ความคิดเห็นที่ 1 ผมหาหาข้อมูลที่เป็นภาษาไทยที่มีมากมาย ที่ให้กำลังใจผู้เกษียณครับก็ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องเอาจากภาษาอังกฤษ จากคุณ : K.Senior เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 19:46:43

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ทำให้หรอก...มันแทงใจดำ จากคุณ : หมู4X เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 19:48:03

ความคิดเห็นที่ 3 เกษียณอย่างไรจึงจะกระปรี้กระเปร่า กระฉับกระเฉง และ กระชุ่มกระชวย ไม่กระสับกระส่าย กระเสาะกระแสะ กระเสือกกระสน หรือ กระเบียดกระเสียร ? ก่อนอื่น ลับสมองให้คมอยู่เสมอ อย่าปล่อยไว้เฉยๆ อวัยวะส่วนไหนที่ไม่ใช้มันจะฝ่อ สมองก็เหมือนกัน เมื่อไรที่ปล่อยให้สมองฝ่อ โปรดจองวัดไว้ล่วงหน้าได้เลย แล้วก็พิมพ์บัตรเชิญงานศพและทำบัญชีแขกไว้ได้เลย ลูกหลานจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนว่าควรจะเชิญใครมั่ง นอกจากการลับสมอง ผู้เกษียณก็ควรจะผ่อนคลายอารมณ์ไม่ให้ตึงเครียด มีอารมณ์ขันอยู่เสมอ ไม่ต้องไปห่วงเก้าอี้ตัวเก่าว่าลุกมาแล้วใครจะนั่งแทนหว่า ไม่ใข่เรื่องของคุณ เขาไล่ลงจากเวทีแล้วจะไปเป็นห่วงเป็นใยทำไม ไอ้หัวโขนที่เคยใส่น่ะถอดได้แล้ว ยกให้คนอื่นเขาไปหนักกระบาลแทน กระบาลเราจะได้เบาลงบ้าง ที่ใส่ๆมาน่ะไม่หนักบ้างหรือไง บางทีต้องเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง ตอนนี้ก็ไม่ต้องแล้ว นอกเหนือไปจากการผ่อนคลายความเครียดแล้ว การดูแลสุขภาพกายก็เป็นสิ่งสำคัญ การออกกำลังกาย การกินอาหารให้ถูกสุขลักษณะ เป็นสิ่งซึ่งต้องนำมาปฏิบัติอย่างจริงจัง การงดเว้นเหล้าบุหรี่สุรายาเสพติดก็เป็นสิ่งที่สมควรทำ อย่าลืมว่าท่านไม่ได้อายุยี่สิบปีนะขอรับ อ้อ แล้วแวะเข้ามาทะเลาะกับเด็กในนี้บ่อยๆเป็นวิธีที่ดีมากอย่างหนึ่งในการทำให้ท่านรักษาความว่องไวของเซลล์สมองได้ดี จะไปหาที่ไหนที่มีคู่ซ้อมอ่อนเชิงให้ท่านสอนมวยได้ง่ายๆอย่างในนี้ ใครจะว่ารังแกเด็กก็ช่างเขาเหอะ ระวังนิดหน่อยอย่าการ์ดตกให้เด็กม้นถอนหงอกได้ก็แล้วกัน จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 22:11:36

ความคิดเห็นที่ 4 เกษียณอย่างไรจึงจะกระปรี้กระเปร่า กระฉับกระเฉง และ กระชุ่มกระชวย ไม่กระสับกระส่าย กระเสาะกระแสะ กระเสือกกระสน หรือ กระเบียดกระเสียร ? ก่อนอื่น ลับสมองให้คมอยู่เสมอ อย่าปล่อยไว้เฉยๆ อวัยวะส่วนไหนที่ไม่ใช้มันจะฝ่อ สมองก็เหมือนกัน เมื่อไรที่ปล่อยให้สมองฝ่อ โปรดจองวัดไว้ล่วงหน้าได้เลย แล้วก็พิมพ์บัตรเชิญงานศพและทำบัญชีแขกไว้ได้เลย ลูกหลานจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนว่าควรจะเชิญใครมั่ง นอกจากการลับสมอง ผู้เกษียณก็ควรจะผ่อนคลายอารมณ์ไม่ให้ตึงเครียด มีอารมณ์ขันอยู่เสมอ ไม่ต้องไปห่วงเก้าอี้ตัวเก่าว่าลุกมาแล้วใครจะนั่งแทนหว่า ไม่ใข่เรื่องของคุณ เขาไล่ลงจากเวทีแล้วจะไปเป็นห่วงเป็นใยทำไม ไอ้หัวโขนที่เคยใส่น่ะถอดได้แล้ว ยกให้คนอื่นเขาไปหนักกระบาลแทน กระบาลเราจะได้เบาลงบ้าง ที่ใส่ๆมาน่ะไม่หนักบ้างหรือไง บางทีต้องเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง ตอนนี้ก็ไม่ต้องแล้ว นอกเหนือไปจากการผ่อนคลายความเครียดแล้ว การดูแลสุขภาพกายก็เป็นสิ่งสำคัญ การออกกำลังกาย การกินอาหารให้ถูกสุขลักษณะ เป็นสิ่งซึ่งต้องนำมาปฏิบัติอย่างจริงจัง การงดเว้นเหล้าบุหรี่สุรายาเสพติดก็เป็นสิ่งที่สมควรทำ อย่าลืมว่าท่านไม่ได้อายุยี่สิบปีนะขอรับ อ้อ แล้วแวะเข้ามาทะเลาะกับเด็กในนี้บ่อยๆเป็นวิธีที่ดีมากอย่างหนึ่งในการทำให้ท่านรักษาความว่องไวของเซลล์สมองได้ดี จะไปหาที่ไหนที่มีคู่ซ้อมอ่อนเชิงให้ท่านสอนมวยได้ง่ายๆอย่างในนี้ ใครจะว่ารังแกเด็กก็ช่างเขาเหอะ ระวังนิดหน่อยอย่าการ์ดตกให้เด็กม้นถอนหงอกได้ก็แล้วกัน จากคุณ : แอ๊ด ปากเกร็ด เขียนเมื่อ : 27 ก.ย. 53 22:12:16

ความคิดเห็นที่ 5 เกษียณอย่างมีความสุข อย่าไปบอกใครว่าเกษียณแล้ว  หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน เลิกคบกับยายแก่ขี้บ่นที่ทำงานด้วยกัน   เราไม่ใช่แพทย์เฉพาะทางไม่ต้องมาเล่าอาการ ตาแก่ก็เลิกคบไปด้วย  เพราะพวกนี้เมียก็ป่วยบ่อย คนรู้จักที่ทำงานฝากคนมาบอกว่าจะมาดูหนังสือที่บ้าน  บอกให้ไปเมืองหนังสือ เพื่อนบ้านที่แก่กว่าเรา  อย่าไปสบสายตา  เดี๋ยวเลี้ยวมาจอดอยู่ริมรั้ว  ขอทุกอย่างที่มองเห็น หัวพันธุ์ดอกไม้  ไม้ไผ่(จะขอไปทำคันเบ็ด   ขอไปห้อยกระถางกล้วยไม้)ขอยืมจักรยานสาวใช้ จักรยานภูเขา   อิฐ  กระถาง  เฟิร์น  แล้วเราต้องหิ้วไปให้ด้วยดิ ลูกหลานมาหาแจกเงินไปบ้าง  เปรย ๆ ไปว่าปีใหม่จะใส่สร้อยทองไว้ในขนมเค้ก รับสมัครสาวใช้ที่หน้าตาดุไว้จัดการกับคนที่เข้าบ้านมาเช่นส่งแก๊ซ  ส่งน้ำ ซ่อมอะไรต่อมิอะไร   จะเลี้ยงสุนัขก็เป็นห่วงเดี๋ยวเราไม่อยู่ใครจะตามใจ โยงลิ้งค์เด็ดๆจากแถวนี้  ไปสนทนาต่อที่อีกแห่งหนึ่ง   แล้วทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ฮ่ะ ฮ่ะ จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 06:39:07

ความคิดเห็นที่ 6 กดพัดลม เปิดถุงเลย์  รับฟังผู้มีประสบการณ์ อย่างมีความสุข ^___^ จากคุณ : โตมิโต กูโชว์ดะ เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 10:26:38

ความคิดเห็นที่ 7 เราดูแลร่างกายโดยการดู video clips โป๊ เยอะๆ (เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิต sex hormones) และมีแฟนสาวอายุคราวลูก (ตอนนี้อยากได้แฟนสาวคราวหลานอีกหลายๆคนแต่กล้ัวแฟนสาวคราวลูกจะฆ่าเอา...อิๆๆ...) มันทำให้เราเคลื่อนไหวตัวอย่างรวดเร็วและทรงพลังและมีสมองที่เรียนรู้เรื่องใหม่ๆและคิดอะไรได้พลิกแพลงมีประสิทธิภาพมากกว่าสมัยเป็นวัยรุ่นหลายเท่า เราว่า... คนเราเมื่ออายุมากจะไปทิศทางใด เช่นเดินกระย่องกระแย่งแล้วความจำเสื่อม หรืออายุเกินร้อยแต่เคลื่อนไหวร่างกายในการร่ายเพลงยุทธ์หรือต่อสู้จริงให้กลายเป็นรวดเร็วและทรงพลัีงมากกว่าพระเอกในเรื่อง The Karate Kid 2010 + จาพนมในองค์บาก 2 +  Jet Li กับ เฉินหลงรวมก้ัน ก็ยังได้ และมีสมองดีเยี่ยมเรียนรู้อะไรได้รวดเร็วก็ยังได้ นั้น มันขึ้นอยู่ก้ับความเชื่อและการปฏิบัติตน ความเชื่อบางความเชื่อสอนว่าแก่ๆแล้วต้องเข้าวัดเ้ข้าวาไม่มีจิตติดอยู่ในกาม (เพราะพวกเขาไม่รู้หรือลืมคิดไปว่า "การไม่มีจิตติดอยู่ในกามทำให้ร่างกายไม่ผลิต sex hormones" ผลก็คือกระดูกเสื่อมลงเรื่อยๆ และเดินกระย่องกระแย่ง) และมักจะมีข่าวว่าชายในวัยดึกตายคาอกหญิงสาวเพราะไม่เข้าวัดเข้าวา แต่เฉือกมีจิตติดอยู่ในกามเป็นต้น... ...แต่แท้จริงแล้วผู้ชายอายุเกิน 100 ปีก็ยังหน้าตาเด็กและเตะปี๋บดัีง ถ้ารู้เคล็ดลับ อย่างเช่นในบางความเชื่อ คือวิชา Alchemy ของนักพรตเต๋าเป็นต้น เขาจะ "คิดตรงกันข้ามกัีบแนวคิดเรื่องไม่มีจิตติดอยู่ในกามเมื่อยามแก่เฒ่า"...ดั่งเช่นคำสอนนี้่ Question: The Tan Ching says: 'At eighty or even ninety if one meets a competent master one can still produce a golden elixir (of immortality).'  If a man at sixty-four is devoid of the positive principle which has turned negative due to gradual dissipation of his generative force over the preceding decades and can still restore his vitality so that he looks like a youth at sixteen, there must be some secret method which can restore the generative force.  Will you teach me?   Answer:The patriarch Chang San Feng said: 'Old people who are impotent may use artificial means (e.g. masturbation) to arouse the genital organ.  After its arousal one should gather the generative force from the vitality in the body.  A man lives because of this vitality which produces the generative force, and dies when it is exhausted. Now study carefully the diagram on page 13 which is very clear. As soon as the penis stands breath in fresh air to fan the stove in the lower abdomen in order to drive the generative force into the channel of control (tu mo (สะกดแบบ pinyin มันคือ Du Mai) in the spine) and put it into microcosmic orbit. ...แล้วก็เป็นวิธีการยาวเรื่องวิธีการปลุก sexual energy ให้ผสานกับลมปราณเพื่อสร้าง elixir of life (ยาอายุวัฒนะ)...เพื่อให้ร่างกายกลับเป็นเด็กวัยรุ่นเหมือนเดิม...แต่จริงๆแล้วพอฝึกถึงขั้นสูงสุด ผู้ฝึกจะละสังขารโดยการดึงวิญญาณออกจากร่างผ่านจุด Bai Hui (จุดกลางกระหม่อม) แล้วกลายเป็นเซียนตามความเชื่อของเต๋า (เซียนนี่เทีียบเท่าพระโพธิสัตว์ในศาสนาพุทธ).... พออ่านถึงตรงนี้แล้วเจอศัพท์คำว่า Du Mai ทำให้คิดถึงคำสอนของปรมาจารย์เล่าจื้อที่เขี่ยนไว้ใน Dao De Jing ว่า "ปกครองโดยไม่ปกครอง" แท้จริงแล้ว "ปกครองมันคือ Du Mai หรือ the channel of control หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า the governing channel นั่นเอง)... เมื่อ 2-3 คืนที่แล้วมาเราอ่านคัมภีร์อีกเล่มหนึ่งของเต๋า ในคัมภีร์บอกว่าว่าวิธีการฝึกลมปราณของเต่าที่อยู่ปรากฎอยู่ในหนังสือนี้ (ทั้งๆที่มันไปกระตุ้น sexual energy และการผลิต sex hormones เพื่อกลับเป็นเด็กวัยรุ่น) พระพุทธก็สอนวิธีฝึกลมปราณแบบนี้เหมือนกัน...!!!...อ่านๆแล้วก็งงมากๆ เพราะสิ่งที่คนจีนอ้างว่าเป็นคำสอนของพระพุัทธเจ้านั้น(จากพุัทธมหายาน) คนไทยที่ชอบคุยกันเป็นภาษาพุทธยากๆแบบบาลีสันสกฤต(จากพุทธเถรวาท) ไม่เคยพูดถึุงเรื่องพวกนี้เลย เห็นมีแต่เรื่องพระธรรมวินัยเสียเป็นส่วนใหญ่ ตกลงไม่รู้ว่าคนจีนหรือคนไทยมั่วกันแน่ (อาจมีใครไปแต่งเติมคำสอนของพระพุัทธเจ้า หรืออาจเกิดจากการแปลพระไตรปิฎกผิด)  หรือว่ามันเป็นคนละนิกายก้ัน มีหลาย sutras ด้วยกัน...!!!?? แต่แท้จริงแล้วถึงเต๋าจะฝึกสมาธิและลมปราณโดยอาศัย sexual energy ก็ตาม แต่มันก็มีสำนักนักพรตเต๋าทางภาคเหนือของจีนที่เอา sexual energy ไปใช้มี sex เพื่อฝึกวรยทุธ์และสร้างร่างกายให้แข็งแรงได้จริงๆ ในขณะที่มีสำนักนักพรตเต๋าทางภาคใต้ของจีนซึ่งละเว้นเรื่อง sex แล้วเปลี่ยน sexual energy ให้เป็นพลังแห่งการเรียนรู้ หรือที่ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า sublimation นั่นเอง... ถ้าตั้งสมมุติฐานว่าคนจีนตีความคำสอนเกี่ยวกับเรื่องการละกิเลศได้ถูกต้อง คำว่า "ถือศีลกินเจไม่มีจิตติดอยู่ในกาม" ควรตีความใหม่ว่า "การกินอาหารเจกลายเป็นทำให้มีความต้องการทางเพศและมีสมรรถภาพทางเพศมากกว่าการกินเนื้อสัตว์เสียอีก (มันเป็น paradox ที่คนหลายๆคนไม่เข้าใจ) และร่างกายมนุษย์ต้องการมี sexual energy มันจะได้กระตุ้นให้ร่างกายผลิต sex hormones ได้ ซึ่งมันจำเป็นในการดูแลรักษากระดูกให้คงไว้ซึ่งความแข็งแรงตลอดกาล...และทำให้คงไว้ซึ่งความอ่อนวัยตลอดกาล...แต่ไม่ว่าจะเอา sexual energy ไปมี sex หรือไม่ก็ตาม ผู้ฝึกต้องรู้เคล็ดลับในการ "ป้องกันไม่ให้สูญเสียพลังชีวิต" และรู้กระบวนการที่เรียกว่า sublimation เพื่อเปลี่ยน sexual energy ให้กลายเป็น elixir of life (ยาอายุวัฒนะ) และให้กลายเป็นพลังแห่งการเรียนรู้...ทำให้ยิ่งอายุมากขึ้นสมองก็ยิ่งทรงพลังมากยิ่งๆขึ้นทุกที...จนกว่าจะละทิ้งสังขารไป โดยการถอดวิญญาณออกจากร่างผ่านจุด Bai Hui ออกไปกลายเป็นเซียน นั่นเอง" แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 11:52:32 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 10:51:41

ความคิดเห็นที่ 8 พออ่านคัมภีรโบราณเพื่อฝึกตัวเองให้คงไว้ซึ่งความอ่อนวัยตลอดกาล เราจะชอบปรมาจารย์เล่าจื้อมากที่สุด เพราะท่านหลักแหลมมากๆ ในการเขียน Dao De Jing ซึ่งแท้จริงแล้วมันคือ วิชา alchemy (เล่นแร่แปรธาตุ) ซึ่งเป็นสุดยอดของวิชาของนักพรตเต๋า ในการผสาน jing(น้ำอสุจิหรือน้ำในช่องคลอดเมื่อสตรีถึงจุดสุดยอด) + qi (ลมปราณ)  + shen (วิญญาณ) ให้กลายเป็น elixir of life (ยาอายุวัฒนะ) เพื่อสร้าง immortal fetus (ทารกน้อยในร่างผู้ฝึกที่จะดึงออกจากร่าง (ละทิ้งสังขาร) แล้วกลายเป็นเซียนไปได้) เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ไม่มีบุญได้วิชานี้ไป เล่าจื้อเขียนคัมภีร์ Dao De Jing ให้ตีความได้หลายอย่าง จนฟังดูเหมือนเป็นบทกวี เป็นจริยธรรม หรือเป็นรัฐศาสตร์ จนสามารถหลอกบัณฑิตทั้งหลาย ให้เข้าใจผิดกันมาหลายศตวรรษแล้ว ไปดูการตีความ Dao De Jing ของเรา ว่าเล่าจื้อหลักแหลมแค่ไหน การตีความแบบถอดรหัส Dao De Jing  (version 1) เราเขียนบทความทำนองนี้ไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2547 (2004)  (อาจมีเขียนไว้ก่อนหน้านี้อีกด้วย แต่หาไม่เจอ) แล้ว (ตอนนั้นเราใช้ชื่อ tansy แต่ไม่ได้ใช้ login) ตาม link นี้ไป http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/W2699854/W2699854.html การตีความแบบถอดรหัส Dao De Jing (version2) ที่เราทำไว้ (เมื่อตอนใช้ login เดิมคือ agelesstansy...ในกระทู้ทีว่านี้ (เราเขียนไว้เมื่อปี 2008) เราเริ่มตีความ Dao De Jing ตั้งแต่ คคห 11 - 15) ตาม link นี้ไป http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2008/07/K6813048/K6813048.html ระหว่าง 2 versions นี้ อันที่เขียนในปี 2004 มีเรื่องแนวคิดของ Zen ปนอยู่หน่อยๆและมีตัวสะกดผิดเยอะหน่อย  แต่ใน version ที่เขียนปี 2008 สะกดผิดน้อยลง แล้วเอาเรื่อง Zen ออก แต่เติม technical terms เป็นภาษา sanskrit เข้าไป ซึ่งเอามาจาก tantra ของฮินดู ในอดีตเราไม่เคยเข้าใจเลยว่า เล่าจื้อพยายามจะพูดว่าอะไรใน Dao De Jing จนกระทั่งเราได้ คัมภีร์เล่มหนึ่งมา ซึ่งมีชื่อว่า Hsin Ming Fa Chueh Ming Chih (เทียบเสียงก่อนสมัยมีระบบ Pinyin เพราะคัมภีร์มันแปลเป็นอังกฤษก่อนมี Pinyin) ชื่อคัมภีร์ Hsin Ming Fa Chueh Ming Chih แปลเป็นอังกฤษได้ว่า The Secrets of Cultivating Essential Nature and Eternal Life คัมภีร์เล่มนี้ เขียนโดย Taoist Master (ปรมาจารย์นักพรตเต๋า) ชื่อ Chao Pi Ch’en ซึ่งเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1860  จากการอ่านคัมภีร์เล่มนี้ จะเริ่มเข้าใจ Dao De Jing เนื่องจาก technical terms (ศัพท์เทคนิค) ต่างๆที่ Chao Pi Ch’en ใช้อธิบายกระบวนการทางเคมีในการเล่นแร่แปรธาตุแบบ biological transmutation (การเปลี่ยนแปลงทางชีวะแบบผ่าเหล่าผ่ากอ) ในร่างกายมนุษย์ซึ่งปราชญ์จีนโบราณคิดขึ้นมาได้นั้น "มันพ้องกันกับคำศัพท์ที่เล่าจื้อใช้เขียน Dao De Jing แล้วหลอกให้บัณฑิตตีความผิดหลงคิดว่า เป็นบทกวี จริยธรรม และรัฐศาสตร์" ไปอ่านกระทู้นี้ http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/06/K7974186/K7974186.html จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 10:53:17

ความคิดเห็นที่ 9 ถุงเลย์ ถุงเล็กนะคุณน้องโตมิ กินเพลินเชียว จากคุณ : แสนอักษร เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 10:59:01

ความคิดเห็นที่ 10 destiny ของคนเรานี่ก็แสนจะแปลก ใครจะเชื่ออะไรและมีวิถีชีวิตอย่างไร มันเหมือนกับมีพลังอะไรมากำหนดเอาไว้ พล้ังของเต๋า...พล้ังจักรวาล...พลังของ The Creator...!!!?? ตอนเด็กๆเรามีร่างกายที่อ่อนแอ และมี iq ที่ต่ำกว่ามนุษย์ทั่วๆไป เลยเรียนอะไรในโรงเรียนหรือมหาลัยไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เราเลยบ้านิยายกำล้ังภายในเพราะม้ันเหมือนก้ับอยู่ในความฝัีนว่าเราจะฝึกวิชาขั้นสุดยอดได้สักวันหนึ่ง...กาลเวลาผ่านไป 35 ปี จนเราฝึก Zen Macrobiotics ได้ถึงขั้นเปลี่ยน cells ในร่างกายและสมองแบบ biological transmutation ได้ จึงรักษาอาการป่วยได้หมดด้วยตนเอง และสมองทำงานดีขึ้นตอนอายุมากๆ เราดีใจเกือบจะกลับไปเรียนเอาวุฒิสูงๆในมหาลัยเพราะเห็นใครๆก็ชื่นชมเรื่องพวกนี้ หากแต่สวรรค์ก็ดลใจให้เรามุ่งแต่ศึกษาหาความรู้เรื่องศาสตร์เร้นลับนอกมหาลัียต่อไป เพราะคิดว่าวิญญาเราต้องการม้ันมากกว่าวุฒิสูงๆจากมหาลัย และนี่คือคัมภีร์อีกเล่มหนึี่งที่เราพยายามฝึกเพื่อให้ร่างกายกลับเป็นเด็กวัยรุ่นได้ Words crystallize the spirit in the place of power. The sixth month the white snow is suddenly seen to fly. The third watch the disk of the sun sends out shining rays. The water blows the wind of gentleness. Wandering in Heaven, one eats the spirit-power of the receptive. The deeper secret within the secret: land that is nowhere, that is the true home. These verses are full of mystery.  The meaning is: The most important thing in the Great Meaning is the four words: non-action in action.  Non-action prevents a person from becoming entangled in form and image (substantiality). Action in non-action prevents a person from sinking into numbing emptiness and a dead nothingness. The effect is in the two eyes. The two eyes are like the pole of the Great Wain which turns the whole of creation; they cause the poles of Light and darkness to rotate. The Elixir depends from beginning to end on the One; the metal in the middle of the water, that is, the lead in the water-region. Heretofore we have spoken of the circulation of the Light, indicating thereby the initial release which works from without upon what lies within. This is to aid one in obtaining the Master.  It is for the pupils in the beginning stages.  They go through the two lower transitions in order to gain the upper one. After the sequence of events is clear and the nature of the release is known, Heaven no longer withholds the Meaning, but reveals the ultimate truth. Disciples keep it secret and hold to it strictly! หลังจากค้นข้อมูลมาหลายสิบปี เราเชื่อว่าการคงไว้ซึ่งความอ่อนวัยตลอดกาล (จนกว่าจะละสังขารโดยการดึุงวิญญาณออกจากร่างไปเป็นเซียน) มันเป็นไปได้จริงๆ... การที่เต๋าสอนเรื่อง The immortal fetus คือทารกในครรภ์ที่ผู้ฝึก (ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตาม) ผลิตมันขึ้นมา (ตั้งครรภ์) ได้เอง (ด้วยกระบวนการที่เรียกว่า biological transmutation) โดยไม่ต้องมี sex กับคนอื่น และเจ้า immortal fetus ตัวน้อยๆตัวนี้นี่แหละ ที่เมื่อเติบใหญ่จะออกจากร่าง (ละสังขาร) แล้วกลายเป็นเซียนไปได้ ซึ่งขั้นตอนนี้เรียกว่า "attain immortality" ทำให้เราคิดถึง Virgin Birth ตามคำสอนของคริสต์ เราจึงมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างคำสอนของเต๋ากับของคริสต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออ่านข้อความข้างบนที่ว่า ....., Heaven no longer withholds the Meaning, but reveals the ultimate truth.  มันทำให้อยากศึกษา The Bible มากๆ เราเชื่อว่าจะต้องมีความลับสุดยอดอันล้ำค่าอยู่ใน The Bible อย่างแน่นอน...!!!!! แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 13:36:06 แก้ไขเมื่อ 28 ก.ย. 53 13:27:35 จากคุณ : fortuneteller เขียนเมื่อ : 28 ก.ย. 53 13:26:29