 |
ความคิดเห็นที่ 7 |
จากความเห็น 5 นั่นเป็นวิธีที่ผมฝึกภาษาอังกฤษ เมื่อหลายๆๆๆๆปีมาเเล้วครับ เมื่อก่อนยังเป็นเทปไม่มี DVD เหมือนสมัยนี้ เปิด Dict จนมือหงิก อีกอย่างที่ผมทำคือ มองทุกอย่างให้เป็นภาษาอังกฤษครับ ผมเริ่มจากที่บ้านผมนั่นเเหล่ะครับ เห็นอะไรก็คิดเป็นอังกฤษ broom, fork, spoon, outlet, light คำไหนที่จำไม่ได้ก็กลับไปเปิด Dict อีก จนวันหนึ่งผมกลับมาบ้าน ไอ้ไม้กวาดที่ผมเห็นอยู่ทุกวัน มันก็กลายเป็น broom จนได้ คือมันจะกลายเป็นภาษาอังกฤษไปโดยอัตโนมัติ หลังจากนั้นก็จะขยับออกมาเรียนรู้ภายนอก ป้ายโฆษณาภาษาอังกฤษที่เราผ่านไปเห็นมีศัพท์ที่เราไม่รู้ก็จะจำ เเล้วก็กลับบ้านไปเปิดดู Dict (Yes, it's spelled with a "t") วันหลังผ่านไปเห็นป้ายนั้นอีกเราก็จะจำได้ ทำอย่างนั้นอยู่นานมากๆ ควบคู่ไปกับการดูหนัง ซึงผมจะชอบมาก ดูทุกวัน อย่างน้อยก็ต้องวันละเรื่อง เปิดปิดซับจนเมื่อย เเล้วทุกอย่างมันก็จะเริ่มซึมเข้าไปในสมองเอง อีกวิธีหนึ่งก็คือ ผมจะถามเยอะมากครับ ถามคนที่เขารู้ เคยเขียนไปถามทุกคอลัมน์ภาษาอังกฤษทั่วฟ้าเมืองไทยในสมัยนั้น เพราะสมัยก่อนไม่มี Internet เหมือนสมัยนี้ ต่อมามี Internet ใช้ก็ยังเขียนไปถามอยู่ ที่ถามไปหลายครั้งก็คือคุณ บ๊อบ บุญหด (หลายๆๆๆๆๆปีมาเเล้ว) เเกก็ดีใจหาย ถามอะไรไปเเกก็ตอบมาเเทบจะทุกครั้งทั้งๆที่เเกก็เเทบจะหาเวลาไม่ค่อยได้ ทุกวันนี้ผมก็ยังเรียนรู้อยู่ครับ ต้องใช้ภาษาอังกฤษทำมาหากินก็เลยต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ เ้ข้ามาในห้องนี้ก็ได้รู้อะไรที่ไม่เคยรู้อีกเยอะเเยะเต็มไปหมด คุณ จขกท ก็ฝึกไปเรื่อยๆครับ อย่างเเรกคืออยากให้ฝึกฟังก่อน ฝึกไปสักพัก ค่อยฝึกพูดตาม เห็นอะไรที่สงสัยก็ค้นคว้าหาข้อมูลจากเน๊ตได้ ถ้ายังไม่กระจ่างก็ต้องถามคนที่เขารู้ครับ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่นี่ เพราะคนที่มีิความรู้ภาษาอังกฤษยังมีอยู่อีกหลายเวปไซต์ครับ
ผมก็ฝึกเป็นขั้นตอนเเบบนี้ล่ะครับ คือ ฟัง พูด อ่าน เขียน ผมไม่เก่ง เเต่ใจรักครับ (สมัยเรียนมัธยมก็ระดับกลางๆครับ เเค่เอาตัวรอดไปวันๆไม่มีอะไรโดดเด่น) ช่วงที่ฝึกใหม่ๆ สนุกกับมันครับ ก็เลยไม่รู้สึกเบื่อ
ขอให้โชคดีครับ
จากคุณ |
:
Ta Ta For Now
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ส.ค. 53 18:08:06
|
|
|
|
 |