PANTIP.COM : K9598397 ใครเคยฝึกภาษาอังกฤษด้วยวิธีธรรมชาติแล้วสำเร็จบ้างคะ [ห้องเรียนภาษาอังกฤษ]

ความคิดเห็นที่ 4

เราไม่ได้ฝึกตามตำราไหน
แต่ติดว่า ชอบฟังเพลงมาก่อน ตอนเด็กๆ ฟังเพลง เอาเนื้อมาร้องตาม เจอเพลงแปลกๆ ก็ไปหาเนื้อเพลงจากเน็ต มานั่งแกะ
แล้วก็เป็นคนชอบดูหนัง ที่บ้านก็ชอบดูหนังกันทั้งบ้าน เวลาเช่าหนัง ก็มักจะเลือกที่เป็นซาวด์แทร๊กมาดู เพราะมันได้อารมณ์กว่าพากย์ไทย

ข้างบนนั้นเป็นพื้นฐาน แต่สิ่งเร้าที่กระตุ้นให้เราเริ่มเพิ่มพูนความสามารถในด้านการใช้ภาษาอังกฤษจริงๆ คือตอนเริ่มหัดจีบหญิงตอน ม. ปลาย (ว้าย เขิลลลอ้ะ)

เราก็ฟังเพลง แล้วเพลงมันก็เพราะ ก็เอาเพลงมานั่งแกะเป็นภาษาไทย พิมพ์ใส่กระดาษ ตอนเช้าไปโรงเรียนแต่เช้าวันจันทร์ (หกโมงครึ่ง) ผ่านตลาดซื้อกุหลาบแดงดอกหนึ่ง แนบเนื้อเพลงไปวางไว้บนโต๊ะเขา ทุกๆ เช้าวันจันทร์ ทำอย่างนั้นทั้งเทอม

พอสิ้นเทอม เธอคนนั้นก็ลาออกจากโรงเรียน ไปแต่งงาน เพราะเกิดท้องขึ้นมา
สรุปว่าเราล้มเหลวสินะ (555)

พอขึ้นมหาลัย สมัยก่อน วิชาภาษาอังกฤษ เค้าจะมีหนังสือนอกเวลาให้อ่าน ของเคมบริดจ์บ้าง ของอ๊อกซ์ฟอร์ดบ้าง ปีหนึ่งเทอมหนึ่งเราจำได้เลยเรื่อง Love Story (หลายๆ คนที่เรียนระดับอุดมศึกษาน่าจะผ่านตาเล่มนี้ เราว่ามันเป็นหนังสือที่นิยมใช้กันมานานหลายสิบปี ก่อนที่หนังสือนอกเวลาเรื่องอื่นๆ จะเริ่มแพร่หลาย) อาจารย์ว่า อ่านไปเรื่อยๆ ให้จบก่อนสิ้นเทอมแล้วมาสอบ เราได้หนังสือไป ไม่ถึงอาทิตย์อ่านจบ อ่านไปเปิดดิกไป แล้วมันแบบ ซาบซึ้งอ่ะ เลยเอามาแปล ไหนๆ ก็แปลแล้ว เลยประกาศกับเพื่อน ใครต้องการฉบับแปลบ้าง ขายถูกๆ ชีทละ 50
เด็กนักเรียนปีหนึ่ง รุ่นเราก็ 400 กว่าคน
เป็นเงินก้อนแรกที่ได้มาแบบงงๆ

หลังจากนั้น พอปีสอง เราเริ่มเปิดบ้านสอนพิเศษเด็กเล็กหลังเลิกเรียน ก็เลยผนวก นอกจากแปลหนังสือนอกเวลาแล้ว ก็เปิดคอร์สสอนด้วยเลย ทำมาตลอดช่วงที่เรียนในมหาลัย (หลังๆ นี้ ช่วงปีท้ายๆ เราไม่ได้สอนหนังสือเด็กแล้ว เพราะมาจับงานแปลเต็มตัว แล้วหนังสือนอกเวลา ก็เลิกใช้ในหลักสูตรเด็กรุ่นหลัง หันไปเก็บคะแนนด้วยวิธีอื่นแทน)

ปีสอง เราก็เริ่มรับแปลงาน จากงานง่าย ชีทในชั้นวิชาเดียวกัน พอเริ่มแก่กล้า มีชื่อเสียง ก็มีรุ่นพี่ปีสามปีสี่เอางานมาแปล แล้วก็กลายเป็นรับแปลของทั้งมหาลัย

จนเรียนจบ ก็มาจับงานแปลเต็มตัว นอกจากฐานลูกค้าในมหาลัย ที่มาจากปากต่อปาก แล้วก็การติดประกาศ เราก็หาลูกค้าได้จากเน็ตบ้าง

ทุกวันนี้ ก็ไม่ถึงกับร่ำรวย พอมีเงินผ่อนบ้าน ผ่อนรถ (เป็นหนี้ T_T) มีกินไม่มีเก็บ นั่งทำงานอยู๋กับบ้าน แปลงานอย่างเดียว รับงานเชี่ยวชาญแปลพวกไอที ธุรกิจ ท่องเที่ยว วิทยาศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ ไสยศาสตร์ <<< อันท้ายฮามาก แต่ลูกค้าขาประจำของเราเจ้าหนึ่งเป็นเจ้าของร้านวัตถุมงคลที่มีลูกค้าต่างประเทศจำนวนมาก นัยว่า ฝรั่ง (จีน มาเลย์ แขก) อยากซื้อของดีของขลัง ไปใช้ เค้าก็เลยอยากรู้สรรพคุณ โอ้ย แปลงานไสยศาสตร์นี้ แปลๆำ ไปชอบของขึ้น

ตัวอย่างของเรา ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเรียกว่าประสบความสำเร็จได้มั้ยนะ
แต่เราคิดว่า เรายังอยากทำอะไรๆ ให้ได้ดีมากๆๆๆ กว่านี้อีก และเราก็รู้ว่า เรายังมีอีกหลายเรื่องที่เรียนรู้ยังไงก็ไม่มีวันหมดไส้หมดพุง

เราคิดว่า ฝึกด้วยวิธีธรรมชาติจริง ๆมันก็ได้ผลล่ะนะ ถ้าคนเรามีความสนใจและตั้งใจจริง ไม่ว่าจะทำอะไรมันก็ออกมาดีไปแล้ว 50 เปอร์เซ็นต์
ที่เหลือก็ขอแค่ความขยันหมั่นเพียน
แต่ถ้าบังคับให้ตัวเองขยัน ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ ท่องให้ตายมันก็ได้แค่ 50 เปอร์เซ็นต์อีกนั่นแหละ

จากคุณ : SaintPSU

เขียนเมื่อ : 20 ส.ค. 53 01:30:47