Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรื่องสั้น......กล้วยแขกมหานคร  

ฝากเรื่องสั้นมาให้อ่านกันดูครับ ผมกำลังหัดฝึกฝนเขียนเล่นๆ น่ะครับทุกๆ ท่าน เลยอยากทราบว่าพอไหวหรือเปล่าน่ะครับ  กราบขอบพระคุณทุกท่านมากๆๆ ครับผม

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

"กล้วยแขกมหานคร"


กล้วยแขก อาหารว่างของคนไทยชนิดหนึ่ง ทฤษฎีกล้วยแขกเคยถูกพิสูจน์โดยคุณโน๊ตอุดม ที่กล่าวไว้ในโชว์มหัศจรรย์เดี่ยวแปด ว่าเมืองแขกที่จริงไม่มีกล้วยแขก และกำลังประสบปัญหาภาวะการไร้กล้วย ส่วนผมนั้นศึกษาเรื่องกล้วยแขกมาแรมปี กลับพบว่า ที่จริงกล้วยแขกคืออาหารที่ทำไว้รับรองแขกบ้านแขกเมือง ในสมัยอโยธยาเป็นราชธานี โดยต้นตำรับคือ ฝรั่งหัวแดงผสมหัวทองชาวฮอลันดาเป็นคนคิดค้นทำ มิใช่แขกหรือทำโดยแขก แต่เป็นการทำเพื่อเลี้ยงแขกต่างหาก....

ผมสนใจในศาสตร์ของกล้วยแขก ซึ่งจะเป็นกล้วยในมือแขก หรือกล้วยในมือคนไทย มันก็คืออาหารว่างยอดนิยมอยู่ดีนั่นเอง กล้วยแขกไทยกลางกรุงเทพมหานคร ก่อกำเนิดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แหล่งแรกที่กรมทรัพยากรธรณีขุดค้นพบซากกล้วยแขก นั้นไม่ใกล้ไม่ใกล เป็นที่ถูกบันทึกว่าเป็นที่แรกของกล้วยแขกนคร เป็นจุดกำเนิดของวัฒนธรรม อารยธรรมกล้วย รวมถึงเผ่าพันธุ์มนุษยชาติพันธุ์กล้วยแขก มันถูกบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกล้วยแขกแล้วว่า จุดนั้นคือ สี่แยกนางเลิ้ง......

หากวางผังเมืองของกรุงเทพลงแบกับพื้น เราสามารถปักหมุดลงไปตรงกลางสี่แยกนางเลิ้งเป็นจุดแรก เราจะเห็นภาพการเคลื่อนตัวของการทัพปลดแอกกล้วยแขกไทย มันแผ่ขยายออกไปทางสี่แยกหลานหลวง ลามออกไปถึงแยกแม้นศรี บำรุงเมือง เส้นทางหลักลำเลียงประชากรกล้วย ก็คือจากแยกนางเลิ้งมุ่งหน้าไปทางสนามม้านางเลิ้ง เลี้ยวขวาเตรียมบ่ายหน้าสู่ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ โดยสิ้นสุดเขตแดนอาณาจักรกล้วย ตรงตีนเชิงทางด่วนยมราช การเจริญเติบโตของประชากรกล้วยนั้นเกิดควบคู่ไปกับการเพิ่มขึ้นของยานพาหนะ

กล้วยแขกต้องอาศัยรถติดในการลำเลียงพล รถติดมากจนเกินไป คนขายกล้วยมักไม่ชอบ เพราะคนซื้อจะซ้ำหน้า และหากรถไม่ติดเลย คนขายกล้วยก็มักขัดใจ รถที่ติดแต่พองาม ทำให้คนขายกล้วยมีกำไรงามเช่นกัน เส้นทางรถติดนั้นเป็นเรื่องปกติของมหานครกรุงเทพ ต่อให้ จ.ส.100 เปลี่ยนชื่อเป็น จ.ส.ห้าร้อย ก็ไม่สามารถช่วยแก้ไขเรื่องรถติด และแน่นอนตราบใดที่รถติด คนก็ยังให้การต้อนรับแนวร่วมกล้วยแขกไทย เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยประทังความหิว..ยามรถติด

ผมเป็นเซียนกล้วย ผมรู้ศาสตร์ของกล้วยแขกกว่าใคร กล้วยแขกที่ดีต้องคัดสรรจากกล้วยน้ำว้าพันธุ์ดี และต้องห่าม ไม่สุกเกิน กล้วยที่นำมาเป็นกล้วยแขก จะถูกนำมาผ่าบนเขียงโตกลมเขื่อง โดยหันหัวกล้วยไปทางทิศเหนือ และตูดกล้วยหันไปทางทิศใต้ หรือชี้เข้าหาตัวของคนหั่น การหั่นกล้วย สิทธิการิยะท่านให้หั่นเป็น 4 ชิ้น หากหั่น 5 ท่านว่าอัปมงคล กล้วย 1 ใบหั่นได้ 4 ชิ้น สองชิ้นซ้ายและขวา จะมีด้านหนึ่งเป็นผิวโค้ง และอีกด้านเรียบตรง ส่วนสองชิ้นกลางจะเป็นแผ่นเรียบแบนตรงทั้งสองด้าน

ผมเลือกกินกล้วยสองชิ้นกลาง ที่เรียบตรงทุกครั้ง เหตุผลคือผมเป็นคนตรง ผมก็ควรกินกล้วยชิ้นที่ตรงเช่นกัน ผมมักจะเลือกกินแต่กล้วยแขกที่ร้อน กรุ่นไปด้วยไอ การกินกล้วยแขกที่เย็นชืด ให้ถือว่าขาดศิลปะ เพราะกล้วยที่เย็น มักจะไม่กรอบ เหนียวไปด้วยคราบน้ำมัน ทำให้หนืดคอ เซียนกล้วยทั้งหลายมักจะหลีกเลี่ยงกล้วยเย็น คราวใดที่ผมผ่านไป และผมสามารถซื้อได้กล้วยร้อน วันนั้นผมจะมีความสุขและสบายใจไปตลอดวัน ในทางกลับกัน วันใดได้กล้วยเย็น วันนั้นผมมักอับโชค หงอยและเหงา

การทอดกล้วยคือสิ่งสำคัญของกระบวนการผลิต การทอดกล้วยให้อร่อย ท่านว่าต้องโดยหญิงมีบุตร ยิ่งหญิงนั้นอวบอ้วน หนอกใต้คอใหญ่ ท้องแขนอุดมไปด้วยไขมัน น้ำหนักตัวเกินกว่า 90 กิโลกรัม ลำตัวกลมกลึงดุจปลาพะยูน ถือว่าอร่อยนักแล อาหารอร่อยต้องมาจากบรรดาแม่แม่ทั้งหลาย ยิ่งขึ้นต้นว่ากิมยิ่งอร่อย หรืออย่างเลวต้องคำนำหน้าว่าเจ๊ การทอดกล้วยให้อร่อย ต้องทอดไปด่าไป ยิ่งด่าเสียงดัง กล้วยกระทะนั้นยิ่งอร่อย หากเป็นการด่าผัวขณะทอด ท่านว่าอร่อยขึ้นเป็นสองเท่า.....

กรรมวิธีถัดไป กล้วยจะถูกบรรจุไว้ในภาชนะที่เรียกว่าถุงกล้วยแขก เคยสังเกตุไหมเล่า เรามักเรียกถุงกระดาษทุกชนิดในเมืองไทยว่าถุงกล้วยแขก แสดงว่าคนไทยให้ความสำคัญต่อกล้วยแขกมิใช่น้อย กล้วยแขกใส่ถุงจะถูกนำไปส่งถึงมือลูกค้าโดยทูตกล้วย ยุวทูตกล้วยจะนำความอร่อยจากกระทะทอดกล้วย ไปส่งถึงรถท่าน ทูตกล้วยมักจะเป็นวัยรุ่น หรือวัยกลางคน สุดแท้แต่ใครจะว่างมารับตำแหน่งทูตในวันนั้น ศัพท์สากล เราเรียกกลุ่มคนเหล่านี้ในนามว่า เด็กเดินกล้วย นั่นเอง......

แล้วเย็นวันศุกร์ 13 ก็มาถึง เป็นวันอัปโชคของฝรัง แต่ผมคนไทยไม่สนใจอีนังขังขอบ กับความเชื่อแบบฝรั่ง วันนั้นเป็นเพลาเกือบเย็น แดดหุบนานแล้ว ฝนตั้งเค้าทะมึน ลมกรรโชกแรง เศษใบไม้ปลิวว่อน เป็นวันที่คนกรุงเทพต้องทนทรมานอั้นเยี่ยวอีกวันหนึ่งในปฏิทิน วันนั้นรถติดมาก มันติดไม่ขยับเขยื้อน ความเร็วของรถเคลื่อนตัวได้พอๆ กับหอยทาก หอยตัวที่วิ่งแข่งขันชนะเลิศโอลิมปิคหอย แน่นอนผมติดกับดักอยู่เกือบสามสิบนาที อยู่กลางสี่แยกกล้วยที่ผมคุ้นเคย สี่แยกนางเลิ้ง....

ผมมักจะคุ้นเคยกับแยกนี้ ผมเป็นลูกค้ากล้วยชั้นดีหนึ่งประเภทหนึ่ง เด็กขายกล้วยมักจำผมได้ ผมมักจะมาลุ้นหาความตื่นเต้นกับการเลือกซื้อกล้วยที่แยกนี้ ท้องหิวพร้อมกับส่งเสียงร้อง รถยังติดไม่ขยับ ผมส่ายสายตามองหาเด็กเดินกล้วยหน้าคุ้น แต่แปลกนัก วันนี้เด็กเดินกล้วยหายไปหมด อาจเป็นเพราะมันเริ่มเย็น และฝนทำท่าจะตก เด็กเดินกล้วยอาจขี้เกียจ และอาจจะกำลังเตรียมตัวจะไปเที่ยวเธคที่ไหนซักแห่ง ผมหมุนซ้าย หมุนขวา เห็นลิบลิบแต่ไกล มีชายสูงโย่งเดินถือถุงกล้วยกระย่องกระแย่งมาที่รถผม

ชายผู้นี้เดินผ่านรถคันข้างหน้ามาแต่ไกล จนมาใกล้รถผม ผมกวักมือเรียก ส่งเสียงว่ามาทางนี้หน่อย ทำนองว่าผมต้องการกล้วยในมือคุณ ใกล้เข้ามาจนชิดรถ ผมสังเกตุว่าแกเป็นชายชรา แก่พอที่จะเรียกว่าลุง ร่างสูงโปร่ง เสื้อมอซอ กางเกงเก่าและขาดเป็นรูที่หัวเข่าขนาดเท่ากำปั้นลอด ใบหน้าซูบเกรียม ผมเป็นกระเซิง จุดเด่นที่สุดบนหน้าคือขนจมูก ลุงแกมีขนจมูกที่ยาว ดำขลับ ไหลยาวเฟื้อยเหมือนพู่กันของจิตรกรเอก ออกมาจากรูจมูกทั้งสองของแก ราวกับน้ำตกที่ไหลลงสู่ลำธาร มันยาวลงมาพันกับลำธารหนวดที่เฟิ้มอย่างกลมกลืน ที่สำคัญผมไม่คุ้นหน้าลุงเลย..

ลุงแกไม่สวมรองเท้า ผมคิดว่าการที่ลุงไม่สวมรองเท้า ไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้กล้วยแขกอร่อยหรือไม่อร่อย ผมไม่ให้น้ำหนักกับสิ่งที่ผมเห็นคนจากเปลือกภายนอก ผมสนใจต่อสิ่งที่เห็นอยู่ภายในตัวคนต่างหาก ลุงหิ้วถุงกล้วยมาเพียงถุงเดียว แกคงขายดี จนเหลือแค่ถุงเดียวตรงหน้าผม ผมลดกระจกยื่นสตางค์ให้กับลุง พร้อมกับร้องถามกับลุงว่า "ลุง ลุงครับ กล้วยถุงนึง ร้อนร้อนนะ ไม่ร้อนไม่เอานะครับ" ลุงไม่พูด ลุงขนจมูกยาวยิ้ม พยักหน้าเป็นเชิงว่ากล้วยร้อน พร้อมกับลมที่พัดแรงทำให้ขนจมูกแกพัดปลิว

รถยังคงไม่ขยับ คนกรุงกลางสี่แยกนางเลิ้งเริ่มสิ้นหวังกับการจราจร ลุงยังยืนข้างรถผมไม่ไปไหน ราวกับจะรอผลการชันสูตรกล้วยจากผมก่อน ว่ามันร้อนหรือมันเย็นเพียงไหน ผมไม่รอ ผมหยิบกินในทันที มันเป็นความผิดหวังเล็กเล็กที่กล้วยไม่ร้อน มันเย็นชืด ผมผิดหวังไม่มาก แต่ยังอารมณ์ครึกครื้นพอที่จะหยอกลุงขนจมูกยาวว่า "ไหนว่ากล้วยร้อนไง ผมกินไม่เห็นร้อนเลยลุง น่าตีจริงนะลุงนี่" ผมมักจะชอบหยอกเด็กเดินกล้วยเป็นประจำ มันเป็นสันดานของการชอบคุยกับคนแปลกหน้าของผม

ลุงยิ้มแฮ่แฮ่ ไม่พูดแต่ก็ยังคงยิ้ม ผมไม่ถือสาแกที่ขายกล้วยเย็นให้ แต่ก็ยังไม่อยากจะกินกล้วยเย็นจนหมดถุงแต่เพียงลำพัง ผมบอกกับลุงว่า "ลุงครับลุง แบ่งกล้วยกันกินกับผมนี่ล่ะ รถยังติดไม่ขยับ ยืนกินด้วยกันตรงนี้ล่ะนะ" ผมยื่นถุงกล้วย ลุงขนจมูกยาวรับกล้วยไปกิน ผมไม่ลืมเอาเปรียบ ที่จะเลือกกล้วยชิ้นที่ตรงสองด้านไว้กินก่อน ส่วนที่เหลือผมยืนให้ลุง ลุงแกทำท่าดีใจ พร้อมกับรับถุงกล้วยจากมือผมไปกิน แกกินกล้วยอย่างเอร็ด แต่แกก็ยังไม่พูดอยู่ดี

ภาพชีวิตที่งดงามเกิดขึ้นกลางสี่แยกนางเลิ้ง ระหว่างชายสองคน ผมกับลุงขนจมูกยาว เป็นภาพที่อบอุ่นจนผมคิดว่าคนในยานพาหนะทุกชนิดรอบตัวผม คงรู้สึกปลื้มใจและอิจฉา ผมแบ่งปันกล้วยแขกกับลุง เราแบ่งกันกิน ลุงเคี้ยวกล้วยหนุบ ผมเคี้ยวกล้วยหนับ เรากินด้วยกัน ผมดีใจที่ผมได้มอบกล้วยแทนน้ำใจให้กับลุง มันไม่มากมาย แต่มันเกิดขึ้นแล้ว เรากินกล้วยกันจนหมดถุง โดยมีผมเป็นฝ่ายพูดแต่ผู้เดียว เสียงแตรเริ่มดัง รถทำท่าจะขยับ ผมเหลือบกระจกส่องข้าง ด้านหลังมีเด็กเดินกล้วยสามคน กึ่งวิ่งกึ่งเดินมาที่ผม...

อีจุ๋ม อีจิ๋ม ไอ้โจ๋ เด็กเดินกล้วยเบอร์ประจำของผม มันเดินตรงมาที่รถผมอย่างกระหืดกระหอบ เป็นจังหวะที่ลุงขนจมูกยาวรีบผละจากผมไปไม่ร่ำลา แกเดินลัดหายเข้าซอยเล็กเล็กไป เด็กเดินกล้วยทั้งสามรีบบอกผมว่า "พี่พี่ อย่ากินกล้วยที่ลุงแกเอามาขายนะ!" ผมแปลกใจ สัญชาติญานบางอย่างทำให้ผมรีบเอาหลังมือ เช็ดปากที่มันแผล็บจากกล้วยแขก แล้วแอบลงมาเช็ดกับขากางเกง ผมพยายามทำอาการให้ปกติแล้วถามเจ้าเด็กเดินกล้วยทั้งสาม "ทำไมเหรอ มีอะไรกันเหรอ"

อีจุ๋ม อีจิ๋ม ไอ้โจ๋ แทบจะพูดพร้อมกัน เหมือนกัน ราวกับนัดกัน!!

"ลุงแกเป็นคนสติไม่ดี ไม่รู้มาจากไหน แกอาศัยนอนป้ายรถเมล์หน้าสนามม้ามาสองวัน แกเก็บกล้วยที่ทิ้งในถังขยะมาขาย โดนกันหลายคนแล้ว"

...........................................

เสียงกล้วยดังขลุกขลุกในท้องผม ตอนนี้มันกำลังมีความสุขกับการดำผุดดำว่ายในน้ำย่อยกระเพาะ คนไร้รสนิยมอย่างผม กับการกินกล้วยแขกจากถังขยะ มันไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย แต่สิ่งที่ผมฉงนปนประหลาดใจ ลุงขนจมูกยาวแกสติไม่ดี แต่แกรู้จักทำกินหาเลี้ยงชีพ ต่างจากคนสติดีบางคน ที่ไม่พยายามรู้ว่าการเลี้ยงชีพตนคืออะไร

ผมภูมิใจที่ได้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์การกินกล้วยกับลุงขนจมูกยาว กลางสี่แยกกล้วยแขกนครในวันนี้ เพียงสิ่งเดียวที่สร้างความผิดหวังให้กับชีวิตผมอีกครา และผมจะจดจำว่าวันนี้เป็นวันอับโชคอีกครั้งในชีวิตผม

กล้วยมันเย็น......


จบ

 
 

จากคุณ : นายมั่นคง
เขียนเมื่อ : 16 ส.ค. 53 16:17:42




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com