Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ประวัติพระนางมะลิกา{แตกประเด็นจาก K9630568}  

ประวัติพระนางมะลิกา ส่วนหนึ่งเป็นประวัติของอำเภอแม่อาย ในจังหวัดเชียงใหม่ มีด้วยกันสองลักษณะ (ตามที่หามาได้) ดังนี้

ประวัติแม่อาย    

อำเภอแม่อายตั้งอยู่ในบริเวณเมืองโบราณที่ชื่อ เวียงมะลิกา ตั้งอยู่ที่ หมู่ 8 ตำบลแม่อาย ห่างจากที่ว่าการอำเภอแม่อาย
2 กิโลเมตร มีทางแยกออก จากทางหลวงแผ่นดินสายฝาง-ท่าตอน กิโลเมตรที่ 16.50
เป็นทางดินอัดแน่นระยะทาง 200 เมตร มีคูเมืองและซากอิฐกำแพงดินเป็นที่สังเกตได้ราษฏรถือว่าเป็นโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์
ตำนานเวียงมะลิกา เขียนว่า เจ้าแม่มะลิกา เป็นราชบุตรี ในพระเจ้าฝางและพระนางสามผิว(พระนางสามผิว
มีพระฉวีวรรณงดงามในตอนเช้า มีพระฉวีวรรณผุดผ่องดุจดอกมะลิ
ในเวลาเที่ยงวันพระฉวีวรรณเปลี่ยนเป็นสีแดงดอกกุหลาบ ต่อมาเวลาเย็นพระฉวีวรรณจะเปลี่ยนแปลงเป็นสีชมพูดุจ
ดอกบัวจงกลนี จึงได้พระนามว่า "พระนางสามผิว" พระนางสามผิวมีพระพุทธปฏิมาแก่นจันทร์เป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์
ทรงสักการะบูชาทุกค่ำเช้า
วันหนึ่งมี่ขุ่นเคืองพระทัยด้วยเรื่องพระสนมเอกของพระเจ้าฝาง เมื่อถึงเวลาถวายเทียนสักการะบูชาพระพุทธปฏิมาแต่พระองค
์ยังมิอาจดับพระทัยที่ขุ่นเคืองได้ ขณะที่จุดเทียนถวายสักการะบูชาพระพุทธปฏิมาแก่นจันทร์
และทรงละเลยไว้ด้วยความประมาทเทียนที่จุดไว้ล้มลงเผาไหมพระโอษฐ์พระพุทธปฏิมา รุ่งขึ้นเวลาเช้าเมื่อพระนางเจ้าเสด็จออกจากที่บรรทมทรงทราบว่าเทียนล้มลงเผาไหม้พระโอษฐ์พระพุทธปฏิมาแก่นจันทร์ก็ทรงสำนึกความบาปที่
กระทำด้วยความประมาท ครั้นกาลต่อมา พระครรภ์ครบกำหนดทศมาส ประสูติพระราชธิดาผู้ทรงโฉมศิริโสภาคพระฉวีวรรณผุดผ่อง
แม้นเหมือนพระมารดา แต่ก็มีตำหนิที่ควรสมเพชที่พระธิดา มีริมพระโอษฐ์ล่างแหว่งไป

         เมื่อราชบุตรีทรงวุฒิจำเริญขึ้น พระเจ้าฝางทรงเกรงเป็นที่ละอายแก่ไพร่ฟ้าพลเมืองจึงทรงสร้างสวนหลวงขึ้นทางทิศเหนีอเวียงสุโท
(ใกล้กับเมืองฝาง) และสร้างคุ้มหลวง ประกอบด้วย คู และปราการ ล้อมรอบประทานราชบุตรี ให้เป็นที่ประทับสำราญ สวนหลวงแห่งนั้นจึงได้ชื่อว่า
"เวียงมะลิกา" เชื่อว่า เวียงมะลิกาไม่มีบุรุษเพศเลย ผู้คนล้วนแต่สตรีเพศพระแม่เจ้าทรงฝึกฝนสตรีผู้กำยำเป็นทะแกล้วคนหาญของเวียงมะลิกา จนเป็นที่ลือชา ปรากฏว่าเวียงมะลิกามีคนหาญการธนูที่แกร่งกล้ายิงแม่นนัก

         กาลต่อมามีราชบุตรของเจ้าผู้ครองเวียงภูก่ำ(แคว้นไตใหญ่) ได้สดับข่าวเกี่ยวกับพระเจ้าแม่มะลิกา
แรงแห่งบุพเพสันนิวาสเกิดขึ้นในราชบุตร พระราชบุตรได้ทรงอ้อนวอนพระเจ้าภูก่ำ ขอเสด็จไปเวียงมะลิกาเยี่ยงสามัญชนคนค้าขาย
พระเจ้าภูก่ำทรงอนุญาต แล้วดำรัสสั่งอำมาตย์คนสนิท ให้ ตระเตรียมม้าต่างอัญมณีเป็นสินค้าโดยเสด็จพระราชบุตร
ข่าวการเสด็จฯของพระราชบุตรทราบถึงเจ้าแม่มะลิกา พระองค์ก็เกิดอางขนางในวันที่พระราชบุตรกำหนดเข้าเฝ้าถวายอัญมณีแม่เจ้าก็เสด็จหลีกลี้ไปสรงสนานน้ำห้วยและแต่งให้พระพี่เลี้ยงนางเหลี่ยวอยู่เวียงมะลิกา
รับเสด็จพระราชบุตร เมื่อพระราชบุตรในรูปของพ่อค้านายวาณิชเข้าเฝ้า พระพี่เลี้ยงก็กล่าวว่าแม่เจ้าไม่ทรงปรารถนาพบเห็นชายใด ๆ
และไม่ต้องประสงค์ในการได้ยินเรื่องเช่นนี้ พ่อค้า จำแลงก็ลากลับเวียงภูก่ำด้วยความโทมนัส
ขณะที่พระนางมะลิกาสรงสนานอยู่ น้ำในลำห้วยก็กลายเป็นสีเลือดด้วยละอายพระทัยคนทั้งหลายจึงเรียกน้ำห้วยนั้นว่า "แม่อาย" จึงได้ชื่อตำบลนี้ว่า "แม่อาย"

         อำเภอแม่อาย เดิมเป็นกิ่งอำเภอขึ้นกับอำเภอฝาง ซึ่งทางราชการได้แยกตำบลแม่อาย ตำบลแม่สาว และตำบลแม่นาวาง ออกจากอำเภอฝาง
ยกฐานะให้เป็นกิ่ง ให้นามว่า "กิ่งอำเภอแม่อาย" ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2510 และเวลาต่อมาอีก 6 ปี
ได้ประกาศยกฐานะกิ่งอำเภอแม่อาย ขึ้นเป็นอำเภอแม่อาย เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2516

         อำเภอแม่อายอยู่ห่างจากอำเภอเมืองเชียงใหม่ ไปทางทิศเหนือประมาณ 175 กิโลเมตร อำเภอแม่อายมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และ
วัฒนธรรมที่สำคัญเช่น พระธาตุสบฝาง พระธาตุดอยน้ำค้าง พระธาตุปูแช่ อนุสาวรีย์เจ้าแม่มะลิกา

อำเภอแม่อายในปัจจุบันนี้มีพื้นที่ประมาณ 736,701ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 478,725 ไร่
อยู่ห่างจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ 167 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 900 กิโลเมตร
มีประชากรทั้งหมดประมาณ 74,328 คนโดยแบ่งเป็นชาย 37,142 คนและหญิง 37,146 คนเป็นชาวพื้นราบ 60%
และเป็นชาวเขาเผ่าต่างๆ รวม 40% แบ่งการปกครองออกเป็น 7 ตำบลคือ 1.ตำบลแม่อาย 2.ตำบลมะลิกา
3.ตำบลท่าตอน 4.ตำบลแม่สาว 5.ตำบลแม่นาวาง 6.ตำบลบ้านหลวง และ 7.ตำบลสันต้นหมื้อ
รวมทั้งสิ้น 80 หมู่บ้าน รวม 14,966 ครัวเรือน(ข้อมูลสำรวจปี2541)

อันแรก ชื่อเวียงเป็นเวียงมะลิกา พระนางมะลิกาปกครองเมืองที่แยกออกไปจากเมืองพระเจ้าฝาง และใบหน้าพระนางมะลิกา มีความพิการเล็กน้อย

ประวัติอันที่สอง

ประวัติพระนางมะลิกา

พระนางมะลิกา  เป็นพระธิดาของพระเจ้าอุดมสินแห่งเมืองฝางกับพระนางสามผิว  ประสูติราว  ปี พ.ศ.  2131   ก่อนตั้งพระครรภ์พระมารดาทรงสุบินว่า   มีช้างเผือกนำดอกมะลิมาถวาย  จึงขนานพระนามว่า  “ มะลิกา ”  ตามพระสุบิน   เมื่อพระชันษาได้   18   ทรงมีพระสิริโฉมงดงาม  ได้มีราชบุตรต่างเมืองมาสู่ขอ  พระนางไม่สนพระทัย  กลับรบเร้าให้พระบิดาสร้างเวียง

( พระตำหนัก )ให้  ใน ปี  พ.ศ. 2150  พระบิดาได้ทรงสร้างเวียงขึ้นอยู่ทางทิศเหนือของเมืองฝาง  ตั้งอยู่บนเนินเขา  มีคูเวียงกำแพงล้อมรอบ  มีประตู  4  ด้านให้แก่พระนาง    ในวันเดินทางเข้าสู่เวียงใหม่  พระนางได้พาไพร่พลส่วนหนึ่งติดตาม  พร้อมกันนั้นได้มีชาวบ้านที่อยู่ในเส้นทางที่ผ่านไปสู่เวียงได้ติดตามไปด้วย   ไปถึงเวียงใหม่ได้เวลาพลบค่ำ  จึงได้ตั้งชื่อเวียงใหม่นี้ว่า  “ เวียงสนธยา ”

              ต่อมาในปี   2172  ทัพพม่าได้ยกมาตีเมืองฝาง   พระนางมะลิกาได้พาไพร่พลของตนเข้าต่อสู้กับพม่า  ช่วยบิดาต้านทานได้  3  ปี  ในที่สุดก็ต้านไม่ไหวเพราะกำลังที่มีน้อย  พระเจ้าอุดมสินกับพระนางสามผิวมารดา    ไม่ทรงยอมจำนนต่อข้าศึก  ได้กระโดดลงน้ำบ่อซาววา สิ้นพระชนม์   ส่วนพระนางมะลิกาได้พาไพร่พลที่เหลือกลับไปตั้งหลักที่เวียงสนธยา  และครองเวียงอยู่ได้  40  ปี  ทรงสวรรคตในปี   2190  รวมพระชนมายุได้  58  ปี    ต่อมาได้มีการจัดสร้างอนุสาวรีย์พระนางมะลิกาขึ้น  เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของพระนาง และเป็นที่เคารพสักการะของชาวแม่อายมาจนตราบเท่าทุกวันนี้

ลักษณะที่โดดเด่น    เป็นอนุสาวรีย์ที่ชาวแม่อายศรัทธาเลื่อมใส  เคารพนับถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง   และได้จัดให้มีพิธีสรงน้ำพร้อมกับถวายเครื่องราชสักการะแด่พระนางมะลิกา เป็นการสืบสานประเพณีในวันสงกรานต์ทุกปี

พระนางดูจะเป็นวีรสตรี เป็นนักรบ และชื่อเวียงก็เปลี่ยนเป็นเวียงสนธยา

จากคุณ : ศิวโมกษ
เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 53 14:26:37




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com