ท่านได้สร้างคำไว้ให้เราใช้อย่างหลากหลาย ความซับซ้อนของคำ และความหลากหลายเหล่านี้ แสดงความสามารถ อัจฉริยะของคนไทย เหมือน งานศิลปะแกะสลักชิ้นหนึ่ง ยิ่งลวดลายซับซ้อน อ่อนช้อย ก็ยิ่งงาม ยิ่งมหัศจรรย์ ยิ่งทรงคุณค่า ไช่ไหมครับ ?
จากคุณ |
:
leeming047 (leeming047)
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ส.ค. 53 12:48:46
|
|
|
|