|
ความคิดเห็นที่ 4 |
|
มีที่เรียนที่ถูกและดีกว่า เรียนเอง
หาชุดเรียนดี ๆ ที่มีเสียงและหนังสือประกอบและฝึกฝนด้วยตนเอง ฟังซ้ำ ๆ และพูดตามให้เหมือนที่สุด หาชุดที่มีเสียงมาตรฐาน เป็นของคนอังกฤษน่าจะดี เวลาพูดควรให้มีมาตรฐาน พูดได้ดี แต่ต้องฟังออกทั้งที่มีมาตรฐานและอ่อนมาตรฐาน ฟังวิทยุ BBC หรือ VOA ฯลฯ ฟังไม่ออก หาเทปอัดเสียงไว้ช่วงสั้น ๆ แล้วนำมาฟังภายหลัง หลาย ๆ รอบ จนฟังพอเข้าใจบ้าง อัดใหม่อีกข่าวหรือสารคดีก็ได้ ฟังชุดใหม่อีก ซ้ำ ๆ จะพบว่า น่าจะเข้าใจได้ดีขึ้น ทำเช่นนี้สักสิบครั้ง น่าจะฟังเข้าใจดีขึ้นจนอาจไม่ต้องฟังซ้ำก็เข้าใจได้ ในหลักพุทธเขาเรียกว่ามี วิริยะ ใส่ใจและไตร่ตรองด้วยจะเก่งเร็วขึ้น คือมีจิตตะและวิมังสา ที่อยากเรียนก็คงมีฉันทะอยู่แล้ว ทำเช่นนี้ โดยไม่ย่นย่อท้อถอย จะเก่งได้ภายในเวลาไม่เกิน 1 ปี
เคยเขียนบทไว้ ชักชวนให้เรียน ลองอ่านดูนะ เผื่อจะเห็นด้วย
มาเรียนอังกฤษให้เก่ง ง่าย ถูกวิธี กัน
รู้ภาษาอังกฤษมีคุณประโยชน์มาก เรียนเองก็เก่งได้ ไม่ยากนัก ถ้าเรียนตามวิธีที่ถูก ไม่สิ้นเปลืองด้วย
เขาผสมอักษรให้เป็นคำ ผูกคำให้เป็นประโยค เช่น a หนึ่ง I ฉัน is am are เป็น อยู่ คือ you คุณ he เขา Thai รู้คำเท่านี้ ก็ผูกได้ 3 ประโยค I am a Thai. You are a Thai. He is a Thai. พอรู้อีกคำ man ผู้ชาย คน ก็ได้อีก 3 ประโยค (ใช้ man แทนที่ Thai) นั่นคือรู้คำเพิ่มขึ้นก็ผูกประโยคได้เป็นทวีคูณ เราจึงต้องเรียนรู้คำใหม่และหัดผูกประโยคเพิ่มเติ่ม
เรียนคำ ให้แปล สะกดและอ่านออกเสียงได้ถูก
ผูกประโยค ให้ถูกต้องตามหลักของเขาในเรื่อง พจน์ (จำนวน) บุรุษ (ที่ ๑, ๒ หรือ ๓) กาล (อดีต ปัจจุบัน หรือ อนาคต) และการเรียงคำ ต้องจำของเขาไว้ เช่น แมวดำตัวหนึ่ง เขากลับว่า a black cat (หนึ่งดำแมว)
ทบทวน คำและประโยคที่รู้ถูกต้องแล้ว จนจำได้ คล่องปากและขึ้นใจ แล้วจะเข้าใจ ฝรั่งว่า Practice makes perfect หมั่นฝึกฝน อย่าปล่อยวางว่างเว้น
นี่เป็นวิธีเรียนรู้ที่ถูก หัวใจการเรียนรู้มี 3 ข้อ รู้คำ (สะกด เขียน อ่าน แปล ใช้ผูกประโยคได้) จำประโยค (ตามอย่าง ดัดแปลง และแต่งใหม่) ทบทวน (จนจำให้ได้ คล่องปาก ขึ้นใจและเข้าใจ)
เวลาพูด เขามีเสียงหนักเบาและสูงต่ำ ต้องคุ้นกับเสียงพูดของเขา ซึ่งมีซุ่มเสียง AIR ต่างกับเรา คือ
Accent (หรือ stress) เขาไม่มีวรรณยุกต์ (ปา ป่า ป้า ป๊า ป๋า) อย่างเรา แต่มีพยางค์เน้นในคำที่ยาว ที่เน้น ให้ออกเสียงหนัก (เป็นเสียงตรี) เช่น อิ๊ง ใน English (อิ๊งกลิช) หรือ ลั้น ใน London (ลั้นเดิน) พยางค์ไม่เน้นให้ออกเสียงพยัญชนะ เป็นหลัก กับ เออะ อะ หรือ อิ ที่แผ่วเบาสั้นถากผ่านไป เวลาเรียนคำ ต้องฝึกเน้นให้ถูกพยางค์และฝึกถากเสียงผ่าน คำที่มีรากเดียวกันหรือคล้ายกัน อาจออกเสียงสระต่างกันเมื่อเน้นที่ต่างกัน commerce (ค้อมเมิซ) commercial (คะเม้อเชิล) generous (เจ๊นนะเริส) generosity(เจนะร้อสเซอะทิ) horizon (เฮอะไร้เซิน) horizontal (ฮอริซ้อนเทิล) universe (ยู้นิเวิส) university (ยูนิเวิ้สเซอะทิ) nature (เน้เชอะ) mature (เมอะชั้ว)
Intonation ขึ้นประโยคด้วยเสียงสูง แล้วทอดลงจนจบประโยคด้วยเสียงต่ำ (เพื่อให้รู้ว่าพูดจบ) He is going home now. คำถามก็เช่นเดียวกัน ขึ้นเสียงสูงและจบลงต่ำ When is he going home? แต่ถ้าถามโดยไม่ได้ขึ้นต้นด้วยคำที่ถาม (มี who whom whose what which where when why และ how) ตอนพูดจบให้วกเสียงขึ้นสูง (เพื่อให้รู้ว่าถาม) Is he going home now?
Rhythm เป็นการรวบคำในกลุ่มที่ผูกความกันและเว้นช่วงคำต่างกลุ่ม (ทอดช่วง) ในประโยคที่ยาว
พูดอังกฤษ มีเอกลักษณ์ซุ่มเสียง (คือ I รวมกับ R) พูดโดยเน้นพยางค์ และทอดซุ่มเสียงด้วย AIR ที่ถูกต้อง จะฟังเพราะประทับใจ และสื่อความชัดเจน ผู้ฟังจะเข้าใจเราได้ดี และนับถือว่าเราได้ศึกษามาดี
เราทำได้โดยการฝึกซ้ำ ๆ จากต้นแบบดี ๆ (เช่น Follow Me ของ BBC) ที่มีเสียงหนักเบา สูงต่ำและทอดช่วงที่สมบูรณ์แบบ ฟังและฝึกพูดตามให้คล่องปากและเหมือนเขาที่สุด ฝึกจนขึ้นใจ แล้วก็จะพูดได้ไพเราะเหมือนคนอังกฤษที่มีการศึกษา
เรียนให้ รู้คำ จำประโยค ทบทวน ฝึกฝน อย่าเชื่อนักการศึกษาที่หาว่า การฝึกฝนเป็นเหมือนนก เลียนเสียงคน เราเข้าใจที่พูด แต่นกไม่เข้าใจเสียงที่มันเปล่ง นกคล้ายกับนักการ ฯ ที่ไม่รู้วิธีเรียนที่ถูก/พูดตามกัน เราเก่งอังกฤษได้ไม่ยากนัก โดยเรียนเองตามหลักที่ว่านี้ เป็นวิธีเรียนที่ถูก ง่ายและไม่เปลืองค่าใช้จ่าย
swathcu@yahoo.com, Dec 5, 2006; revised Aug 12, 2010
จากคุณ |
:
swathcu@yahoo.com
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ส.ค. 53 14:56:39
A:122.154.3.81 X: TicketID:281681
|
|
|
|
|