Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรียนเพื่อสอบหรือสอบเพื่อเรียน ?  

ผมได้รับจดหมายจากนักเรียนเก่าของคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หลายคน ที่ไปศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา บางคนมักบ่นไปในทำนองที่ว่าเรียนที่มหาวิทยาลัยเอมริกันนี้ พวกเขาดูหนังสือกันไม่ค่อนทัน แม้พวกอเมริกันเองที่อ่านเร็วเข้าใจเร็วก็มักจะดูตำราไม่ใคร่ทัน เพราะตามมหาวิทยาลัยอเมริกันเขามี สอบไล่ (Examination) และทดสอบ (Test) กันบ่อยๆ ในภาคการเรียนหนึ่ง จะต้องมีการทดสอบหลายครั้งและมีการสอบไล่อย่างน้อยครั้ง ฉะนั้นถ้าใครอยากจะสอบไล่ได้ ก็ต้องรีบๆ เตรียมตัวสอบอยู่เสมอ การอ่านหนังสือตำรา เพื่อเตรียมสอบนั้นก็ต้องอ่านแบบกินข้าวที่เรียกกันว่ายัดเป็นคำไม่สุภาพ คือ รีบๆ อ่านไม่ทันได้ย่อย ไม่ทันได้คิด ฉะนั้นเมื่อสอบเสร็จแม้ว่าสอบไล่ได้คะแนนผ่านไปดีบ้างไม่ดีบ้าง วิชาความรู้ที่ได้จากการอ่านเตรียมสอบนั้น มักจะบินกลับไปคืนสู่อาจารย์ คืนสู่ตำรา มักจะไม่ติดตัวผู้อ่าน ลืมหมดบ้าง ถ้าเป็นเช่นนี้จริงผมก็ต้องปลงสังเวชว่า นี่เขาเรียนกันเพื่อสอบ ไม่ใช่เรียนเพื่อแสวงวิชา

ในหน้าที่คณบดีที่ธรรมศาสตร์ มีอาจารย์บางท่านปรารภกับผมว่าที่อาจารย์สอนอยู่นั้น ใคร่จะมีการทดสอบเก็บคะแนนไว้บ้างสำหรับนักศึกษาในระหว่างที่สอนอยู่ เอาไปบวกกับคะแนนสอบไล่ปลายภาคการศึกษา ผมก็เรียนถามอาจารย์นั้นว่า เพราะเหตุใด มักจะได้คำตอบว่า ถ้ามีการทดสอบละก็นักศึกษามักจะขมักเขม่น ขยันอ่านตำราและฟังคำบรรยาย ถ้าไม่มีการทดสอบนักศึกษามักจะเนือยๆ ไป อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ถ้าเป็น เช่นนี้จริง ผมก็ปลงสังเวชว่า นี่เขาสอบเพื่อให้เรียน แล้วก็เรียนเพื่อสอบ ไม่ใช่เรียนเพื่อแสวงวิชา

พอปลงสังเวชดังๆ ให้อาจารย์ฟัง อาจารย์ท่านก็ต้องตอบว่านักเรียนของเราไม่เหมือนนักเรียนที่อื่น ถ้าไม่ทดสอบเก็บคะแนนเอาไปรวมกับการสอบไล่ละก้อนักเรียนเราจะไม่เอาใจใส่ ขาดเรียนบ้างไม่เข้าห้องสมุดบ้าง เพราะไปตีกลองกับเดินขบวนเชียร์ ถือเป็นเรื่องสำคัญกว่าการเรียน ดูแต่ที่คณบดีส่งให้นักศึกษาไปฟังคำบรรยายพิเศษซึ่งเชิญศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงของโลกมาบรรยายซิ ถ้าไม่เกี่ยวกับการสอบไล่ก็จะไม่ไปฟัง ผมก็ต้องปลงสังเวชว่า อ้อนี่เขาเรียนกันเพื่อสอบ ถ้าไม่สอบก็ไม่เรียน

เมื่อผมเรียนเศรษฐศาสตร์อยู่ที่มหาวิทยาลัยลอนดอนนั้น เขามีภาคการศึกษาปีละสามภาค เรียนสามปีเก้าภาค ถ้าสอบไล่ได้ก็สำเร็จเป็นเศรษฐศาสตร์บัณฑิต ในปีแรกเรียนไปฟังคำบรรยายไป เข้าห้องสมุดอ่านหนังสือตำราไป ภาคแรกก็ไม่ยักมีสอบหรือทดสอบ ภาคสองก็แล้วไม่มีทดสอบ หรือสอบไล่มาสอบกันจริงๆ เมื่อปลายภาคสาม ถ้าสอบได้เขาชมเชยเรียกว่าผ่านการสอบไล่ชั้นกลาง (Intermediate) ไปได้แล้ว พอขึ้นปีที่สอง มหาวิทยาลัยบอกว่าปีนี้เธออ่านหนังสือตำราได้ตามชอบใจ ไม่มีสอบเลยทั้งปี ไปสอบเอาปีที่สาม และสอบในตอนปลายปีเสียด้วย ผมก็เลยย่ามใจ ชอบตำราอะไรก็อ่านไปตามความพอใจ หลักเศรษฐศาสตร์ ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ การเงินการธนาคาร ริคาโดว่าอย่างนี้ มาร์ชาลว่าอย่างนั้น แคนส์มาแปรเป็นอีกอย่าง ฯลฯ อะไรมันถูกอะไรมันผิด เอามาใช้เมืองไทยได้ไหม ยางกับดีบุกพิเศษอย่างไร รถไฟในประวัติเศรษฐกิจมีความสำคัญอย่างไร ทำไมอเมริกาจึงก้าวหน้าไปกว่าอังกฤษหรือยุโรป ทำไมนโยบายเศรษฐกิจจึงขัดกับนโยบายสังคม มุสโสลินีปฎิรูปที่อิตาลีอย่างไรบ้าง พุทธศาสนาต่างกับศาสนาอื่นอย่างไร ทำไมรัฐบาลอังกฤษจึงมั่นคงเปรียบกับรัฐบาลฝรั่งเศส ฯลฯ ผมฟังแล้วอ่าน อ่านแล้วคิด คิดแล้วฟัง ฟังแล้วอ่าน อ่านแล้วถกกับเพื่อน ถกแพ้เพื่อนไปอ่านใหม่ ยังแพ้เพื่อนอยู่อีกก็ถามครู ครูติเตียนกลับไป อ่านใหม่ กลับมาเอาชนะครูให้ได้ กลับมาเถียงกับเพื่อนอีก ยิ่งอ่านยิ่งย่ามใจ ยิ่งเถียงยิ่งรู้ว่าจน ยิ่งจนยิ่งขวนขวาย ฯลฯ พอปลายปีที่สาม ปากก็จัด วิชาก็แน่น ครูออกข้อสอบมาก็เอาที่อ่าน ที่เถียงกับเพื่อนกับครูมาบรรยายในคำตอบเป็นฉากๆ ครูบอกว่าวิชาแน่นพอใช้ได้ รับปริญญาเกียรตินิยมได้ รัฐมนตรีคลังที่เมืองไทยเจ้าสังกัดมีความพอใจ เพื่อนๆ ปลงสังเวชว่าเจ้าขรัวนี้ เรียนเพื่อเรียน แล้วยังเรียนเพื่อไว้สอบด้วย

คุณทั้งหลายที่เป็นนิสิตแผนกเศรษฐศาสตร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คุณคงไม่แตกต่างกับลูกศิษย์ของผมที่ธรรมศาสตร์มากนัก เพราะคุณก็รุ่นๆ เดียวกัน ความคิดความอ่านก็คงคล้ายคลึงกัน ผมขอถือวิสาสะถามเหมือนกับที่ถามศิษย์ของผมสักหน่อยนะ เราจะเรียนเพื่อสอบ หรือสอบเพื่อเรียน หรือจะเรียนเพื่อเรียนแล้วถึงเวลาสอบก็เหมือนปะเสือ เราก็ชาย (หรือหญิง) ชาติเชื้อ วิชาเกื้อก็จะสู้ดูสักหน จะมุ่งอย่างไรแน่

คุณจะเลือกอย่างไรเป็นเรื่องของคุณ แต่ถ้าเป็นผม ใครมาประมาทว่าถ้าไม่สอบแล้วไม่ควรเรียน ผมจะยอมไม่ได้ เพราะเรามามหาวิทยาลัย พ่อแม่หรือผู้อุปการะให้ทุน (ในกรณีของผมประชาชนทั้งประเทศ) หวังว่าจะให้มาเรียนคติที่พึงยึดถือ คือไม่เรียนก็อย่าสอบ ไม่ใช่ถ้าไม่สอบก็อย่าเรียน

ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์

คณะเศรษฐศาสตร์ มธ.
15 สิงหาคม 2510
-----------------------------
ข้อมูลดีดีที่อยากแบ่งปัน คัดมาจาก
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=easywandering&month=12-2009&group=1&date=01&gblog=118

จากคุณ : Mr.Feynman
เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 53 19:44:15




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com