ความคิดเห็นที่ 1              กังวล เพราะ ไม่มีพื้นฐาน              ตอบว่า เมื่อไม่มีพื้นฐาน ก็ต้องอุตสาหะให้มากกว่าคนอื่น.                  อ่านให้มาก ศึกษาให้มาก ไม่น่าจะเกินความสามารถ. จากคุณ : มองเมืองชมทิวพนา เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 00:39:17

ความคิดเห็นที่ 2 ปัญหาเดิมๆ มาอีกแล้ว ปัญหาเดิมๆ ที่ว่านี้คือ "พ่อแม่รังแกฉัน" หน้าที่ของพ่อแม่คือ เอาลูกไปวางไว้ในสภาพแวดล้อมที่ดี แล้วให้เขาได้เลือกเรียน ได้เลือกทำในสิ่งที่เขาชอบ เพราะเมื่อเขาได้ทำในสิ่งที่เขาชอบ เขาจะทำได้ดี ขีวีมีสุข ถ้าไปบังคับให้เขาทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบ แต่พ่อแม่ชอบ นั่นคือการฆ่าลูกทั้งเป็น ชีวิตนี้เป็นของเขานะครับ ไม่ใช่ของพ่อแม่ ฝากคำคมของ Kahlil Gibran ไว้ Your children are not your children They are the sons and daugthers of life longing for themselves Although they come through you, they don't come from you You may give them their bodies, but not their souls For their souls dwell in the House of Tomorrow which you cannot visit, even in your dreams You may give them your love, but not your thoughts For they have their own thoughts Life tarries, not backward จขกท ควรเคลียร์กับคุณพ่อก่อนครับว่าคุณชอบทางนี้ ให้ท่านคล้อยตาม จะได้ไม่มีปัญหาในภายหลัง ส่วนเรื่องที่ว่าคุณไม่มีพื้นฐานด้านการโรงแรมมาก่อนเลยนั้น ไม่มีปัญหา อย่างที่คุณ มองเมืองชมทิวพนา คห.1 ได้กล่าวแล้ว ไม่งั้นคนที่จบวิศวะ จะไปเรียนต่อ MBA ได้ไง ลูกชายผมจบวิศวะ เรียนต่อ MBA ผ่านฉลุย เกรดดีซะด้วย ว่าที่ลูกสะใภ้ผมจบ Food Science ตอนนี้กำลังเรียนต่อ MBA อีกครึ่งปีก็จะจบแล้ว ก็ผ่านฉลุยด้วยเกรดดีด้วยเช่นกัน เดินหน้าต่อครับ แล้วอย่าลืมเคลียร์กับคุณพ่อก่อนด้วยล่ะ แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 53 07:33:56 จากคุณ : หนุ่มไทยไร้นาม เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 07:32:39

ความคิดเห็นที่ 3 มีรุ่นพี่และเพื่อนผมจบสังคมสงเคราะห์ทำงานโรงแรม 5 ดาวเยอะแยะครับ  จบแล้วไปเรียนต่อด้านนี้ก็ได้ครับไม่ต้องคิดมาก ผมเองจบสังคมสงเคราะห์ยังทำงานสายการบิน จนปัจจุบันนี้ทำด้าน supply chainเลย ทุกอย่างมันก็เรียนทันกันหมดแต่อาจใช้เวลากับความทุ่มเทมากกว่าคนอื่นหน่อย เรียนสังคมสงเคราะห์มี skill ตั้งหลายอย่างที่นำมาประยุกต์ใช้กับงาน ผมว่ามันอยู่ที่คุณเองจะเลือกเอาความรู้ที่เรียนมามาปรับใช้กับงานที่ทำมากแค่ไหน อีกอย่างคนที่จบจากคณะสังคมสงเคราะห์ที่ธรรมศาสตร์ตอนนั้นเท่าที่จำได้ก็มีไม่ถึง 3 % ของแต่ละรุ่นที่จบไปทำงานด้านนี้จริงๆ แล้วคณะนี้ % การได้งานทำหลังจากเรียนจบก็ติด 1 ใน 3 ของมหาวิทยาลัยทุกปีครับเค้าจะมีแจ้งให้ทราบทุกปีช่วงรับปริญญา ยังไงก็เอาใจช่วยครับ จากคุณ : papilio เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 10:58:29

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณมากนะคะ จะพยายามเคลียร์กับพ่อให้ได้ จะได้ไปเรียนในสื่งที่เรารักซักที :) จากคุณ : กะทิกับมะลิ เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 13:14:22

ความคิดเห็นที่ 5 จากที่เห็น จบ IT ยังมาทำงานการโรงแรมก็มีครับ ของแบบนี้เราเลือกได้ อาจแนะนำให้ลองเพิม skill ด้านภาษาแล้วหาครอสที่มีอบรมมาเสริมพวกเรื่อง service mind หรือแขนงการบริการ ผมว่า จขกท ก็น่าจะพร้อมลองสมัครในสายที่ชอบตอนจบครับ เอาใจช่วย เพราะผมจบกฏหมาย ยังมาทำส่งออกเลยอะ 55 สมัครนี้ฝึกและเตรียมพร้อมให้กับตัวเองได้จ้า จากคุณ : แชมพูไม่มีฟอง เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 17:01:32

ความคิดเห็นที่ 6 จริงๆค่ะ เข้ามาให้กำลังใจ ตอนนี้พี่สาวของเราก็จบทางด้านคณิตศาสตร์ เรียนตามใจพ่อแม่ แต่ใจจริงชอบภาษาญี่ปุ่น ตอนนี้จึงตัดสินใจไปเรียนภาษาที่ประเทศญี่ปุ่น อาจจะช้ากว่าคนอื่นไปบ้าง แต่ถ้าพยายามก็ทำได้ค่ะ แต่กว่าจะใช้เวลาคุยกับพ่อแม่ก็ตั้งแต่ปี 1 ยันปี 5 เลยล่ะค่ะ กว่าพ่อแม่จะใจอ่อนยอมให้ไป ตอนแรกท่านอาจไม่เห็นด้วย แต่ถ้าเรารักและชอบในสิ่งนั้นจริงๆแล้วทำให้ท่านเห็นว่าเราก็ประสบความสำเร็จได้ ท่านต้องรับฟังเราแน่ๆค่ะ จากคุณ : CoolNan เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 21:45:21

ความคิดเห็นที่ 7 ซูฮกพี่สาวคุณ CoolNan เลยค่ะ จากคุณ : Vicky_Orn เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 00:53:04